ทุกปัญหามีทางออกเสมอจริงหรือไม่

ตอบเมื่อ: 04 ก.ย. 2007, 11:05 am

ตอนนี้รู้สึกชีวิตกำลังมีเรื่องให้ต้องคิดกังวลใจมากมาย และไม่รู้ด้วยว่าจะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ด้วยวิธีใด เคยคิดว่าทุกปัญหามีทางออกเสมอ แต่ปัญหาครั้งนี้คิดไม่ออกจริงๆ ว่าควรจะแก้ไขอย่างไร

ตอบเมื่อ: 04 ก.ย. 2007, 11:34 am

ประโยคคำพูดประมาณนั้น เคยได้ยินเหมือนกัน ส่วนมากจะเห็นตามเว็บธรรมะ
พูดปลอบใจกัน ทุกปัญหาแก้ไขได้ ทุกปัญหามีทางออก
แต่พอตนเองประสบปัญหาก็แก้ไม่ได้เหมือนกัน เหมือนผงเข้าตาตัวเองยังไงยังงั้นเลย
คุณ JIRA มีปัญหาอะไรก็บอกๆ เล่าๆ กันฟังอย่างน้อยได้ระบายความกลัดกลุ้มออกจากใจได้
มีปัญหาอะไรหรอครับ

ตอบเมื่อ: 04 ก.ย. 2007, 5:16 pm

(คุณ JIRA)
พยายามค่ะ ... พยายามมองให้เห็นตามเป็นจริง ว่าคุณไม่ใช่ปัญหา ปัญหาไม่ใช่คุณ
สิ่งที่ทำให้คุณกลัดกลุ้มอยู่ ไม่ใช่ปัญหาค่ะ แต่เป็นจิตของคุณ ที่รับรู้แล้วนำมาเป็น "ปัญหาของเรา" เป็นเพราะคุณยึดติด มีตัวเรา-ของเรา ตัวฉัน-ปัญหาของฉัน ถ้าคุณลองสงบจิตสงบใจ ทิ้งช่วงเวลาสักนิด หรือใช้วิธีคิดว่าปัญหานี้ไม่ใช่ของคุณ แต่เป็นของเพื่อนสนิทคุณ คุณจะแนะนำให้เขาทำอย่างไร จึงจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด ยิ้ม

ถือว่าแลกเปลี่ยนความคิดเห็นนะคะ เพราะเคยกลุ้มใจเรื่องปัญหาเหมือนกันค่ะ

(คุณกรัชกาย)
ก็เพราะคุณยึดว่าเป็น "ปัญหาของคุณ" ไงค่ะ เลยแก้ไม่ได้ ถ้าคลายยึดได้ ก็นึกออกเองค่ะ
เวลาเพื่อนมาปรึกษาปัญหา ทำไมเราแก้ไขให้เขาได้ดีล่ะค่ะ จริงไม๊ (เพราะเราไม่คิดว่าเป็นปัญหาของเรา สติปัญญาเลยแจ่มใสค่ะ)
ยิ้มแก้มปริ

ตอบเมื่อ: 05 ก.ย. 2007, 6:54 pm

ทุกสิ่งไม่มีอะไรจีรัง
ทุกสิ่งย่อมมีวันเสื่อม
ทุกสิ่งคือความไม่แน่นอน
ความเกิด แก่ เจ็บ ตาย คือ วัฎฎะสงสาร เมื่อตายแล้ว ยังเกิดอีก หรือไม่เกิดอีก ก็ได้ แล้วแต่กรณี นั่นคือ ความไม่จีรัง
ขอให้คิดเสียว่า ที่สุดแล้ว ถ้าแก้ปัญหาไม่ได้แล้ว ปัญหาจะมีทางออกของมันเอง โดยตนเองก็พอคาดเหตุการณ์ได้เช่นกันว่าจะเป็นเช่นไร ด้วยเหตุปัจจัยอะไร

ตอบเมื่อ: 08 ก.ย. 2007, 9:17 pm

ไม่รู้จะว่าอย่างไรดี เอาเป็นว่าเป็นกำลังใจให้นะครับ ธรรมะนั้นดิทางออก

ตอบเมื่อ: 12 ก.ย. 2007, 2:52 pm

ก็เคยเป็นอย่างนั้นเหมือนกัน สามารถแก้ไขหาทางออกให้กับตัวเองได้ แม้จะไม่สำเร็จ 100 % ก็ตาม แต่ก็คิดว่าได้ทำดีที่สุดแล้ว อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด เพราะทุกคนล้วนเกิดมาใช้กรรมทั้งนั้น แต่ก็ยังดีที่ได้มีโอกาสสร้างกรรมดีต่อไปเป็นเสบียงในชาติภพต่อไป

ขอเป็นกำลังใจให้คุณได้เกิดสติปัญญาในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ลุล่วงไปด้วยดีและสำเร็จดังใจหมาย

ตอบเมื่อ: 12 ก.ย. 2007, 8:34 pm

ตอบเมื่อ: 14 ก.ย. 2007, 9:33 am

ก็เล่ามาสิครับ จะได้รู้ว่า มีอะไรที่เป็นตัวขัดขวางความเจริญของสติปัญญาคุณ ที่ทำให้คุณต้องมานั่งจมปลักอยู่กับความเศร้า

ตอบเมื่อ: 19 ก.ย. 2007, 7:50 am

ปัญหาก็เหมือนกับคุณอยากกินข้าวหรือต้องกินเข้า
แต่คุณหุงข้าวไม่เป็นนั่นแหละ...
บางทีก็สามารถแก้ไขได้....คือตั้งไฟเพิ่มให้นานเพื่อให้ข้าวสุก
แต่บางทีก็ไม่สามารถแก้ไขได้ เช่น ข้าวที่หุงนั้นไหม้....
คุณก็ต้องมองที่เหตุและปัจจัยที่ทำให้ข้าวไหม้ และเริ่มใหม่
และแน่นอนคุณต้องหิวและอาจเกิดโทสะซึ่งอาจมีกับตัวเอง หรือผู้ที่ที่เกี่ยวข้อง..นั่นเป็นสิ่งที่ตามมา
ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ดีขึ้นในกรณีนี้คือต้องยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นมา
ถ้าเราเป็นฝ่ายผิดก็ต้องยอมรับและขออภัยผู้ที่เกี่ยวข้อง
ถ้าคนอื่นเป็นฝายผิด(ไม่ใช่เป็นการโยนความผิด) ก็ต้องให้อภัยก่อนถ้าทำได้
และชี้ทางที่ถูกต้องให้ด้วยความเมตตา....
แน่นอนเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา.....แล้วแต่เหตุปัจจัย
แล้วในที่สุดคุณก็จะเข้าใจ มีสติทำในสี่งที่ควรจะเป็น
ด้วยความไม่ประมาท

ธรรมสวัสดีนะครับ ยิ้มเห็นฟัน