คนไทยนับถือพุทธ ลดลงเหลือ 85 % ..แล้วครับ

ตอบเมื่อ: 27 ก.ย. 2007, 8:02 am

คนไทยนับถือพุทธน้อยลงเหลือ ๘๕%

ที่มา : นสพ.มติชน 27 ธ.ค.46

‘อมร’ ห่วงคนไทยนับถือพุทธน้อยลงจาก 94% เหลือ 85% จวกนักการเมืองโกหกเป็นอาจิณ เผยตั้งพรรคธรรมาธิปไตยฟื้นฟู เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม คณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร ร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กรมการศาสนา และมูลนิธิภูมิพโลภิกขุ จัดสัมมนาเรื่อง "ความมั่นคงของพระพุทธศาสนาในประเทศไทย" เป็นวันที่สอง ทั้งนี้ นายอมร รักษาสัตย์ อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า จากข้อมูลวิจัยพบว่าความมั่นคงของพระพุทธศาสนาจะมี 2 ทาง คือ ความมั่นคงภายในเกี่ยวข้องกับพุทธบริษัท ซึ่งถือว่ามีความสำคัญมาก หากชาวพุทธทำลายกันเองจะเป็นเรื่องน่าห่วง นอกจากนี้ ยังมีความมั่นคงภายนอกที่มีศาสนาอื่นเข้ามาเผยแผ่ บางศาสนามีการบังคับให้นับถือ เช่น คนที่มาแต่งงานเป็นสามีภรรยากันต้องมานับถือศาสนาเดียวกัน แต่คิดว่าคงไม่ร้ายแรงเท่าไรนัก

"ในส่วนของพระพุทธศาสนา แม้จะมีข้อมูลว่าคนไทยประมาณ 94% นับถือศาสนาพุทธ แต่ก็เป็นข้อมูลหลายปีแล้ว หากความจริงตัวเลขคนไทยที่นับถือพระพุทธศาสนาน่าจะลดเหลือประมาณ 85% เท่านั้น ขณะที่ตัวเลขของผู้นับถือศาสนาอื่นน่าจะมีเพิ่มขึ้น ทั้งอิสลาม คริสต์ และดูคนที่นับถือศาสนาพุทธจริงๆ คือมีการปฏิบัติธรรม เข้าวัด ฟังธรรม น่าจะเหลือไม่กี่เปอร์เซ็นต์ เพราะปัจจุบันคนไทยส่วนใหญ่จะนับถือพระพุทธศาสนากันแต่ในนาม ผมเคยไปเป็นวิทยากรอบรมนักเรียน 1,000 คน พอถามว่ามีใครเข้าวัดบ้างในแต่ละปี กลับมีเด็กยกมือไม่กี่คน พระสงฆ์เองก็ส่งเสริมการสอนแก่ชาวพุทธน้อยลง ทั้งๆ ที่เป็นหน้าที่ ปัจจุบันนี้จะหาคนที่ปฏิบัติตามศีล 5 ข้อได้น้อย เฉพาะอย่างยิ่งข้อที่ว่าด้วยการห้ามพูดโกหก เพราะทุกวันนี้มีการโกหกกันมาก โดยเฉพาะนักการเมืองโกหกกันเป็นอาจิณ" นายอมรกล่าว

นายบุญเลิศ ไพรินทร์ ส.ว.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ความรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนาส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับการสนับสนุนของรัฐบาล ในอดีตที่ผ่านมาพระพุทธศาสนาในหลายประเทศล่มสลาย เพราะไม่ได้รับการสนับสนุน เช่นในอัฟกานิสถาน มาเลเซีย อินโดนีเซีย และอินเดีย หากรัฐบาลไทยไม่สนับสนุนก็อาจเป็นเช่นนั้นได้ ดังนั้น รัฐบาลควรให้ความสำคัญแก่พระพุทธศาสนามากขึ้นกว่านี้ โดยเฉพาะนักการเมืองควรทำการเมืองเพื่อพระพุทธศาสนาด้วย ซึ่งทราบว่าเร็วๆ นี้จะมีการตั้งพรรคการเมืองธรรมาธิปไตยขึ้น เป็นพรรคเพื่อชาวพุทธโดยแท้ ขณะนี้มีสมาชิกประมาณ 20,000 คนแล้ว โดยจะตั้ง 6 สาขาทั่วประเทศ

http://www.phrathai.net/news/detail.php?catid=4&ID=1497

ตอบเมื่อ: 27 ก.ย. 2007, 10:05 am

สังคมไทย ศาสนาพุทธ ไม่เจริญรุ่งเรือง ถือเป็นเรื่องใหญ่

การเมือง การปกครอง ความมีวินัย ความยุติธรรม(ระดับท้องถิ่น) ซึ่งเกี่ยวข้องกับศาสนาพุทธ ไทย โดยรวม ไม่ต่างจากเดิม (ย้อนหลังไป 10 ปี)

ความเลื่อมใส นับถือ ศรัทธา ศาสนาพุทธ ของปัจเจกบุคคล จำนวนคนเกือบ ๆ จะเท่าเดิม (ย้อนหลัง 3-5ปี)

ผู้คนเกิดในประเทศไทย มากขึ้น
การนับถือศาสนาอื่นของครอบครัวใหม่ ก็มากขึ้น เพราะมีความคิดเห็นที่ต่างจากพุทธเดิม เบื่อหน่ายกับพุทธเดิม จึงคิดลองของใหม่ (พุทธ นิกายใหม่ก็ได้) ที่คิดว่า น่าจะดีกว่าเก่า (ตามกิเลสของมนุษย์)
......................................................................
ความที่ว่า "ศาสนาพุทธ อยู่ที่ใจ" เป็นคติสอนใจไป 2 ทาง คือ เข้าใจในเชิงขี้เกียจ(ปล่อยตามใจกิเลส) เข้าใจในเชิงขยันลดกิเลส+ศึกษาธรรมมากขึ้น

การบังคับให้ทุกครอบครัวไทย-พุทธ ต้องเข้าวัด เป็นเรื่องดี แต่คนไทยก็มีความคิดเป็น 2 แง่ คือ แง่บวก แง่ลบ (เชื่อเถอะ) เพราะพ่อเมืองเป็นอย่างไร ลูกเมืองเป็นอย่างนั้น
..............................................................
เพราะความเป็นสิทธิ เสรีภาพ ในการนับถือศาสนา เป็นสิ่งหนึ่งที่คนไทย จะเลือกได้ ศาสนาแฝงมา คือ กลุ่มผู้ไม่ฝักฝ่ายศาสนาใด อาจเป็นกลุ่มที่มากที่สุดเป็นอันดับสอง ก็ได้ คือ กลุ่มคนเหล่านี้เข้าได้ทุกศาสนารวมไปถึงไม่สนใจศาสนาใดเลย ทำงาน กิน เที่ยวไปวัน ๆ ก็พอแล้ว
.........................................................
กับข้าพเจ้าแล้ว เห็นว่า พระพุทธเจ้า ไม่ได้กังวลอะไรกับเรื่องนี้ แม้นแต่ก่อนปรินิพพาน พระองค์ได้ตรัสว่า "จงไม่ประมาท(ในกิเลส)" ไม่ได้เป็นห่วงว่า จงอนุรักษ์ศาสนาให้อยู่คู่โลก ให้ถึงที่สุด
เพราะผู้ที่เห็นค่า คือ ผู้ที่ได้รับค่านั้นไป ผู้ที่ไม่เห็นค่า ก็ต้องวนเวียนในวัฏฏสงสารต่อไป

ตอบเมื่อ: 27 ก.ย. 2007, 9:51 pm

ผมคิดว่าเราควรจะเป้นห่วงในเรื่องที่ปัจจุบันมีคนเข้าใจ ธรรมะน้อยลงมากกว่าครับ
เพราะการนับถือไม่ได้หมายถึงคนๆนั้นจะเข้าใจ...........ถ้าไม่เข้าใจก็ปฎิบัติไม่ได้.........ศาสนาพุทธเป้นศาสนาแห่งการปฎิบัติ...........เพราะศรัทธากับปัญญาเป้นคนละอย่างกัน

ตอบเมื่อ: 27 ก.ย. 2007, 10:41 pm

เห็นด้วยกับคุณเสกสรรค์

แต่บางครั้ง เราต้องใช้หลักรัฐศาสตร์ด้วย หลักวินัยทางสังคม(ทำดีได้ดี ทำชั่วปรับเงินถึงติดคุก)

การรวมตัวกันได้เป็นกลุ่ม เกิดจากการแสดงออกของ คน ก่อน เช่น การแสดงการนับถือศาสนาใด

ผู้รับทราบ ก็จะเลือกสร้างความรู้ ความเข้าใจต่อกลุ่มนั้น ได้ง่ายขึ้น

ง่ายกว่า ไม่ทราบว่า กลุ่มใดไม่รับ ไม่นับถือศาสนานั้น แล้วพยายามให้เขาเหล่านั้น เคารพ นับถือ
ความพยายามแบบนั้น ต้องสำหรับ ผู้สามารถฝึกบุรุษผู้สมควรฝึกได้(คือ เชี่ยวชาญการโน้มน้าว เผยแผ่ศาสนา ไม่ใช่โน้มน้าวไม่เป็น ก็ยังฝืนสั่งสอน ผู้ไม่นับถืออยู่แล้ว กลับเสื่อมศรัทธามากขึ้น)

บางครั้ง ศาสนาพุทธ ต้องเรียนแบบ วิธีการจัดการทางโลก บ้าง คัดสิ่งที่ดีมาใช้งาน ระบบการให้ความรู้ก็จะง่ายขึ้น ทั้งนี้ต้องทำเพื่อลดเลิกกิเลส ไม่ได้ทำเพื่อพุทธพาณิชย์

เมื่อกลุ่มศาสนาพุทธเล็ก เต็มเปี่ยมด้วยความรู้ความเข้าใจ ความดีงาม ความสงบสุข ความสันติ ความหลุดพ้นจากวัฎฎสงสาร ผู้คนรอบนอก ที่ไม่รับ นับถือศาสนาพุทธ ก็จะกลับมายอมรับนับถือศาสนาพุทธ ด้วยความศรัทธา ด้วยความหวังในการพ้นทุกข์ในที่สุด โดยไม่ต้องโฆษณาชักจูงขอร้องให้นับถือศาสนา การทำเป้าให้เพิ่มความนับถือศาสนาพุทธ จึงไม่ใช่ประเด็นหลักในการนี้ แต่อย่างไร

ตอบเมื่อ: 28 ก.ย. 2007, 7:17 pm

ใครนับถือศาสนาอะไร แล้วรู้สึกมีความสุข รู้สึกสบายใจก็นับถือไปเถิด สาธุ

แม้ว่าชาวพุทธจะมีเหลือเพียง 1% ก็ตาม ก็ขอให้ชาวพุทธเรามีความสุข ต่อการปฏิบัติธรรมของเราต่อไป
เพราะเราเชื่อมั่นในพระธรรมแล้ว ว่าเป็นสัจธรรม

พวกส่วนใหญ่ที่เป็นศาสนิกอื่น เขาคงไม่มายุ่งอะไรกับพวกเราชาวพุทธที่เหลือหรอก ต่างคนก็ต่างนับถือศาสนาของตนไป ไม่ยุ่ง ไม่ว่ากัน
เพราะในปัจจุบัน พวกเราชาวพุทธส่วนใหญ่ เราก็ไม่เคยดูหมิ่นดูแคลน หรือหยาบหยาม ผู้นับถือศาสนาอื่นเลย
เมื่อในอนาคต ถ้าพุทธศาสนิกชน จะกลายเป็นคนส่วนน้อย ก็คงไม่ถูกพวกศาสนิกอื่นดูแคลน เช่นกันครับ

เขานับถือศาสนาอื่น แล้วมีความสุข เราก็ขอยินดีด้วย สาธุ

เรานับถือพุทธศาสนาแล้วมีความสุข พวกเขาก็คงรู้สึกยินดีกับเราด้วยเช่นกัน..... สาธุ

มีความเชื่อกันว่า แสงแห่งพระธรรม จะอยู่ในโลกนี้ เพื่อโปรดเวไนยสัตว์ (ผู้พอที่จะเข้าใจธรรม พอที่จะบรรลุธรรม) เพียง 5,000 ปี เท่านั้นเอง

ตอบเมื่อ: 05 ต.ค.2007, 9:57 pm

ผมขอส่ง แรงใจด้วยคนครับ
ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยนะครับ
สาธุ

พุทธศาสนาจงเจริญ

ตอบเมื่อ: 21 ต.ค.2007, 8:35 pm

แต่ต่างประเทศที่อเมริกาฝรั่งเค้านิยมการนั่งสมาธิฝึกจิตกันมากขึ้นร้อยละ๑๐ ต่อปีนะคะ อย่างนี้แหละคะใกล้เกลือกินด่าง ซึ้ง

ตอบเมื่อ: 24 ต.ค.2007, 8:37 pm

85% ของคนไทยที่นับถือศาสนาพุทธ

มีกีเปอร์เซนต์ที่เข้าใจพุทธรรม

มีผู้บรรลุธรรมในศาสนาพุทธสักคนเดียว ดีกว่ามีผู้ลงทะเบียนนับถือศาสนาพุทธเป็นล้านๆ คน

แต่ไม่มีใครรู้ว่าพุทธคืออะไรเลย

แม้แต่พระภิกษุก็เถอะ

บวชแล้วไม่ปฏิบัติธรรมยังเยอะแยะ

ของอย่างนี้ต้องวัดกันที่คุณภาพ

ไม่ใช่ปริมาณ

หากได้คนไม่มีคุณภาพมาอยู่ในศาสนามากๆ ยิ่งจะทำให้พุทธจักรเลื่อมเอา

แทนที่จะเรียกร้องความสนใจให้คนมานับถื่อศาสนาพุทธมากๆ

หาวิถีทางทำให้มีการเผยแพร่ธรรมะที่ถูกต้อง ไม่วิปปลาสจะดีกว่า

อย่างนี้ศาสนาพุทธจึงจะเจริญยั่งยืน

ตอบเมื่อ: 11 พ.ย.2007, 7:47 pm

ยังไงก็ตาม พวกเราก็ต้องช่วยให้ศาสนาพุทธอยู่จนครบ 5000 ปี

และถ้าช่วยให้เจริญรุ่งเรือง จะเป็นประโยชน์แก่สัตว์โลกทั้งหลายอีกด้วย

ตอบเมื่อ: 27 ธ.ค.2007, 3:39 pm

เห็นด้วยกับคุณเสกสรรค์ครับ แม้ว่าจะเหลือแค่ 10% แต่เป็น 10% ที่เข้าใจว่าธรรมะคือหน้าที่ที่ต้องเร่
งรีบปฏิบัติกันอย่างเร่งด่วนก็พอ เมื่อใดยังมีบุคคลที่กล้าพิสูจน์ความจริงด้วยความสามารถของตนเอง
และหลักธรรมคำสั่งสอนที่แท้จริงยังอยู่โดยไม่ถูกบิดเบียน เมื่อนั้นศาสนาพุทธเราไม่มีวันสิ้นสุดแน่นอน
ศาสนาแห่งความเข้าใจ ศาสนาแห่งการพิสูจน์ ผมเชื่อว่าบุคคลอย่างไอสไตน์ยังต้องเกิดขึ้นอีกมากใน
โลกนี้ แต่สังคมก็มีส่วนที่จะช่วยได้นะครับ โดยทำให้เยาวชนรุ่นใหม่ๆ เข้าใจว่าแก่นแท้ของศานาพุทธ
คืออะไร เพราะว่าสมัยนี้เด็กเห็นข่าวไม่ดีจากสื่อต่างๆมากมายจึงทำให้เข้าใจบิดเบือนกันไปมากครับ
มันจึงเป็นหน้าที่ที่สำคัญอย่างยิ่งครับที่เราจะช่วยกันอธิบายให้เยาวชนเข้าใจศาสนากันมากขึ้นผมเชื่อ
คำสอนของท่านพุทธทาสที่ว่า เมื่อใดสังคมมีปัญหาเมื่อนั้นธรรมะจะแสดงตัว และปัจจุบันนี้สังคมมีปัญ
หาแล้วเราก็ใช้โอกาสนี้ให้ธรรมะแสดงตัวชัดเจนยิ่งขึ้นเข้าไปอีก กรุณาช่วยกันด้วยนะครับเพื่อความ
สงบร่มเย็นเพื่อสันติภาพของโลกนี้