Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 เที่ยวไปด้วยใจสบาย (ภาวัน) อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089

ตอบตอบเมื่อ: 15 มิ.ย.2007, 6:28 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

Image

พ่อแม่และลูกนัดกันว่าจะไปฉลองปีใหม่กันบนยอดภูหลวง
พอถึงวันเดินทางแม่ก็ตื่นแต่เช้ามืดรีบจัดสัมภาระ
และอุปกรณ์ต่างๆ ขึ้นรถ
หมายมั่นว่า จะออกเดินทางแต่เช้า เพื่อให้ถึงที่หมายก่อนค่ำ
ใจนั้นวาดหวังว่า จะได้พักผ่อนกับครอบครัวอย่างเต็มที่
ไม่มีงานการหรือใครมารบกวน
แถมยังจะได้ชื่นชมกับทัศนียภาพและกล้วยไม้นานาพันธุ์
โอกาสอย่างนี้นานๆ จะมีสักครั้ง

แต่ยังไม่ทันจะออกเดินทาง ก็มีเรื่องให้แม่ขุ่นมัวแต่เช้า
เพราะพ่อมัวแต่โอ้เอ้ เก็บข้าวของใส่กระเป๋าก็แสนช้า
แถมยังห่วงดูรายการข่าวยามเช้า
ส่วนลูกก็ตื่นสาย กว่าจะอาบน้ำ ถูฟัน
กินข้าวเสร็จ ตะวันก็ขึ้นโด่ง
สายป่านนี้แล้วก็ยังออกรถไม่ได้
แม่นึกถึงจราจรที่แสนแน่นขนัดกลางกรุงแล้ว
ก็กังวลว่า จะไปถึงภูหลวงก่อนค่ำได้อย่างไร

กว่าจะสตาร์ตรถได้ก็เคารพธงชาติไปแล้วเกือบครึ่งชั่วโมง
แม่นั่งรถไปก็บ่นไปว่า ถ้าออกแต่เช้าตามนัด
ก็ไม่ต้องเจอรถติดอย่างนี้หรอก
พ่อก็น่าจะช่วยปลุกลูก และเร่งให้อาบน้ำแปรงฟันเร็วๆ
กลับเอ้อระเหยลอยชาย ทำให้เสียแผนหมด
นานๆ จะได้ไปพักผ่อนพร้อมหน้ากันแบบนี้
น่าจะใส่ใจกันหน่อย ไปเที่ยวทั้งที
วันนี้น่าเป็นวันสบายๆ กลับทำให้จิตใจขุ่นมัว

แม่ยิ่งบ่น พ่อกับลูกก็ยิ่งหน้าบึ้ง
บรรยากาศในรถกลับอึมครึม
ใครเห็นก็ไม่นึกว่าครอบครัวนี้กำลังจะไปเที่ยวกัน

ไปเที่ยวทั้งที จิตใจน่าจะสบาย
แต่ทำไมครอบครัวนี้กลับตรงกันข้าม
ใช่หรือไม่ว่า เป็นเพราะยึดมั่นกับแผนการไปเที่ยว
และห่วงจุดหมายปลายทางนั่นเอง

แม่หมายมั่นปั้นมือจะไปเที่ยวและพักผ่อนเต็มที่
ใจนั้นวาดหวังว่า จะได้สุขสบายบนยอดภูหลวง
จึงวางแผนเอาไว้อย่างดิบดี แต่พอไม่เป็นไปตามแผน
ก็เลยเครียดทันที เครียดเพราะผิดแผน
และเครียดเพราะกลัวว่า จะไม่ได้พักผ่อนสบายๆ อย่างที่หวังไว้

ไปเที่ยวไม่ว่าที่ไหน ต่อให้ไปถึงสรวงสวรรค์
แต่ถ้ายึดมั่นถือมั่นกับการไปเที่ยวว่า จะต้องเป็นไปตามแผนให้ได้
ก็เตรียมใจทุกข์ได้เลย
ใครๆ ไปเที่ยวก็เพราะปรารถนาความสบายใจ
แต่ก็มักวาดหวังว่า ใจจะสบายก็ต่อเมื่อถึงที่หมาย
ลืมไปว่าควรจะทำใจสบายตั้งแต่เริ่มเดินทาง
หรือตั้งแต่เริ่มคิดแล้ว แม้จะวางแผนไว้
แต่หากไม่เป็นไปตามแผน ก็ไม่น่าทุกข์ใจ
ก็เรากำลังจะไปเที่ยวไม่ใช่หรือ
ทุกข์เพราะงานการก็น่าจะพอแล้ว
ทำไมจะต้องทุกข์เพราะไปเที่ยวอีกเล่า

ไปเที่ยวที่ไหน ก็ไม่สำคัญเท่ากับว่าไปเที่ยวอย่างไร
ถ้าเอาจริงเอาจังกับการเที่ยว หรือยึดมั่นถือมั่นกับมันมากไป
เพียงแค่คิดหรือวางแผนก็ทุกข์แล้ว
เพราะทะเลาะกันไม่เลิกว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี
กลายเป็นว่าแทนที่การไปเที่ยวจะทำให้มีความสุข
กลับเป็นทุกข์เพราะการไปเที่ยว

ความสุขนั้นไม่ได้รออยู่ที่อนาคต
แต่มีอยู่แล้วในทุกขณะ แต่คนจำนวนไม่น้อย
ชะเง้อมองความสุขข้างหน้า จนลืมความสุขที่อยู่รอบตัว
และยิ่งพยายามไขว่คว้าความสุขเบื้องหน้า
นอกจากความสุขที่อยู่รอบตัวจะหลุดลอยไปแล้ว
ความสุขเบื้องหน้าก็จะอาจจะหลุดมือไปด้วย

ใช่หรือไม่ว่า แม่วาดหวังจะมีความสุขอย่างเต็มที่บนภูหลวง
พอเหตุการณ์ไม่เป็นไปตามแผน ก็เลยเครียดขึ้นมา
เพราะกลัวว่าจะไม่ได้สุขสมอยากที่นั่น
ทำให้ไม่มีความสุขกับการเดินทางในวันที่น่าจะสบายๆ
และเมื่อพ่อกับลูกพลอยเครียดไป เพราะคำบ่นของแม่ด้วย
ก็ให้น่าสงสัยว่าไปถึงภูหลวงแล้ว
ทั้งครอบครัวจะเที่ยวอย่างสนุกและมีความสุขได้อย่างไร

ไม่ดีกว่าหรือ หากแผนการที่วางไว้เกิดสะดุดขึ้นมา
จนไม่แน่ใจว่าจะได้สนุกเต็มที่บนภูหลวงหรือไม่
ก็คิดเสียว่า ยังไงก็ขอคว้าความสุขใกล้ตัวไว้ก่อน
ระหว่างที่ขับรถ ก็ทำใจสบาย ผ่อนคลาย
สนทนาประสาพ่อแม่ลูกอย่างมีความสุข
ชื่นชมธรรมชาติตามรายทาง
หิวเมื่อไร ก็แวะหาอาหารอร่อยกินข้างทาง
ถึงภูหลวงเมื่อไหร่ ก็ค่อยว่ากันอีกที
ก็วันนี้เป็นวันสบาย จะซีเรียสให้เครียดไปทำไม
ขอปล่อยวางสักวันให้จิตใจปลอดโปร่ง

จะว่าแล้ว คนเราไปเที่ยวอย่างไร ก็ใช้ชีวิตอย่างนั้น
เพราะการดำเนินชีวิตไม่ต่างไปจากการเดินทางไปเที่ยว
คนจำนวนไม่น้อยตั้งเป้าหมายว่า ชีวิตข้างหน้าจะต้องสุขสบาย
พรั่งพร้อมด้วยทรัพย์สินเงินทอง
จึงตั้งหน้าตั้งตาทำงานหาเงินอย่างไม่รู้จักเหนื่อย
ถึงวันหยุดก็ไม่รู้จักพัก สุดท้ายสุขภาพก็ทรุดโทรม
ความสัมพันธ์กับผู้คนก็ย่ำแย่ ชีวิตเต็มไปด้วยความทุกข์
ปรากฏว่าเมื่อบรรลุจุดมุ่งหมายในชีวิต มีทรัพย์สมบัติบริบูรณ์
กลับหาความสุขไม่ได้
บางคนหนักกว่านั้น ร่างกายทนกรากกรำไม่ไหว
ป่วยเป็นโรคร้าย สุดท้ายก็หมดลมก็จะถึงที่หมาย


เขาเหล่านั้นลืมไปว่าความสุขนั้น
ไม่ได้อยู่ที่จุดหมายปลายทางเท่านั้น
แต่ยังมีให้เราเก็บเกี่ยวได้ทุกวัน
เช่น จากการมีเวลาพักผ่อนอยู่กับครอบครัว
จากงานอดิเรก จากการมีสุขภาพดี
และจากสัมพันธภาพที่ราบรื่น
ใช่หรือไม่ว่าการพยายามไขว่คว้าหาความสุขข้างหน้า
ทำให้เราละเลยความสุขในชีวิตประจำวันไป
ผลสุดท้ายนอกจากความสุขใกล้ตัวจะไม่ได้แล้ว
ความสุขข้างหน้าก็อาจจะไปไม่ถึงด้วย


ไม่ว่าจะเดินทางไปเที่ยว หรือก้าวสู่จุดหมายของชีวิต
อย่าลืมความสุขระหว่างทาง
ปล่อยวางจากจุดหมายปลายทางบ้าง
แล้วทำใจให้สบาย เผชิญทุกอย่างด้วยหัวใจที่เปิดกว้าง
ถึงจะทำงานอยู่ ความสุขก็หาได้ไม่ยาก



คัดลอกจาก...
เที่ยวไปด้วยใจสบาย [ IMAGE ตุลาคม ๒๕๔๙ ]

http://www.budnet.info/webboard/view.php?category=textc&wb_id=41

ดอกไม้ ดอกไม้ ดอกไม้
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง