ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
จิตงาม
บัวพ้นดิน

เข้าร่วม: 06 มี.ค. 2007
ตอบ: 86
|
ตอบเมื่อ:
04 เม.ย.2007, 2:14 am |
  |
เหตุการณ์สดๆ ร้อนๆ เลยค่ะ วันนี้ได้ไปเดินซื้ออาหารกับเพื่อน บังเอิญเพื่อนเจอเพื่อน ก็เลยปล่อยให้เขาคุยกันตามสบายค่ะ เราแยกออกมาได้พักนึง ก็ได้ยินเสียงเรียกจากเพื่อนว่า ทำบุญผ้าป่าช่วยเพื่อนเขาที พอได้ยินรู้สึกจิตเกิดรำคาญ ฉุนเพื่อนนิดๆ กับการเรียกทำบุญเรี่ยไรซองแบบนี้ ครั้งแรกอยากปฏิเสธ แต่มานึกดูเมื่อไม่บ่อยเลยรับซองมาใส่เงินบริจาคไป
ตอนแรกจะใส่แค่เหรียญ แต่มานึกอีกที ใส่แบงค์ไปก็ไม่ลำบากเราเท่าไร เลยใส่แบงค์ไป ขณะใส่ซองจิตตั้งมั่น หลังทำบุญแล้ว ก็เฉยๆ ไม่รู้สึกยินดียินร้ายกับการได้บริจาคไปครั้งนี้
ยอมรับว่า....ไม่ชอบเรื่องการเรี่ยไรซองทำบุญเลย คือเป็นคนที่ชอบทำบุญด้วยจิตตัวเอง อยากทำ ก็ทำ ถ้ายังไม่อยากทำ ก็จะเฉยไว้ก่อน
ทราบค่ะว่า....ทำบุญต้องรีบทำ แต่การทำบุญด้วยทานบริจาค หากทำโดยไม่มีสติ บางครั้งอาจทำให้ตนเดือดร้อนได้เช่นกัน เงินหมดอดข้าว เพราะมัวแต่ใส่ทานเพื่อหวังผลบุญ แย่นะค่ะแบบนี้
ช่วยแนะที....เราควรใช้คำพูดเลี่ยงการใส่ซองเช่นไร บางทีไม่รู้จักกันเลยนะ เขายังยื่นซองให้ เฮ้อออออ
เลี่ยงและใช้วาจาที่สุนทรีไงดีเอ่ย ใส่เหรียญ ก็โดนแอบด่าในใจ หรือลับหลังว่าขี้เหนียว สำหรับเรามันเหมือนให้พรแย่ๆ นะ |
|
|
|
  |
 |
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
04 เม.ย.2007, 7:27 am |
  |
คงเป็นบุญเก่าแต่อดีตชาติ จึงไปไหนๆ มีแต่ผู้คนมาชวนทำบุญ ดีเสียอีกที่ไม่ต้องนั่งรถนั่งเรือไปทอดกฐินทอดผ้าป่าตามวัดไกลๆ |
|
|
|
|
 |
M1
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
04 เม.ย.2007, 9:47 am |
  |
อือ..ก็แปลกไปอีกแบบ
ผมเคยตั้งจิตอธิษฐานไว้ว่า ใครมาเอยปากขออะไรผม จะเดือดร้อนจริงหรือไม่ก็ตาม ถ้ามีผมก็จะให้ หวังว่าสักวันหนึ่งท่านที่เดือดร้อนจริงๆ ผมจะได้ช่วยพ้นจากทุกข์ยากนั้นได้
ถ้าหากว่าเราตั้งอคติไว้ตั้งแต่ต้นแล้ว หากท่านที่มาขอความช่วยเหลือเดือดร้อนจริงๆ เราก็ต้องปฏิเสธไป ซึ่งน่าเสียดายมาก การทำบุญลักษณะดังกล่าวดนับว่ายากมาก
ลักษณะของคุณจิตงาม เรียกว่าทำบุญโดยบังเอิญหรือทำบุญโดยไม่ได้ตั้งใจ หากเราทำด้วยศรัทธา เมื่อบุญส่งผล ท่านว่าเราจะได้ลาภลอย เช่นถูกหวย ถูกล็อตเตอรี เป็นต้น
แต่อาจจะติดขัดเล็กๆ น้อยๆ เพราะคุณจิตงามไม่ค่อยพอใจในตอนต้น..แหะๆ ล้อเล่น..
ให้ตั้งจิตไว้ใหม่นะครับ ใครบอกบุญที่ไหนเมื่อไร จะทำด้วยความยินดีทันที่ไม่ว่ามากหรือน้อยจะทำทั้งสิ้น ที่นี้เวลาใครมาแจกผ้าป่าซองกฐินไม่มีหนีครับ ด้วยความเต็มใจ ร้อยเปอร์เซนต์
ผมไม่แนะนำให้หลีกเลี่ยงบุญกุศลทุกรูปแบบ ทำแล้วสะบายใจครับ..
โมทนาด้วยนะครับ ที่นำเรื่องนี้มาเล่าให้ฟัง..  |
|
|
|
|
 |
M1
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
04 เม.ย.2007, 9:53 am |
  |
บางที่หน้ากฐินเห็นบางร้านนำเอาถังที่ติดผ้าป่าหรือกฐินมาวางหน้าร้าน ผมเดินผ่านบางครั้งก็เอาเงินร่วมทำบุญกับเขาด้วย เจ้าของถังยกมือสาธุดังลั่นเลยครับ คนเดินไปเดินมาก็ยิ้มแย้มแจ่มใสกันถ้วนหน้าเหมือนกับ สาธุ..โมทนาด้วยครับ อะไรทำนองนี้..  |
|
|
|
|
 |
ป้ากรรมดี
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
04 เม.ย.2007, 10:50 am |
  |
กราบพระพุทธ กราบพระธรรม กราบพรสงฆ์
ป้าไม่สงสัยในการทำบุญ ในการทำความดีค่ะ
เรื่องซองนิถ้าใครบอกบุญป้ามาจะทำตลอดมากน้อยแล้วแต่เรามีเงินมีกำลังในขณะนั้นค่ะ
ป้าเป็นคนที่ชอบทำบุญค่ะถ้ามีโอกาส
บ้างที่ไปเที่ยววัดไทยทางนี้นั่งฟังพระเทศน์ ได้ยินเสียงคนพูดกันข้างหลังกับเพื่อน เขาว่าช่วยใส่ซองทำบุญให้หน่อย ป้ารีบหันหลังกลับไปเลยค่ะ แล้วรีบบอกกับเขาว่าขอซองทำบุญได้ด้วยนะป้าอยากทำบุญร่วมกันด้วย
เมื่ออาทิตย์ที่แล้วป้าไปเที่ยวที่ร้านเพื่อนค่ะ เห็นซองอะไรสีขาว ๆ ป้าก็เลยถามคนที่ร้านอาหารดูว่าซองอะไร มีน้องคนหนึ่งบอกว่าซองทำบุญผ้าป่าบ้านหนูเองค่ะ อ๋ออย่างนั้นหรือนั้นป้าขอร่วมทำบุญด้วยจ้า
อย่าสงสัยในการทำบุญเลยค่ะ
ใครขอบุญบอกบุญมาก็ทำแล้วแต่กำลังของเรา
ผลบุญกุศลจะติดตัวเราไปค่ะไม่ใช่เงินทอง
ผลบุญรักษาญาติธรรมทุก ๆ ท่าน
ป้ากรรมดี  |
|
|
|
|
 |
chanin
บัวใต้ดิน

เข้าร่วม: 27 เม.ย. 2006
ตอบ: 36
ที่อยู่ (จังหวัด): กรุงเทพมหานคร
|
ตอบเมื่อ:
04 เม.ย.2007, 11:32 am |
  |
ไม่ควรเลี่ยง ใส่ซองละ 10บาท หรือ 20 บาท ก็พอ
เพราะว่าเรามีความศรัทธาแค่นี้ ตามกำลังที่เราจะพอเจียดให้
ใครคิดไม่ดีกับเรา อกุศลกรรม ก็เกิดกับเขาเอง |
|
_________________ ตนแล เป็นที่พึ่งแห่งตน |
|
  |
 |
M1
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
04 เม.ย.2007, 12:01 pm |
  |
หวัดดีครับคุณป้ากรรมดี โมทนาบุญด้วยนะครับป้า...สาธุ  |
|
|
|
|
 |
จิตงาม
บัวพ้นดิน

เข้าร่วม: 06 มี.ค. 2007
ตอบ: 86
|
ตอบเมื่อ:
04 เม.ย.2007, 12:13 pm |
  |
ทุกคห. ที่ลงมานี้ อ่านดูแล้วเหมืนคนสามารถทำบุญโดยไม่คิดอะไรเลย คือหวังบุญ แบบปิดตาป่าวค่ะ
การทำบุญ ทำทาน ในความเห็นของตัวเอง มันต้องทำอย่างมีสติ ตามกำลังใจกายของเราด้วยนะค่ะ
ไม่ใช่.....ใครชวนทำบุญ หรือทำบุญเอง ก็ทำมันซะ เหมือนฉากหน้าผู้ใจบุญ แต่ในชีวิตเบื้องหลัง บางครั้งอด บางครั้งครอบครัวเดือดร้อน แต่ตนนั้นมุ่งหน้าเข้าวัดละเลยในหน้าที่ ปล่อยลูกหรือปล่อยชีวิตตนเองดำรงอยู่อย่างยถากรรม ..... เราว่าไม่เหมาะนะ พระพุทธเจ้าท่านยังเคยทรมานตน เพื่อมุ่งความสำเร็จ แล้วที่สุดท่านก็พบว่าท่านเดินผิดทาง
..............................ทางสายกลางคือทางที่ถูกที่สุด...........................
ใน ความรู้สึกตนนั้น จะทำบุญแล้วปลื้มที่สุดหากรู้ที่มาที่ไปขอการบริจาค อย่างชัดเจน หมายถึง คิดจะทำบุญต้องทำให้ถูกทาง ถูกคน ถูกเวลา ถูกๆๆ
การใส่ซอง ช่วยคนแปลกหน้า จิตจึง วางครึ่งๆ ว่า เขาอาจนำไปทำบุญจริงๆ
ยอมรับว่า แม้แต่ตนเอง ก็ไม่ชอบบอกบุญใคร ทั้งๆ ที่ใจอยากบอก เหตุผล.. เกรงใจคนร่วมบุญ กลัวเขาทำด้วยเพราะเกรงใจ (มาร่วมเพราะจิตอยากได้บุญ แต่ครอบครัวเขาไม่ส่งเสริม) กลัวเขามีปัญหา ฯลฯ เพราะยุคนี้เศรษฐกิจแบบนี้ เราเข้าใจ บุญ ไม่ใช่การบังคับ
แม้แต่ตนเองชอบทำบุญ ยังไม่ชอบบอกใครว่าตนสนใจทางธรรม เนื่องจากเบื่อเสียงที่ตามว่า...สงสัยทุกข์จึงเข้าวัด เข้าวัดเพราะหาบุญส่งตนให้โชคดีร่ำรวย ฯ คือมันไร้สาระที่จะได้ยิน คนสรรเสริญ ปนอิจฉา จะดีใจหากคนมุ่งเข้าวัดตาม เพื่อปลง เพื่อหยุด แล้วสนใจที่ความสงบ ไม่ใช่ หวังผล บุญเพื่อลาภยศ
สรุปแล้ววววววว ไงก็ตามเถอะค่ะ ยังขอยืนยันว่า ตนเบื่อพวกเรี่ยงไรจากคนแปลกหน้า หรือจากพวกยัดเยียดจริงๆ ทำให้รู้สึกอย่างที่บอกไป
ถ้าเป็นคนแปลกหน้า แต่เราเกิดศรัทราในตัวเขา ก็เต็มใจร่วมบุญ
มารศาสนามันเยอะ ... ออกมากินแบบนี้กันเยอะ แม้แต่จะทำบุญกับพระสงฆ์ เรายังมองที่ความศรัทราของเราก่อนค่ะ
การโต้แย้ง อย่างมีเหตุผล ไม่ว่าทางธรรม หรือทางใดก็ตาม ย่อมถือว่า บุคคลทั้งหลายได้ร่วมกันแสดงปัญญาของท่านแล้ว |
|
|
|
  |
 |
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
04 เม.ย.2007, 12:39 pm |
  |
บางครั้งบุญเก่ากรรมเก่าคงส่งมาให้พบกันเจอกัน ได้ทำอะไรๆ ร่วมกัน การจะเลี่ยงกรรมเก่าคง เหมือนกับว่าไม่ชดใช้กรรม |
|
|
|
|
 |
M1
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
04 เม.ย.2007, 1:17 pm |
  |
สิ่งใดที่เราทำบ่อยๆ ทำจนชิน เราสามารถทำสิ่งนั้นได้โดยไม่มีความเก้อเขินเลย
การทำบุญก็เช่นกัน การทำบ่อยๆ จนเคยชิน ทำให้ทุกอย่างเป็นไปเองแบบธรรมชาติ ไม่มีเสแสร้ง
ซึ่งทำให้คนอื่นที่นาน ๆ ทำที มองแบบเป็นตัวประหลาด เช่น การช่วยคนตาบอดข้ามถนน ๑๐๐ คน มี ๑ คนที่พาข้ามไปแบบเฉย ๆ อีก ๙๙ คนมองว่าทำได้อย่างไร ? ทำเอาหน้า ทำเอาเด่นหรือเปล่า ? ลุกให้คนอื่นนั่งบนรถเมล์ คนอื่นมองจนกลายเป็นตัวตลกไปเลย จนไม่กล้าลุกให้ใครนั่งอีกเลย
เมื่อเอา การทำดีแบบเอาเด่น ทำเอาหน้า เป็นตัวตั้ง ทำให้การมองคนอื่นทำบุญทำทาน เป็นการเอาหน้า เอาเด่น ตัวเองก็เลยพลอยทำบุญแบบกังขา ไม่กล้าทำบุญ ไม่กล้าชวนใครทำบุญ จะทำสักทีคิดแล้วคิดอีก เพราะมองคนอื่นอย่างมีอคติ ตัวเองทำบุญยังกังขาว่าไม่เป็นบุญ เรียกว่า วิจิกิจฉา
อย่าสงสัยในบุญของผู้อื่นหรือของตัวเอง ตัวเองทำเองย่อมรู้เอง อย่าไปรู้เรื่องที่ผู้อื่นเขาทำ เพราะเขาทำเขาก็รู้เอง ตัวเองทำไม่ได้คนอื่นก็ทำไม่ได้ด้วยหรือ
ในชาดกหลายเรื่องกล่าวถึงทาน ทานจนหมดตัว ทานลูกทานเมีย ทานแม้แต่ชีวิตตัวเอง คุณจิตงามสงสัยไหมว่า ทำไมท่านทำได้ แล้วเราๆ ท่านๆ ทำไม่ได้ ท่านทำเอาหน้า ทำเอาเด่นหรือเปล่า?
 |
|
|
|
|
 |
v
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
04 เม.ย.2007, 2:59 pm |
  |
ไปงานศพ นั่งฟังพระเทศน์ตั้งใจว่าจะทำบุญติดกัณฑ์เทศน์ ( เขียนถูกไหม ) สัก 500 บาท เห็นใครๆเขาใส่กันไม่ถึง เกือบจะเปลี่ยนใจตามๆเขาแล้ว แต่ความตั้งใจอยากจะทำตามที่ตั้งใจมีมากกว่า ก็เลยไม่เปลี่ยนใจ.......................ต่อมาไม่นาน ได้ข่าวดี.....สลากออมสินที่ซื้อไว้ ถูกรางวัล ห้าพัน ปาฏิหาริย์หรืออะไร |
|
|
|
|
 |
จิตงาม
บัวพ้นดิน

เข้าร่วม: 06 มี.ค. 2007
ตอบ: 86
|
ตอบเมื่อ:
04 เม.ย.2007, 5:48 pm |
  |
คุณM1 อ่านคำถามของเราไม่กระจ่างรึป่าว
ส่วนคุณ ท่านอื่น ก็ตอบยังไม่โดนใจ และยังคิดว่าไม่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องบุญ ในความเห็นเรานะ
คุณผู้มาเยี่ยม ทำบุญตามจิตที่ตนต้องการ นั่นแหละถูกต้องล่ะ ส่วนดวงดีขึ้นมา เพราะเฮงๆๆไง
เราไม่ชอบทำบุญเอาหน้า แต่ชอบทำบุญให้ตัวเราสุข แล้วชอบให้ตนอื่นสรรเสริญ หากเป็นไปได้นะ |
|
|
|
  |
 |
อุดมชัย แก้วส่องใส
บัวผลิหน่อ

เข้าร่วม: 16 ก.พ. 2007
ตอบ: 5
|
ตอบเมื่อ:
04 เม.ย.2007, 6:47 pm |
  |
กรมศาสนาและสำนักงานพุทธน่าจะออกมาดูบ้างเพราะทุกวันนี้ซองเกลื่อนเมืองเลยจริงบ้างไม่จริงบ้าง อย่าปล่อยให้อลัชชีลอยนวล |
|
|
|
  |
 |
ชินภพ พิมพะกร
บัวพ้นดิน

เข้าร่วม: 17 ธ.ค. 2006
ตอบ: 67
|
ตอบเมื่อ:
17 เม.ย.2007, 9:00 pm |
  |
ทำได้ก็ทำครับ เราไม่เดือดร้อน ห้าบาทสิบบาททำเถอะครับ อาจจะรู้สึกรำคาญอยู่บ้าง แต่แรกเท่านั้นครับ มีน้อยทำน้อย มีมากทำมาก ที่อ่านมาเห็นบอกว่าที่แรกคิดจะใส่แค่เหรียญ แล้วกลับมาคิดว่าใส่แบงค์ก็ไม่ลำบากเท่าไร อันนี้แสดงว่าจิตเดิมแท้ชอบทำ แล้วโอกาสก็จะมีมาให้เรื่อย ๆ อาจเป็นเศษกรรมที่ทำให้หงุดหงิด คิดว่าเอาชนะความเป็นตัวเองสิครับ ทำในสิ่งที่เราไม่คิดว่าจะทำได้ ผ้าป่ากองเล็กทำแล้วสบายใจมั้ยครับ ไม่สำคัญหรอกครับ ว่าทำให้ใคร เค้าจะเอาไปทำอะไร ทำแล้วก็แล้วกัน อย่างน้อยก็ได้ทำ เรื่องเค้าจะเอาไปทำอะไรมันอีกเรื่องนึง เค้าเอาไปทำดี เค้าก็ได้ดี เค้าเอาไปทำไม่ดี เค้าก็ได้ในสิ่งไม่ดี เจตนาเราตั้งมั่นทำดี เราได้ที่ตรงเจตนา แล้วให้จบที่ตรงนั้น ตรงที่ได้ให้ด้วยบริสุทธิ์ใจครับ ผมเองถ้าเห็นผ้าป่า กฐิน ทำได้ทำครับ โอกาสมาแล้ว มากบ้างน้อยบ้าง แล้วแต่โอกาสครับ |
|
|
|
    |
 |
จิตงาม
บัวพ้นดิน

เข้าร่วม: 06 มี.ค. 2007
ตอบ: 86
|
ตอบเมื่อ:
17 เม.ย.2007, 9:45 pm |
  |
...............................เพิ่มเติม ....จากเรื่องเดิมๆ..........................
เรื่องซองผ้าป่าแหละค่ะ เพิ่งไปวัดมาอีกครั้ง เจอคนเดิมนี่แหละ เดินแจกซองผ้าป่าทั้งงาน เธอจะเดินถาม ร่วมทำบุญไหมค่ะ แล้วก็แจกซอง ที่แปลก คือคนนี้กี่งานๆ เธอจะถามเราตลอกเรื่องยื่นซองให้ทำบุญ ด้วยหน้ากึ่งยิ้ม แต่พอหลังรับซองคืนแล้ว เธอก็ชั่งแปลกเหลือเกิน เดินเจอเราที่ไหน เธอจะมองหน้า ด้วยแววตาจ้อง แต่ขาดรอยยิ้ม หรือ เงาเมตตาใดๆ ไม่เรียกจ้อง ไม่รู้จะเรียกอย่างไรดี จ้องจนเราคิดว่า หากเราจ้องตอบกลับไปนานๆ มันจะเกิดเรื่องแน่ เหตุเพราะคนเดี๋ยวนี้ บ้าคลั่งจนเราต้องถอย การถอยมิใช่กลัว เพียงแค่ ถอยเพื่อไม่ให้เกิดเรื่องงี่เง่า อันมิใช่เหตุจะเกิดมากกว่า เออ...มันกลับกลายเป็นว่า เราแพ้ แต่ชั่งเถอะ เราไม่ว่าในเรื่องแบบนี้ แต่ที่สงสัยคือ คนเหล่านี้ ผ่านการอบรมบวชชีพรหมณ์มาแล้ว ทั้งนั้น อยากถามคนที่บวชฯมาว่า เหตุใด คนเหล่านี้ จึงพูดน้อย แต่ใช้การจ้องมองด้วยแววตาจ้องที่ขาดไมตรี จ้องนิ่งๆ ไม่ก็เดินยิ้มเหมือนชั่งสุขใจเหลือหลาย บ้างพูดไปยิ้มไปเกินเหตุอันควร จนเรามองว่า คนเรานี้หลงบุญหรืออย่างไร
จากเหตุการณ์ที่เจอมา ถ้าในครั้งต่อไปเจอหญิงคนนี้แจกซองฯอีก เราปฏิเสธคงไม่บาปมั้ง อีกอย่าง ถ้าเราเจอบรรดากลุ่มที่ผ่านการบวชฯมานี่ ทีนี้เราตั้งใจเลยว่า จะต้องถามให้หายข้องใจ ว่าที่จ้องเรานิ่งๆนานๆ แบบไร้มารยาทนั้น สนใจอะไรเรา หรือ อาจถามเพียงแค่สั้นๆว่า มีอะไรหรือค่ะ เห็นจ้องเดี๊ยนซะนานแสนนาน คราวนี้เป็นเรื่องก็ต้องยอม โอ้ ...แม่เจ้า ไปวัดนะนี่ฉันนนนนนนนนนน  |
|
|
|
  |
 |
ชินภพ พิมพะกร
บัวพ้นดิน

เข้าร่วม: 17 ธ.ค. 2006
ตอบ: 67
|
ตอบเมื่อ:
17 เม.ย.2007, 10:00 pm |
  |
คิดซะว่าเค้าเห็นราศีอันงดงามจากตัวเราครับ อยู่ที่ความคิด สำเร็จด้วยจิต ใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน ทำกับใครก็ช่างครับ สำคัญที่เรได้ทำ ลองอย่างนี้สิครับ คิดว่ายิ่งจ้องเราก็ยิ่งทำ เจออีกทำอีก เอาชนะกิเลสในใจเราเอง เค้าก็เป็นเช่นนั้นเองครับ ถือหลักตถาตา แล้วเราจะสบายใจ อยู่ถึงสวิสเซอร์แลนด์ยังมีโอกาสได้ทำบุญแบบนี้ อานิสงส์สูงครับ คุณจิตงาม โอกาสคุณดีแล้ว อย่าปิดโอกาสตนครับ |
|
|
|
    |
 |
เศษพุทธทาส
บัวใต้น้ำ

เข้าร่วม: 08 เม.ย. 2007
ตอบ: 121
|
ตอบเมื่อ:
18 เม.ย.2007, 12:16 am |
  |
สิ่งที่สหายว่ามามันก็เป็นการไม่ประมาท แต่จงระวังอย่าไปมีอคติกับใครและอย่าไปทำให้ใครเขาต้องปฏิฆะกับเรา และผมว่าสหายน่าจะลองยกเว้นเรื่องบุญไม่ดีกว่าเหรอ
ผมเองก็คล้ายๆกันกับสหายนั้นแหละ
เมื่อสองสามเดือนก่อนผมเดินอยู่แถวตลาดสะพานเหล็ก มีผู้หญิงคนหนึ่งอายุราว30ปลายๆ เธอเขามาหาผมด้วยใจที่คิดว่าผมน่าจะมีจิตเมตตาพอจะช่วยเขาได้
แล้วเขาก็บอกว่า "สวัสดีค่ะ แล้วก็ยกมือไหว้ผม ผมก็ยกกลับ (อายมากผู้ใหญ่ไหว้เด็ก) "
ผมทำท่างงๆแล้วถามว่า "มีอะไรครับ"
"ขอเงินกินข้าวหน่อย ตังกะเช้ายังไม่ได้กินอะไรเลย เดินทางมาหาพี่สาว ยังหาไม่เจอเลย (ในใจผมเฮ้ย!อะไรเนี้ยะ งงมาก)
ตัดสินใจไม่ถูกก็เลยควักเงินให้ไป 50 บาท โอ้ประเสริฐแท้คิดในใจ ช่างมีความสุข
และเมื่อ4วันก่อนเหมือนบุพเพสันนิวาสก็ดนบันดาลให้ผมได้พบเธออีก
ผมจำเธอได้ แล้วก็ยกมือไหว้เด็กมหาลัยอย่างผม จากนั้นก็ "ขอเงินกินข้าวหน่อย ตังกะเช้ายังไม่ได้กินอะไรเลย เดินทางมาหาพี่สาว ยังหาไม่เจอเลย" โอ้ไหงเป็นแบบนี้ เธอจำผมไม่ได้ เพราะอะไร ผมหยุดคำถามไว้ก่อน งงเหมือนเดิม เหมือนเราถูกหลอกยังไงไม่รู้ แต่ไม่กล้าปฏิเสธ จากนั้นก็ตั้งสติได้เลยมองหาร้านขายอาหารตามสั่งแถวนั้น แล้วก็เรียกเขาไป "จะกินอะไรก็สั่งเลยครับ เดี่ยวผมจ่ายให้" รู้ไหมเขาว่ายังไง " อ้อเป็นอิสลามกินหมูไม่ได้"
"งั้นก็สั่งไก่สิครับ"
"ไม่ค่ะ มีน้ำมันหมู"
"ก็บอกเขาไม่ต้องใส่ก็ได้ เดี่ยวผมบอกให้ว่าคุณเป็นอิสลาม"
"อ้อ เดี่ยวไปหาข้าวเหนียวกิน"
"เหรอๆ เออ ครับๆ"
ผมก็คิดในใจว่าถูกหลอก Sure แต่ก็ได้สติคิดขึ้นมาได้ว่า ถ้าเขาไม่จำเป็นเขาคงไม่ทำแบบนี้ เขาคงมีเรื่องที่ต้องใช้เงิน แต่ไม่รู้ทำไง เพราะปัญญาเขามีแค่นั้น เป็นบุพพกรรมของผมที่ต้องเจอแบบนี้ มีโอกาสแล้วก็ช่วยเขาหน่อย คิดเสียว่าเป็นการช่วยเขา อืมดี ก็เลย ยืนยันด้วยการบอกเขาว่ายืนรอแป็บหนึ่ง แล้วผมก็เดินเขาไปใน เซเว่น ใกล้ๆตรงนั้น เพื่อไปซื้อน้ำแล้วก็เอามาให้เขาพร้อมกับเงินเล็กน้อย อีก38บาท แล้วผมก็บอกเขาว่า "นี่ครับ น้ำ อากาศมันร้อน ต้องเดินทางอีกไกลเพื่อคอแห้งนะครับ (ผมควักเงินให้เขา แล้วเขาส่งมือมารับไป) แล้วขอให้เจอพี่สาวนะครับ" เขาก็ยกมือไหว้ผมอีก พร้อมกับคำขอบคุณแล้วก็ไป
ผมไม่รู้ว่าเขาเห็นผมเป็นผู้ที่มีเมตตาพอจะช่วยเขาได้ หรือเห็นผมเป็นไอ้โง่ที่ถูกหลอกเอาง่ายๆกันแน่
แต่มีอย่างหนึ่งที่ทำให้ผมยิ้มได้ก็คือ คำว่าขอบคุณที่ ไม่รู้ว่าจริงใจหรือไม่ก็เท่านั้นเอง
ผมก็อยากจะไปถามคนแถวนั้นดูเหมือนกันว่า เคยเห็นผู้หญิงคนนี้บ้างไหม ถ้าไม่หรืออย่างไรก็จะบอกให้พวกเขาช่วยเตือนคนที่กำลังถูกหลอก
มาคิดดูอีกที ก็ดีเหมือนกัน ว่า เขาคือผู้พิสูจน์คุณธรรมของเรานั้นเอง แม้เขาจะไม่คิดก็ตาม และเป็นการให้คนนั้นได้ทำบุญด้วย แต่ก็อย่างว่าแหละสหายคิดตื่นๆ เราจะปล่อยให้เขาทำกรรมแบบนี้ไปตลอดเหรอ อืม... ผมก็ไม่รู้จะทำไงเหมือนกัน ก็ปล่อยไปแล้วก็คิดแบบนี้
แต่ในกรณีของสหายนะ ผมว่ามันง่ายกว่าของผมเยอะเลยนะ เพราะไงสหายก็น่าจะคิดว่า เขาคงเห็นเราพอจะช่วยเขาได้ เขาเห็นเราน่าจะเป็นผู้มีจิตกุศล อย่าไปคิดอะไรให้มันยุ่งยากเลยครับ สหายบอกเองว่า เป็นคนง่ายๆ สบายๆไม่ใช่หรอ? หรือว่ามันเป็นเพียงประโยคคำพูดที่หามีตัวตนไม่ เอาละผมไม่อยากอธิบายอะไรมากครับ
คงพอคิดออกนะครับ
"ไม่มีผู้ใดในใต้หลาที่จะมาพิชิตผู้ที่มีเมตตาธรรมครับ"
May the Dhamma be with you. ขอธรรมจงสถิตอยู่กับเจ้า สหาย  |
|
_________________ ทำวันนี้ให้ดีและต้องรู้ไว้ว่า ทำดีเพื่อดี ทำหน้าที่เพื่อหน้าที่ อุปสรรคไม่มี บารมีไม่เกิด |
|
  |
 |
จิตงาม
บัวพ้นดิน

เข้าร่วม: 06 มี.ค. 2007
ตอบ: 86
|
ตอบเมื่อ:
18 เม.ย.2007, 1:01 am |
  |
เหตุการณ์แบบคุณเศษฯนี่เราเจอมาแล้วเช่นกัน แล้วใช้วิธีเดียวเช่นคุณเหมือนกัน แล้วมองคนนั้นเช่นคุณเศษเหมือนกัน ปลง..
คุณชินฯ ให้คติดีเช่นกันค่ะ |
|
|
|
  |
 |
|