ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
กุศลิน
บัวผลิหน่อ

เข้าร่วม: 30 ก.ค. 2007
ตอบ: 3
|
ตอบเมื่อ:
30 ก.ค.2007, 11:51 am |
  |
ทุกข์ใจค่ะ ไม่รู้จะทำวิธีไหนแล้ว พ่อกินเหล้าแล้วนิสัยเปลี่ยนค่ะ สมัยหนุ่มเมาแล้วชอบทำลายข้าวของ แต่ตอนนี้ เค้าจะไม่ทำลายข้าวของ แต่จะด่าแทน พอเราตอบโต้เค้าก็ด่า พอเราเรานิ่งเค้าก็ยิ่งด่าใหญ่ หาว่าเราหยิ่งยโส บางครั้งเราก็นึกว่าพ่อในใจ รู้ตัวเลยว่าทำกรรมอีกแล้ว คิดอยู่ว่าเราทำเวรทำกรรมกับเค้ามามากแน่ๆ เลย จะ 30 ปีแล้ว ตั้งแต่เกิดมาที่ต้องทุกข์เมื่อพ่อกินเหล้า ตอนนี้คนที่รับเต็มๆ คือน้องค่ะ น้องก็เพิ่งจะคลอดลูก ไม่อยากเห็นหลานมาเจอสภาพเดียวกับเราเลยค่ะ พยายามสวดมนต์อยู่ค่ะ หวังว่าสักวันผลบุญจะทำให้พ่อเลิกกินเหล้าได้ แต่ใครพอจะมีวิธีไหนบ้าง หรือบทสวดมนต์เฉพาะ บางครั้งก็คิดอยากจะบวชชีพราหมณ์สัก 1 อาทิตย์ ตั้งใจปฏิบัติอย่างเต็มที่ คิดว่าจะทำให้พ่อน่ะค่ะ ใครพอมีวิธีอื่นบ้างไหมค่ะ อยากจะหลุดพ้นจากเรื่องนี้มากๆ ขอบคุณมากค่ะ |
|
|
|
  |
 |
กรัชกาย
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348
|
ตอบเมื่อ:
30 ก.ค.2007, 12:34 pm |
  |
พาพ่อไป รพ. ปรึกษาแพทย์ หมอท่านมีวิธีรักษาเบื้องต้นอาจกินยาช่วย ไม่รู้รายละเอียดนัก
แต่มีคนเคยไปอดมาแล้วได้ผลเลิกได้
แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น พ่อเราจะต้องเต็มใจอดด้วย
ถ้าพ่อให้ความร่วมมือก็ง่าย
หากไม่ให้ความร่วมมือ คือตนไม่ต้องการเลิกเหล้าก็จนปัญญาครับ
ลูกๆ หลานๆ จะต้องทนต่อสภาพดังกล่าวนั้นไปจนตายกันไปข้างหนึ่ง
ที่คุณจะทำเหตุคือไปบวช...ด้วยหวังจะให้ผลบุญช่วยให้พ่อเลิกเหล้า เหตุกับผลไม่ตรงกันครับ
คุณเป็นคนบวชผลดีตกอยู่กับจิตใจคุณเอง
คนดื่มเหล้าคือพ่อเรา ต้องแก้ที่นั่นที่จิตใจพ่อเอง
ตัวเขาเองต้องรู้ว่าการดื่มหล้าไม่ดีทำลายสุขภาพเป็นต้น เห็นโทษเห็นภัยอย่างนี้จึงจะอดได้ |
|
_________________ สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา |
|
  |
 |
กุศลิน
บัวผลิหน่อ

เข้าร่วม: 30 ก.ค. 2007
ตอบ: 3
|
ตอบเมื่อ:
30 ก.ค.2007, 7:18 pm |
  |
|
  |
 |
ผู้เยี่ยมชม.
บัวพ้นดิน

เข้าร่วม: 22 พ.ค. 2007
ตอบ: 95
|
ตอบเมื่อ:
31 ก.ค.2007, 2:15 am |
  |
เป็นเรื่องยากมากครับ บางคนถึงกับยอมกินจนตับแข็งตายก็มี น่าแปลกมาก
ถ้าเจ้าตัวไม่เอ่ยปากที่จะหยุดกินเอง ก็คงเป็นเรื่องยากที่จะเข้าไปเปลี่ยนพฤติกรรมการกินของเขาครับ
ถ้าจำไม่ผิดนะครับ ลักษณะของผู้เสพสุราแบบติดงอมขั้นรุนแรง ชนิดที่ว่ายอมขายทุกสิ่งเพื่อแลกมาซึ่งเหล้า ไม่มีเหตุผลที่ดีสำหรับการดื่ม เรียกได้ว่าเป็นผู้มีความกำหนัดหนัก เป็นลักษณะของผู้ที่กำหนดจิตของตนเองให้ไปเกิดในภพของเดรัจฉาน ครับ
 |
|
|
|
  |
 |
ผู้เยี่ยมชม.
บัวพ้นดิน

เข้าร่วม: 22 พ.ค. 2007
ตอบ: 95
|
ตอบเมื่อ:
31 ก.ค.2007, 2:47 am |
  |
ขออภัยครับ ควรเรียกว่า " ภูมิ " ของเดรัจฉาน จะถูกต้องกว่าใช้คำว่า " ภพ "
" ลักษณะของผู้เสพสุราแบบติดงอมขั้นรุนแรง ชนิดที่ว่ายอมขายทุกสิ่งเพื่อแลกมาซึ่งเหล้า ไม่มีเหตุผลที่ดีสำหรับการดื่ม "
ตรงนี้อย่าเอา ขี้เมา ไปรวมกับ เซียน นะครับ เพราะพฤติกรรมการกระทำ รวมไปถึงความคิดอ่าน แตกต่างกันราวฟ้ากับดินเลยทีเดียว |
|
|
|
  |
 |
PITI
บัวผลิหน่อ

เข้าร่วม: 26 มิ.ย. 2007
ตอบ: 2
|
ตอบเมื่อ:
31 ก.ค.2007, 3:01 pm |
  |
แล้วคุณพ่อตอนไม่เมาเป็นอย่างไรบ้างครับ อาจลองปรึกษาท่านตอนที่ท่านไม่เมา แต่อย่าคุยด้วยอารมณ์นะครับ เอาเมตตาเข้าไปใช้เยอะๆ ครับ ให้ทหาทางออกด้วยกันครับ อ้อก่อนไปปรึกษาท่านให้สวดมนต์แผ่เมตตาให้ท่านก่อนด้วยครับ |
|
|
|
  |
 |
ผู้เยี่ยมชม.
บัวพ้นดิน

เข้าร่วม: 22 พ.ค. 2007
ตอบ: 95
|
ตอบเมื่อ:
31 ก.ค.2007, 11:09 pm |
  |
ถ้าเจอประเภท ติดเหล้าหนัก นี่แก้ยากมากครับ เพราะพ่อของผม เมื่อก่อนท่านติดเหล้าหนักมาก อาการเดียวกันเลยครับคือ พอเมาเหล้าแล้วก็ทะเลาะวิวาทกับแม่ประจำ ใครห้ามก็ไม่ฟัง ข้าวของบางอย่างพังเสียหาย บางครั้งทำให้แม่ของผมถึงกับเสียงานไปเลยก็มี แต่ปัจจุบันดูท่านจะเพลาสุราลงไปบ้างแล้วครับ ไม่กินมากเมามายเหมือนแต่ก่อน
ผมถึงได้บอกว่า ถ้าเจ้าตัวไม่ออกปากที่จะเลิกเหล้าเองแล้ว เป็นเรื่องยากที่จะทำให้เขาเลิก หรือ ลด เองได้
แต่บางคนพอได้เห็นภาพสยอง ๆ ของสภาพคนที่ติดเหล้าอาการเจียนตาย นอนซมรอวันขาดใจอยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว ก็เป็นอันเกิดแรงบันดาลใจที่จะ ลด หรือ เลิก เหล้าเองได้ครับ
ดังนั้น สื่อบางอย่าง ที่หาได้จากภายนอกก็มีส่วนในการทำให้ผู้ที่มีอาการติดเหล้า รู้สึกอยากเลิกดื่มเหล้า ได้เหมือนกัน
ท่านใดมีความสนใจต้องการเลิกเหล้าเอง ขอแนะนำให้หมั่นฝึก อสุภะกรรมฐานทั้ง 10 รูปแบบ ดูครับ เชื่อว่าความกำหนัดที่มีอยู่ จะลดลงได้แน่นอน ( หรือไม่ก็ลองนั่งก๊งเหล้าหน้าอสุภะวิปุพกะดู แต่สมัยปัจจุบันนี้คงหาดูได้ยากครับ )
 |
|
|
|
  |
 |
satiima
บัวผลิหน่อ

เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2007
ตอบ: 2
|
ตอบเมื่อ:
01 ส.ค. 2007, 2:49 pm |
  |
วิกฤติคือโอกาสทอง
โดย พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก
ณ กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีชาวนาคนหนึ่ง
เลี้ยงลาไว้ตัวหนึ่งซึ่งแก่มากแล้ว
ด้วยความโง่ของมันดันเดินซุ่มซ่าม
ไปตกบ่แห่งหนึ่ง มันร้องครวญคราง
อยู่เป็นเวลานาน ชาวนาเอง
ก็พยายามใคร่ครวญ
หาวิธีที่จะช่วยมันขึ้นมา
ในที่สุดชาวนาหวนคิดขึ้นมาได้ว่า
เจ้าลาก็แก่เกินไปแล้ว อีกอย่าง
บ่อนี้ก็ต้องกลบไม่คุ้มที่จะช่วยเจ้าลา
ชาวนาจึงไปขอแรงชาวบ้าน
เพื่อมาช่วยกลบบ่อ ทุกคนใช้พลั่ว
ตักดินสาดลงไปในบ่อ ครั้งแรก
เมื่อดินถูกหลังลา มันตกใจ
และรู้ชะตากรรมของตนเองทันที
มันร้องโหยหวน สักพักหนึ่ง
ทุกคนก็แปลกใจที่เจ้าลาเงียบไป
หลังจากชาวนาตักดินใส่บ่อได้สักสองสาม
พลั่ว เมื่อเหลือบมองลงไปในบ่อ ก็พบกับ
ความประหลาดใจที่ลามันจะสะบัดดินออกจาก
หลังทุกครั้งที่มีผู้สาดดินลงไป แล้วก้าวขึ้นไป
เหยียบบนดินเหล่านั้น
ยิ่งทุกคน พยายามเร่งระดม
สาดดินลงไปมากเท่าไร
มันก็ก้าวขึ้นมาเร็วได้มากยิ่งขึ้น
ในไม่ช้าทุกคนต่างประหลาดใจในที่สุด
เจ้าลาสามารถหลุดพ้นจากปากบ่อดังกล่าวได้
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
ชีวิตนี้อุปสรรคต่างๆ ที่ถาโถม
เข้ามาหาเราก็เปรียบเหมือน
ดินที่สาดเข้ามาหาเรา จงอย่า
ท้อถอยและยอมแพ้ จงแก้ไขมัน
เพื่อที่จะก้าวสูงขึ้นเรื่อยๆ
เปรียบเหมือนลาแก่ที่หลุดพ้น
จากบ่อได้ ฉันใดฉันนั้น
อุปสรรคมีไว้ให้ก้าวข้ามไป
ชีวิตคนเราก็เช่นกัน
เราก็ต้องประสบกับโลกธรรมแปดเป็นธรรมดา
คือ ได้ลาภ ได้ยศ สรรเสริญ สุข
ก็ต้องมีเสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทา ทุกข์
แต่เมื่อเรามีทุกข์ มีปัญหา
หรือต้องประสบกับวิกฤติหนักหนาสาหัสแค่ไหน
ก็ให้อาศัยขันติ มีความอดทน
เมื่อมีความทุกข์ หยุดทำ หยุดพูด หยุดคิด
ตั้งสติใช้ปัญญา อาศัยอดทน อดกลั้น
หยุดทุกสิ่งทุกอย่างไว้ก่อน
ไม่ต้องคิดที่จะแก้ปัญหาภายนอก
กำหนดรู้ลมหายใจออกยาวๆ ลมหายใจเข้าลึกๆ
ให้มีสติ มีความรู้สึกตัวกับลมหายใจเข้า ลมหายใจออก
ติดต่อกัน ต่อเนื่องกัน มีสมาธิตั้งมั่นกับลมหายใจ
ปล่อยวางความรู้สึกที่ไม่ดี ปล่อยวางจิตใจให้ว่างๆ
ว่างจากอดีต ว่างจากอนาคต ว่างจากความไม่สบายใจ
เหลือแต่จิตที่มีแต่ความรู้สึกตัว เบิกบานใจ
โอปนยิโก น้อมเข้าไปหาธรรมชาติของจิตที่เป็นประภัสสร
บริสุทธิ์ผ่องใส เมื่อจิตสงบสบายแล้ว
จึงค่อยๆ คิดแก้ปัญหาด้วยสติปัญญา เมื่อจิตใจดี
สบายใจทุกอย่างแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะค่อยๆ ดีขึ้น
ให้มีความหวัง กำลังใจที่จะต่อสู้
ทุกข์ที่สุดอยู่ที่ไหน
ขุมทรัพย์ก็มีอยู่ที่นั่น
ทุกข์ที่สุดอยู่ที่ไหน
สุขที่สุดมันก็อยู่ที่นั่น
นี่เป็นความจริง
ไม่ว่าจะมีวิกฤติ
หรือเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นกับเรา
สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตคือรักษาใจของเราให้ดี
ให้มีเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
เป็นคุณธรรมประจำใจของเรา
ตั้งใจทำความดี
รักษาคุณงามความดี ความถูกต้อง
ด้วยจิตใจที่หนักแน่น
ไม่หวั่นไหวในทุกสถานการณ์
ให้ชีวิตทั้งหมดอยู่ด้วยอานาปานสติ
คือทำหน้าที่ปัจจุบันให้ดีที่สุด
ด้วยใจดี สุขใจ
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=11704 |
|
|
|
  |
 |
Story Note
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 23 ก.ค. 2007
ตอบ: 97
|
ตอบเมื่อ:
01 ส.ค. 2007, 5:50 pm |
  |
O^_^O
คุณ Satima.. กล่าวได้ดีจังค่ะ
ทำให้มองเห็น สิ่งที่เกิดขึ้นได้ชัดเจน แจ่มใส...
ตั้งใจทำความดี
รักษาคุณงามความดี ความถูกต้อง
ด้วยจิตใจที่หนักแน่น
ไม่หวั่นไหวในทุกสถานการณ์
ให้ชีวิตทั้งหมดอยู่ด้วยอานาปานสติ
คือทำหน้าที่ปัจจุบันให้ดีที่สุด
ด้วยใจดี สุขใจ
 |
|
|
|
  |
 |
RARM
บัวบาน

เข้าร่วม: 28 ก.ค. 2007
ตอบ: 417
|
ตอบเมื่อ:
03 ส.ค. 2007, 9:01 pm |
  |
ตอบคำถาม
คุณทดลองสวดมนต์และแผ่แมตตาให้คุณพ่อคุณสิครับไม่มีอะไรชนะทุกสิ่งได้ด้วยธรรมนะครับ |
|
|
|
  |
 |
เสกสรรค์
บัวใต้ดิน

เข้าร่วม: 02 ส.ค. 2007
ตอบ: 22
ที่อยู่ (จังหวัด): นครพนม
|
ตอบเมื่อ:
03 ส.ค. 2007, 9:16 pm |
  |
สวดบทถวายพาหุง/ถวายพรพระ/มหาการุณิโกนาโถ/และสวดเฉพาะพุทธคุณเกินอายุ 1 จบ
และตามด้วยบทมหาเมตตา เพื่อแผ่เมตตาให้เขา กระแสจิตเขาจะสัมผัสได้ ในภพชาติก่อนๆ อาจจะเคยติดหนี้กันมาถึงต้องชดใช้ หากไม่พยาบาทนัก ก็จะหายไปเอง ลองทำดูสัก 1 เดือนหน้าจะเห็นผล |
|
|
|
  |
 |
กุศลิน
บัวผลิหน่อ

เข้าร่วม: 30 ก.ค. 2007
ตอบ: 3
|
ตอบเมื่อ:
05 ส.ค. 2007, 1:49 am |
  |
ขอบคุณสำหรับทุกคำตอบนะคะ มีกำลังใจขึ้นมาก ได้อ่านแล้วก็ชื้นใจขึ้นค่ะ มีคนประสบปัญหาแบบเดียวกันมาเล่าสู่กันฟังก็คิดว่าจะต้องมีกำลังใจในการต่อสู้กับปัญหานี้ต่อไป คงไม่มีสิ่งใดที่ดีไปกว่าการเข้าหาธรรมะ และจะทำต่อไปค่ะ |
|
|
|
  |
 |
|