สงสัย

ตอบเมื่อ: 08 เม.ย.2007, 4:17 pm

"ถ้าต้องการสันติ จงเตรียมพร้อมสำหรับสงคราม" อืมม์

มันหมายความว่าอย่างไร ใครลองวิเคราะห์หน่อยครับ เมื่อรู้ความหมายกันแล้วก็อย่าเอาแต่รู้ ปฏิบัติด้วยผมว่าดีกว่านะครับ

ผู้เยี่ยมชม

ถ้าเป็นสงครามก็เป็นสงครามภายในใจมากกว่าครับ หยุดอารมณ์โกรธ พยาบาท อาฆาต จองเวร
แล้วมาเจริญเมตตาให้ประจำจิต จะทำให้สังคมมีความสันติได้

ตอบเมื่อ: 08 เม.ย.2007, 9:02 pm

อันนี้ผมเห็นด้วยกับคุณผู้รู้มาแล้ววครับ สำหรับการตีความตามแบบพุทธศาสนา ซึ่งอาจตีความออกมาในแบบ หรือแง่อื่นได้เช่นกัน ผมจะรออ่านครับ

ขอทุกท่านจงเจริญในธรรม สาธุ

ตอบเมื่อ: 09 เม.ย.2007, 6:27 pm

ต้องรู้จุดประสงค์ก่อนครับว่าคำถามเน้นหนักไปด้านไหนในทางโลก หรือ ทางธรรม

ถ้าในทางธรรมก็คงตอบอย่างที่ท่านผู้รู้มาแล้วกล่าวไป

แต่ถ้าเน้นหนักไปในทางโลกแนะนำให้ไปหาตำราพิชัยสงครามมาอ่านดีกว่าครับ

ความประมาทเป็นหนทางแห่งความตาย ภิกษุทั้งหลายอย่าประมาท โอวาททางธรรมอันยิ่งใหญ่ก่อนสิ้นใจดับขันธ์ปรินิพพานไปของพระพุทธเจ้าสิทธัตถะ ไม่ประมาทแล้วสันติทางธรรม ( สงบเย็น ) จะเกิดครับ

สาธุ

ผู้เยี่ยมชม

ถ้าต้องการสันติ จงเตรียมพร้อมสำหรับสงคราม

สงคราม ณ ที่นี้ ก็คือ ใจกิเลส นั้นเอง
หากเราชนะ ความสงบ สันติสุขก็จะเกิดขึ้นภายในใจเรา
ยิ่งกว่าสันติสุขจากภายนอกอีก

ผู้เยี่ยมชม

หรือ อาจเเปลความหมายตรงๆ ว่าประเทศควรเตรียมสรรพกำลังไว้ให้พร้อมเสมอหากเกิดศึกสงครามขึ้นมาในอนาคต (ซึ่งปัจจุบันดูเหมือนว่าไม่น่าจะเกิดขึ้นเเล้ว เเต่อนาคตเป็นอนิจจัง...) วันใดวันหนึ่งอาจมีประเทศที่บ้าอำนาจขาดสติลุกขึ้นมารังเเกประเทศอ่อนเเอกว่าก็เป็นได้ ทรัพยากรโลกยิ่งนับวันน้อยลงด้วย

ตอบเมื่อ: 10 เม.ย.2007, 3:54 pm

ตอบแบบความเข้าจัยเฉพาะตน
คิดว่า สงครามที่ว่าคงเป็น กิเลศทั้งหลาย มีสาระพัดอย่าง หลายรูปแบบว่าจะมาในรูปแบบใด
การเตรียมพร้อมสงคราม คือให้รู้ว่ากิเลศมา แล้วรู้ทันมัน จะเกิดสงครามสักกี่ครั้งก็ทัน หรือไม่ทันก็คิดได้โดยเร็ว สันติที่ว่าคงมี สันติในที่นี้คงเป็นความสงบสุขภายในจัย
ยิ้ม

ตอบเมื่อ: 12 เม.ย.2007, 11:37 am

คงเป็นการที่ เราเอาชนะได้ต้องทำอะไรบางอย่างมั้งคับ ก็เลยต้องระวังตัวอยู่ตลอด