Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 การโดนผีอำ.... บางแง่มุมที่คุณอาจจะยังไม่ทราบ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ตรงประเด็น
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 25 ก.ค. 2006
ตอบ: 773

ตอบตอบเมื่อ: 28 เม.ย.2007, 5:15 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

จาก

http://larndham.net/index.php?showtopic=25908&st=7


คุณ kookbank ตอบได้ละเอียด.... ข้อมูลเพียบ ปรบมือ


ขอเสนอเพิ่มน่ะครับ

คือว่า ถ้าเราไม่ยึดมั่น-ถือมั่นว่า มี"เรา"ที่กำลังจะตาย เวลาเกิดsleep paralysis ..... จะไม่ทุกข์
ก็จะเป็นเพียง รูป-นาม ขันธ์๕ ที่มีแล้ว-หาไม่ เกิดแล้ว-ดับไป
ที่พูดนี้คือหลักการน่ะครับ ส่วนที่ว่าจิตจะเห็นจริงตามนั้นจนปล่อยวาง ทั้งรูปและนามได้ทั้งหมดนั้น ก็ต้องปฏิบัติตามหลักมหาสติปัฏฐานสี่

อีกวิธีหนึ่ง ที่นักวิทยาศาสตร์เขาไม่รู้กันก็คือ ให้กำหนดผู้รู้....
คือ แทนที่จะไปสนใจว่าจิตรู้อะไร เห็นสิ่งใด..... ให้ย้อนกลับมากำหนดว่า ใครคือผู้รู้ในสิ่งเหล่านั้น...... ก็เป็นวิธีการที่ ครูบาอาจารย์ท่านแนะนำไว้ปฏิบัติต่อนิมิตทั้งหลาย
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ตรงประเด็น
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 25 ก.ค. 2006
ตอบ: 773

ตอบตอบเมื่อ: 28 เม.ย.2007, 5:17 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

มีประเด็นเรื่องของนิมิตภาวนา

http://larndham.net/index.php?showtopic=25853&st=11
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ตรงประเด็น
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 25 ก.ค. 2006
ตอบ: 773

ตอบตอบเมื่อ: 28 เม.ย.2007, 5:24 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ออกตัวก่อนน่ะครับ.....

ผมไม่ได้ปฏิเสธเรื่องภพภูมิ ต่างๆน่ะครับ
ถ้าปฏิเสธภพภูมิอย่างเด็ดขาด ก็คือ ปฏิเสธสาสวะสัมมาทิฏฐิ(สัมมาทิฏฐิระดับโลกียะ)

เพียงแต่กำลังจะเสนอว่า

1.อย่าเพิ่งเชื่ออายตนะที่เรารับรู้ได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นภาวะกึ่งหลับ-กึ่งตื่น นิมิตภาวนา หรือ
sixth sense.... เพราะอาจจะถูกบ้างผิดบ้าง
2.ถ้าเกิดนิมิตขึ้น ควรอย่าใส่ใจมาก เพราะถ้าเชื่อเลยเถิด อาจจะมีปัญหา....
3.จุดมุ่งหมายหลักของการภาวนาคือ ความสงบระงับ และปัญญาปล่อยวางทุกข์ทั้งหลายในโลกนี้
...... หาใช่การเป็นผู้วิเศษไม่
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ตรงประเด็น
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 25 ก.ค. 2006
ตอบ: 773

ตอบตอบเมื่อ: 28 เม.ย.2007, 5:33 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เรื่องของนิมิตภาวนานั้น
หลวงปู่ดุลย์ อตุโล ท่านเตือนเอาไว้อย่างน่าสนใจ

จาก หนังสือ หลวงปู่ฝากไว้

...................................................................

จริง แต่ไม่จริง

ผู้ปฏิบัติกัมมัฏฐาน ทำสมาธิภาวนา เมื่อปรากฏผลออกมาในแบบต่างๆ ย่อมเกิดความสงสัยขึ้นเป็นธรรมดา เช่น เห็นนิมิตในรูปแบบที่ไม่ตรงกันบ้าง ปรากฏในอวัยวะร่างกายของตนเองบ้าง ส่วนมากมากราบเรียนหลวงปู่เพื่อให้ช่วยแก้ไข หรือแนะอุบายปฏิบัติต่อไปอีก มีจำนวนมากที่ถามว่า ภาวนาแล้วก็เห็นนรก สวรรค์ วิมานเทวดา หรือไม่ก็เป็นองค์พุทธรูปปรากฏอยู่ในตัวเรา สิ่งที่เห็นเหล่านี้เป็นจริงหรือ

หลวงปู่บอกว่า

“ที่เห็นนั้น เขาเห็นจริง แต่สิ่งที่ถูกเห็น ไม่จริง”


.............................................................................................


แนะวิธีละนิมิต

ถามหลวงปู่ต่อมาอีกว่า นิมิตทั้งหลายแหล่ หลวงปู่บอกว่ายังเป็นของภายนอกทั้งหมด จะเอามาทำอะไรยังไม่ได้ ถ้าติดอยู่ในนิมิตนั้นก็ยังอยู่แค่นั้น ไม่ก้าวต่อไปอีก จะเป็นด้วยเหตุที่กระผมอยู่ในนิมิตนี้มานานหรืออย่างไร จึงหลีกไม่พ้น นั่งภาวนาทีไร พอจิตจะรวมสงบก็เข้าถึงภาวะนั้นทันที หลวงปู่โปรดได้แนะวิธีละนิมิตด้วยว่า ทำอย่างไรจึงจะได้ผล

หลวงปู่พูดว่า

“เออ นิมิตบางอย่างมันก็สนุกดี น่าเพลิดเพลินอยู่หรอก แต่ถ้าติดอยู่แค่นั้นมันก็เสียเวลาเปล่า วิธีละได้ง่ายๆ ก็คือ อย่าไปดูสิ่งที่ถูกเห็นเหล่านั้น ให้ดูผู้เห็น แล้วสิ่งที่ไม่อยากเห็นนั้นก็จะหายไปเอง”


.............................................................................................


เป็นของภายนอก

เมื่อวันที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๒๔ หลวงปู่อยู่ในงานประจำปีวัดธรรมมงคล สุขุมวิท กรุงเทพฯ มีแม่ชีพราหมณ์หลายคนจากวิทยาลัยครูพากันเข้าไปถาม ทำนองรายงานผลของการปฏิบัติวิปัสสนาให้หลวงปู่ฟังว่า เขานั่งวิปัสสนาจนจิตสงบแล้ว เห็นองค์พระพุทธรูปอยู่ในหัวใจของเขา บางคนว่าได้เห็นสวรรค์วิมานของตัวเองบ้าง บางคนว่าเห็นพระจุฬามณีเจดีย์สถานบ้าง พร้อมทั้งภูมิใจว่า เขาวาสนาดี ทำวิปัสสนาได้สำเร็จฯ

หลวงปู่อธิบายว่า

“สิ่งที่ปรากฏเห็นทั้งหมดนั้น ยังเป็นของภายนอกทั้งสิ้น จะนำเอามาเป็นสาระที่พึ่งอะไรยังไม่ได้หรอก”
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง