Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 งานเขียนสารคดีธรรมะ ชุด หมา...พระธุดงค์ และป่าเขา อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
สมาธิ
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 16 ก.ย. 2007
ตอบ: 6
ที่อยู่ (จังหวัด): นครราชสีมา

ตอบตอบเมื่อ: 17 ก.พ.2008, 11:02 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สารคดีแนวเดินป่า ชุด
หมา...พระธุดงค์...และป่าเขา
โดย;สุธรรมมา
หลังออกพรรษาประมาณ1เดือนกว่าๆ ข้าพเจ้านึกชั่งใจตนเองอยู่ตลอดเวลาว่าจะลาสิกขาหรือจะอยู่ต่อในเพศพรหมจรรย์ดี หลังจากที่บวชเป็นพระภิกษุและจำพรรษาเป็นเวลา 1พรรษาตลอดครบถ้วนไตรมาส
เพื่อนพระภิกษุที่บวชพร้อมกัน มีทั้งหมด8รูป ลาสิกขาไป4รูปเหลือ4รูป รวมกับข้าพเจ้าตั้งใจว่าจะอยู่สอบนักธรรมชั้นตรีให้สมกับที่เขาเรียก “ทิด”หลังจากลาสิกขาไปแล้ว อันว่าลูกผู้ชายชาวพุทธ ปู่ย่าตายายว่ากันว่าจะสมบูรณ์นั้นคือ ได้บวช 1พรรษา บวชแล้วได้กรานกฐิน และได้สอบนักธรรมก็ถือว่าเวลาเขาเรียก “ทิด”ก็เรียกได้เต็มปากเต็มคำไม่เก้อเขิน เพราะ “ทิด”มาจากคำว่า “บัณฑิต”คือผู้รู้ ผู้ได้เรียนรู้ตามหลักสูตรธรรมนั่นเอง
ช่วงกาลกฐินได้ผ่านพ้นไปโดยทางวัดจัดงานกฐินเรียบร้อยแล้ว ข้าพเจ้าก็ได้ร่วมกฐินกับประดาพระภิกษุ10กว่ารูปที่จำพรรษาภายในวัด และการสอบนักธรรมก็ได้ผ่านพ้นไปอีกเช่นกัน หวังว่าคงสอบผ่านเพราะพากันตั้งใจเรียนพอสมควร
เมื่อหมดกิจสำหรับการตั้งใจทำก่อนลาเพศพรหมจรรย์ วันนี้ข้าพเจ้าพร้อมกับเพื่อนพระภิกษุก็เดินทางเข้าไปหาพระอุปัชฌาย์เพื่อลาสิกขา
“ได้เวลาสึกแล้วรึท่าน?”ท่านอุปัชฌาย์กล่าวยิ้มแย้มเชิงล้อนิดๆ
ข้าพเจ้าพร้อมกับเพื่อนภิกษุเข้าไปกราบมอบขันดอกไม้ธูปเทียนเครื่องสักการะ ครั้นได้ยินท่านทักอย่างนั้นก็พากันเงียบ แต่คิดในใจว่า “อยู่ได้1พรรษาก็บุญแล้วครับ”
“ไม่มีรูปไหนอยากจะอยู่ต่อมั่งรึ?”ท่านถามต่ออีก คงเป็นธรรมดากระมังที่อุปัชฌาย์มักกล่าวชี้แนะหาทางให้ภิกษุอยู่ต่อเพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา
ส่วนมากเรานั่งก้มหน้ากัน การเงียบและก้มหน้า เป็นการยอมรับแล้วว่าทุกรูปมาพร้อมกับการลาสิกขา
“ผมยังห้าสิบๆ ครับท่านพระครู” ข้าพเจ้ากล่าวขึ้นท่ามกลางความเงียบงัน
“ไม่ต้อง ห้าสิบหรอก เอาเต็มร้อยเลยท่าน”ท่านอุปัชฌาย์กล่าวอารมณ์ดี มองหน้าข้าพเจ้าอย่างมีความหวัง “อยู่สืบทอดศาสนาได้บุญมหันต์”
สิ่งที่ท่านกล่าวย่อมถูกต้องแน่นอน เพียงแต่ว่าใครจะละทางโลกได้ บวชอยู่ต่อในเพศพรหมจรรย์ได้อีกเท่านั้น
“นี่!” ท่านหยิบใบปลิวแผ่นหนึ่งมา “มีข่าวประชาสัมพันธ์จากคณะสงฆ์อำเภอ ใครอยากเดินธุดงค์มั่ง?”
“เดินธุดงค์!”
ข้าพเจ้าอุทานขึ้นเบาๆ...คงไม่ใช่การใช้อุบายของท่านอุปัชฌาย์ที่อยากให้เราบวชอยู่ต่อหรอกนะ...ข้าพเจ้าคิดในใจพลางรับใบปลิวโครงการเดินธุดงค์ ที่ท่านยื่นมาให้อ่าน
“....รับสมัครพระใจสิงห์ ร่วมเดินธุดงค์กับบรรดาพระธุดงค์ร่วม200กว่ารูป ระยะทางจาก จังหวัด ระยอง-นครราชสีมา....”
“เอาไหมท่าน?”ข้าพเจ้าหันไปถามเพื่อนภิกษุซึ่งนั่งคุกเข่าเรียงกันต่อหน้าพระอุปัชฌาย์
ทั้งหมดส่ายหน้า
“1พรรษานี่ อยู่ได้ครบ ผมนี้ก็ถือว่าบุญแล้ว” ภิกษุรูปหนึ่งกล่าวยิ้มๆ อยากจะหัวเราะอารมณ์ดีเหมือนกัน แต่กลั้นใจไว้ อารมณ์ดีเพราะจะได้ลาสิกขาหรือเปล่าก็มิอาจทราบ
“ผม...สึกแน่นอน”อีกรูปกล่าวอีก
“ท่านอยู่สิ ไม่สึกกับเราก็ได้นะ” อีกรูปสมทบ
เป็นอันว่า เพื่อนภิกษุ อีก3รูปลาสิกขาหมดแน่นอน อะไรก็รั้งไม่อยู่
“ผมก็ไม่อยากสึกหรอกนะ ว่าแต่เดินธุดงค์ แค่เดือนกว่าๆเอง น่าลอง เดินธุดงค์เสร็จค่อยสึกก็ได้”
“ให้มันได้อย่างนี้สิท่าน!” อุปัชฌาย์เข้ามาตบไหล่ เหมือนจะยินดี และภาคภูมิใจจากการกระทำของตนที่สามารถรั้งภิกษุไม่ให้ลาสิกขาได้ สังเกตจากสีหน้าของท่าน
ข้าพเจ้านึกตื่นเต้นกับการเดินธุดงค์มากกว่าดีใจที่ได้บวชอยู่ต่อ ได้บวช1พรรษา ได้รับกฐิน ได้สอบนักธรรมตรี และได้เดินธุดงค์สักครั้ง ชีวิตการบวชภิกษุนับว่าคุ้มค่าทีเดียว
ตกลงปลงใจไม่ลาสิกขาตามเพื่อน และปล่อยให้เพื่อนภิกษุลาสิกขาไป ความรู้สึกตอนนั้นตื่นเต้นกับการเดินป่ามากกว่า ดูมันท้าทายดี คงได้ประโยชน์และบทเรียนชีวิตมากโขทีเดียว
ช่วงที่เพื่อนภิกษุลาสิกขาและอยู่วัด3วันก่อนกลับเข้าบ้านไปใช้ชีวิตเพศฆราวาสตามธรรมเนียมและประเพณีที่ทำกันมา ข้าพเจ้าก็ไม่ค่อยได้คลุกคลีพูดคุยกับเพื่อนเท่าไร เพราะดูเหมือนคุยกันคนละภาษาแล้ว เขาคุยทางโลก แต่เราคุยทางธรรม
เขาคุยแต่ว่า สึกแล้วจะไปฉลองไหน จะไปกินเลี้ยงอะไรมั่ง สมกับที่อดอยากมาตลอด1ปี ข้าพเจ้าจึงเข้าไปคุยด้วยไม่ได้มันคนละซีกชีวิตกันเลย จึงใช้เวลาเดินทางเข้าเมืองจัดแจงหาซื้อบริขารสำหรับออกเดินธุดงค์
ครบ3วัน เพื่อนในเพศฆราวาสออกจากวัดมุ่งสู่บ้านแต่เช้า ข้าพเจ้าก็ออกจากวัดแต่เช้าเช่นกัน แต่มุ่งสู่ วัดป่าหลักร้อย ส่วนหนึ่งของเขตจังหวัดนครราชสีมา อันเป็นวัดที่จัดโครงการเดินธุดงค์

(เป็นไงมั่งครับ อยากอ่านต่อไหม ได้นำงานเขียนชุดนี้ลง วารสารธรรมดา ออกทุก15วัน ส่งอ่านทางเมล์)
 

_________________
แม้เราตกทุกข์ลำบาก ก็ไม่ทิ้งธรรม
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailMSN Messenger
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง