ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089
|
ตอบเมื่อ:
30 พ.ย.2007, 11:30 am |
|
การไม่ทำบาปทั้งปวง
การทำกุศลให้ถึงพร้อม
และการชำระจิตให้ผ่องใส
เป็นทางปฏิบัติที่เพียงพอ...สำหรับความเป็นบัณฑิตในทางธรรม
|
|
|
|
|
|
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089
|
ตอบเมื่อ:
30 พ.ย.2007, 11:31 am |
|
...ตายให้มันตาย...
ถ้าตายขณะปฏิบัติกรรมฐาน...จะได้ไปสุขคติ
|
|
|
|
|
|
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089
|
ตอบเมื่อ:
30 พ.ย.2007, 11:33 am |
|
การปวดเมื่อยนี่ก็เป็นกรรมอันหนึ่งเหมือนกัน
บางคนปวดแทบร้องไห้ เหมือนกระดูกจะแตก
เดี๋ยวจะรู้เลยว่าเราไปฆ่าสัตว์ตรงไหน ไปทำสัตว์อะไรไว้บ้าง
หรือไปตีหลังสัตว์ให้หักไว้อย่างไร เช่นนี้เป็นต้น
เพราะฉะนั้นการปฏิบัติกัมมัฏฐาน จึงมีประโยชน์แก่ชีวิต
ใครทำใครได้...ใครไม่ทำก็ไม่ได้
เราจะไปบอกว่า เราไปแล้วได้ทั้งบ้าน...ไม่ได้
ต้องต่างคนต่างกันทำ สร้างความดีให้แก่ตนเอง...ให้ได้
ถ้าเราเป็นพ่อแม่ก็พยายามแผ่เมตตา
ถ้าเป็นสายโลหิตอันเดียวกัน ก็จะถึงลูกถึงหลานได้
|
|
|
|
|
|
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089
|
ตอบเมื่อ:
30 พ.ย.2007, 11:36 am |
|
ผู้ไม่เคยทำผิด...คือ...ผู้ไม่เคยทำอะไรเลย
|
|
|
|
|
|
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089
|
ตอบเมื่อ:
19 ธ.ค.2007, 3:09 pm |
|
การกำหนดให้หายใจลึกๆ
เวลากำหนดที่ลิ้นปี่ หายใจให้ลึกๆ
ถ้าเรามีสมาธิดีมีสติดีอยู่แล้ว
เพียงแต่กำหนดหนอ มันก็หายแล้ว
คำว่า “หนอ” เป็นการรั้งจิตและสติให้เข้าผนวกบวกกัน
พอเข้าผนวกกันแล้ว มันจะบอกออกมาเลยว่า
เราไปโกรธเขาทำไมมันเสียสมอง
เขาก็ไม่รู้เรื่องว่าเราโกรธ
เราไปโกรธเขานี้เป็นการทำลายตัวเอง
เอาโกรธไว้ในใจ การงานเสียหายหมด
ทำให้โรคภัยไข้เจ็บแทรกซ้อน
เสียใจก็ทำให้โรคแทรกซ้อน
ท่านอย่าทิ้งตัวสติ หรือพิเภก
ถามพิเภกดู พอกำหนดได้
ตัวปัญญาที่มีอยู่กับตัวเราเอง ก็จะบอกเองว่าเสียใจเพราะอะไร
เพราะลูกไม่เรียนหนังสือ และจะแก้ไขได้อย่างไร
ถ้าใครไม่มีกัมมัฏฐาน...ก็จะแก้ปัญหาไม่ได้
ไม่ต้องไปหาวิชาการจากที่ใด
เมื่อมีปัญหาเกิดกับตนเองก็ต้องแก้ด้วยตัวเอง
เหตุเกิดที่ไหนตรงแก้ที่ต้นเหตุ... อย่าไปแก้ที่ปลายเหตุ
เพราะฉะนั้น คนเราจะยากดีมีจนประการใด
ก็ขอให้อย่าจนจิต อย่าจนปัญญา
ให้ท่านมีสติสัมปชัญญะ มีหน้าที่ถูกต้อง
รับรองว่าท่านต้องรวยน้ำใจ รวยจิต รวยสติปัญญา
จะแก้ไขปัญหาได้สมปรารถนา เพราะมีคุณค่าของชีวิตดีแล้ว
ปัญญาอยู่ในตัวเราแล้วไม่ต้องกลัวจน
รักษาเมตตาไว้ให้ได้ ไปที่ไหนมีแต่คนรักคนชอบ
|
|
|
|
|
|
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089
|
ตอบเมื่อ:
19 ธ.ค.2007, 3:11 pm |
|
หลักสำคัญ ๓ ข้อ
การปฏิบัตินี้ อาตมาเน้นอยู่ ๓ ข้อคือ
๑. ยืนหนอ ๕ ครั้ง
๒. การเดินจงกรมให้ช้าที่สุด มันจะได้สติรวบรวมไว้ได้ดี
๓. หายใจเข้าออก เอาสติยัดเข้าไปตามลมหายใจ ให้ได้จังหวะ
นอกจาก สามอย่างนี้ เราจะต้องไม่เกียจคร้าน ต่อการงานและหน้าที่
รับผิดชอบในกัมมัฏฐาน กัมมัฏฐาน นี้ เป็นการกระทำให้ฐานะ ดีขึ้น
นั่งแต่ละครั้งจะเหมือนกัน นั่งแต่ละครั้งอาจจะไม่เหมือนกัน
ถ้าเราทำไปนานๆ แม้เราจะอายุมากก็ตาม
โรคภัย ไข้เจ็บก็จะหายไปอย่างน่าอัศจรรย์
แต่มันยากมาก ต้องลำบาก มันมีเวทนามากมาย...
...ถ้าเรานั่งแล้วปวดจนทนไม่ไหว และเดินจงกรม จะปวดที่ไหล่มาก
เราก็กำหนดตัวนี้ ให้ได้
แล้วเราก็จะอดทนต่อความลำบาก อดทนต่อความเจ็บใจได้
เราจะต้องทำให้จิตเคย เข้าไปคิดมีสติปัญญา
ถึงเราจะแก่ชรา อย่างไรก็ตาม...จะมีสติอยู่เสมอ
และเวลาตายจากโลกนี้ไปนั้น
จิตนี้จะเป็นกัปตัน นำทาง เดินทางไปสู่ที่หมาย
ตามจุดมุ่งหมาย และจุดประสงค์ จะไม่ย้อนกลับมาอีก
|
|
|
|
|
|
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089
|
ตอบเมื่อ:
19 ธ.ค.2007, 3:13 pm |
|
การเจริญกรรมฐาน...เป็นการสร้างปัญญาในตัว
ขอพี่น้องโยมหญิงโยมชาย ทุกคนสร้างปัญญาในตัว
ปัญญาในตัว...ช่วยตัวเองได้...แก้ปัญหาตัวเองได้
และสามารถช่วยคนอื่นได้ด้วย
ถ้าโยมมีแต่ปัญญานอกตัว...ไม่มีปัญญาในตัว
โยมจะช่วยใครไม่ได้เลย ช่วยตัวเองก็ไม่ได้
และไม่สามารถรับผิดชอบได้ ตัวเองก็ไม่รับผิดชอบด้วย
|
|
|
|
|
|
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089
|
ตอบเมื่อ:
19 ธ.ค.2007, 3:18 pm |
|
มองคนมองส่วนดีของเขาไว้
เห็นด้วยปัญญา อย่าเห็นด้วยกิเลส
|
|
|
|
|
|
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089
|
ตอบเมื่อ:
19 ธ.ค.2007, 3:19 pm |
|
สวดมนต์เป็นนิจ
อธิษฐานจิตเป็นประจำ
อโหสิกรรมก่อนแผ่เมตตา
|
|
|
|
|
|
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089
|
ตอบเมื่อ:
19 ธ.ค.2007, 3:19 pm |
|
บางคนไม่มีสตางค์ ทำบุญได้ไหม
ได้เลย...เอากำลังกายไปช่วย เอากำลังใจไปช่วยกัน
เอาสติปัญญาไปช่วย เขาเรียกว่า ปัตตานุโมทนามัย
บุญสำเร็จได้ด้วยการอนุโมทนาสาธุการ...ได้บุญเท่ากันหมด
|
|
|
|
|
|
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089
|
ตอบเมื่อ:
19 ธ.ค.2007, 3:21 pm |
|
...ทานมีหลายทาน...
การให้ทานกับคนที่ต้องการ คนที่ไม่มีเราเอาไปให้เขา
ยกตัวอย่างคนกำลังจมน้ำ เราช่วยเขาเราได้บุญ นี่เป็นทาน
ประการที่สอง เขาไม่มีข้าวปลาอาหารรับประทาน เราเอาไปให้เขา
นี่ก็เป็นทานอีกอันหนึ่ง ทานทั้งนั้น
แต่คนที่ยากไร้ยากจน ไม่มีผ้าผ่อนห่ม
เราก็เอาผ้าห่มไปให้ ก็เป็นทานอันหนึ่ง ก็ช่วยเหลือกันไป
ตามตำราเรา ยิ่งให้ยิ่งได้ หวงอดหมดไม่มา
ทานอะไรไม่ล้ำเลิศประเสริฐเท่ากับให้ความดีเป็นทาน
หรือ ให้ธรรมเป็นทาน
เราช่วยให้เขาเป็นคนดี ดีที่สุดแล้ว
เพราะฉะนั้นทานอะไรหนอ ทานน้ำใจใสสะอาด
ปราศจากมลทินที่เราให้จะประเสริฐเท่ากับให้ธรรมะ
ให้ธรรมะเป็นทาน นี่ประเสริฐที่สุด
ทำคนให้เป็นคนดี ให้ละชั่วประพฤติดี รักษาจิตผ่องใส
ใจสะอาดหมดจด นั่นแหละทานชั้นสูง
การปฏิบัติธรรมก็เป็นทานชั้นสูง
ถ้าเรามีโอกาสชี้แจงให้เขาปฏิบัติธรรมในพระพุทธศาสนาได้
ก็เป็นทานที่ดีกว่าการแจกหนังสือ
ถ้าเขาปฏิบัติได้ก็เป็นทานอันประเสริฐจริง
ให้โจรเป็นคนดีได้ ให้คนชั่วเป็นคนดีได้
และให้คนไม่มีความรู้มีความรู้มีวิชาได้ เป็นทานที่ประเสริฐ
|
|
|
|
|
|
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089
|
ตอบเมื่อ:
19 ธ.ค.2007, 3:22 pm |
|
ถ้าง่วงเหลือเกินเราอยากจะอยู่ต่อไป...โดยไม่ง่วง
ตั้งสติไว้หน้าผากแล้วหายใจยาว ๆ
ตั้งสติไว้หน้าผากแล้วหายใจยาว ๆ
ตั้งสติไว้ที่หน้าผาก...เดี๋ยวตาแข็ง
สมาธิไว้ที่นี่ ดูหนังสือต่อไปได้เลย อีก ๑ ชั่วโมงแล้วค่อยนอน
ถ้าวันไหนฟุ้งซ่านมาก ไม่ใช่ไม่ดีนะ
ดีนะ มันมีผลงานให้กำหนด
แล้วก็ขอให้ท่านกำหนดเสีย ฟุ้งซ่านก็กำหนดตั้งอารมณ์ไว้ดี ๆ
กำหนดฟุ้งซ่านหนอ...แล้วหายใจยาว ๆ
ไม่ต้องไปพองยุบ วิธีแก้หายใจยาว ๆ ตามสบาย
แล้วภาวนาในใจ ฟุ้งซ่านหนอ ๆ
สักชั่วครู่หนึ่งท่านจะหายแน่นอน
บางคนดูหนังสือปวดลูกตา
อย่าให้เขาเพ่งที่จมูก...ต้องลงไปที่ท้องหายทุกราย
บางทีปวดกระบอกตาดูหนังสือไม่ได้เลย
ตาแดงร่านลงมากำหนดที่ท้อง
มันก็จะว่องไวคล่องแคล่วขึ้น แล้วจะหายไปเอง
|
|
|
|
|
|
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089
|
ตอบเมื่อ:
19 ธ.ค.2007, 3:24 pm |
|
คนดีต้องมีผลงาน
คนพาลชอบหาเรื่อง
คนชอบรุ่งเรืองต้องพัฒนา
|
|
|
|
|
|
|