Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 การประคองดวงจิตก่อนจะดับ..สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
กรุณา
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 10 มี.ค. 2007
ตอบ: 2

ตอบตอบเมื่อ: 10 มี.ค.2007, 11:33 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

Image

ถาม การที่จะประคองดวงจิตก่อนที่จะดับสิ้นอัสสาสะปัสสาสะ หรือพ้นจากโลกนี้ไป จะมีวิธีทำอย่างไรจึงจะเป็นทางให้ไปสู่สุคติ และไม่มีทุกขเวทนาบีบคั้น

ตอบ การที่จะมีทุกขเวทนาบีบคั้นหรือไม่ อยู่ที่ความตั้งใจแน่วแน่ เมื่อก่อนที่ดวงจิตจะดับ ก่อนที่อัสสาสะปัสสาสะจะสิ้น ต้องตั้งดวงจิตให้มั่นในทางกุศลที่ได้อบรมไว้ อุทิศกรรมแก่สัตว์ทั้งหลาย เจ้าก็จักเข้าสู่ความสงบ เมื่อเจ้าพ้นจากโลกนี้ไปแล้ว เจ้าจะต้องยึดมั่นในสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้เป็นเครื่องช่วยชุบชูวิญญาณของเจ้าไปสู่สุคติในสัมปรายิกภพโน้นโดยเร็ว หลังจากที่เจ้าได้ใช้กรรมในภพโน้นสิ้นแล้ว สิ่งใดไม่วิเศษยิ่งไปกว่าพระรัตนตรัย ก่อนดวงจิตจะดับ เจ้าจะต้องตั้งสติให้มั่นอย่าประมาท อย่าลืมตัว เมื่อจิตเจ้าแน่แน่วและยึดไว้ดีแล้ว ไม่มีอะไรจะมาบีบคั้นเจ้า

ถ้าจิตเจ้าไม่มั่น อาจนึกถึงแต่สิ่งชั่วร้ายอันเป็นกิเลส พอกพูนดวงจิต ความโลภ ความโกรธ ความหลง มีอุปาทานยึดมั่นในร่างกาย ในดวงจิต มีอวิชชาคลุมจิตใจไม่ให้ผ่องใสเสียแล้ว เมื่อนั้นแหละ กรรมจะบีบคั้นดวงจิตเจ้าให้หลุดพ้นจากร่างนี้ไป

ฟังอย่างนี้แล้วพึงตั้งใจให้มั่นอยู่เสมอว่า เจ้าต้องมีสติอยู่ตลอดเวลา จะประมาทขาดสติมิได้ มีความยึดมั่นในองค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า และคุณพระรัตนตรัยเป็นที่ตั้ง ยึดมั่นในกุศลผลบุญที่เจ้าได้สร้างเป็นอหิงสา คือไม่เป็นผู้ดิ้นรน ดับกิเลสคือความอาฆาตมาดร้ายสิ้นแล้ว จิตเจ้าจะสงบ

บางคนจุดธูปไหว้พระงึมงำ แต่ใจไปอยู่ในครัว ไปอยู่ที่อื่น เช่นนี้ไม่เกิดประโยชน์อันใดเลย รังแต่จะเป็นราคีมัวหมองแก่การประพฤติปฏิบัติในการกุศล หาเป็นประโยชน์อันใดไม่ ไม่ได้จุดธูปเทียนแต่พนมด้วยมือสิบนิ้ว กับดวงใจถือเป็นประดุจดอกบัวบูชาแก่คุณพระรัตนตรัย สวดมนต์ในใจไม่ดังด้วยความตั้งใจมั่นด้วยเจตนาอันบริสุทธิ์ที่จะสร้างบุญกุศลอันแท้จริงแล้ว หูไม่ฟังเรื่องร้าย ไม่เอาตาไปดูสิ่งที่ไม่ควรดู ย่อมยิ่งกว่าจุดธูปเทียนบูชาต่อหน้าคนนับพัน ถ้าเจ้าตั้งใจมั่นแล้วดีเสมอ คาถาที่ข้าจะให้วันนี้ก็คือ "อย่าประมาทขาดสติ"
 

_________________
ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
เคยเกือบเหยียบความตาย
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 11 พ.ค.2007, 5:23 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อ่านแล้วเข้าใจในอารมณ์นั้นเลย เพราะเคยเกือบตายทรมารนาน 2 เดือน จนร่างกายผายผอม กินไม่ได้นอนไม่หลับ จนหมอหมดปัญญา ส่วนเราเองพยายามให้ครองสติ กำหนดรู้ให้ได้ ก็ทำไม่ได้เลย เพราะทุกขเวทนามันแรงมากกกกก..ทั้งที่เคยไปฝึกเข้ากรรมฐาน ปฏิบัติธรรม วัดอัมพวัน-หลวงพ่อจรัลมานานหลายปี สู้ไม่ไหว ได้แต่มองรูปหลวงพ่อจรัลที่หมอนเท่านั้น น้อยใจในวาสนาที่ทำไม่ได้ ทั้งที่พยายามตั้งสติสู้ทุกขเวทนาก็แล้ว มันก็แพ้แรงเวทนามันกล้ามากกกก..แม้ว่าท่อง นะโม ตัสสะ ซัก3 ครั้ง ก็ยังทำไม่ได้เลย ทำได้ 1 ครั้ง หรือ 2 ครั้งถือว่าเก่งแล้ว

เลยอธิฐานจิต..ว่า ถ้าข้าเจ้าตายอีแบบนี้ไม่เอา ลงนราแน่ๆ ถ้าข้าพเจ้ารอดจากการตายครั้งนี้ไปได้ จะขอไปตั้งสติสู้ เพื่อตายไปคราวหน้า ข้าพเจ้าจะไม่แพ้มันเด็ดขาด ข้าพเจ้าไม่อยากลงนรกอเวจี ในสภาพจิตแบบนี้ ทรมารเหลือเกินหนอออ..นอนร้องไห้ทุกคืน ที่โรงพยาบาล

วันรุ่งขึ้น..ญาติไปเอาน้ำมนต์จากวัดหลวงพ่อโสธรมาให้กิน แปลกมาก..ไม่เชื่อ หมอ-พยาบาล ยังงงเลยว่า..ทำไมถึงดีขึ้น เริ่มกินข้าวได้ ลุกนั่งได้ จากป่วยจนเดินไม่ได้ ขาลีบหมด ต้องหัดเดินใหม่หมด

พอออกจากโรงพยาบาลมาได้ ก็เริ่มปฏิบัติกรรมฐาน ยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ จากถือศีล 5 ศีล 8 ศีลอุโบสถ ตามกำลังใจที่ถึง และพยายามเดินทางสายตรง เพื่อให้รู้วิธีไม่ต้องมาตายอย่างเวทนาอีกต่อไป
 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง