ก้อนดิน
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 07 ก.ค. 2004
ตอบ: 623
|
ตอบเมื่อ:
24 ก.ค.2007, 5:34 pm |
  |
ชม...วัดเฉลิมพระเกียรติสมเด็จย่าฯ ที่เมืองนาฬิกา
เห็นภาพวัดไทยที่มีหิมะขาวโพลนปกคลุม แน่นอนว่าเป็นวัดไทยในต่างแดน และวัดที่นำมาให้ชมนี้อยู่ที่ “เมืองนาฬิกา” หรือประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นั่นเอง เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า สมเด็จย่าทรงผูกพันกับสวิตเซอร์แลนด์ โดยเฉพาะเมืองโลซาน ซึ่งเป็นพระราชฐานอีกแห่งหนึ่งของพระองค์ท่าน
ดังนั้น เมื่อ “สมาคมวัดไทย” ซึ่งก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.2527 โดยกงสุลไทยกิตติมศักดิ์ “นายเฮนรี่ สไตเนอร์” เป็นประธานสมาคมท่านแรก เพื่อเป็นศูนย์ประสานงานด้านศาสนาของคนไทยในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยนิมนต์พระสงฆ์จากประเทศไทย มาปฏิบัติศาสนกิจเป็นครั้งคราว เริ่มแรกนั้นที่พำนักเป็นเพียงบ้านพักหลังหนึ่งที่สมมติให้เป็นสำนักสงฆ์ชั่วคราว เพื่อให้ปฏิบัติศาสนกิจได้
สำนักสงฆ์ชั่วคราวนี้ได้รับการสนับสนุนอย่างดี และเป็นที่สนใจของชาวไทย ชาวลาว กัมพูชา และประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ ในแถบเอเชีย รวมทั้งชาวสวิสเจ้าของบ้าน นอกจากนั้นก็ยังมีชาวยุโรปจากประเทศอื่นๆ ด้วย กระทั่งย่างเข้าปีที่ 3 ทั้งชาวต่างชาติและชาวไทย ที่ให้ความสนใจในพุทธศาสนาได้รวมตัวกันเพื่อสนับสนุนการสร้างวัดไทย
ด้วยเหตุนี้ สมาคมวัดไทยจึงได้ดำริที่จะจัดสร้างวัดไทยขึ้น โดยเบื้องต้นได้หารือกับ สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ซึ่งสมาคมฯ ได้นิมนต์ท่านให้ไปเยือนสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อวางแผนการสร้างวัดร่วมกัน และในการนี้คณะสงฆ์ที่ไปเยือน พร้อมด้วยกรรมการสมาคม ได้เข้าเฝ้า สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงสงขลานครินทร์ ณ พระตำหนักวิลล่าวัฒนา สวิตเซอร์แลนด์ และกราบทูลเรื่องการสร้างวัดให้ทรงทราบ ซึ่งทั้งสองพระองค์ให้ความสนพระทัยมาก และทรงอวยพรให้โครงการนี้สำเร็จตามความประสงค์
สมาคมวัดไทยจึงได้ดำเนินการก่อตั้งวัดกันอย่างจริงจังเมื่อปี พ.ศ.2531 ต่อมาปี พ.ศ.2533 สมเด็จย่าเสด็จไปทรงพักผ่อนที่สวิตเซอร์แลนด์ และได้พระราชทานพระราชทรัพย์เพื่อก่อสร้างและอุปถัมภ์บำรุงวัดไทย เป็นจำนวน 236,964 สวิสฟรังค์ (ราว 7 ล้านบาท)
โดยได้ทรงแบ่งพระราชทรัพย์ออกเป็น 3 ส่วน คือ เป็นทุนในการก่อสร้างวัดไทย จำนวน 100,000 สวิสฟรังค์, ใช้ตั้งเป็นมูลนิธิเพื่อนำดอกผลมาใช้บำรุงวัดไทย จำนวน 90,000 สวิสฟรังค์ และเป็นค่าใช้จ่ายทั่วไปในกิจการของวัดไทยตามความเหมาะสม จำนวน 46,964 สวิสฟรังค์ จากนั้นในปี พ.ศ.2535 พระองค์ก็ได้ทรงพระราชทานพระราชทรัพย์อีกจำนวน 70,000 สวิสฟรังค์ ปี พ.ศ.2536 ทั้งสองพระองค์ทรงบริจาคเพิ่มเติมอีก 200,000 สวิสฟรังค์ และในปี 2538 (ก่อนที่จะเสด็จสวรรคตเพียง 1 เดือน) อีก 500,000 สวิสฟรังค์
วัดไทยแห่งนี้ได้รับพระราชทานนามว่า “วัดศรีนครินทรวราราม” เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ.2536 เป็นวัดเฉลิมพระเกียรติในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และเป็นวัดในสาขาวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ได้เสด็จพระดำเนินทรงเปิดวัดอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ.2539 และได้เสด็จพระดำเนินทรงเป็นองค์ประธานในพิธียกช่อฟ้า ผูกพัทธสีมา ฉลองอุโบสถ เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ.2546
ภายในพื้นที่ 2 ไร่เศษของวัด ประกอบด้วยพระอุโบสถ กุฏิสงฆ์ 2 ชั้นครึ่ง ห้องประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ศาลาเอนกประสงค์ ห้องสมุด ห้องครัว และโรงฉัน เป็นต้น
วัดนี้เป็นที่พึ่งทางใจของชาวไทยและต่างประเทศ และเป็นศูนย์เผยแผ่และศึกษาพระพุทธศาสนา ทั้งในด้านปริยัติและปฏิบัติ รวมทั้ง เป็นแหล่งเรียนรู้ทั้งทางด้านศิลปวัฒนธรรม ประเพณีไทยด้วย ปัจจุบันมีพระเทพกิตติโมลี (ทองสูรย์ สุริยโชโต) เป็นเจ้าอาวาส
วัดศรีนครินทรวราราม ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านเกรทเซ่นบาค เมืองโซโลธูร์น ซึ่งอยู่ใจกลางสวิตเซอร์แลนด์ตอนเหนือ ห่างจากเมืองซูริค ประมาณ 50 กม. และห่างจากกรุงเบิร์น ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศเพียง 70 กม. เดินทางสะดวกทั้งทางรถไฟและรถยนต์
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 30 กันยายน 2548 17:46 น. |
|
|
|