พบชาวบ้านลงแขกทำนา-เกี่ยวข้าวหาเงินส่งพระ-เณรเรียน

ตอบเมื่อ: 19 พ.ย.2007, 11:26 am

พบชาวบ้านลงแขกทำนา-เกี่ยวข้าวหาเงินส่งพระ-เณรเรียน
17 พฤศจิกายน 2550 11:47 น.
พบบ้านสามัคคีธรรม ชาวบ้านลงแขกทำนา-เกี่ยวข้าว หาเงินส่งพระ-เณร เรียน และบำรุงศาสนสถาน

(17พย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่บ้านท่ากอง หมู่ที่ 1 ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.พะเยา ชาวบ้านได้ทำพิธีลงแขกเกี่ยวข้าวประจำปีเพื่อนำเงินไปบูรณะวัดท่ากอง ซึ่งเป็นวัดประจำหมู่บ้าน และส่งเสียพระภิกษุสามเณร ให้เรียนหนังสือ ซึ่งปฏิบัติจนเป็นประเพณีมากว่า 10 ปี

นายระพีพัฒน์ คนงาน ผู้ใหญ่บ้านท่ากอง กล่าวว่า ประเพณีลงแขกเกี่ยวข้าวปฏิบัติกันมานานกว่า 10 ปี เริ่มแรกพื้นที่เดิมเป็นป่าช้าของหมู่บ้าน มีชาวบ้านบางส่วนก็แผ้วผางเพื่อทำนา ปลูกผัก เมื่อได้ผลก็มีการขยายพื้นที่ทำนาออกไปเรื่อยๆ แต่เนื่องจากเป็นพื้นที่ใช้สอยสาธารณะจึงมีชาวบ้านส่วนหนึ่งทักท้วง จึงประชุมหารือว่าควรจะทำอย่างไรกับพื้นที่ดังกล่าวในที่สุดก็ตกลงกันให้ที่นาดังกล่าวเป็นของหมู่บ้าน ชาวบ้านทุกคนต้องมาช่วยกันทำนา

ส่วนเงินที่ได้จากการทำนา ต้องยกให้วัดท่ากองเพื่อซ่อมแซมบูรณะวัดวาอารามและส่งเสียให้พระภิกษุ-สามเณร ให้เรียนหนังสือ ชาวบ้านทุกคนก็ยินดีและถือปฏิบัติกันอย่างเคร่งครัด โดยปัจจุบันพื้นที่ทำนามีเกือบ 10 ไร่ และกำลังจะขยายกว้างออกไปอีก 3-5 ไร่ เพราะมีชาวบ้านมาช่วยทำนากันมากขึ้นทุกปี

อย่างไรก็ตาม ในการลงแขกจะมีสัญญาประชาคมว่าทุกบ้านจะต้องส่งคนมาทำนาครัวเรือนละ 1 คน หากใครติดธุระ ไม่สามารถมาทำได้ จะต้องเสียค่าปรับตามค่าแรง ณ ปีที่เกี่ยวข้าว ซึ่งในปีนี้อยู่ที่ประมาณ 130 บาท แต่เท่าที่ผ่านมาทุกคนทุกบ้านต่างก็พร้อมใจกันมาลงแขก บางครอบครัวมาทั้งบ้าน บางครอบครัวที่รับราชการหรือทำงานอื่นๆ เขาก็ยอม

เสียค่าปรับซึ่งมากกว่าที่ได้สัญญากันไว้ บางทีคนก็มา เงินก็บริจาค เพราะคนในหมู่บ้านถือว่าเป็นการทำบุญ เพื่อความสามัคคีของหมู่บ้านและความเจริญของวัดท่ากอง

ด้านนายธีรชัย นิติมณฑล นายอำเภอเมืองพะเยา กล่าวว่า เมื่อทราบว่าที่บ้านท่ากองมีประเพณีเกี่ยวข้าวเพื่อนำรายได้เข้าวัด จึงได้รีบเดินทางไปร่วมเกี่ยวข้าวกับชาวบ้านทันที เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม น่าส่งเสริมที่คนในชุมชนที่มีความรักสามัคคี ตลอดจนเป็นการอนุรักษ์ประเพณีที่ดีงามไว้ให้คนรุ่นลูกรุ่นหลานได้ศึกษา เรียนรู้ และเป็นแบบอย่าง และน่าจะเป็นแบบอย่างให้กับชุมชนอื่นๆ ในเรื่องการพึ่งพาตนเอง

“ผมทึ่งในความสามัคคีของชาวบ้านท่ากองมาก ชั่วเวลาไม่ถึง4 ชั่วโมง ข้าวก็เกี่ยวเสร็จ ทุกคนก็นั่งล้อมวงกินข้าว ซึ่งไม่ต้องไปเบียดเบียนใคร ใครมีอะไรก็ห่อมากิน มาทำงานก็ไม่มีค่าจ้าง แถมเงินก็เข้าวัดท่ากองทั้งหมด อิ่มรัก อิ่มบุญ ไปตามๆกัน “ นายอำเภอเมืองพะเยา กล่าว

http://www.komchadluek.net/2007/11/18/n001_172565.php?news_id=172565