Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
ต่างประเทศมีเจ้าที่เจ้าทางเหมือนบ้านเรามั๊ย
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
กฎแห่งกรรม
ไปที่หน้า
ก่อนหน้า
1
,
2
ผู้ตั้ง
ข้อความ
bad&good
บัวใต้น้ำ
เข้าร่วม: 06 ส.ค. 2007
ตอบ: 115
ตอบเมื่อ: 02 ต.ค.2007, 5:57 pm
ท่านคนสองศอ
อ่านความเห็นของท่าน อ่านซ้ำ ๆ แล้วรู้สึก ขำ
เป็นผู้ที่มั่นใจว่า วัฒนธรรมของเจ้าที่ เจ้าทาง เป็นแบบนั้น (เหมือนดังว่า เป็นผู้วางระบบแบบแผน หรือ จัดทำสารคดี หรือ เคยผ่านชีวิตแบบนั้นมาก่อน)
.................................
อ่านของท่าน Thanatnicha อ้างถึง หลวงพ่อฤาษีลิงดำ มีเจ้าที่ เจ้าทาง อยู่ทุกมุมโลก
ก็ทำให้ข้าพเจ้า ไม่ทราบ จะเลือก เชื่อใครดี ขำ เป็นการใหญ่
................................
ผู้ไม่เคยเห็น คงไม่ผิดอะไร นะครับ อย่าเพิ่งโกรธข้าพเจ้า ก็แล้วกัน
บทกาลมสูตร บางครั้ง จำเป็นต้องนำมาใช้บ้าง แต่บังเอิญ เรื่องทั้งหมดนี้ ไม่น่าจะศึกษา หาความรู้ เนื่องจากไม่ใช่ทางแห่งการดับกิเลส คือเพิ่มกิเลส ตามเที่ยวหาความจริง ที่ไป ที่มา ของ เจ้าที่ เจ้าทาง ขอย้ำว่า เสียเวลา จริง ๆ ท่าน คนสองศอ
.......................................
ส่วนเรื่องท่านBuddha กับข้าพเจ้า
ดูเหมือนเป็นคู่กัด
ก็บอกตามตรง ว่า เหมือนจะใช่
ข้าพเจ้า แสดงความเห็นต่อท่านBuddha เพื่อว่า แลกเปลี่ยนความเข้าใจกัน ให้ท่านBuddha ลดทิฏฐิลง
เพื่อให้จิตเข้าสู่ อริยมรรค มีองค์ 8 ซึ่งเป็น ทางนำสู่นิพพาน ทางไปการพ้นทุกข์ หมดกิเลสสิ้นเชิง
(แต่ไม่เป็นผล)
ข้าพเจ้า นิ่งบ้าง หยุด ไม่โต้ตอบบ้าง เพื่อให้ทุกสิ่งสงบลง
..............................................................
ซึ่งเห็นด้วยนะกับ ปล. ของท่านสองศอ
เอาแบบนี้
ข้าพเจ้า ขอปฎิญาณ นับแต่วันเวลานี้เป็นต้นไป ไม่ว่าท่านBuddha จะกล่าวอย่างไร ก็ตาม
ข้าพเจ้าจะสงบนิ่ง ไม่โต้ตอบแต่อย่างไร
ดีไม๊ครับ ท่านสองศอ
_________________
อริยมรรคมีองค์ 8 คือ สูตรสำเร็จแห่งการดับทุกข์
คนสองศอ
บัวใต้ดิน
เข้าร่วม: 26 ก.ย. 2007
ตอบ: 19
ที่อยู่ (จังหวัด): กรุงเทพฯ
ตอบเมื่อ: 02 ต.ค.2007, 10:52 pm
แหม่ๆ ก็เขียนให้ขำ หรือจะเขียนให้อ่านเล่น ก็ อ่านเถอะ เพราะเขาตั้งกระทู้มาให้ตอบ ไอ้ตัวเราก็ดันชอบซะด้วยนะ กระทู้แบบนี้ ปกติชอบอ่าน แต่เห็นกระทู้นี้เลย สมัครเข้ามาเผื่อจะได้มุมมองใหม่ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับ ตัวข้าผู้น้อยเอง
เรื่องเจ้าที่เจ้าทาง เขามีไว้ให้ศึกษาก็ศึกษากันไป ไม่ได้ทำให้คนอ่านเขาโง่หรอก แล้วแต่การพิจารณาของแต่ละบุคคล บางคนเขาอาจจะมีประสบการณ์ที่พบในเรื่องแบบนี้ ก็ฟังเขาไป (ไม่ได้เสียเงินซักกะบาทซะที่ไหนเล่าท่านยกเว้นค่าไฟ+ค่าเน็ต)
เรื่องที่ดับทุกข์ก็ดี ก็ทราบดี แต่บางเรื่องทราบไว้ก็ไม่ได้เสียหายไม่ใช่หรือ วันนี้ฝนตก พรุ่งนี้แดดออก ก็ควรจะรู้ซะบ้าง เผื่อลูกหลานถามมาจะได้รู้เรื่องกะเขาบ้าง ไม่ใช่พอหลานถามมา ดันตอบว่า หลานเอ่ย มันไม่ใช่ทางดับทุกข์ดอก ...ถ้าตอบแบบนี้ เดี๋ยวหลานจะไปหาคำตอบเอง เรื่องจะไปกันใหญ่นะขอรับท่าน
การค้นหาความจริง ก็ไม่ได้ตั้งใจจะไปหาเหมือนหาทุกข์นั้นแหละ เพราะถ้าเราหาอาจจะไม่เจอ แต่ไม่แน่เขาจะวิ่งหาเราเอง เอาเป็นว่าถ้าบังเอิญเจอะเจอกระผมก็จะได้มาเล่าสู่กันฟังอีก ..ไม่ดีหรือท่าน สนุกดีออก
ส่วนที่ท่านประสงค์อยากจะให้เขาเข้าสู่มรรค8 ถือว่าท่านมีจิตใจที่ดีแล้ว แต่เขาจะเข้าหรือไม่ก็ต้องแล้วแต่ดุลพินิจว่า เขาจะเข้าสู่นิพพานอย่างไรดี เส้นทางนี้ไม่ได้มีหนทางเดียวไม่ใช่หรือ เขาอาจจะค้นพบหรือมาทางอากาศก็เป็นได้ เผลอๆเข้าก่อนเรา เรายังไม่รู้เลย ท่านว่าจริงไหม ?ขึ้นอยู่กับจริตของตัวเขาเอง วาสนาบารมี ของตัวเขาว่าสะสมมามากน้อยเพียงใด เราก็ไม่อาจทราบได้ เอาเป็นว่า เราปฏิบัติดีปฏิบัติชอบด้วยวาจาใจ ให้ดีพอก็พอแล้วครับท่านชั่วและดี
ปล.ผมว่าถ้าสนทนาแบบไม่ได้คิดอะไรทั้งคู่ ก็จะนำมาซึ่งเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนร่วมโลกนี้นะครับท่าน จรรโลงไว้เพื่อพระศาสนา ทั้งคู่นั้นแหละครับท่าน
_________________
คนเรา...อิ่มเดียว หลับเดียวก็เพียงพอแล้ว
Buddha
บัวบาน
เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2007
ตอบ: 415
ตอบเมื่อ: 03 ต.ค.2007, 8:35 pm
ข้าพเจ้า แสดงความเห็นต่อท่านBuddha เพื่อว่า แลกเปลี่ยนความเข้าใจกัน ให้ท่านBuddha ลดทิฏฐิลง เพื่อให้จิตเข้าสู่ อริยมรรค มีองค์ 8 ซึ่งเป็น ทางนำสู่นิพพาน ทางไปการพ้นทุกข์ หมดกิเลสสิ้นเชิง (แต่ไม่เป็นผล)
คุณเลว ดี ความรู้ระดับคุณนะหรือจะมาทำให้ข้าพเจ้าเข้าสู่อริยมรรค
แค่มรรค เท่านั้นหรือมีองค์ 8 ทุกข์ สมุทัย นิโรธ ไม่มีองค์ 8 หรือ อย่าอวดอุตริให้มากนักเลย
มรรค ของคุณนะ ก็ผิดหลักธรรมชาติของมนุษย์แล้วนะคุณ
ถ้าจะกล่าวในทางกลับกัน ข้าพเจ้าน่าจะเป็นผู้ลดทิฎฐิของคุณมากกว่า เพราะคุณนั้น ติดหลงในสิ่งที่เป็นเพียงกระพี้ แห่งหลักการหรือหลักธรรมะของข้าพเจ้าหรือถ้าจะกล่าวแบบตรงไปตรงมา มรรคอันมีองค์ 8 ที่มีอยู่ในพระไตรปิฏกนั้น เป็นเพียงกระพี้ หรือเป็นเพียงรายละเอียดที่ใช้อธิบายเท่านั้น หรือถ้าจะกล่าวอีกรูปแบบหนึ่ง สิ่งที่มีในพระไตรปิฏกนั้น ผิดอย่างมหันต์
ระดับข้าพเจ้านะ บรรลุนิพพานโน้นแล้ว เพียงแต่ตอนนี้ยังหาข้อยุติไม่ได้ว่า นิพพานหรือปรินิพานนั้น มีสองอย่างจริงหรือ หรือว่ามีอย่างเดียว อีกไม่นานคงได้ข้อยุติ
ที่กล่าวไปนี้ไม่ใช่เรื่องคุยโว แต่กล้าท้าให้มาพิสูจน์ได้เลย จะพาใครมาก็ได้ นะยินดีเป็นอย่างยิ่ง
Buddha
บัวบาน
เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2007
ตอบ: 415
ตอบเมื่อ: 03 ต.ค.2007, 9:29 pm
[quote="bad&good"]1.ท่านBuddha ท่านอายุเท่าไรแล้ว
คำตอบ "แล้วคุณละอายุเท่าไหร่ ถ้าจะให้ประมาณอายุของคุณ คงไม่เกิน 65 ละซินะ
ถ้าคุณอายุ ตั้งแต่ 60 -65 ข้าพเจ้าอายุน้อยกว่าคุณหลายปี
2.ท่านBuddha ท่านยังไม่ตอบข้าพเจ้าเลย ว่า พระพุทธเจ้าท่านตรัสอย่างไร ที่จะทำให้พ้นกิเลสสิ้นเชิง เพราะได้เห็นแล้วซึ่ง ภพสวรรค์ แล้วจึงหมดกิเลส ใช่หรือไม่
คำตอบ คุณถามข้าพเจ้าเมื่อไหร่ละ ไม่ได้อ่าน และ คำถามของคุณนั้น หมายถึงพระพุทธเจ้าพระองค์ไหน พระพุทธเจ้าเกิดไปแล้ว 4 พระองค์แล้ว แต่พระพุทธเจ้าองค์ที่ 5 ไม่มีนะ เหตุเพราะศาสนาในโลก เกิดมีหลายศาสนา จึงเป็นหน้าที่ของข้าพเจ้าที่ต้องมาแก้ไขศาสนาให้ถูกต้อง
ส่วนคำถามที่ว่า พระพุทธเจ้าตรัสอย่างไร ที่จะทำให้พ้นจากกิเลสสิ้นเชิง นั้น ขอตอบว่า การที่บุคคลจะพ้นจากกิเลสอย่างสิ้นเชิงได้นั้น ต้องประกอบไปด้วย "การเอาใจจดจ่อในสิ่งนั้นหรือเอาใจฝักใฝ่ในสิ่งนั้น หรือสมาธิ" 2.ต้องประกอบด้วย "ญาณ" คือความรู้ทั้งหลาย อันเกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตของบุคคล"3.ต้องประกอบด้วย วิธีการปฏิบัติ หรือการปฏิบัติ อันเรียกว่า วิปัสสนา
คำตอบข้างต้นนี้เป็นหลักการเป็นหลักธรรมหัวข้อใหญ่ สามารถจะแยกแยะรายละเอียดได้อีกว่า หากคุณต้องการหลุดพ้นจากสิ้นเชิง ขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ (หมายความว่า การหลุดพ้นจากกิเลสอย่างสิ้นเชิงนั้น มี 2 รูปแบบ คือ ตาย อย่างหนึ่ง) คุณก็ต้องรู้จักขจัดอาสวะแห่งกิเลส การขจัดอาสวะให้แห่งกิเลสให้สิ้นนั้น จะต้องประกอบด้วยปัจจัยดังที่ได้กล่าวไปแล้ว หรือคุณจะต้องรู้หลักการหรือหลักธรรมะ ที่เรียกว่า" เครื่องดิ้นรน อันมี องค์ 8 ซึ่งได้แก่ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค"ได้แก่
1.ระลึก 2.ดำริ
3. สรรพอาชีพ 4. ประพฤติ
5.กตัญญู 6. เจรจา
7.ทาน 8.การครองเรือน
ถ้าคุณไม่เข้าใจในหลักธรรมทั้งหลายเหล่านั้น ก็ถามได้จะอธิบายให้ฟังบ้างเล็กน้อย
3.ถ้า ใช่แล้ว
ผู้ที่บรรลุธรรม ไม่เคยพบเห็นภพสวรรค์ ไม่เคยพบเทพทางด้านพราหมณ์-ฮินดู
เช่นนั้น ถือว่ากิเลส น้อยลงใช่หรือไม่
คำตอบ การบรรลุธรรม ก็ไม่ได้เกี่ยวของกับการเห็นภพสวรรค์อยู่แล้ว และเทพเจ้าทางด้านพราหมณ์ ฮินดู ก็ไม่ได้เกี่ยวของกับการบรรลุธรรม แต่เกี่ยวข้องในฐานะ เป็นผู้สร้างธรรมะ เป็นผู้สร้างหลักการทั้งปวง ไม่ว่าจะเป็นหลักวิชาการ หรือธรรมะ รวมไปถึงหลักปฏิบัติด้วย
4.ถ้าผู้ใฝ่พุทธธรรม กลับเห็นเทพทางญี่ปุ่น เทพทางคริสตจักร แต่ไม่เห็นเทพทางพราหมณ์-
ฮินดู เช่นนั้น ถือว่ากิเลส น้อยลงใช่หรือไม่
คำตอบ ไม่เกี่ยวกันนะคุณ ข้าพเจ้าเอง ก็เห็น พระเยซู พระอัลเลาะห์ เห็น เจ้าแม่กวนอิม ฯลฯ อยู่บ่อยครั้ง ก็ไม่เกี่ยวกับกิเลสอะไร มันอยู่ที่ตัวคนว่าจะรู้จักกิเลสหรือไม่ อย่างคุณไม่รู้ว่ากิเลสคืออะไร ก็ย่อมมีกิเลส คนที่เขารู้เขาก็ขจัดกิเลสได้
5.การที่ท่านBuddha จะมาแจ้งเหตุการณ์ที่ท่านพบเห็น ต่อคนสามัญชนคนธรรมดาเช่นข้าพเจ้า หรือผู้อื่น ท่านไม่กลัวถูกตำหนิว่า สติสมปฤดี หรือเปล่า
คำตอบ แล้วคุณจะพิสูจน์ไหมละว่า ข้าพเจ้ายังสติสัมปชัญญะครบถ้วนทุกประการ แถมยังกล้าท้าให้พิสูจน์ด้วยว่า ข้าพเจ้าเป็นผู้บรรลุธรรมชั้น อรหันต์เป็นอย่างต่ำ
6.ท่านBuddha ท่านไม่สงสัยเลยหรือว่า เหตุใดพระพุทธเจ้ามักไม่ตรัสต่อบุคคล สามัญชนธรรมดา ว่าพระองค์เห็น เทพ มาร อยู่เนือง ๆ แล้วกิเลสจะลดลง แล้วถือว่าพ้นทุกข์
คำตอบ คำพูดแบบคุณนะ เป็นคำพูดของคนที่เรียนด้านเปรียญธรรม มาก่อนอย่างน้อยๆก็ เปรียญ 3ขึ้นไป ชอบเอาพระพุทธเจ้ามาอ้าง แล้วคุณเคยเห็นเคยได้ยิน พระพุทธเจ้าที่กล่าวถึงพูดหรือตรัสว่าอย่างไรบ้างกันละคุณ หัดใช้สมองพิจารณาถึงหลักความจริงซะบ้าง ข้าพเจ้าไม่ได้กล่าวว่า ถ้าได้เห็นเทพเจ้าหรือหรือพิฆเณศน์แล้วกิเลสจะลดลง แต่การที่ได้เห็นพระพิฆเณศน์ และได้ลอยขึ้นไปนั่งบนตัก ของพระองค์"ทำให้หายสงสัย"
"ความสงสัยคือกิเลส เมื่อได้เห็นแล้ว ความสงสัยก็หมดไป กิเลสก็ย่อมหมดไปด้วย"
มันก็ไม่พ้นคำที่ข้าพเจ้าสอนคุณ คือไม่รู้จักอ่านบริบทของภาษาให้ดี เหมือนเดิมนั่นแหละคุณ (ไม่รู้ว่าอ่านแล้วจะเข้าใจอีกหรือไม่ เพราะมันยาวคงขี้เกียจอ่าน)
แล้วอย่างคุณนะหรือมีหลักเหตุผล
ข้าพเจ้าเป็นหลักเหตุผลของคนเมาหรือไม่ก็ปัญญาไม่เต็มเต็งแถมยังอวดฉลาดอีกต่างหาก
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
กฎแห่งกรรม
ไปที่หน้า
ก่อนหน้า
1
,
2
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th