ตั้งแต่ผมศึกษาธรรมะ

ตอบเมื่อ: 26 ส.ค. 2007, 7:44 pm

ชีวิตของผมก็เหมือนอยู่ในละครครับวิทยาศาสตร์เท่านั้นที่ช่วยได้ครับผมคิดว่า
ผมควรจะหยุดศึกษาธรรมะครับจะตั้งใจเรียนหนังสือครับที่ผมศึกษาเพราะว่า
หลับ

ผมนั้นเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นสิ่งไหนที่เจอเรื่องไม่ดีผมก็นำมาคิดทำให้ผมเกิดความเครียดครับผมก็เลยศึกษาธรรมะแต่ก็ช่วยอะไรผมไม่ได้เลยครับยิ่งหนักลงอีกครับมีทางเดียวที่จะช่วยได้คือต้องเอาเกี่ยวกับจิตวิทยาหรือวิทยาศาสตร์เป็นหลักในการแก้ปัญหาชีวิตครับ

ตอบเมื่อ: 27 ส.ค. 2007, 8:11 am

ชีวิตก็อย่างนี้แหละครับ แบกทุกข์ไว้ทุกคนไป แบกมากก็ทุกข์มาก แบกน้อยก็ทุกข์น้อย ไม่แบก ก็ไม่ทุกข์ วางของหนักเสียก็ไม่ต้องแบกครับ เพราะยังไม่รู้จักวิธีดีพอจึงเครียดหนัก มีความคิดอันไหนบ้างไหมหนอที่อยู่กับเราตลอดเวลา หรือเที่ยงแท้แน่นอน ความคิดนั้นไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้เลย

ตอบเมื่อ: 27 ส.ค. 2007, 12:37 pm

อ้างอิงจาก:

เป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นสิ่งไหนที่ เจอเรื่องไม่ดีผมก็นำมาคิด ทำให้ผมเกิดความเครียด ผมก็เลยศึกษาธรรมะ แต่ก็ช่วยอะไรผมไม่ได้เลย

ก่อนจะพูดในแง่ลบกับสิ่งหนึ่ง
ควรจะเรียนรู้ให้เข้าใจถ่องแท้ซึ่งสิ่งนั้นเสียก่อน...

การศึกษาธรรมะมันช่วยอะไรคุณไม่ได้หรอครับ
ตราบใดที่คุณยังไม่นำธรรมะไปใช้
คุณ RARM กล่าวธรรมะไว้ดีแล้วชอบแล้ว

ถูกด้วยหลักของเหตุและผล เป็นวิทยาศาสตร์ พิสูจน์ได้ ทำได้เดี๋ยวนี้
คุณจะมีความสุขและธรรมะจะช่วยได้แน่
ถ้าคุณทำ!~

ตอบเมื่อ: 29 ส.ค. 2007, 10:20 am

อุคคติตัญญู วิปปัจจิตัญญู เนยยะ ปทปรมะ...
พระพุทธองค์ เปรียบการเรียนรู้ของบุคคลออกเป็นสี่แบบ เปรียบเทียบได้กับดอกบัวสี่เหล่า
บางคนรู้เร็ว บางคนรู้ช้า บางคนเรียนให้ตายก็ไม่มีวันได้รู้
วิทยาศาสตร์ก็ดี
จิตวิทยาก็ดี
ธรรมะก็ดี
วิชาไหนๆก็ดีทั้งนั้น ....... ถ้าศึกษาให้เข้าใจอย่างถ่องแท้น่ะนะ.

ตอบเมื่อ: 03 ก.ย. 2007, 10:50 pm

ข้าพเจ้าไม่แน่ใจว่า ท่านเข้าใจคำว่าวิทยาศาสตร์ดีแค่ไหน..........ข้าพเจ้าไม่ได้จงใจปรามาส........แต่ถามเพื่อความอยากรู้..........ข้าพเจ้าเองมีความศรัทธาในพระพุทธศาสนา เนื่องจากมีความเป้นวิทยาศาสตร์ที่สูง.........เป็นอกาลิโก(พิสูจน์ได้ไม่จำกัดกาล)
...........ในกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่ข้าพเจ้าได้เรียนมา.........ข้าพเจ้าคุ้นเคยกับการพิสูจน์และทดลอง .............รวมถึงการเลือกวิธีการ........เพื่อใช้พิสูจน์...........
.............เท่าทีพิจารณาจากประโยคที่เขียนขึ้นมาเข้าใจว่าท่านไม่ได้ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์เลย........พร้อมกันนั้นท่านยังได้อ้างถึงจิตวิทยา ........ท่านรู้หรือไม่ว่า.......ศาสนาพุทธสอนให้ดูจิตและกำจัดกิเลสที่ทำให้เกิดทุกข์..........เป็นจิตวิทยาที่สอนตั้งแต่วิธีปฎิบัติเกี่ยวกับจิตในสภาวะต่างๆ.........รวมถึงการทำให้จิตหลุดพ้น............ซึ่งวิชาจิตวิทยาเมื่อเทียบกับวิชาพุทธศาสตร์แล้วยังถือว่าห่างไกลกันมาก.........หากท่านต้องการพิสูจน์ไม่อยากเลย......เพียงแต่ต้องมีความตั้งใจจริง.............ที่อธิบายค่อนข้างยืดยาวเนื่องจากว่าไม่อยากให้ท่านพลาดโอกาสในการสร้างความดี.........ซึ่งอยากนักที่จะมีโอกาส
..........ตัวอย่างเช่นพระเจ้าอชาติศัตรูมีบารมีพอที่จะบรรลุโสดาบันได้จากการได้ฟังธรรมของพระพูทธเจ้าแต่เพราะมีมิจฉามิตร คือพระเทวทัตจึงทำให้พลาดธรรมพิสมัยไปแต่ได้อเวเจมหานรกแทน.......
...........สมัยนี้ไม่มีเทวทัตแต่มีมิจฉาทิฎฐิแทนแต่ผลก็ไม่แตกคือมีนรกเป็นที่ไป...........เพียงแต่เป้นโลกันตระนรก............ซึ่งมีเพียงความมืดและหนาวเย็น.................

ขอทุกท่านจงอย่าประมาท