Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 "ใช่หรือ" จตุคามรามเทพ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
เศษพุทธทาส
บัวใต้น้ำ
บัวใต้น้ำ


เข้าร่วม: 08 เม.ย. 2007
ตอบ: 121

ตอบตอบเมื่อ: 08 เม.ย.2007, 7:53 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

จตุคามครับสนใจไหม เห็นว่าไงกันบ้างครับกับการที่พระออกมาทำเครื่องรางของคลังกันแบบนี้ และผู้คนต่างก็เชื่อกันต่างหนาๆ มันเป็นการมอมเมาผู้คนโดยที่เจ้าตัวไม่รู้เลยรึเปล่า เป็นการทำให้ผู้คนตกอยู่ในโมหะ ทำแบบนี้เกิดปัญญาไหมครับ แล้วต่างกับพระประธานหรือพระที่ห่อยคอหรือพระที่เรานับถืออื่นๆ อีกตรงไหน เพราะก็เป็นวัตถุเหมือนกัน หรือต่างกันที่ความศักดิ์สิทธ์ ความศักดิ์สิทธิ์ดูตรงไหนหรือครับ ดูกันที่จำนวนของผู้ที่นับถือและศรัทธาอย่างนั้นเหรอครับ แล้วมันจะเกิดปัญญาได้ไหมครับ กับการที่เรานั่งไหวพระ สวดมนต์ กันอยู่ พอพระบอกให้ประพฤติธรรมก็กำหู แบบนี้ก็เท่ากับเพิ่มความมือบอดบิดเบือน ฉ้อฉล สุดโต่ง กันหรือเปล่าครับ เห็นว่าไงกันบ้าง ขอบคุณครับ ยิ้ม
 

_________________
ทำวันนี้ให้ดีและต้องรู้ไว้ว่า ทำดีเพื่อดี ทำหน้าที่เพื่อหน้าที่ อุปสรรคไม่มี บารมีไม่เกิด
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ผู้เยี่ยมชม






ตอบตอบเมื่อ: 08 เม.ย.2007, 9:48 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เป็นเรื่องอุปสงค์อุปทาน อะไรผลิตขึ้นมาทำขึ้นมาแล้ว มีคนบริโภค มีคนนิยมมีคนซื้อ ก็เป็นธรรมดาอยู่เองที่ผู้ผลิต เร่งผลิต เร่งทำออกมาป้อนตลาด
 
ผู้เยี่ยมชม






ตอบตอบเมื่อ: 08 เม.ย.2007, 9:56 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ผู้มีปัญญา เช่น อุปติสสะ (พระสารีบุตร)
เมื่อทราบข่าวว่า พระศาสดาอุบัติขึ้นแล้วในโลก จึงชวนอาจารย์สญชัยว่า ไปเฝ้าพระพุทธเจ้าด้วยกัน

สญชัยถามว่า "ในโลกนี้ คนโง่หรือคนฉลาดมาก"
"คนโง่มากกว่า" อุปติสสะตอบ

ถ้าอย่างนั้น เอ็งไปกันเถอะ ข้า ฯ จะหากินกับคนโง่ดีกว่า
 
ลูกพระพุทธ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 08 เม.ย.2007, 9:24 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อีกหน่อยก็ตกรุ่น ไม่ต่างจากมือถือดอก
 
คนอยากหมดทุกข์
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 10 เม.ย.2007, 9:50 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คนเราถ้าไม่ตั้งมั่นอยู่ในศีลสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไหนก็ไม่คุ้มครองหรอก สู้ สู้
 
โคมา
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 10 เม.ย.2007, 3:58 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ใดๆในโลกล้วนอนิจจัง มันแสดงให้เห็นว่า คนเราในปัจจุบันนี้ขาดซึ่งหลักยึดเหนี่ยวในใจ ไม่เชื่อเรื่องผลของการกระทำของตน เที่ยวไขว่คว้าหาสิ่งต่างๆมากมาย คาดหวังว่าสิ่งที่ได้มาจะนำพาชีวิตตนเองไปในทางที่ต้องการ
ขอฝากกลอนของท่านพุทธทาสไว้เตือนใจ
"มันเกิดขึ้น ตั้งอยู่แล้ว ดับไป
นี้เป็นมนต์ บทใหญ่ ใช้เมื่อได้
ซึ่งลาภยศ สรรเสริญ สุขกายใน
ไม่เมามาย ลืมตัว หรืองัวเงีย
มันเกิดขึ้น ตั้งอยู่แล้ว ดับไป
นี้เป็นมนต์ บทใหญ่ ใช้เมื่อเสีย
ซึ่งลาภยศ สรรเสริญสุข ทั้งลูกเมีย
ไม่อ่อนเปลี้ย สับสน หรือวุ่นวาย
มันเกิดขึ้น ตั้งอยู่แล้ว ดับไป
ใช้เป็นมนต์ บทใหญ่ ครั้งสุดท้าย
เป็นอาวุธ สัปยุทธ์ กับความตาย
แสนสบาย เพราะก้าวล่วง พ้นบ่วงมาร"
 
ปาณิสรา ค่ะ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 12 เม.ย.2007, 5:59 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม หากเราเลวอะไรก็ช่วยเราไม่ได้หรอกค่ะ เป็นปุถุชนรักษาศีล5
ให้ครบชีวิตก็สงบสุขแล้ว หากไม่มีที่ยึดเหนี่ยวจิใจ ก็เอาธรรมะเป็นที่พึ่งให้มีรรมอยู่ในใจจะได้เตือนตังเองว่าอย่าทำชั่ว โลภะ โทสะ โมหะ จะได้เบาบางลง
 
dogwon
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 12 เม.ย.2007, 8:44 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เท่าที่ผมเคยทราบ

การอธิฐานจิตร จากผู้ที่มีสมาธิสูง สามารถที่จะอธิฐานจิตรหรือแสดงอิทธิฤทธิ์ตามต้องการได้ แต่หาผู้เชื่อถือได้ยาก เนื่องจากเป็นเรื่องที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้ แต่เรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้นั้นอาจจะมีอยู่จริงก็เป็นได้ (จากประสบการณ์) แต่อำนาจสมาธินั้น ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ใครก็สามารถอธิฐานจิตรได้เช่นกัน แต่จะอธิฐานได้ผมมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับกำลังฌาณหรือกำลังสมาธิที่มี ผมไม่ขอยืนยัน ถ้าใครอยากทดสอบจริง สามารถทดสอบได้ตามใจต้องการ แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับกำลังสมาธิ แต่ผมเชื่อว่าผู้ที่ทำได้เช่นนั้น ไม่จำเป็นจะต้องมาอธิฐานจิตรเล่นๆให้ใครดู ให้ใครเชื่อ เนื่องจากท่านผู้นั้นละหลายๆสิ่งได้แล้ว ถ้าต้องการจะทราบควรปฏิบัติเองน่าจะเห็นแจ้งมากกว่า "การทราบด้วยปัญญาน่าจะดีกว่าการทราบด้วยสัญญาเป็นไหนๆ"

สิ่งที่แน่นอนที่สุดคือการมีสติอยู่ทุกขณะ เป็นการป้องกันภัยชั้นเลิศอยู่แล้ว การยึดมั่นวัตถุเป็นความเชื่อ ศัทธา ของแต่ละบุคคลครับ ซึ่งสามารถเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวทางใจได้ เปรียบเสมือนอุบาย ตามอุปนิสัยของแต่ละบุคคลครับ
 
ยังสับสน
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 13 เม.ย.2007, 11:09 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ตกลงอย่างไรถูกครับ
 
ยังสาละวน
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 14 เม.ย.2007, 12:33 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

* รุ่นที่ยังไม่แห้งและผู้คนขอเงินที่จองไว้คืน "ถูกสุด" อ่ะ * ร้องไห้

แต่ถ้าถามว่าสิ่งใด "ดี" ที่สุด ตอบว่า "พระรัตนตรัย ล้ำเลิศประเสริฐที่สุด" อ่ะจ๊ะ

สู้ สู้
 
aratana
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 02 พ.ย. 2006
ตอบ: 90
ที่อยู่ (จังหวัด): ร้อยเอ็ด

ตอบตอบเมื่อ: 15 เม.ย.2007, 8:44 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ผู้เลื่อมใสในพระพุทธแท้แล้ว (นับแต่กระแสพระโสดาบันขึ้นไป)

ย่อม ยกจิตออกนอก ฤกษ์ยาม ของขลัง โดยสิ้นเชิง
มิได้เกิดจากการบังคับ
แตเกิดเองในจิต ที่ไม่ฝักใฝ่ ด้วยเห็นความไร้ประโยชน์
และที่เกิดตามมา คือความสงสาร แทนความ เกลียดหรือชังผู้ ใช้อยู่ในฤทธิ์นั้น

โดยอัตโนมัติ....

นั่นคือพุทธแท้
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ชินภพ พิมพะกร
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 17 ธ.ค. 2006
ตอบ: 67

ตอบตอบเมื่อ: 17 เม.ย.2007, 4:12 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

นานาจิตตังครับ ถ้าทำในความพอดี ก็จะดี ความพอคือความดี
 

_________________
ทำทุกวันให้ดีที่สุด ยึดหลักกตัญญูรู้คุณเป็นคุณธรรมประจำใจ คนมีทั้งดีและไม่ดี ใช้ด้านดีอยู่ร่วมกันอย่างเป็นหนึ่งเดียว ควบคุมด้านไม่ดีอย่าให้มีผลกระทบ พลาดพลั้งไป กลับตัวกลับใจ เพื่อเรียนรู้การให้อภัย เริ่มต้นที่ตนเอง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailMSN Messenger
จิตงาม
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 06 มี.ค. 2007
ตอบ: 86

ตอบตอบเมื่อ: 17 เม.ย.2007, 4:49 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ยิ้ม เห็นด้วยกับจขกท.นะ

การสร้างเครื่องรางของขลัง มันเป็นเรื่องการหาเงินเข้าวัดอยู่แล้ว ถ้าอยู่ๆพระท่านขอบริจาคเงินสร้างโน่นนี่โดยไม่มีอะไรแลก คนจะบริจาคไหมล่ะ ท่านก็เลยคิดเรื่องนี้แหละมาเป็นกลยุทธ์หาเงินเข้าวัด ยิ่งบอกว่าขลังสะเด็ด ปั่นราคาสักนิด คนก็บ้า บริจาคไม่อั้นเช่นกัน

เมื่อคนรู้แกว ก็เลยเอาวิธีนี้ล่ะ มาหลอกหาเงินคนบ้าเครื่องรางซะ

เราเอง เมื่อวันก่อนไปวัดมา ก็เห็นพระท่าน วางพระเมตตาอยู่ในตู้เช่าบูชา เราก็กลับมานอนคิดนั่งคิดสองคืนล่ะ จะไปเช่ามาบูชาดีไหม ไว้สวมคอ จะได้มีคนเห็นคนเมตตา รักเราบ้างไง เห็นไหมล่ะ คนมีปมไม่มีคนรักก็งี้แหละ เลยต้องยึดเครื่องราง ไว้ให้อุ่นใจ พระก็ทำออกมาให้บูชา เงินก็มีไหลเข้าวัดได้เรื่อยๆ

โปรดสังเกต เครื่องราง ย่อมอยู่กับคนมีปมด้อย คนไม่รู้จักพอในสิ่งที่มี บางคนมีแล้วไม่นำไปบูชา ก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร ขี้เกรียจไม่ทำงาน ต่อให้บูชาที่ว่าขลังๆ คงจะรวยเพราะถูกหวยมั้ง แต่กว่าจะรวย ก็ต้องลงทุนหลายเหมือนกันนะ ไม่เชื่อคิดดูเอาเอง
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ชินภพ พิมพะกร
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 17 ธ.ค. 2006
ตอบ: 67

ตอบตอบเมื่อ: 17 เม.ย.2007, 8:17 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ชอบคุณจิตงามมากครับ ตรงดี ปมด้อยมีทุกคน แต่ไม่ทุกคนที่รู้จักพอ คนที่พอจะมีความสุข ของจะขลังหรือไม่อยู่ที่ใจ ของดีอยู่กับใจดี ยังละไม่หมดมีบ้างก็ไม่เสียหาย สำคัญให้รู้มามีไว้เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจให้ทำความดี บางทีมีแล้วหายอยาก คือความอยากมี แล้วเติมสัดส่วนความพอดีเข้าไป ปฏิกิริยาทางเคมีที่ได้คือความดีใจ พอใจ สุขใจ เติมความอยากด้วยความมี อย่างพอดี
 

_________________
ทำทุกวันให้ดีที่สุด ยึดหลักกตัญญูรู้คุณเป็นคุณธรรมประจำใจ คนมีทั้งดีและไม่ดี ใช้ด้านดีอยู่ร่วมกันอย่างเป็นหนึ่งเดียว ควบคุมด้านไม่ดีอย่าให้มีผลกระทบ พลาดพลั้งไป กลับตัวกลับใจ เพื่อเรียนรู้การให้อภัย เริ่มต้นที่ตนเอง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailMSN Messenger
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง