กรรมการมส.หนุนวธ.จัดตั้งศูนย์เรียนรู้ศีลธรรมในวัด

ตอบเมื่อ: 15 เม.ย.2007, 4:48 pm

กรรมการมส.หนุนวธ.จัดตั้งศูนย์เรียนรู้ศีลธรรมในวัด

ด้านกรมการศาสนาเตรียมจัดค่ายเยาวชนดูแลโรงเรียนปอเนาะ-
งานศาสนิกสัมพันธ์ 5 ศาสนาลงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้

เมื่อวันที่ 22 มี.ค. 50 พระพรหมวชิรญาณ กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.)
เป็นประธานพิธีเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการแนวทางการบริหารศูนย์การเรียนรู้ศีลธรรมในวัด โดยกรมการศาสนา
(ศน.) กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) จัดขึ้นศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย มีพระเถระผู้ใหญ่ พระภิกษุ สามเณร
เข้าร่วมประชุมกว่า 2,000 รูป พระพรหมวชิรญาณ กล่าวว่า
เห็นด้วยกับการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ศีลธรรมทุกตำบลเพื่อที่นำศีลธรรมกลับคืนมาให้กับเด็กและเยาวชน
เพราะเวลานี้สังคมโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของเยาวชน
ไม่ว่าปัญหาค่านิยมฟุ้งเฟ้อ นำไปสู่พฤติกรรมเลียนแบบ การระบาดของสารเสพติด การก่ออาชญากรรม การทำแท้ง
การฆ่าตัวตายมากขึ้น

“แม้แต่ผู้ใหญ่เองก็ไม่สามารถปรับตัวกับสถานการณ์ปัญหาสังคมขณะนี้ได้
ทางออกที่ดีที่สุดจำเป็นต้องใช้กระบวนการสอนศีลธรรม
เพื่อเป็นกลไกในการป้องกันช่วยส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นและเข้มแข็ง มีทักษะในการดำเนินชีวิต
มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ ยึดศีลธรรม จริยธรรม เป็นตัวตั้ง
อย่างไรก็ดีการดำเนินงานสอนศีลธรรมทุกระดับต้องให้ความสำคัญของการบริหารจัดการมิติใหม่ในเชิงรุก
โดยทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วมเป็นการสร้างเครือข่ายนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิต ไปสู่การเป็นคนดี
มีปัญญาและมีความสุข” กรรมการ มส. กล่าว

คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ รมว.วธ. กล่าวว่า ขณะนี้
วธ.ทำการฟื้นฟูโครงการบูรณาการวัฒนธรรมท้องถิ่นสายใยชุมชนขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
ซึ่งจะนำมิติทางวัฒนธรรมปรับให้เข้ากับศูนย์การเรียนรู้ศีลธรรมในวัด ลงสู่ทุกตำบลให้มากที่สุด
ปัจจุบันมีโครงการบูรณาการฯอยู่ประมาณกว่า 1,000 ตำบล ขณะเดียวกันวัดเป็นศูนย์เรียนรู้ศีลธรรม
ช่วยสร้างจิตสำนึกคุณธรรมให้ กับคนในชุมชน ซึ่งศูนย์ดังกล่าวอยากให้มีกิจกรรมลานวัฒนธรรมต่างๆ
จัดขึ้นในวันโกน วันพระ ทุกวันเสาร์- อาทิตย์ และถ้าเป็นไปได้อยากให้ทางวัดมีห้องสมุดเล็กๆ
เป็นที่ค้นคว้าข้อมูลให้กับคนในชุมชน อย่างไรก็ดี โครงการนี้จะไม่ทำแบบไฟไหม้ฟางอย่างแน่นอน
แม้ว่าตนเองจะไม่มีโอกาสได้สานต่อในวันข้างหน้า แต่จะให้ผู้บริ หารวธ. ดำเนินนโยบายต่อไป

“อนาคต วธ.จะมีบทบาทสำคัญต่อชุมชนทั่วประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่ 3
จังหวัดชายแดนใต้จะให้ความสำคัญเป็นพิเศษเพื่อสร้างความสมานฉันท์แก้ปัญหาความรุนแรง
เกิดความสงบสุขและสันติ
โดยกรมการศาสนาจะจัดโครงการค่ายเยาวชนดูแลโรงเรียนปอเนาะและงานศาสนิกสัมพันธ์ทั้ง 5 ศาสนาลงในพื้นที่ 3
จังหวัดชายแดนใต้ โดยจะคัดเลือกกิจกรรมวัฒนธรรมไปทำจะต้องดูเรื่องความเหมาะสมกับภูมิสังคมแต่ละท้องถิ่น
และความต้องการของชาวบ้านจริงๆ ประสานความร่วมมือกับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)
ด้วย” รมว.วธ. กล่าว

นายปรีชา กันธิยะ อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวว่า ในวันนี้ 22 มีนาคม 2550 กรมการศาสนา
ได้มีการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการแนวทางการบริหารจัดการศูนย์การเรียนรู้ศีลธรรมในวัด ณ
ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย โดยมีพระครูสอนศีลธรรมในโรงเรียนประมาณ 2,000 รูป/คน
เดินทางมาจากทุกจังหวัดร่วมประชุมดังกล่าว การจัดตั้งศูนย์ฯ
ในวัดจะมีชีวิตชีวากลับคืนมาโดยพระสงฆ์ขอให้สนับสนุนการจัดตั้งศูนย์ฯ
กรมการศาสนาจะจัดทำคู่มือแนวทางปฎิบัติงาน จัดอบรมถวายความรู้
โดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องดูแลเอาใจใส่อย่างเต็มที่
ส่วนประชาชนขอให้ช่วยเสนอแนะความคิดเห็นผ่านมายังสภาวัฒนธรรมเพื่อพัฒนาศูนย์ให้ดียิ่งขึ้น
ขณะนี้มีศูนย์การเรียนรู้ศีลธรรมในวัด 1,780 ศูนย์ ตั้งเป้าไว้ให้ครบทุกตำบล 1 ตำบล 1 ศูนย์กว่า 7,000
ตำบลทั่วประเทศในปี 2551 และในปีนี้จะพัฒนาศูย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์
ให้มีบทบาทแกนนำในการจัดกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาที่หลากหลาย สามารถพัฒนาชุมชนให้เข้มแข็งได้
ให้เยาวชนและประชาชนมีคุณธรรม

สำหรับในปีงบประมาณ 2550 กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม
ได้ปรับรูปแบบการดำเนินงานของศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ เป็นศูนย์การเรียนรู้ศีลธรรมในวัด
เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของกรมการศาสนาที่ต้องการให้ศูนย์ ฯ
เป็นศูนย์กลางในการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา
และสามารถตอบสนองนโยบายของรัฐบาลที่เน้นในด้านการมีคุณธรรมนำความรู้ เพื่อแก้ปัญหาของสังคม
และมีการเชื่อมโยงอย่างบูรณาการด้านศาสนา สามารถสะท้อนภารกิจของรัฐบาลทางด้านสังคม
โดยคำนึงถึงหลักความประหยัด เป็นธรรม โปร่งใส และมีประสิทธิภาพ
การที่จะบรรลุผลตามนโยบายรัฐบาลจำเป็นต้องปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมแก่เด็กและเยาวชน
ให้มีความผูกพันกับสถาบันศาสนา
จึงควรส่งเสริมความเข้มแข็งขององค์กรทางศาสนาให้มีบทบาทอย่างเหมาะสมในสังคมสมัยใหม่โดยผ่านทางวัดในชุมชน
ทั้งนี้วัดต้องมีส่วนร่วมในการพัฒนาเด็กและเยาวชนไปพร้อมกับมีการจัดกิจกรรมต่างๆ ทางศาสนา
ซึ่งจำเป็นที่จะต้องใช้กระบวนการสอนเสริมธรรมศึกษาในระดับตรี โท เอก และวิชาอื่นๆ
เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการป้องกันช่วยเหลือส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนตั้งแต่เยาว์วัย
การดำเนินงานสอนเสริมให้สนองเป้าหมายการพัฒนาคุณภาพชีวิตดังกล่าว
จำเป็นอย่างยิ่งที่ศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ต้องให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการ
ตามมิติใหม่ในเชิงรุก ที่มุ่งส่งเสริมให้มีการสอนธรรมศึกษาในระดับ ตรี โท เอก ตลอดจนวิชาอื่นๆ เช่น
ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์ ฯลฯ
การทำงานร่วมกันของกรมการศาสนาและศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ที่จะปรับรูปแบบเป็นศูนย์การเรียนรู้ศีลธรรมในวัด
ตลอดจนสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดซึ่งจะเป็นผู้ปฏิบัติงานร่วมกับกรมการศาสนาจำเป็นต้องมีการประชุมเชิงปฏิบั
ติการฯ เพื่อร่วมกันหาแนวทางการบริหารจัดการ ที่จะเสริมสร้างความรู้ด้านอื่นๆ
ให้เยาวชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นายปรีชากล่าวในที่สุด

สำนักข่าวพระสงฆ์ไทยรายงาย ว่า สำหรับบรรยากาศในช่วงเช้าเวลา 07.30
น.พระสงฆ์และตัวแทนวัฒนธรรมจังหวัดร่วมประชุม พระพรหมวชิรญาร กรรมการมหาเถรสมาคม กล่าวสัมโมทนียกถา
ต่อมา คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวเปิดงาน โดยมีนายปรีชา กันธิยะ
อธิบดีกรมการศาสนา เป็นผู้กล่าวรายงาน เวลา 10.00 น.มีการอภิปรายร่วม มีวิทยากรโดย พระมหาวุฒิชัย
วชิรเมธี พระมหาโชว์ ทัสสนีโย พระเทพวิสุทธิกวี และพระสิงหชัย เป็นผู้ร่วมอภิปราย
ในช่วงบ่ายมี ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา บรรยายพิเศษเรื่อง
ธรรมะกับปรัชญาเศรฐกิจพอเพียง และมีพระราชปัญญามุนี
ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์แห่งประเทศไทย บรรยายเรื่อง
การบริหารศูนย์การเรียนรู้ศีลธรรมในวัด และในช่วงท้ายนายปรีชา กันธิยะ ได้สรุปผลการประชุมและปิดประชุม
สำหรับบรรยายทั่วไปนั้น มีพระภิกษุผู้เป็นครูสอนพระร่วมประชุมกันมากมาย
ซึ่งมีวัฒนธรรมทุกจังหวัดเป็นผู้ประสานงาน ทำให้การดำเนินงานสำเร็จไปตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้

ร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการแนวทางการบริหารจัดการศูนย์การเรียนรู้ศีลธรรมในวัด

กรรมการมส.หนุนวธ.จัดตั้งศูนย์เรียนรู้ศีลธรรมในวัด
ด้านกรมการศาสนาเตรียมจัดค่ายเยาวชนดูแลโรงเรียนปอเนาะ-งานศาสนิกสัมพันธ์ 5 ศาสนาลงในพื้นที่ 3
จังหวัดชายแดนใต้

เมื่อวันที่ 22 มี.ค.50 พระพรหมวชิรญาณ กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.)
เป็นประธานพิธีเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการแนวทางการบริหารศูนย์การเรียนรู้ศีลธรรมในวัด โดยกรมการศาสนา
(ศน.) กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) จัดขึ้นศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย มีพระเถระผู้ใหญ่ พระภิกษุ สามเณร
เข้าร่วมประชุมกว่า 2,000 รูป พระพรหมวชิรญาณ กล่าวว่า
เห็นด้วยกับการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ศีลธรรมทุกตำบลเพื่อที่นำศีลธรรมกลับคืนมาให้กับเด็กและเยาวชน
เพราะเวลานี้สังคมโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของเยาวชน
ไม่ว่าปัญหาค่านิยมฟุ้งเฟ้อ นำไปสู่พฤติกรรมเลียนแบบ การระบาดของสารเสพติด การก่ออาชญากรรม การทำแท้ง
การฆ่าตัวตายมากขึ้น

“แม้แต่ผู้ใหญ่เองก็ไม่สามารถปรับตัวกับสถานการณ์ปัญหาสังคมขณะนี้ได้
ทางออกที่ดีที่สุดจำเป็นต้องใช้กระบวนการสอนศีลธรรม
เพื่อเป็นกลไกในการป้องกันช่วยส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นและเข้มแข็ง มีทักษะในการดำเนินชีวิต
มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ ยึดศีลธรรม จริยธรรม เป็นตัวตั้ง
อย่างไรก็ดีการดำเนินงานสอนศีลธรรมทุกระดับต้องให้ความสำคัญของการบริหารจัดการมิติใหม่ในเชิงรุก
โดยทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วมเป็นการสร้างเครือข่ายนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิต ไปสู่การเป็นคนดี
มีปัญญาและมีความสุข” กรรมการ มส. กล่าว

คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ รมว.วธ. กล่าวว่า ขณะนี้
วธ.ทำการฟื้นฟูโครงการบูรณาการวัฒนธรรมท้องถิ่นสายใยชุมชนขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
ซึ่งจะนำมิติทางวัฒนธรรมปรับให้เข้ากับศูนย์การเรียนรู้ศีลธรรมในวัด ลงสู่ทุกตำบลให้มากที่สุด
ปัจจุบันมีโครงการบูรณาการฯอยู่ประมาณกว่า 1,000 ตำบล ขณะเดียวกันวัดเป็นศูนย์เรียนรู้ศีลธรรม
ช่วยสร้างจิตสำนึกคุณธรรมให้ กับคนในชุมชน ซึ่งศูนย์ดังกล่าวอยากให้มีกิจกรรมลานวัฒนธรรมต่างๆ
จัดขึ้นในวันโกน วันพระ ทุกวันเสาร์- อาทิตย์ และถ้าเป็นไปได้อยากให้ทางวัดมีห้องสมุดเล็กๆ
เป็นที่ค้นคว้าข้อมูลให้กับคนในชุมชน อย่างไรก็ดี โครงการนี้จะไม่ทำแบบไฟไหม้ฟางอย่างแน่นอน
แม้ว่าตนเองจะไม่มีโอกาสได้สานต่อในวันข้างหน้า แต่จะให้ผู้บริ หารวธ. ดำเนินนโยบายต่อไป

“อนาคต วธ.จะมีบทบาทสำคัญต่อชุมชนทั่วประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่ 3
จังหวัดชายแดนใต้จะให้ความสำคัญเป็นพิเศษเพื่อสร้างความสมานฉันท์แก้ปัญหาความรุนแรง
เกิดความสงบสุขและสันติ
โดยกรมการศาสนาจะจัดโครงการค่ายเยาวชนดูแลโรงเรียนปอเนาะและงานศาสนิกสัมพันธ์ทั้ง 5 ศาสนาลงในพื้นที่ 3
จังหวัดชายแดนใต้ โดยจะคัดเลือกกิจกรรมวัฒนธรรมไปทำจะต้องดูเรื่องความเหมาะสมกับภูมิสังคมแต่ละท้องถิ่น
และความต้องการของชาวบ้านจริงๆ ประสานความร่วมมือกับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)
ด้วย” รมว.วธ. กล่าว

นายปรีชา กันธิยะ อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวว่า ในวันนี้ 22 มีนาคม 2550 กรมการศาสนา
ได้มีการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการแนวทางการบริหารจัดการศูนย์การเรียนรู้ศีลธรรมในวัด ณ
ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย โดยมีพระครูสอนศีลธรรมในโรงเรียนประมาณ 2,000 รูป/คน
เดินทางมาจากทุกจังหวัดร่วมประชุมดังกล่าว การจัดตั้งศูนย์ฯ
ในวัดจะมีชีวิตชีวากลับคืนมาโดยพระสงฆ์ขอให้สนับสนุนการจัดตั้งศูนย์ฯ
กรมการศาสนาจะจัดทำคู่มือแนวทางปฎิบัติงาน จัดอบรมถวายความรู้
โดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องดูแลเอาใจใส่อย่างเต็มที่
ส่วนประชาชนขอให้ช่วยเสนอแนะความคิดเห็นผ่านมายังสภาวัฒนธรรมเพื่อพัฒนาศูนย์ให้ดียิ่งขึ้น
ขณะนี้มีศูนย์การเรียนรู้ศีลธรรมในวัด 1,780 ศูนย์ ตั้งเป้าไว้ให้ครบทุกตำบล 1 ตำบล 1 ศูนย์กว่า 7,000
ตำบลทั่วประเทศในปี 2551 และในปีนี้จะพัฒนาศูย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์
ให้มีบทบาทแกนนำในการจัดกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาที่หลากหลาย สามารถพัฒนาชุมชนให้เข้มแข็งได้
ให้เยาวชนและประชาชนมีคุณธรรม

สำหรับในปีงบประมาณ 2550 กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม
ได้ปรับรูปแบบการดำเนินงานของศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ เป็นศูนย์การเรียนรู้ศีลธรรมในวัด
เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของกรมการศาสนาที่ต้องการให้ศูนย์ ฯ
เป็นศูนย์กลางในการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา
และสามารถตอบสนองนโยบายของรัฐบาลที่เน้นในด้านการมีคุณธรรมนำความรู้ เพื่อแก้ปัญหาของสังคม
และมีการเชื่อมโยงอย่างบูรณาการด้านศาสนา สามารถสะท้อนภารกิจของรัฐบาลทางด้านสังคม
โดยคำนึงถึงหลักความประหยัด เป็นธรรม โปร่งใส และมีประสิทธิภาพ
การที่จะบรรลุผลตามนโยบายรัฐบาลจำเป็นต้องปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมแก่เด็กและเยาวชน
ให้มีความผูกพันกับสถาบันศาสนา
จึงควรส่งเสริมความเข้มแข็งขององค์กรทางศาสนาให้มีบทบาทอย่างเหมาะสมในสังคมสมัยใหม่โดยผ่านทางวัดในชุมชน
ทั้งนี้วัดต้องมีส่วนร่วมในการพัฒนาเด็กและเยาวชนไปพร้อมกับมีการจัดกิจกรรมต่างๆ ทางศาสนา
ซึ่งจำเป็นที่จะต้องใช้กระบวนการสอนเสริมธรรมศึกษาในระดับตรี โท เอก และวิชาอื่นๆ
เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการป้องกันช่วยเหลือส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนตั้งแต่เยาว์วัย
การดำเนินงานสอนเสริมให้สนองเป้าหมายการพัฒนาคุณภาพชีวิตดังกล่าว
จำเป็นอย่างยิ่งที่ศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ต้องให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการ
ตามมิติใหม่ในเชิงรุก ที่มุ่งส่งเสริมให้มีการสอนธรรมศึกษาในระดับ ตรี โท เอก ตลอดจนวิชาอื่น ๆ เช่น
ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์ ฯลฯ
การทำงานร่วมกันของกรมการศาสนาและศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ที่จะปรับรูปแบบเป็นศูนย์การเรียนรู้ศ
ีลธรรมในวัด
ตลอดจนสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดซึ่งจะเป็นผู้ปฏิบัติงานร่วมกับกรมการศาสนาจำเป็นต้องมีการประชุมเชิงปฏิบั
ติการ ฯ เพื่อร่วมกันหาแนวทางการบริหารจัดการ ที่จะเสริมสร้างความรู้ด้านอื่นๆ
ให้เยาวชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นายปรีชากล่าวในที่สุด

สำนักข่าวพระสงฆ์ไทยรายงาย ว่า สำหรับบรรยากาศในช่วงเช้าเวลา 07.30
น.พระสงฆ์และตัวแทนวัฒนธรรมจังหวัดร่วมประชุม พระพรหมวชิรญาร กรรมการมหาเถรสมาคม กล่าวสัมโมทนียกถา
ต่อมา คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวเปิดงาน โดยมีนายปรีชา กันธิยะ
อธิบดีกรมการศาสนา เป็นผู้กล่าวรายงาน เวลา 10.00 น.มีการอภิปรายร่วม มีวิทยากรโดย พระมหาวุฒิชัย
วชิรเมธี พระมหาโชว์ ทัสสนีโย พระเทพวิสุทธิกวี และพระสิงหชัย เป็นผู้ร่วมอภิปราย
ในช่วงบ่ายมีดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา บรรยายพิเศษเรื่อง
ธรรมะกับปรัชญาเศรฐกิจพอเพียง และมีพระราชปัญญามุนี
ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์แห่งประเทศไทย บรรยายเรื่อง
การบริหารศูนย์การเรียนรู้ศีลธรรมในวัด และในช่วงท้ายนายปรีชา กันธิยะ ได้สรุปผลการประชุมและปิดประชุม
สำหรับบรรยายทั่วไปนั้น มีพระภิกษุผู้เป็นครูสอนพระร่วมประชุมกันมากมาย
ซึ่งมีวัฒนธรรมทุกจังหวัดเป็นผู้ประสานงาน ทำให้การดำเนินงานสำเร็จไปตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้