พุทธศาสนากำลังเสื่อมสูญจากเกาหลีใต้

ตอบเมื่อ: 23 ส.ค. 2007, 7:07 pm

พุทธศาสนาในเกาหลีใต้
โดย ดร.นิติภูมิ นวรัตน์

เดิมสาธารณรัฐเกาหลี หรือเกาหลีใต้ เป็นประเทศที่ผู้คนชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ แต่ระยะหลัง ผู้คนเกาหลีใต้ส่วนใหญ่กลับหันไปยอมรับนับถือศาสนาคริสต์ นิกายโปรเตสแตนต์ ความนิยมเข้ารีตนับถือศาสนาคริสต์ในเกาหลีใต้นั้นรุนแรง และเป็นไปอย่างรวดเร็วแทบไม่น่าเชื่อ

เมื่อก่อนตอนที่นิติภูมิไปเยือนเกาหลีใต้เมื่อเกือบสิบปีที่แล้ว ยังได้รับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีใต้ ที่ถูกส่งมาดูแลเลยว่า ถ้าคุณจะกล่าวคำปราศรัยสั้นๆ แสดงความขอบคุณอะไรยังไงก็แล้วแต่ ควรจะเริ่มด้วย “ท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี” เมื่อคุณเดินเข้าประตู ผู้ชายต้องเป็นฝ่ายเดินเข้าไปก่อน ต้องเดินนำหน้าดิฉันที่เป็นผู้หญิงเสมอ ส่วนผู้หญิงอย่างดิฉันก็มีหน้าที่ช่วยผู้ชายถือเสื้อโค้ท ที่เป็นเช่นนี้ เพราะสังคมของเรา ถือว่าผู้ชายเป็นเพศที่มาก่อน

พ.ศ.2548 ผมไปเกาหลีใต้อีกครั้ง สังคมที่นั่นเปลี่ยนไปในแบบตะวันตกแล้วครับ ประเภทเห็นผู้หญิงถือเสื้อโค้ทให้ผู้ชายนั้นหายากมาก ที่เปลี่ยนไปอย่างนี้เพราะวัฒนธรรมเกาหลีใต้ไล่ตามวัฒนธรรมฝรั่งที่นับถือศาสนาคริสต์ ยังจำได้ว่า ก่อนนี้ในเดือนกุมภาพันธ์หรือมีนาคม คนเกาหลีใต้ยังฉลองวันตรุษจีน พอถึงเดือนพฤษภาคม ก็มีงานการฉลองวันวิสาขบูชากันแทบทั้งประเทศ

แต่ปัจจุบันทุกวันนี้ไม่ใช่แล้วครับ ภายในเวลาเพียง 10 ปี คน เกาหลีใต้เปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมของประเทศที่เกี่ยวดองหนองยุ่งกับศาสนาอย่างมโหฬาร วันหยุดและเทศกาลต่างๆ ที่สำคัญกลับเป็นเทศกาล อีสเตอร์ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างใจจดใจจ่อคอยเทศกาลนี้ในเดือนมีนาคม หรือเดือนเมษายน พอถึงเดือนกันยายนหรือเดือนตุลาคมของทุกปี ก็จะมีวันจูซก ซึ่งเป็นวันขอบคุณพระเจ้าของชาวเกาหลี วันสำคัญอีกวันหนึ่งในปัจจุบันก็คือ วันคริสต์มาสในเดือนธันวาคมผู้อ่านท่านสังเกตไหมครับว่า วันสำคัญและเทศกาลของเกาหลีใต้เริ่มเป็นวันเดียว กับวันสำคัญของทางศาสนาคริสต์

ผมเคยเจอมิชชันนารีชาวเกาหลีใต้กลุ่มใหญ่ในราชอาณาจักรฮัชไมต์จอร์แดน สาธารณรัฐคีร์กีซ สาธารณรัฐอรับซีเรีย และมองโกเลีย แม้แต่ในสาธารณรัฐอิรัก ก็ยังมีมิชชันนารีชาวเกาหลีใต้เคยเข้าไป เผยแผ่ศาสนาคริสต์ นิกายโปรเตสแตนต์ ซึ่งดินแดนเหล่านี้ แม้แต่นักท่องเที่ยวธรรมดาก็ยังอันตรายนัก ยิ่งเป็นมิชชันนารีที่จะเข้าไปเปลี่ยนศาสนาผู้คน ก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงเข้าไปอีกมากมายหลายเท่า

พฤหัสบดีวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 คณะฎอลีบันของอัฟกานิสถานจับชาวเกาหลีใต้ไปเป็นตัวประกัน 23 คน แยกขังเอาไว้ใน 3 จังหวัด พอถึงพุธวันที่ 25 กรกฎาคม ก็มีคนพบศพตัวประกันคนแรกที่มีชื่อว่านายแบ ฮุง คิว ท่านผู้นี้ เป็นนักเทศน์แกนนำกลุ่มชาวคริสต์เกาหลีใต้ ศพนักเทศน์ชาวคริสต์ผู้นี้มีรอยกระสุนมากกว่า 10 นัด
ถามว่า นักเทศน์คริสเตียนชาวเกาหลีใต้ทราบหรือไม่ ว่าอันตรายในดินแดนที่พวกตนจะไปปฏิบัติงานให ้พระเจ้าเพื่อเปลี่ยนศาสนาจากอิสลามมาเป็นคริสเตียนนั้น เต็มไปด้วยอันตรายและความทารุณโหดร้าย

ต้องขอตอบว่า ทราบครับ เพราะก่อนที่จะเดินทางไปอัฟกานิสถาน นายแบ ฮุง คิว ผู้นี้ไปที่โรงพยาบาลในเกาหลีใต้ ไปสนทนา กับนายปาร์ค ซัง อุน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลว่า ท่านจะอุทิศร่างกายให้กับโรงพยาบาลหากถูกฆ่าตายในอัฟกานิสถาน

คนไทยที่ทำงานในโรงงานของเกาหลีใต้ในประเทศไทย มีจำนวน ไม่น้อยที่เปลี่ยนศาสนาจากพุทธไปเป็นคริสต์ตามนายจ้างไปด้วย

เหตุผลที่ทำให้คนงานไทยเหล่านั้นเปลี่ยนศาสนา
พรุ่งนี้นิติภูมิขออนุญาตกลับมารับใช้ท่านทั้งหลายกันต่อครับ.

เมื่อวานผมทิ้งท้ายไว้ว่า อะไรทำให้คนไทยส่วนหนึ่งเปลี่ยนไปนับถือศาสนาคริสต์ตามแบบคนเกาหลีใต้ ลองดูตัวอย่างจากท่านที่ผมรู้จักก็ได้ คุณชิน หรือนายอิสระพงษ์ ศรีวะกุล หนุ่มไทยพุทธผู้ได้ งานทำที่โรงงานไม้ยางพาราของชาวเกาหลีใต้ในจังหวัดระยอง เจ้าของโรงงานให้พนักงานทุกคนเข้าโบสถ์ทุกเช้าวันจันทร์ 2 ชั่วโมง โดยคิดราคาค่าจ้างให้ด้วย

ถ้าใครไม่เข้าก็ไม่ได้เงิน พนักงานจึงจำเป็นต้องเข้าโบสถ์ เข้าโบสถ์บ่อยๆ ความศรัทธาก็บังเกิด คนงานรับศาสนาคริสต์กันเกือบทั้งหมด รวมทั้งคุณชิน อิสระพงษ์ด้วย

คุณชินยอมรับนับถือศาสนาคริสต์แล้วก็เรียนภาษาเกาหลี ภายหลังโชคดี สอบได้สัญชาติเกาหลีใต้ ได้สัญชาติเกาหลีใต้ก็ต้องทิ้งสัญชาติไทย จากนั้นชีวิตก็ก้าวหน้าหันมาประกอบอาชีพเป็นมัคคุเทศก ์โดยไม่ต้องเป็นคนงานทำงานในโรงงานอีกแล้ว

ผมนำเอาเรื่องของคุณชิน อิสระพงษ์ ศรีวะกุล มาเล่าในเปิดฟ้าส่องโลกเป็นครั้งที่สอง เพราะต้องการให้ผู้อ่านท่านที่เคารพชาวไทย ได้ทราบถึงความจริงจังในการยอมรับนับถือและ การเผยแผ่ศาสนาคริสต์ของชาวเกาหลีใต้

เมื่อเปลี่ยนจากพุทธไปนับถือคริสต์แล้ว ชาวคริสต์เกาหลีใต้ไม่น้อยก็ออกตระเวนเผยแผ่คำสอนของศาสนาคริสต์ไปในดินแดนต่างๆ โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง ดินแดนของมุสลิมในตะวันออกกลางและเอเชียกลาง ระยะหลังๆ เราจึงถึงมักได้ยินข่าวที่มีการทำร้ายนักเทศน์ชาวเกาหลีใต้ ในดินแดนพวกนี้อยู่บ่อยๆ ล่าสุดก็คือ การจับตัวประกันชาวเกาหลีใต้ไป 23 คน และฆ่าทิ้งไปแล้ว 2 คน โดยคณะฏอลีบันในอัฟกานิสถาน

คนเกาหลีใต้ทำงานกันจริงจังมาก แม้แต่เรียนก็เรียนหนัก ผมเคย สนทนากับรัฐมนตรีศึกษาธิการของเกาหลีใต้จึงได้ข้อมูลว่า นักเรียนเกาหลี ตั้งแต่ชั้นประถมจนถึงชั้นมัธยมปลายต้องไปโรงเรียนอย่างน้อยปีละ 220 วัน
เด็ก ป.1 ต้องเรียน 782 ชั่วโมงต่อปี ป.6 เรียน 1,088 ชั่วโมง ม.3 เรียน 1,224 ชั่วโมง เพราะต้องการมาตรฐานของคนที่จบมัธยมสูงมาก รัฐบาลจึงกำหนดให้มีวิชาที่สอนเหมือนกันหมดทั้งประเทศ ครูต้องสอนตามมาตรฐานของชาติที่กำหนดไว้เท่านั้นนอกจากที่โรงเรียนแล้ว เด็กเกาหลีใต้ยังต้องไปฮักวอนเพื่อเรียนพิเศษ จะกลับถึงบ้านกันก็โน่น อย่างน้อยสองทุ่ม ทานอาหารเย็นเสร็จแล้ว ก็ต้องทำการบ้าน แต่ถ้าเป็นนักเรียนเรียนดี และมีแนวโน้มว่าจะสอบเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยดังได้ หลังหนึ่งทุ่มไปแล้ว พวกนี้ต้องไปกวดวิชาอีก 5 ชั่วโมง และยังต้องไปเรียนในวันเสาร์ด้วย

ละครโทรทัศน์นํ้าเน่าปั่นสังคมไทยให้มีความเชื่อว่า ถ้าต้องการการเคลื่อนย้ายทางสังคม หมายความว่าต้องการไต่ไปอยู่ลำดับชั้นทางสังคมที่สูงขึ้น เด็กผู้หญิงไทยอาจจะต้องไต่ไปได้ด้วยการหาผู้ชายรวยๆ มีสถานะทางสังคมสูงๆ แต่การเคลื่อนย้ายทางสังคมของเกาหลีใต้ขึ้นอยู่กับความรู้ และความเชื่อในคุณค่าของการศึกษา

เกาหลีใต้เจริญรุดหน้ามาเป็นเบอร์ต้นของโลกได้ ก็เพราะศักดิ์ศรีทางสังคมที่พ่อแม่ได้จากการที่มีลูกมีการศึกษาดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าลูกชายประสบความสำเร็จทางการศึกษา ผู้เป็นพ่อก็จะได้รับการยกย่อง จากสมาชิกอื่นในตระกูลเชื้อสายเดียวกัน ปัจจุบันทุกวันนี้ เยาวชนคนไทยวัยรุ่นกำลังเห่อภาพยนตร์เกาหลีใต้ บางคนถึงขนาดเปลี่ยนบุคลิกของตัวเองให้เป็นวัยรุ่นเกาหลี

โชคไม่ดีที่เด็กไทยของเราบางส่วนเปลี่ยนเพียงรูปกายภายนอก แต่ไม่ได้เปลี่ยนความขยันอดทน หรือเปลี่ยนความใฝ่รู้ทางการศึกษาไปเป็นแบบเกาหลีใต้ด้วยครับ.

http://www.mediathai.net/module/newsdesk/newsdesk_subcat.php?board_id=18771

ตอบเมื่อ: 30 ส.ค. 2007, 2:28 pm

เกาหลีผ่านช่วงที่ศาสนาพุทธถูกย่ำยีมาตั้งแต่ช่วงก่อนสงครามเกาหลี เช่นเดียวกับลาวและเวียดนาม ไทยเองก็รอดพ้นเหตุการณ์แนวนี้มาได้หลายครั้ง เพราะพระปรีชาสามารถของพระมหากษัตริย์ไทย เดี๋ยวนี้เขาไม่ใช้วิธีรุนแรงเหมือนในอดีตแล้วครับ เขาใช้พวกชนชั้นสูงและนายทุนที่เข้ารีต ค่อยๆ เป็นตัวกำหนดการเปลี่ยนแปลงทางสังคมไปทีละน้อย ค่อยๆ กร่อนไปเรื่อยๆ คนที่เบาปัญญาก็เข้าทางเขาหมด

คิดแล้วเหนื่อย (เอ.. จะโดนลบโพสไหมเนี่ย สงสัย

ตอบเมื่อ: 03 ก.ย. 2007, 6:54 pm

ลองเข้าไปดู่ที่ : http://www.chick.com/reading/tracts/0390/0390_01.asp

...เรื่องสวรรค์ มีสอนในทุกศาสนา แต่กระบวนการเข้าถึงในคัมภีร์ไหนมีรายละเอียดและขั้นตอนเป็นไปได้จริงกว่ากันละครับ
มิใช่เพียงแค่เชื่อส่ง ๆ ไป ต้องมีกระบวนการเข้าถึงที่เป็นไปได้ด้วยนะครับ

..อีกอย่าง ในคัมภีร์ไหน กล่าวถึงรายละเอียดของสภาพความเป็นอยู่ในสวรรค์ ได้ละเอียดถี่ถ้วนที่สุด
พระพุทธเจ้าตรัสบอกถึง สวรรค์ว่ามีอยู่ถึง ๖6 ชั้น และสูงกว่านั้น มีพรหม อีก 20 ชั้น แต่ละชั้นมีสภาพความเป็นอยู่ที่แต่ต่างกัน ดูได้ใน คัมภีร์วิมานวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ 26

..จะมีศาสนาไหนไหมครับที่รู้จริงได้ละเอียดถี่ถ้วนได้ถึงขนานนี้ นอกจากพุทธศาสนา