Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
ไม่ทราบว่าจะมีใครอยากทำบุญกับวัดที่มีพระปฏิบัติดีอีสานบ้าง
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
ข่าวประชาสัมพันธ์
ผู้ตั้ง
ข้อความ
mit
บัวใต้ดิน
เข้าร่วม: 10 ก.ย. 2007
ตอบ: 14
ที่อยู่ (จังหวัด): บุรีรัมย์
ตอบเมื่อ: 14 ก.ย. 2007, 2:21 pm
ขอเชิญร่วมบริจาคทรัพย์เพื่อซื้อที่ดินในการสร้างวัด และ ปลูกป่า
ณ วัดป่าศิริสมบูรณ์ ตำบลโนนสุวรรณ อำเภอโนนสุวรรณ์ จังหวัดบุรีรัมย์
ซึ่งมีท่านพระใบฎีกาวิศวาธาน ปภสฺสโร ศิษย์หลวงปู่ชา สุภทฺโท เป็นเจ้าอาวาส
ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่เบอร์ 087-9661397
ตรวจสอบ สาขาหนองป่าพงทั้งหมดได้ที่
http://www.watnongpahpong.org/kopatibatyom
_________________
ทำดีทุกสิ่งที่ทำได้ แต่อย่าหมายว่าเขาจะชมว่าตนดีเสมอ ทำทุกอย่างเพื่อให้ใครๆ เจอ พบเสมอคือท่านพุทโธคุณ
ตะแง๊ว
บัวพ้นดิน
เข้าร่วม: 09 ส.ค. 2007
ตอบ: 72
ที่อยู่ (จังหวัด): สุโขทัยธานี
ตอบเมื่อ: 15 ก.ย. 2007, 8:15 am
สาธุ กับทุกบุญที่จะเกิด
_________________
จงทำจิตให้บริสุทธิ์
ด้วยความดี ไม่เบียดเบียนผู้อื่น หรือแม้กระทั่ง ตัวของเราเอง
mit
บัวใต้ดิน
เข้าร่วม: 10 ก.ย. 2007
ตอบ: 14
ที่อยู่ (จังหวัด): บุรีรัมย์
ตอบเมื่อ: 17 ก.ย. 2007, 8:04 pm
อัตชีวประวัติของท่านพระใบฎีกาวิศวาธาน ปภสฺสโร ประธานสงฆ์ วัดป่าไร่สมบูรณ์ ( ธุดงค์สถานป่าศิริสมบูรณ์ )
ประวัติโดยย่อพระใบฎีกาวิศวาธาน ปภสฺสโร
ประธานสงฆ์ธุดงค์สถานป่าสิริสมบูรณ์
พระใบฎีกาวิศวาธาน นามเดิม ชื่อ วิศวาธาน โอทะเกตุ เกิดเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ.2510 ปี่มะแม สถานที่เกิด ณ ตำบลดงอีจาน อำเภอโนนสุวรรณ จังหวัดบุรีรัมย์ โยมบิดาชื่อ นายมาย โยมมารดาชื่อ นางมีพี่น้องร่วมมารดาเดียวกัน 6 คน พระใบฎีกาวิศวาธานป็นคนที่ 5 คือ
1. นางทองพูน โอทะเกตุ
2. นายสุดตา โอทะเกตุ
3. พระใบฎีกาวิศวาธาน ปภสฺสโร
4. นางลัดดา โอทะเกตุ
5. นายโสภา โอทะเกตุ
6. นาย สงกา โอทะเกตุ
การศึกษา
พระใบฎีกาวิศวาธาน ปภสฺสโรท่านจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนดงอีจาน บ้านดงบัง ตำบลโนนสุวรรณ อำเภอโนนสุวรรณ จังหวัดบีรีรัมย์ 31110
บรรพชา
ก่อนที่ท่านจะอุปสมบทนั้น ท่านได้เป็นตาปะขาวอบรมบ่มนิสัย อยู่ที่วัดป่าเขาปลายบัด เป็นเวลา 8 เดือน จากนั้นท่านจึงได้บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดเขาปลายบัด ต.เขาคลอก อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2524 โดยมีพระปลัดบัวหล้า คมฺภีรปญฺโญ ซึ่งเป็นศิษย์ ท่าน พระโพธิญาณเถร เป็นพระอาจารย์ ในสมัยนั้น
อุปสมบท
หลังจากนั้นอีก 6 ปีท่านจึงได้อุปสมบท เป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา ณ วัดหนองกี่ ตำบล หนองกี่ อำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อ อายุ 20 ปี บริบูรณ์ วันที่ 8 เดือน พฤษภาคม ปี พ.ศ. 2530 เวลา 12.49 น.
โดยมี ท่านพระครู กิตตวโรภาส เป็นพระอุปัชฌาย์
พระอธิการสำรอง อินฺทปญฺโญ เป็นพระกรรมวาจาจารย์
พระเสาร์ อินฺทวณฺโณ เป็นพระอนุสาวนาจารย์
ได้รับฉายาว่า ปภสฺสโร แปลว่า ผู้มีความผ่องใส
สถานที่เคยจำพรรษา
ตอนเป็นสามเณร
พ.ศ. 2524 วัดเขปลายบัด อำเภอ ประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์
พ.ศ. 2525 - 2527 วัด หนองป่าพง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี
พ.ศ. 2528 ถ้ำ ผาผึ้ง บ้านเปิ่งเคลิ่ง อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ไม่มีวัดอยู่ป่าในทุ่งใหญ่นเรศวร
พ.ศ. 2529 วัดป่าประชามิตร อำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ ( ปัจจุบันคืออำเภอโนนสุวรรณ )
หลังจากอุปสมบทแล้ว
พ.ศ. 2530 วัดป่าประชามิตร
พ.ศ. 2531 วัดป่าเขาวันชัยนวรัตน์ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
พ.ศ. 2532-2533 วัดเขาถ้ำสหกรณ์นิคม อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี
พ.ศ. 2534 ที่พักสงฆ์ถ้ำผาผึ้ง ในทุ่งใหญ่นเรศวร อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก
พ.ศ. 2535 2536 วัดหนองป่าพง อำเภอวารินชำราบ จังหวดอุบลราชธานี
พ.ศ. 2537 ที่พักสงฆ์ถ้ำตูม อำเภอน้ำโสม จังหวัดอุดรธานี
พ.ศ. 2538 วัดเขาปลายบัด อำเภอประโคนชัย จังหวัด บุรีรัมย์
พ.ศ. 2539 วัดเขาถ้ำสหกรณ์นิคม อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี
พ.ศ. 2540 ที่พักสงฆ์ม่องกั๊ว อำเภอ อุ้มผาง จังหวัดตาก ทุ่งใหญ่ฯ
พ.ศ. 2541 ที่พักสงฆ์คลีตี่บน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี
พ.ศ. 2542 - ปัจจุบัน ธุดงค์สถานป่าศิริสมบูรณ์ อำเภอโนนสุวรรณ จังหวัดบุรีรัมย์
ปฏิปทา
ปฏิปทาของท่านพระใบฎีกาวิศวาธาน ปภสฺสโร นั้น ท่านเป็นผู้มักน้อย สันโดด บิณฑบาตเป็นวัตร เดินจงกรมเป็นวัตร ชอบให้ทานและเมตตาสูง อยู่ง่ายขบฉันง่าย ชอบกระทำให้เห็นมากกว่าการพูด ชอบฟังผู้ที่มาหาท่านพูด มากกว่าจะเป็นฝ่ายให้ท่านพูด ชอบธุดงค์ไปตามถ้ำเขาเพียง ผู้เดียว ไม่ชอบสะสมสิ่งอันไม่ใช่ของจำเป็นแก่สมณะ แม้อาหารบิณฑบาตที่มีอยู่แค่พออิ่มก็ยังสละได้ทุกเวลา และเคยมีผู้ขอท่านหลายครั้งทั้งๆที่ท่านยังไม่ได้ฉันท่านก็ยกให้เป็นทานได้
ประสบการในการธุดงค์และการฝึกสมาธิภาวนา
ในระยะยังเป็นสามเณรอยู่นั้นได้เคยธุดงค์ติดตามท่านพระอาจารย์ไปอยู่ตามป่าเขา บ้างแล้ว พอได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ได้อยู่ถือนิสัยกับครูบาอาจารย์ เพียง 3 พรรษาก็กราบลา ท่านพระอาจารย์เพื่อออกุดงค์เพียงลำพัง ในตอนนั้นท่านถือนิสัยอยู่กับท่านพระอาจารย์เผ่า จิตฺตคุโณ วัดเขาถ้ำสหกรนิคม ท่านพระอาจารย์เผ่าเห็นว่าท่านพระใบฎีกาวิศวาธาน นี้เป็นผู้สามารถที่จะรักษาตัวเองรอดจากภัยร้ายต่างๆได้แล้ว เพราะเป็นผู้ได้ฝึกหัดทางด้านการเจริญสมาธิภาวนามาหลายปี และความรู้ในทางปริยัติธรรมก็จบนักธรรมเอกแล้ว จึงอนุญาตให้ออกธุดงค์เพียงรำพังได้ เส้นทางที่ท่านได้เที่ยวจาริกไปนั้นเป็นเส้นทางตะเข็บชายแดน โดยตัดป่าทุ่งใหญ่นเรศวร มุ่งตรงขึ้นสู่ภาคเหนือของประเทศไทย ผ่านทั้งป่าดงดิบ ภูเขา อดบ้างอิ่มบ้างไปจนถึง ถ้ำผาผึ่ง บ้าน เปลิ่งเคลิ่ง จึงหยุดพักทำความเพียรที่นั่น 1 พรรษา เมื่อปี พ.ศ. 2534 ร่วมกับคณะสงฆ์ธรรมยุตที่ท่านพักภาวนาอยู่ก่อนแล้ว พอออดพรรษา ท่านก็ออกจาริกต่อไปทางเหนือมุ่งไปอย่างไม่ลดละไม่พักที่ใดเกินหนึ่งคืน และไม่ยอมแพ้ต่ออำนาจของความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า รวมทั้งความกลัวต่างๆทั้งสัตว์ร้าย คนร้าย ผีร้าย จนบรรลุถึง อำเภอ ปางมะพร่า จังหวัดแม่ฮ่องสอน จึงได้หยุดพัก บำเพ็ญเพียรภาวนาในถ้ำแห่งหนึ่งอาศัยการบิณฑบาตจากชาวเขาเลี้ยงชีพ พอพักอยู่เป็นเวลานาพอสมควรแล้วจึงได้ออกจาริกต่อไปมุ่งตรงไป ทางตอนเหนือสุดของไทยคือจังหวัดเชียงราย แล้ววกกลับลงมา ทางเชียงใหม่ ได้ผ่าน อำเภอเชียงดาวจึงได้แวะไปพักภาวนาอยู่กับท่าน หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร วัดถ้ำผาป่อง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่และได้อุบายธรรมจากท่านหลวงปู่เป็นที่น่าพอใจแล้ว จึงได้เดินตอลงมาจนบรรลุถึงเขตของภาคอีสาน ในตอนนั้นมีอยู่คืนหนึ่งในระหว่างที่ท่านพักภาวนาอยู่นั้นจิตได้รวมลงสู่ความสงบดังเช่นเคยเพราะท่านได้เคยฝึกสมาธิจนจิตสงบมาแล้วจนชำนาญ ท่านได้เกิดภาพนิมิตขึ้นเห็น อุบาสกท่านหนึ่งมากราบแล้วอาราธนานิมนต์ให้ท่านให้รีบกลับวัดหนองป่าพง พอท่านออกจากสมาธิจึงใคร่ควรดุถึงนิมิตนั้น วันรุ่งขึ้นท่านจึงหลังจากทำภัตรกิจแล้วจึงได้จาริกมุ่งตรงสู่ วัดหนองป่าพง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี กว่าที่ท่านจะไปถึงนั้นก็จวนจะเข้าพรรษาแล้ว ท่านจึงได้อยู่จำพรรษาที่วัดหนองป่าพง ซึ่งใน ตอนนั้นทางวัดหนองป่าพงได้ทำการเตรียมสถานที่เพื่อประกอบพีธีพระราชทานเพลิงศพ พระเดชพระคุณพระโพธิญาณเถร (หลวงปู่ชา สุภสฺสโท )ท่านพระใบฎีกาวิศาวาธานจึงได้อยู่ช่วยงานสงฆ์จนเสร็จกิจทั้งปวง เป็นเวลาเกือบ 8 เดือน หลังจากนั้นท่านจึงได้กราบลาพระราชภาวนาวิกรม เจ้าอาวาสวัดหนองป่าพง เพื่อจาริกแสวงหาวิโมกข์ธรรมต่อไป ทั่วราชอานาจักรไทย และได้พักบำเพ็ญภาวนา ตาม ในระยะนั้นท่านมีท่านพระอาจารย์รูปหนึ่งได้ขอติดตามท่านพระใบฎีกาวิสวาธานจาริกธุดงค์ด้วย ท่านมีนามว่า ท่านพระมหาเมธชนัน โกวิโท ท่านสังกัดคณะสงฆ์ธรรมยุตนิกาย (แม้ในปัจจุบันนี้ท่านพระอาจารย์รูปนี้ก็ยังอยู่เพื่อช่วยงานท่านตลอดมา และเป็นผู้ที่เปนสักขีพยานในเรื่องการบำเพ็ญภาวนาของท่านพระใบฎีกาวิศวาธานรวมทั้งเรืองปาฏิหารต่างๆอันเกิดขึ้น ) สถานที่ต่างๆ และได้วกกลับขึ้นไปทางเหนืออีก ได้ไปพักอยู่ที่ถ้ำ พระ บ้านเมืองแพรม อำเภอปางมพร่า จังหวัดแม่ฮ่องสอน ท่านในเช้าวัด ขึ้น 15 ค่ำ เดือนกรกฎาคม ปี พ.ศ.2542 ในขนะที่ท่านได้นั่งทำสมาธิอยู่นั้นได้เกิดนิมิต เห็นอุบาสิกาผู้หนึ่งนุ่งห่มผ้าขาวร่างกายสะอาด ได้มากราบท่านแล้วกร่าวอาราธนานิมนต์ให้กลับไปยังภูมิลำเนาเดิม เพื่อได้โปรดญาติโยมผู้ที่เคยได้สร้างกรรมร่วมกันมาในอดีตชาติ และได้เกิดภาพเห็นผืนป่าแห่งหนึ่งเขียวขจีสวยงามมาก พอออกจากสมาธิท่านได้พิจารณาถึงการจาริกธุดงค์ของท่านและการบำเพ็ญบารมีต่างๆก็พอที่จะรักษาตัวเองให้อยู่รอดจากเหล่ามารร้ายได้แล้ว ท่านจึงตัดสินใจกลับสู่ถิ่นกำเนิดของตน โดยได้อธิฐานจิตไว้ว่าหากจะเป็นจริงดั่งนิมิตนั้นแล้วก็ให้เดินทางให้ถึง สถานที่นั่นก่อนเข้าพรรษาเถิดเราจะขอถอนการสมาทานการเดินเท้าหากมีใครขับรถมา แล้วมีผู้จอดรับ ก็จะขึ้นรถนั้นไปด้วย ( ท่านไม่รับปัจจัย การเดินทางเดินเท้า ) พอท่านเดินออกมาถึงถนนลาดยางสายเชียงใหม่แม่ฮ่องสอนก็มีรถจอดรับ ไปจนถึงเชียงใหม่และยังได้ซื้อตั๋วรถเชียงใหม่บุรีรัมย์ถวายอีก เป็นอันว่าท่านได้ใช้เวลาใน การเดินทางสู่บุรีรัมย์ เพียง 1 วัน กับอีก 1 คืน เท่านั้น พอถึงบุรีรัมย์ท่านจึงไป พักอยู่กับเพื่อนสหธรรมมิก ของท่านรูปหนึ่งซึ่งบำเพ็ญภาวนาอยู่ที่ป่าช้าแห่งหนึ่งใกล้ๆกับอำเภอเมืองบุรีรัมย์ และได้ไปแวะพักกับเพื่อนสหธรรมิกอีกหลายท่าน บางท่านเห็นหน้า ท่านพระใบฏีกาวิศาวาธาน แล้วจำไม่ได้นึกว่าหลวงตาที่ไหนมาเพราะท่านผอมมากจนแก้มตอบลงไปลึกทีเดียว แต่พอถามไถ่กันแล้วจึงจำได้ต่างก็เอ่ยขึ้นทันทีว่านึกว่าตายแล้ว แล้วก็หัวเราะกันไป จนกระทั่งถึงเดือนมิถุนายน ปี เดียวกันนั้นท่านพร้อมกับพระมหาเมธชนัน โกวิโท จึงได้เดินเท้ามุ่งมาทางอำเภอ โนนสุวรรณ จนถึงวันที่ 9 มิถุนายน ปี พ.ศ. 2542 จึงถึงป่าแห่งหนึ่ง มีเนื้อที่ประมาณ 150 ไร่ เป็นป่าไม่รุ่น 2 แต่มีความสมบูรณืพอสมควร จึงได้หยุดพักปลักกลด ณ ที่ป่าแห่งนั้น ตกดึกมาใน ขณะ ที่ท่านพระใบฎีกาวิศวาธานได้นั่งสมาธิท่านได้เห็นนิมิตเป็นร่างชายกับหญิงแก่ นุ่งห่มผ้าขาว ถือจานใส่เครื่องบูชามาถวายท่านแล้วกราบลงกับพื้นดิน แล้วยิ้มและหายไป ท่านจึงออกจากสมาธิ เวลาประมาณ
00.36 น. ในทางทิศตะวันออกได้มีอะไรบางอย่างปรากฏขึ้นมา เป็นสิงอัศจรรย์ อย่างหนึ่งนั่นก็คือ มีดวงไฟดวงใหญ่ขนาดเท่ากับ โอ่งมังกรขนาดใหญ่ ลอยอยู่เหนือพื้นดินประมาณ 3 เมตร ซึ่งก้องไฟนี้ท่านพระมหาเมธชนัน ก็ เห็นเช่นเดียวกัน ลอยอยู่อย่างนั้นประมาณ 20 นาทีก็ได้แตกออก เป็น 7 สีเหมือนกับ พุที่เขาสุด แต่ไม่มีเสียงใดๆเลย พอรุ่งเช้ามาท่านพระใบฎีกาวิศวาทานจึงได้ออกไปโปรดสัตว์พร้อมกับท่านพระมหาเมธชนัน ญาติโยมพอได้เห็นพระไปรับบิณฑบาตก็เกิดความเลื่อมใสศรัทธาบางคนกล่าวว่าได้ฝันเห็นพระ 2 รูปมาโปรด หน้าตาเหมือนกับท่านทั้ง 2 รูปและได้บอกหวยอีก งวดนั้นเลยถูกกันทั้งหมู่บ้าน ในเช้านั้นชาวบ้านได้พร้อมใจกันอาราธนานิมนต์ให้พระใบฎีกาวิศวาธานอยู่ในป่าแห่งนั้นเพื่อเป็นผู้นำทางด้านจิตใจ ของชาวบ้านต่อไป จึงได้เกิดเป็น ธุดงค์สถานป่าศิริสมบูรณ์ขึ้นมา ในระยะแรกของการก่อตั้งวัดได้มีปัญหาเกิดขึ้น อยู่บ้างเช่นการไม่เข้าใจกันเกี่ยวกับประเพณีบางอย่าง ซึ่งท่านพระใบฎีกาวิศวาธาน ท่านไม่ยอมให้กระทำ เช่น การกินเหล่าในวัด การมีมหรสพเวลามีงานวัด การฆ่าสัตว์เพื่อทำบุญ อย่างนี้ ท่านจะไม่อนุญาตให้ทำเป็นเด็จขาด คนที่จะมาเป็นทายกวัด หรือเป็นผู้นำทางด้านศาสนา ท่านจะให้เลิกอบายมุขเสียก่อนถ้าเลิกไม่ได้ก็ไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกับการดูแลกิจกรรมต่างๆของวัดเด็จขาด เพราะจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีแก่ผู้อื่น ท่านพยายามคัดสรรค์บุคลากรที่มีคุณภาพทั้งทางความรู้และ คุณธรรม เข้ามาทำงานในส่วนที่ไม่ เหมาะสมกับ สมณะสารูป เช่นการดุ แลปัจจัยเงินทอง เป็นต้น สอนให้ชาวบ้าน ลด ละ เลิกอบายมุขทุกชนิด และมีเรื่องน่าอัศจรรย์อีกมากมายที่เกิดข้น จึงทำให้มีผู้เคารพ นับถือท่านพระอาจารย์ทั้ง 2 รูปเป็นอย่างมาก
_________________
ทำดีทุกสิ่งที่ทำได้ แต่อย่าหมายว่าเขาจะชมว่าตนดีเสมอ ทำทุกอย่างเพื่อให้ใครๆ เจอ พบเสมอคือท่านพุทโธคุณ
mit
บัวใต้ดิน
เข้าร่วม: 10 ก.ย. 2007
ตอบ: 14
ที่อยู่ (จังหวัด): บุรีรัมย์
ตอบเมื่อ: 04 ต.ค.2007, 12:13 pm
http://www.matchananking.com/
http://www.matchananking.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=5318503
เชิญเข้าไปอ่าและเยี่ยมชมวัดหลวงพ่อหน่อยนะครับเผื่อเกิดศรัทธาบ้างนะ
_________________
ทำดีทุกสิ่งที่ทำได้ แต่อย่าหมายว่าเขาจะชมว่าตนดีเสมอ ทำทุกอย่างเพื่อให้ใครๆ เจอ พบเสมอคือท่านพุทโธคุณ
mit
บัวใต้ดิน
เข้าร่วม: 10 ก.ย. 2007
ตอบ: 14
ที่อยู่ (จังหวัด): บุรีรัมย์
ตอบเมื่อ: 10 พ.ย.2007, 12:58 am
ไม่มีใครอยากทำบุญกับทางวัดเลยคงเป็นเพราะอาตมาไม่ได้สร้างบารมีมา สาธุ
_________________
ทำดีทุกสิ่งที่ทำได้ แต่อย่าหมายว่าเขาจะชมว่าตนดีเสมอ ทำทุกอย่างเพื่อให้ใครๆ เจอ พบเสมอคือท่านพุทโธคุณ
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
ข่าวประชาสัมพันธ์
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th