Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 พระพุทธเจ้าตรัสไว้ถึงความเสื่อมของพระพุทธศาสนาในภพมนุษย์ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ผู้เยี่ยมชม.
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 22 พ.ค. 2007
ตอบ: 95

ตอบตอบเมื่อ: 22 มิ.ย.2007, 6:38 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

จักมี ปฏิสัมภิทา อยู่เพียงพันปี

พอถึงพันปีที่ 2 จักมีแต่ สุกขวิปัสโก

พันปีที่ 3 จักมีแต่ อนาคามี

พันปีที่ 4 จักมีแต่ สกทาคามี

พันปีที่ 5 จักมีแต่พระโสดาบัน

หมาบถึงว่า จักมีกลุ่ม ประเภทดังกล่าว เป็นส่วนมาก ในแต่ละช่วงพันปีนั้น

เหตุเสื่อมของพระสัทธรรมมีดังนี้ เรียกว่าความอันตรธาน 3 ประการ

1.คือ ความเสื่อมไปของมรรคผล

2.คือ ความเสื่อมไปของการปฏิบัติ

3.คือ ความเสื่อมไปของเพศ

เวลานี้ พศ. 2550 ใกล้เข้าสู่ช่วงพันปีที่ 3 กลุ่มอนาคามีจะมีเป็นส่วนมาก กลุ่มสุกขวิปัสโกจะมีเป็นส่วนน้อย กลุ่มปฏิสัมภิทาจะมีเป็นส่วนน้อยรองลงมา

ทุกสิ่งเป็นอนิจจัง ( อนิจตา ) ไม่เว้นแม้แต่พระพุทธศาสนาเอง เมื่อถึงเวลาเสื่อมพระพุทธเองก็เสื่อม เมื่อถึงเวลาหมดไปพระพุทธเองก็หมดไป ในภพมนุษย์นี้ มีทั้งผู้ที่เชื่อและผู้ที่ไม่เชื่อ ขอกล่าวถึงเพียงผู้ที่เชื่อ กระทำตามคำสั่งสอน คือ ปฏิบัติ ทาน ศีล สมาธิ เพื่อกาลใหม่ได้ไปเกิดในภพที่ดี ไม่วนเวียนมาเกิดในภพมนุษย์นี้อีก มาเกิดในยุคที่พระพุทธศาสนาเสื่อม มาเกิดในยุคที่พระพุทธศาสนาศึกษาได้ยาก จะเป็นการไม่ดี เป็นการแย่เอาเสีย เหตุคือต้องกลับมาเสวยทุกข์อีกหาทางออกจากทุกข์นั้นได้ยาก ด้วยมาเกิดในยุคที่พุทธศาสนาเสื่อม ไม่มีผู้ใดช่วยชี้ทาง ต้องเกิดมาเสวยทุกข์อีกกับพวกบัวชั้นสี่ วนเวียนมาเสพทุกข์ในยุคที่ไม่มีพระพุทธศาสนา วนเวียนมาเสพทุกข์ใหม่อีกหลายกัปกัลป์ เพื่อรอจนกว่าพระพุทธศาสนาจะเกิดใหม่อีกครั้งในภพมนุษย์

ใครเชื่อคำสอนของพระพุทธเจ้า ก็ควรเร่งปฏิบัติ ทาน ศีล สมาธิ เป็นกิจอดิเรกเสีย เพื่อภพหน้าที่ดีกว่าภพมนุษย์นี้ โอกาสมีแล้วคือการได้เกิดเป็นมนุษย์ โอกาสมีแล้วคือการได้เกิดมาในยุคที่มีพระพทุธศาสนาให้ศึกษา อีก 2500 ปี พระพุทธศาสนาในภพมนุษย์นี้ก็ถึงกาลดับไปแล้ว ไม่รู้ว่าอีกกี่กัปกัลป์พระพุทธศาสนาจะเกิดขึ้นอีกในภพมนุษย์นี้ ช่วงเวลา 2500 ปี เกิดได้เพียงแค่ไม่กี่ครั้ง 24-40 ครั้งโดยประมาณ หากเกิดมากกว่านี้อีกก็คงเกิดมาในยุคที่ไม่มีพระธรรมให้ศึกษา
จะเป็นการเหนื่อยยากเอาเสีย

เชิญ เชิญ ชาวพุทธ เชิญเข้าวัดรู้จักธรรม รู้จักทางไปสู่ภพที่ดีกว่า ในยุคที่ยังมีพระพุทธศาสนาให้ศึกษา เพื่อภพหน้าที่ดีกว่า ไม่กลับมาผจญทุกข์อีกในภพมนุษย์นี้

สาธุ สวัสดีคนพุทธ

( หากความเข้าใจส่วนไหนในบทความนี้ผิดไป ผู้อ่านที่มีความรู้มากว่า ขอเชิญให้คำแนะนำติเตียน จะถือเป็นพระคุณมาก ครับ )

www.wimutti.net

www.watbuppa.com

www.palungjit.com
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ผู้เยี่ยมชม.
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 22 พ.ค. 2007
ตอบ: 95

ตอบตอบเมื่อ: 22 มิ.ย.2007, 6:49 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ช่วงเวลา 5000 ปีนี้ เป็นสมัยธรรมของพระพุทธเจ้าสิทธัตถะ ลืมกล่าวไว้ในบทความ ขออภัยด้วย ครับ

สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง