ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
ลูกโป่ง
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089
|
ตอบเมื่อ:
08 มิ.ย.2007, 11:47 pm |
  |
ชายหนุ่มผู้ยากจนคนหนึ่งเอาแต่นั่งเศร้าโศกเสียใจ
ที่ภรรยาคู่ชีวิตได้ตายจากไปอย่างกะทันหัน
เมื่อ 2 เดือนก่อน
โดยทิ้งลูกเล็กๆ 2 คนไว้ให้เขาเลี้ยงดูต่อไป
ทุกๆวันเขาเพียงแต่ออกไปรับจ้างทำงานเล็กๆ น้อยๆ
เพื่อให้ได้เงินมาซื้อข้าวให้ลูกกิน
คืนหนึ่งเขานอนหลับและฝันว่า
มีชายรูปร่างกำยำ แต่งตัวประหลาด
หน้าตาน่ากลัว มาหาเขาที่บ้าน
และบอกว่าจะมาเอาชีวิตเขาไป
เผอิญตอนนั้นลูกชายคนเล็กเกิดร้องไห้ขึ้นมา
เขาจึงบอกกับชายรูปร่างกำยำนั้นว่า
“ขอร้องเถอะนะ..อย่าเพิ่งเอาชีวิตข้าไปเลย
ข้ายังมีลูกเล็กๆ ที่ต้องเลี้ยงดูถึง 2 คน
หาก เอาชีวิตข้าไปตอนนี้ ใครจะดูแลลูก
เมียข้าก็เพิ่งตายไป”
ชายผู้มีหน้าตาน่ากลัวนิ่งคิดสักครู่
จึงบอกกับชายหนุ่มว่า
“เอาล่ะ...เพื่อเห็นแก่ลูกเจ้า
ข้าจะให้เจ้ามีชีวิตอีกแค่ 2 ปีเท่านั้น !! จำไว้..”
พอพูดจบ ชายในชุดประหลาดก็หายวับไป !!
ชายหนุ่มตกใจสะดุ้งตื่น
เขาหันไปมองรอบๆ ลูกสองคนของเขากำลังหลับอยู่
ไม่มีใคร ร้องไห้ตื่นขึ้นมาสักคนเดียว
ชายหนุ่มจึงรู้ว่าเขาฝันไป
และเป็นฝันร้ายที่น่ากลัวมาก
คืนนั้นเขาจึงไม่กล้าหลับอีกต่อไป
ได้แต่นอนครุ่นคิดถึงคำพูดของชายหน้าตาน่ากลัวคนนั้น
“ข้าจะทำอย่างไรดีกับชีวิตที่มีแค่ 2 ปีนับจากนี้ไป”
ชายหนุ่มรำพึงกับตัวเอง และคิด เรื่องนี้จนถึงเช้า
นับจากวันนั้นเป็นต้นมา
ชายหนุ่มเริ่มต้นตั้งหน้าตั้งตาทำงานทุกอย่าง
เก็บออมเงินที่ได้มาไปซื้อพันธุ์พืช พันธุ์สัตว์
มาเพาะปลูกเพาะเลี้ยงในที่ดินผืนเล็กๆ ที่เขามีอยู่
และเคยปล่อยให้มันรกร้าง 1 ปีผ่านไป
เขาก็สามารถสะสมเงินได้มากพอควร
จากการขายพืชผัก และปลาชนิดต่างๆ ที่เพาะเลี้ยงไว้
เขาแบ่งเงินที่ได้ไปซื้อที่ดินเพิ่ม
และหาไม้ผลชนิดต่างๆ มาปลูก
“ลูกข้าจะได้เก็บผลไม้ เพื่อขายเลี้ยงชีวิตต่อไป”
ชายหนุ่มบอกกับตัวเอง
เวลาใกล้จะถึง 2 ปีแล้ว ตอนนี้เขาก็มีเงินมากขึ้นกว่าเดิม
และเมื่อถึงวันครบกำหนด
เขาก็ได้เตรียมทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว
แต่เขาก็ยังไม่ตาย..ชายรูปร่างกำยำคนนั้น
ก็ยังไม่มา เอาชีวิตเขา
ทุกๆ วันที่ผ่านไปหลังครบกำหนด
เมื่อเขาลืมตาตื่น และรู้ว่าตัวเองยังมีชีวิตอยู่
เขาก็จะมุมานะทำงานเหมือนที่เคยทำมา
จนเวลาผ่านไป..ผ่านไป..ผ่านไป
ต้นไม้ก็เริ่มออกผล ลูกชาย 2 คนของเขา
ก็เติบโตจนเรียนจบชั้นสูง
ชายหนุ่มที่บัดนี้เริ่มแก่ชราลงแล้ว
ก็ยังไม่เคยลืมฝันร้ายในคืนนั้นเลย
..........
ผู้ฝันร้ายส่วนใหญ่
มักจะวิตกเกี่ยวกับฝันร้ายของตัวเอง
และด้วยจิตที่คิดกังวลนั้น
ก็อาจทำให้เกิดเรื่องร้ายๆ ขึ้นได้จริงๆ
ดังนั้น คนโบราณจึงมักพูดว่า
ฝันร้ายจะกลาย เป็นดี
เพื่อปลอบใจผู้ฝันร้ายให้คลายกังวลนั่นเอง
และหากนำฝันร้ายนั้นมาเป็นแรงผลักดัน
ให้ทำในสิ่งที่ดี เรียกว่าเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส
ฝันร้ายก็จะกลายเป็นดีขึ้นมาจริงๆ
ก็ได้ดังในนิทานเรื่องนี้
(จากหนังสือพิมพ์ธรรมลีลา ฉบับที่ 79 มิ.ย. 50 โดย ลีลา)
โดย ผู้จัดการออนไลน์
 |
|
|
|
   |
 |
tiger36
บัวใต้ดิน

เข้าร่วม: 06 ก.ย. 2007
ตอบ: 18
|
ตอบเมื่อ:
28 ต.ค.2007, 7:41 pm |
  |
|
  |
 |
suvitjak
บัวบาน

เข้าร่วม: 26 พ.ค. 2008
ตอบ: 457
ที่อยู่ (จังหวัด): khonkaen
|
ตอบเมื่อ:
03 มิ.ย.2008, 4:15 pm |
  |
อนุโมทนาครับ  |
|
_________________ ซื่อกินไม่หมดคดกินไม่นาน |
|
  |
 |
|