Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ไม่ได้เป็นกระทู้ล่อเป้านะครับ อยากรู้ว่า คิดอะไรกันครับ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
Poll :: พุทธศาสนาทุกวันนี้เพี้ยนไปจริงไหม

จริง อย่างไร
66%
 66%  [ 2 ]
ไม่จริง อย่างไร
33%
 33%  [ 1 ]
คะแนนทั้งหมด : 3


ผู้ตั้ง ข้อความ
meehuajai
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 09 เม.ย. 2007
ตอบ: 7

ตอบตอบเมื่อ: 11 เม.ย.2007, 12:14 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คือผมสงสัยมาตั้งแต่เริ่มจำความได้ว่า ตัวเองนับถือศาสนาพุทธครับ ว่า..

ก่อนไปคำถามนี้ ขอเกริ่นนำนิดนะครับ
คนปกติ ทุกคนส่วนใหญ่ เวลาเรามีอะไรดีๆ เรามักแบ่งให้คนที่เรารักใช้ไหมครับ

ถ้าเราไม่เป็นคนเห็นแก่ตัวจนเกินไป เช่น มีหนังสือ ดี กินอาหารอร่อย
ถ้าเรายังมีหัวใจ เราก็จะอยากให้คนที่เรารัก เรารู้สึกดีๆ ได้สิ่งดีๆ นั้น ด้วยใช้ไหมครับ

เราอยากให้คนที่เรารักก่อนใช้ไหมครับ

เอาขั้นนี้ก่อนนะครับ ใครเห็นด้วยกับตรรกะ ที่รู้สึกเบื้องตนที่กล่าวไปแล้วจะได้เข้าประเด็นต่อไปครับ ที่ผมสงสัย และอยากรู้มา นาน ว่าท่านผู้รู้ ผู้ศึกษาธรรมทั้งหลายคิดเห็นกันเช่นไรครับ

ว่า ถ้าพระพุทธศาสนาดีจริงๆ
ทำไม ตอนที่พระพุทธองค์ท่าน ตรัสรู้แล้ว ท่านไม่รีบให้ พระธรรมที่ดีเหล่านั้นที่ท่านได้ตรัสรู้
กับลูกเมีย หรือ พ่อแม่ ที่ท่านก่อนครับ

นี้แหล่ะครับความสงสัย
ขอโปรดชี้แนะครับ


ขอบคุณครับ

ขอจง มีหัวใจ ให้ธรรมดล
มโนมัย คน มีหัวใจ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Email
เศษพุทธทาส
บัวใต้น้ำ
บัวใต้น้ำ


เข้าร่วม: 08 เม.ย. 2007
ตอบ: 121

ตอบตอบเมื่อ: 11 เม.ย.2007, 9:58 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ก็เพราะว่าท่านไม่เลือกที่รักไม่มักที่ชัง

จิตใจของท่านอยู่ด้วยสุญตาวิหาร ไม่รักใครไม่เกลียดใคร

สรรพสัตว์ทุกผู้ทุกนามทุกตนเท่ากันหมด

ท่านมีญาณที่สามารถรู้ได้ว่าคนไหนจะบรรลุธรรม ผมจำไม่ได้ว่าตอยไหนบ้างที่พระพุทธองค์ทรงรู้แล้วก็ไปโปรด สาธุ
 

_________________
ทำวันนี้ให้ดีและต้องรู้ไว้ว่า ทำดีเพื่อดี ทำหน้าที่เพื่อหน้าที่ อุปสรรคไม่มี บารมีไม่เกิด
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ลูกพระพุทธ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 11 เม.ย.2007, 11:00 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

-เป็นวิธีเผยแผ่ธรรมะ คือสิ่งที่ท่านรู้มาต่างจากความเชื่อถือของคนสมัยนั้น

แม้แต่พ่อแม่ลูกเมียก็นับถือพราหมณ์อยู่
แล้วการที่จะเอาสิ่งใหม่ๆ แปลกๆ ไปบอกแก่คนใกล้ชิดให้เชื่อ จึงเป็นไปได้ยาก เพราะทิฏฐิคน เป็นพ่อเป็นแม่
เป็นลูกเรา
เป็นผัวเรา
เป็นพ่อเรา
ความเป็นกันเองนี้เองปิดหูปิดตา ไม่ยอมรับคำสอนหมดแล้ว

-ท่านจึงเริ่มเผยแผ่จากคนนอกไปก่อน
หลังจากคนนอกยอมรับนับถือแล้ว
กิตติศัพท์ชื่อเสียงก็จะกระฉ่อนกะจอนกะจายไป... เข้าหูพ่อแม่เป็นต้น

ก็จะเริ่มศรัทธาขึ้น (ว่าเออ ลูกเราเก่งจริงดีจริง ถ้าไม่อย่างนั้น พระราชามหากษัตริย์เมืองอื่นและประชาชน เจ้าลัทธิต่างๆ จะยอมทิ้งของเดิมมานับได้อย่างไร)

นี่เป็นแผนของพุทธะ เป็นวิธีการณ์ของพุทธะ

-หลังจากนั้นก็เข้าวังแสดงธรรมแก่คนใกล้ชิด
 
ชัยพร พอกพูล
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2006
ตอบ: 73
ที่อยู่ (จังหวัด): กรุงเทพฯ

ตอบตอบเมื่อ: 11 เม.ย.2007, 11:06 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อย่างที่คุณเศษพุทธทาสนั้นถูกต้องแล้วครับ พระพุทธองค์ท่านจะไปโปรดผู้ที่สามารถบรรลุธรรมได้โดยง่ายก่อน โดยเฉพาะครูอาจารย์ที่เคยสอนพระองค์มาก่อน เสียดายท่านเหล่านั้นสิ้นบุญไปก่อนจะได้เห็นธรรม ท่านไม่ได้เลือกว่าครอบครัวฉัน ฉันต้องกลับไปโปรดก่อนน่ะครับ

ส่วนอันนี้ก็เป็นคำถามที่เพื่อนของผมที่เข้ารีตเป็นคริสต์เคยถามในเรื่องอะไรทำนองนี้เหมือนกัน แต่เขาถามถึงตอนที่พระพุทธองค์เสวยชาติเป็นพระเวชสันดรตอนที่ท่านประทานกรรหาและชาลี(ขออภัยผู้รู้ทุกท่านหากเขียนผิดครับ) ให้แก่ชูชกว่า การที่ท่านยกลูกทั้ง 2 ของท่านแก่ชูชกนั้น ท่านไม่รักลูกสงสารลูกของท่านบ้างเลยหรือ รู้ทั้งรู้ว่าเด็กทั้ง 2 ต้องไปตกระกำลำบากเพราะการให้ทานของท่าน ข้อนี้ผมก็อึ้งเหมือนกันไม่รู้จะตอบอย่างไรดี วานท่านผู้รู้ช่วยตอบอีกคำถามนึกด้วยแล้วกันครับ ผมจะได้นำแสงเทียนนี้ไปส่องสว่างแก่เพื่อนของผมอีกต่อหนึ่ง ขอบคุณล่วงหน้าครับยิ้มเห็นฟัน
 

_________________
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Email
มือใหม่หัดธรรม
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 11 เม.ย.2007, 4:16 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ก่อนอื่นท่านที่ตั้งคำถามนี้ต้องแยก คำว่าศาสนากับศีลธรรมให้ออกจากกันก่อนนะคะ ถึงจะเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง ก่อนอื่นจะยกตัวอย่างคร่าวๆให้ฟังก่อนนะคะ

ศีลธรรม คือข้อปฎิบัติที่สังคมตั้งขึ้นมาเพื่อความสงบสุขใขสังคม ต้องเข้ากับคนอื่นได้ต้องทำตัวไม่ให้คนอื่นเดือดร้อน ต้องๆๆๆเพื่อคนอื่น และสังคม ค่ะ อย่างเช่น ศีล 5 นี่ก็ยังอยู่ในขั้นศีลธรรมอยู่นะคะ(เพราะเป็นพื้นฐานของคนดีมีศีลธรรมค่ะ)

ส่วนศาสนา คือข้อปฏิบัติเพื่อมุ่งสู่ความหลุดพ้น ไม่เกี่ยวกับพิธีกรรมอะไรต่างๆนะคะ อยู่ที่ตัวเราเอง อย่างที่คุณถามว่าพระเวชสันดร ทำไมถึงให้ทานลูกแก่ชูชก นั้นฉันก็เคยคิดเหมือนกันว่าท่านทำไมไม่สงสารลูกเลย แต่พอฉันได้ศึกษาคำสอนของท่านพุทธทาส ที่ท่านสอนให้แยกคำว่าศีลธรรมกับศาสนาออกจากกันแล้วจึงเข้าใจ ว่า กว่าที่พระพุทธเจ้าท่านจะตรัสรู้นั้นท่านได้ตั้งจิตอธิฐานมาไม่รู้กี่กัปล์กี่กัลย์จนมาถึงชาติสุดท้ายนี้ ท่านก็สงสารลูกอยู่เหมือนกันนะไม่ใช่ว่าท่านไม่สงสาร แต่ถ้าท่านไม่เสียสละในส่วนนี้ท่านก็ไม่สามารถที่จะตรัสรู้เพื่อมาเป็นพระพุทธเจ้า เพื่อช่วยเหลือคนเกือบทั้งโลกให้เห็นทางสว่างแห่งชีวิตได้

ก็อธิบายได้ประมาณนี้ล่ะนะคะ คือว่าถ้าอยากรู้เพิ่มเติมก็ไปหาอ่านคู่มือการปฎิบัติธรรมฉบับสมบูรณ์ของท่านพุทธทาส ได้นะคะ

ขอความสุขจงมีแก่ผู้เห็นทางธรรม
 
ผู้เยี่ยมชม






ตอบตอบเมื่อ: 11 เม.ย.2007, 6:40 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ส่วนอันนี้ก็เป็นคำถามที่เพื่อนของผมที่เข้ารีตเป็นคริสต์เคยถามในเรื่องอะไรทำนองนี้เหมือนกัน แต่เขาถามถึงตอนที่พระพุทธองค์เสวยชาติเป็นพระเวชสันดรตอนที่ท่านประทานกรรหาและชาลี(ขออภัยผู้รู้ทุกท่านหากเขียนผิดครับ) ให้แก่ชูชกว่า การที่ท่านยกลูกทั้ง 2 ของท่านแก่ชูชกนั้น ท่านไม่รักลูกสงสารลูกของท่านบ้างเลยหรือ รู้ทั้งรู้ว่าเด็กทั้ง 2 ต้องไปตกระกำลำบากเพราะการให้ทานของท่าน

อืมม์ ตอบแบบนี้ดีไหมครับ

สงสัยพระเวชสันดรคงมีญาณหยั่งรู้กระมังครับ ว่านี่เป็นกรรมของลูกทั้งสอง แม้นยกให้ก็เพียงชั่วคราว พอหมดกรรมของลูกน้อยแสนอาดูรแล้วคงได้กลับมาอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขอีก

สาธุ มีสิ่งไรสงสัยแบบนี้ เอามาโพสช่วยกันแก้ไขน่าจะดีครับ
 
เขม
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 11 เม.ย.2007, 8:37 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

จะลองเดาใจพระเวสสันดร

-แต่จะเล่านิทานเรื่องหนึ่งประกอบก่อน

-มีพ่อแม่พร้อมด้วยลูกน้อย พากันเดินข้ามทะเลทรายอันร้อนระอุด้วยเปลวแดด ฯลฯ

-ขณะที่พ่อแม่ พาลูกน้อยรอนแรมอยู่กลางทะเลทรายนั้น

เด็กทนความกรากกรำไม่ไหว ทนความอดอยากไม่ได้ ตายลง ...

-พ่อแม่รักลูกทุกคน..

สองผัวเมีย เห็นลูกรักตาย จึงร้องไห้ปานใจจะขาดรอน

แต่พอคลายเศร้าโศกลงแล้ว จึงปรึกษากันว่า เสบียงกรังเราก็หมดแล้ว
การที่พวกเรา จะมีชีวิตอยู่รอดอยู่ได้จำต้องมีอาหาร ไม่อย่างนั้นคงตายเพราะความหิวในที่นี้แน่

-การจะฝังศพลูกน้อย เนื้อ (ลูก) ก็จะเสียไปเปล่า ๆ ไม่ได้ประโยชน์อันใดเลย ฯลฯ
จึงนำเนื้อลูกมากินเป็นอาหาร

ทั้งสองผัวเมีย จึงกินเนื้อลูก... กิน...ทั้งน้ำตา ฯลฯ...

-พระเวสสันดร ก็เป็นปุถุชน จะไม่รักลูกย่อมเป็นไปไม่ได้

รักลูกก็รัก
รักโพธิญาณก็รัก
แต่ความรักในโพธิญาณมีมากกว่า... ฯลฯ จึงได้สละลูกน้อยให้ผู้ขอไป เพื่อโพธิญาณ

-แต่ท่านมิใช่คนโง่ คงมองเห็นว่า เป้าหมายของชูชกต้องการคนไปรับใช้เมีย แต่ใครจะรู้ว่า ขณะที่ชูชกพาลูกทั้งสองเดินทางรอนแรมไปนั้น อาจมีใครสงสารเด็ก มาซื้อลูกด้วยเงินทองที่มากพอ

-ชูชกมีหรือจะเอาเด็ก เอาเงินเอาทองมิดีกว่าหรอ

-คิดดังนี้ พระเวสสันดร จึงตั้งราคาลูกทั้งสองไว้...จำตัวเลขไม่ได้

-ชาวบ้านชาวช่องธรรมดาที่ไหน จะมีเงินมีทองมากพอจะซื้อได้ แล้วจะซื้อเอาไปทำอะไร แล้วใครจะกล้าซื้อ เพราะรู้จักเด็กทั้งสองว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร

ชาวเมืองจะไม่นำข่าวนี้ไปทูลพระราชา (บิดาของเวสสันดร) ดอกหรือ

ปู่..ย่า จะไม่ซื้อหลานคืนดอกหรือ

-ถ้ามองในแง่ธรรมาธิฐาน..
การที่บุคคลจะบรรลุจุดหมายทางใจสักอย่างหนึ่ง หรือจะเอาชนะกิเลสได้ จิตใจจะต้องเด็ดขาดแน่วแน่ ตัดรักตัดอาลัยได้
ถ้ายังติดนั่นติดนี่ จิตใจจะแน่วแน่ต่ออารมณ์ธรรมะได้อย่างไร
 
โจ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 12 เม.ย.2007, 1:05 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ไม่ว่าราหุลหรือเทวฑัต พระพุทธเจ้าก็ทรงรักเท่าๆกัน
 
meehuajai
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 09 เม.ย. 2007
ตอบ: 7

ตอบตอบเมื่อ: 13 เม.ย.2007, 6:45 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ยังงงอยู่ครับ ขอเอาไปคิด ก่อนนะครับ
สงสัยอะไร จะเอามาถามอีกรอบครับ

ขอบคุณมากครับ ที่ชี้แนะครับ

มโนมัย คน มีหัวใจ ครับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Email
meehuajai
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 09 เม.ย. 2007
ตอบ: 7

ตอบตอบเมื่อ: 13 เม.ย.2007, 7:00 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สุญตาวิหาร อันนี้เป็นอย่างไรเหรอครับ
เราจะรู้ได้อย่าไร ว่าใจเรา ไปถึงภาวะนั้น มีจุดชี้วัดอย่างไรครับ

สภาวะมันเป็นเช่นไรครับ
ขอคำชี้แนะด้วยครับ

ท่านเศษพุทธทาส
ขอบคุณครับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Email
Atago
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 25 เม.ย.2007, 2:21 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

พระพรหมณ์ขอให้แสดงธรรมโปรดเวนัยสัตว์ คนเปรียบดังบัวสี่เหล่า ผู้ที่สามารถรู้และเข้าถึงธรรมได้นั้นมีอยู่ พระพุทธองค์เลือกแสดงธรรมตามลำดับ
 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง