Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 กิจกรรม/ความสำคัญ/ประเพณีวันออกพรรษา อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
nimmita
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 12 ส.ค. 2007
ตอบ: 26

ตอบตอบเมื่อ: 26 ต.ค.2007, 4:19 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

Image

กิจกรรม/ความสำคัญ/ประเพณีวันออกพรรษา

มีเหตุการณ์หลายอย่างเกิดขึ้นเกี่ยวเนื่องกับวันออกพรรษา ขอสรุปย่อๆ ดังนี้

1. วันออกพรรษา หมายถึง วันสิ้นสุดการอยู่จำพรรษา ของพระภิกษุ ครบ 3 เดือนในฤดูฝน เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า วันปวารณา (อ่านว่า ปะ-วา-ระ-นา) หรือวันมหาปวารณา คือวันที่เปิดโอกาสให้เพื่อนพระภิกษุว่ากล่าวตักเตือนกันได้ด้วยเมตตาจิต เมื่อได้เห็น ได้ฟังหรือสงสัยในพฤติกรรมของกันและกัน กิจกรรมอย่างหนึ่งที่พิเศษ ในวันออกพรรษา คือในวันนั้น พระสงฆ์จะงดสาธยายพระปาติโมกข์ แต่จะทำสังฆกรรมอย่างอื่นแทน เรียกว่า พิธีปวารณา

2. พิธีปวารณา คือ การยอมให้ผู้อื่นว่ากล่าวตักเตือนในหมู่สงฆ์ ผู้ว่ากล่าวตักเตือนจะต้องทำด้วยความเมตตาจิต ปราถนาดีต่อผู้ถูกตักเตือน ทั้งกาย วาจา และใจ ส่วนผู้ถูกว่ากล่าวตักเตือน ก็ต้องมีจิตใจกว้างขวาง มองเห็นความปราถนาดีของผู้ตักเตือน ถ้าเป็นจริงตามคำกล่าวก็ปรับปรุงตัวใหม่ หากไม่จริงก็สามารถชี้แจงแสดงเหตุผลให้กระจ่าง ทั้งสองฝ่ายต้องคิดว่าทักท้วงเพื่อก่อสุข ฟังเพื่อแก้ไข จึงจะได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย และตรงกับความมุ่งหมายของการปวารณา ที่จะสร้างความสมัครสมานสามัคคี และดำรงความบริสุทธิ์หมดจดไว้ในสังคมพระสงฆ์

3. ประเพณีตักบาตรเทโวฯ ซึ่งย่อมาจาก “เทโวโรหณะ” หมายถึงการเสด็จลงมาจากเทวโลกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อพระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้วได้เสด็จไปประกาศพระศาสนาในแคว้นต่างๆ ทรงรำลึกถึงพระพุทธมารดา จึงทรงดำริที่จะสนองคุณของพระมารดา ดังนั้น จึงได้เสด็จขึ้นไปจำพรรษาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เทศนาพระอภิธรรมปิฎกโปรดพระพุทธมารดาและเทวดาทั้งหลายอยู่หนึ่งพรรษา ครั้นวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 หรือหลังวันออกพรรษา 1 วันพระองค์เจ้าจึงได้เสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มาประทับที่เมืองสังกัสสะ ประชาชนต่างพากันไปเฝ้าพระพุทธองค์เพื่อทำบุญตักบาตรกันอย่างเนืองแน่น ด้วยเหตุนี้ ชาวพุทธจึงถือเอาวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 เป็นวันคล้ายวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากเทวโลกมาสู่เมืองมนุษย์ จึงนิยมตักบาตรกันเป็นพิเศษ และทำสืบต่อกันมาเป็นประเพณีที่เรียกว่า “พิธีตักบาตรเทโวฯ” มาตราบเท่าจนทุกวันนี้

4. วันตักบาตรเทโวฯ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “วันพระ (พุทธ) เจ้าเปิดโลก” ด้วยว่า เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์มาสู่โลกมนุษย์ หลังวันออกพรรษานั้น เล่ากันว่ามีเทวดาจำนวนมากได้ตามส่งเสด็จอย่างสมพระเกียรติ พระพุทธองค์จึงทรงเนรมิตให้เทวดา มนุษย์ และสัตว์นรกมองเห็นกันและกันตลอดทั้ง 3 โลก คือ สวรรค์ มนุษย์ และนรก อีกทั้งวันนี้การลงโทษในเมืองนรกได้ยุติลงชั่วคราว จึงเรียกว่า วันพระ(พุทธ)เจ้าเปิดโลก”

5. บุญพิธีทอดกฐิน หลังออกพรรษแล้ว จะเป็นช่วงเทศกาลกฐิน เป็นเวลา 1 เดือน คือตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 กฐิน หมายถึง ไม้สะดึง ไม้สำหรับขึงผ้าให้ตึงแล้ว จึงเย็บผ้า ในสมัยโบราณนิยมเย็บผ้ากันด้วยวิธีนี้ จึงนำมาใช้สำหรับเย็บผ้าสบง จีวร ของพระสงฆ์ ซึ่งเรียกกันว่าผ้ากฐิน ดังนั้นผ้ากฐินจึงหมายถึง ผ้าที่ผ่านกรรมวิธีการตัดเย็บ โดยใช้ไม้สะดึงขึงผ้าให้ตึง และกะ ตัด เย็บผ้า ตามแนวของพระธรรมวินัย (ดังนั้น พระสงฆ์จึงต้องตัด กะ เย็บและย้อมผ้ากฐิน โดยต้องทำให้เสร็จในวันรับกฐิน ผ้าสำเร็จรูปไม่นับว่าเป็นผ้ากฐิน แต่ถึงการนับว่าเป็นบริวารกฐินได้)

กฐิน เป็นทานพิเศษ เรียกว่า อกาลทาน ไม่มีทั่วไป วัดหนึ่งๆ สามารถรับกฐินได้ครั้งเดียว และจะต้องมีพระสงฆ์อยู่จำพรรษา ครบ 5 รูป บางทีท่านก็เรียกว่า “กาลทาน” ทานที่ให้ตามกาลสมัย ไม่มีทั่วไป เป็นต้น ดังนั้น กฐิน ถ้าเรียกตามชื่อ (ไม้สะดึง) เรียกว่า ผ้ากฐิน ถ้าเป็นชื่อของทาน หรือการทำบุญ เรียกว่า บุญกฐิน ถ้าเรียกตามพระธรรมวินัยของพระ เรียกว่า กฐินัตถารกิจ หรือ พิธีกรานกฐิน

จาก วารสารวัดสังฆรัตนาราม : วันออกพรรษา ปีพุทธศักราช 2549 หน้า 4-6
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ใบโพธิ์
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2007
ตอบ: 307

ตอบตอบเมื่อ: 30 ต.ค.2007, 7:43 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ สาธุ สาธุ
 

_________________
ทำความดีทุกๆ วัน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง