Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ใครเป็นผู้สร้างโลกกันแน่ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
เศษพุทธทาส
บัวใต้น้ำ
บัวใต้น้ำ


เข้าร่วม: 08 เม.ย. 2007
ตอบ: 121

ตอบตอบเมื่อ: 11 เม.ย.2007, 10:01 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ในศาสนาคริสน์เขาก็ว่าเขาสร้าง ในอิสลามเขาก็ว่าเขาสร้าง ในพุทธว่าเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ สรุปแล้วใครสร้างกันแน่
 

_________________
ทำวันนี้ให้ดีและต้องรู้ไว้ว่า ทำดีเพื่อดี ทำหน้าที่เพื่อหน้าที่ อุปสรรคไม่มี บารมีไม่เกิด
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ผู้เยี่ยมชม






ตอบตอบเมื่อ: 11 เม.ย.2007, 10:46 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

พุทธ คริสต์ อิสลาม โลก (ที่เราอาศัย)
ถามว่า ใครเกิดก่อนกัน

พุทธอุบัติได้แก่ปีแล้ว
คริสต์อุบัติได้กี่ปีแล้ว
อิสลามอุบัติได้แก่ปีแล้ว

แล้วโลกนี้ล่ะเกิดปรากฎได้แก่ปีแล้ว

แล้วใครสร้างใครกันแน่ทีนี้
 
ผู้เยี่ยมชม






ตอบตอบเมื่อ: 11 เม.ย.2007, 10:47 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขำ

ธรรมชาติ สร้าง
 
ชัยพร พอกพูล
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2006
ตอบ: 73
ที่อยู่ (จังหวัด): กรุงเทพฯ

ตอบตอบเมื่อ: 11 เม.ย.2007, 10:48 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เสียดายจัง ไม่มีโอกาสได้อ่านคำสอนต่าง ๆ ของพระพุทธองค์ที่ว่าโลกเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่เท่าที่เคยอ่านหนังสือของหลวงพ่อหลาย ๆ ท่านบอกว่า โลกเกิดจากสภาวะที่เหมาะสมในจักรวาล (จักรวาลก็คงจะเป็นเช่นเดียวกัน) สรรพสิ่งทั้งมวลก็เกิดขึ้นจากสภาวะที่เหมาะสม ซึ่งผมก็ยอมรับเหตุผลข้อนี้ได้มากกว่าที่บอกว่าใครเป็นคนสร้างอะนะครับ ผมคิดว่านี้เป็นคำถามในลักษณะที่ว่าเป็นปัญหาโลกแตก รู้ไปก็เท่านั้น เหมือนกับคำถามที่ชาวคริสต์มักชอบถามชาวพุทธว่ากรรมของสิ่งมีชีวิตตัวแรกในโลกมาจากไหน อะไรทำนองนี้ แต่ก็เป็นคำถามที่ผมอยากรู้คำตอบเช่นกัน คงจะมีท่านผู้รู้ในหลาย ๆ ศาสนามาตอบครับ จะรออ่าน
 

_________________
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Email
ผู้เยี่ยมชม






ตอบตอบเมื่อ: 11 เม.ย.2007, 11:02 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

มันเปนของมันเอง หรือจะเรียกว่า มันอย่างนั้นเอง หรือจะพูดว่า ธรรมดามันเป็นอย่างนั้นเอง ไม่มีสิ่งมีชีวิตไปสร้างสรรมันดอก
 
เศษพุทธทาส
บัวใต้น้ำ
บัวใต้น้ำ


เข้าร่วม: 08 เม.ย. 2007
ตอบ: 121

ตอบตอบเมื่อ: 11 เม.ย.2007, 12:25 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

แม้นี้ถ้าพระพุทธองค์ยังอยู่เราก็จะไม่ต้องมานั่งเถียงกันอยู่หรอกนะ
 

_________________
ทำวันนี้ให้ดีและต้องรู้ไว้ว่า ทำดีเพื่อดี ทำหน้าที่เพื่อหน้าที่ อุปสรรคไม่มี บารมีไม่เกิด
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ผู้เยี่ยมชม






ตอบตอบเมื่อ: 11 เม.ย.2007, 1:02 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เกิดจากเราเองละนะโลกนะเรามี มีเรา เรารู้ ว่ามีก็เกิดมี
 
มาริ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 11 เม.ย.2007, 2:37 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อจินไตย มี ๔ อย่าง
เรื่องโลกคือ ๑ ใน ๔
 
มาริ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 11 เม.ย.2007, 2:40 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อจินไตย

อจินติตสูตร
เล่มที่ ๒๑
[๗๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อจินไตย ๔ ประการนี้ อันบุคคลไม่ควรคิด เมื่อบุคคลคิด พึงเป็นผู้มีส่วนแห่งความเป็นบ้า เดือดร้อน
อจินไตย ๔ ประการเป็นไฉน
ดูกรภิกษุทั้งหลาย

พุทธวิสัยของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ๑
ฌานวิสัยของผู้ได้ฌาน ๑
วิบากแห่งกรรม ๑
ความคิดเรื่องโลก ๑

ดูกรภิกษุทั้งหลาย อจินไตย ๔ ประการนี้แล ไม่ควรคิด
เมื่อบุคคลคิด พึงเป็นผู้มีส่วนแห่งความเป็นบ้า เดือดร้อน ฯ
จบสูตรที่ ๗
 
ผู้เยี่ยมชม






ตอบตอบเมื่อ: 11 เม.ย.2007, 3:17 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

แม้นี้ถ้าพระพุทธองค์ยังอยู่ เราก็จะไม่ต้องมานั่งเถียงกันอยู่หรอกนะ

-ไม่ค่อยมั่นใจตนเองสักเท่าไหร่ว่า ถ้านั่งฟังธรรมอยู่ต่อหน้าพระพุทธเจ้า จะเชื่อหรือไม่เชื่อที่พระพุทธเจ้าพูด

-ครั้งพุทธกาล ผู้ซึ่งฟังธรรมอยู่ต่อหน้าพระพักตร์ ไม่เชื่อพระพุทธเจ้าก็มี
ไม่รู้ว่าเราจะเป็นหนึ่งในนั้นไหม ขำ ไม่มีอะไรแน่
 
เศษพุทธทาส
บัวใต้น้ำ
บัวใต้น้ำ


เข้าร่วม: 08 เม.ย. 2007
ตอบ: 121

ตอบตอบเมื่อ: 11 เม.ย.2007, 4:14 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ธรรมะของพระองค์เท่านั้นที่ดับทุกข์ในใจเราได้ สาธุ
 

_________________
ทำวันนี้ให้ดีและต้องรู้ไว้ว่า ทำดีเพื่อดี ทำหน้าที่เพื่อหน้าที่ อุปสรรคไม่มี บารมีไม่เกิด
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ผู้เยี่ยมชม






ตอบตอบเมื่อ: 11 เม.ย.2007, 4:20 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ใครสร้างโลกกันแน่ ทำไมถึงอยากรู้ รู้แล้วได้อะไรขึ้นมาจากการรู้บ้าง ถึงโลกนี้ใครจะสร้างหรือไม่สร้างเขาก็มีอยู่ธรรมชาติอยู่แล้ว ใครละเป็นคนสร้างพระจันทร์ พระอาทิตย์ สร้างเชื้อโรค สร้างอากาศให้เราได้หายใจ มีอะไรอีกตั้งมากมายหลายหลากในโลกนี้ที่วิทยาศาสตร์ไม่สามารถให้คำตอบได้ สิ่งที่แท้แน่นอนคือคำสอนของพระพุทธเจ้าใครจะเชื่อ ไม่เชื่อไม่ป็นไร แต่เราลองทำตามที่พระพุทธเจ้าสอนแล้ว ไม่มีความทุกข์เลย ไม่มีอดีต ไม่มีอนาคต มีแต่ปัจจุบันเท่านั้น ทำตามที่พระพุทธเจ้าบอก แค่ศิล 5 แค่นั้น แล้วคุณจะรู้ว่า แม้แต่กระทั่งศิล 5 คนเรายังหาที่จะถือไว้ได้น้อยมาก
 
มือใหม่หัดธรรม
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 11 เม.ย.2007, 4:36 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

แหมคุณก็ ใครจะไปสร้างโลกได้ล่ะคะถามได้ถ้าคุณถามว่าใครสร้างโลกแล้วจะถามว่าใครสร้างจักรวาลล่ะคะ ปัญหาโลกแตกจ้า พุทธองค์ท่านก็ได้ได้สร้างโลกหรอกค่ะมันเป็นวิวัฒนาการจ้าอย่างมนุษย์นี้ก็ไม่มีใครสร้างได้หรอกจ้า ไม่มีหรอกมนุษย์เกิดมาหน้าตาเป็นแบบนี้เลยน่ะ หลอกเด็กแล้วจ้านี้สมัยใหนแล้วไม่มีหรอกอดัม อีฟ อะไรน่ะ เราวิวัฒนาการมาจากลิงจ้า คุณขา โลกนี้เราก็อาสัยเค้าอยู่เค้ากินเพื่อสร้างบุญสร้างบาป ตายไปเกิดใหม่ๆๆๆๆๆ เรื่อยๆโลกก็ดับ ก็เกิดโลกใหม่(โลกใหม่ในที่นี้ไม่มีใครสร้างนะคะ คือเกิดจากการเย็นตัวของดาวเคราะห์จ้า) เราก็เกิดขึ้นมาใหม่เพื่อสร้างบุญสร้างบาป ใครทำไปงั้นๆๆๆๆ ก็ตายแล้วเกิดใหม่ๆๆๆๆอยู่อย่างนี้ ไม่รู้จะเกิดเป็นอะไรแล้วแต่บุญกรรมของแต่ละคน ท่านเรียก วัฎจักรสงสาร(การเวียนว่ายตายเกิด) แต่ถ้าใครปฎิบัติตามคำสอนของพุทธองค์เพื่อตั้งมั่นมุ่งตรงสู่นิพพานแล้วล่ะก็เราก็ไม่ต้องห่วงนะคะว่าจะได้เกิดมาเป็นอะไรต่อไป คุณอย่าไปคิดนะคะว่าเป็นสิ่งที่ไกลตัวเพราะถ้าคุณคิดอย่างนี้คุณจะไม่เข้าถึงธรรมที่แท้จริงน่าเสียดายมากที่เกิดมาในร่มโพธิ์แห่งพุทธศาสนา ท่านบอกว่าคนธรรมดาอย่างเรา ไม่ต้องเป็นนักบวชก็สามารถที่จะเห็นนิพพานได้ ไม่เชื่อลองศึกษาดูค่ะ .........นิพพานแค่เอื้อม.............อยู่ที่เราจะตั้งใจเอื้อมมือไปถึงหรือเปล่า

ความสุขจงมีแต่ผู้ไผ่หาทางแห่งธรรม
 
ผู้เยี่ยมชม






ตอบตอบเมื่อ: 11 เม.ย.2007, 5:49 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คำถามโลกแตกครับ หาคำตอบได้ยากยิ่ง

ในพระธรรมบทหนึ่งนั้นพระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า โลกไม่สิ้นสุด ครับ ( การอ่านธรรมต้องดูด้วยว่าคำเทศบทนั้นกล่าวถึงเรื่องของ อัตตา หรือ อนัตตา ไม่งั้นความสับสนจะเกิด )

ฉะนั้นเมื่อโลกไม่สิ้นสุดแล้ว ( อนัตตา ) จักรวาลก็ไม่สิ้นสุด ภพก็ไม่สิ้นสุด สวรรค์ไม่สิ้นสุด นรกไม่สิ้นสุด หาต้น หาปลาย ใดไม่ได้เลย เพราะมันไม่มีที่สิ้นสุด

สาธุ นี่ทุกข์แผลอักเสบใยไม่แก้ มัวแต่ไปมองให้ไกลการณ์ แล้วเมื่อไรสันติแก่ตนจะเกิดเล่า
 
เศษพุทธทาส
บัวใต้น้ำ
บัวใต้น้ำ


เข้าร่วม: 08 เม.ย. 2007
ตอบ: 121

ตอบตอบเมื่อ: 12 เม.ย.2007, 5:38 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ผมถามเล่นๆ ขำๆ ขอโทษทีครับ แต่ก็ขอบคุณจริงๆ เพราะผมได้ขอคิดดีๆจากพวกคุณมากเลยครับ
ถามโง่ๆ แต่ได้คำตอบที่ดีก็คุ้มครับ ดีกว่าถามโง่ๆแล้วเจอคำตอบแบบโง่ๆอีกก็เจ๊งครับ
 

_________________
ทำวันนี้ให้ดีและต้องรู้ไว้ว่า ทำดีเพื่อดี ทำหน้าที่เพื่อหน้าที่ อุปสรรคไม่มี บารมีไม่เกิด

แก้ไขล่าสุดโดย เศษพุทธทาส เมื่อ 12 เม.ย.2007, 6:19 pm, ทั้งหมด 1 ครั้ง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ผู้เยี่ยมชม






ตอบตอบเมื่อ: 12 เม.ย.2007, 6:01 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

จริงเกินไปก็เครียด หามุขบ้างดิ
 
shane116110
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 13 เม.ย.2007, 3:41 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ตามที่ผมได้เรียนมา ได้อ่านมา (รวมๆทั้งที่เรียนจากสายวิทยาศาตร์สุขภาพ ดูรายการธรรมะของศาสนาอื่นๆ และอ่านจากหนังสือธรรมต่างๆ ) คือพออนุมาณเอาเองได้ว่า การเกิดโลกนี้ น่าจะเกิดจากมีความเหมาะสมความพอดี ของะตุและสารต่างๆ ซึ่งมีคุณสมบัติต่างๆ เฉพาะตัวของธาตุเหล่านั้นไป ซึ่งจะเกิดปฏิกิริยา เกิดการกระทำซึ่งกันและกัน จรเกิดเป็นโลก เป็นดาวเคราะห์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถคำนวนได้ จากกฏของนิวตัน (ไมได้หมายถึงว่านิวตันเป็นคนสร้างน่ะครับ) ซึ่งก็แสดงให้เห็นได้ว่ามันเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ไม่มีมครผูไดสร้าง เกิดจากความพอดี ความเหมาะสม ซึ่งแต่ละยุกแต่ล่ะเวลาก็มีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา เช่นมียุกต์น้ำแข็ง ยุกหิน จนถึงยุกต์ปัจจุบัน และก็จะมียุกต์ในอนาคตกาลต่อไปซึ่งเราก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าจะเกิดขึ้นได้อย่างไร และสิ่งมีชีวิตที่อยู่บนโลกนี้ ก็เกิดจากความพอดี + วิวัฒนาการ (การคัดเลือกตามธรรมชาติ natural selection ) ซึ่งการดำรงเผ่าพันธุ์เป็นสิ่งสำคัญที่สุกสำหรับสิ่งมีชีวิตน่ะครับเช่น ต้นไม้ คน หรือ สัตย์ ต่างๆ ถ้าไม่มีการดำรงเผ่าพันธ์แล้วสิ่งมีชีวิตนั้นย่อมไม่มี และการที่ดำรงเผ่าพันธุ่นนั้นก็เกิดจาก การถ่ายทอดทาง DNA และDNA ก็เป็นโครงสร้างธรรมดาซึ่งอาจเกิดจากฟ้าผ่าได้ (ซึ่งสามารถทำการทดลองทำสำเสร็จได้ โดยการจำลองฟ้าผ่าและมีสภาวะที่เหมาะสม ) และการดำรงชีวิตที่เหมาะสมพอดีกับ สภาพแวดล้อมที่เป็นอยู่ ทำให้อยู่รอดได้ ต่อไปและสืบลูกสืบหลานต่อไปได้ก็จะดำรงเผ่าพันธุ์ต่อไปเรื่อยๆ ได้ และในอนาคตก็เช่นเดียวกัน ครับคือว่า สภาพแวดล้อมเปลี่ยนไปสิ่งมีชีวิตที่สามารถปรับเปลี่ยนเหตุที่ทำให้อยู่ได้ สามารถเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้ก็อยู่ได้ ต่อไปครับ

อนึ่งเคยดูรายการทีวี มีคำสอนจากอาจารย์ ที่ไม่ใช่ศาสนาพุทธมากล่าว ว่าร่างกายคนนี้ซับซ้อนยิ่งนัก แยกที่จะมีใครเป็นคนทำหรือเป็นคนสร้างขึ้นมาได้ และตามที่ผมเรียนมาน่ะคับ (อ้างจากวิทยาศาสตร์สุขภาพ ) มันเป็นการคัดเลือดโดยธรรมชาติข้างต้นนั่น แหละคับ ถ้าทุกคนคิดดีๆ ความจริงนี้ คิดได้ง่ายๆ ครับไม่มีไรซับซ้อน

ถ้าอยากคุยรายละเอียด หรือว่าเห็นด้วยหรือโต้แย้ง ยังไงก็ แอดมาคุยกันได้ที่ shawn_da_vet@hotmail.com น่ะคับ

ทุกอย่างเกิดได้เพราะมีเหตุปัจจัย ครับ
 
shane116110
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 13 เม.ย.2007, 3:41 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ตามที่ผมได้เรียนมา ได้อ่านมา (รวมๆทั้งที่เรียนจากสายวิทยาศาตร์สุขภาพ ดูรายการธรรมะของศาสนาอื่นๆ และอ่านจากหนังสือธรรมต่างๆ ) คือพออนุมาณเอาเองได้ว่า การเกิดโลกนี้ น่าจะเกิดจากมีความเหมาะสมความพอดี ของะตุและสารต่างๆ ซึ่งมีคุณสมบัติต่างๆ เฉพาะตัวของธาตุเหล่านั้นไป ซึ่งจะเกิดปฏิกิริยา เกิดการกระทำซึ่งกันและกัน จรเกิดเป็นโลก เป็นดาวเคราะห์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถคำนวนได้ จากกฏของนิวตัน (ไมได้หมายถึงว่านิวตันเป็นคนสร้างน่ะครับ) ซึ่งก็แสดงให้เห็นได้ว่ามันเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ไม่มีมครผูไดสร้าง เกิดจากความพอดี ความเหมาะสม ซึ่งแต่ละยุกแต่ล่ะเวลาก็มีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา เช่นมียุกต์น้ำแข็ง ยุกหิน จนถึงยุกต์ปัจจุบัน และก็จะมียุกต์ในอนาคตกาลต่อไปซึ่งเราก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าจะเกิดขึ้นได้อย่างไร และสิ่งมีชีวิตที่อยู่บนโลกนี้ ก็เกิดจากความพอดี + วิวัฒนาการ (การคัดเลือกตามธรรมชาติ natural selection ) ซึ่งการดำรงเผ่าพันธุ์เป็นสิ่งสำคัญที่สุกสำหรับสิ่งมีชีวิตน่ะครับเช่น ต้นไม้ คน หรือ สัตย์ ต่างๆ ถ้าไม่มีการดำรงเผ่าพันธ์แล้วสิ่งมีชีวิตนั้นย่อมไม่มี และการที่ดำรงเผ่าพันธุ่นนั้นก็เกิดจาก การถ่ายทอดทาง DNA และDNA ก็เป็นโครงสร้างธรรมดาซึ่งอาจเกิดจากฟ้าผ่าได้ (ซึ่งสามารถทำการทดลองทำสำเสร็จได้ โดยการจำลองฟ้าผ่าและมีสภาวะที่เหมาะสม ) และการดำรงชีวิตที่เหมาะสมพอดีกับ สภาพแวดล้อมที่เป็นอยู่ ทำให้อยู่รอดได้ ต่อไปและสืบลูกสืบหลานต่อไปได้ก็จะดำรงเผ่าพันธุ์ต่อไปเรื่อยๆ ได้ และในอนาคตก็เช่นเดียวกัน ครับคือว่า สภาพแวดล้อมเปลี่ยนไปสิ่งมีชีวิตที่สามารถปรับเปลี่ยนเหตุที่ทำให้อยู่ได้ สามารถเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้ก็อยู่ได้ ต่อไปครับ

อนึ่งเคยดูรายการทีวี มีคำสอนจากอาจารย์ ที่ไม่ใช่ศาสนาพุทธมากล่าว ว่าร่างกายคนนี้ซับซ้อนยิ่งนัก แยกที่จะมีใครเป็นคนทำหรือเป็นคนสร้างขึ้นมาได้ และตามที่ผมเรียนมาน่ะคับ (อ้างจากวิทยาศาสตร์สุขภาพ ) มันเป็นการคัดเลือดโดยธรรมชาติข้างต้นนั่น แหละคับ ถ้าทุกคนคิดดีๆ ความจริงนี้ คิดได้ง่ายๆ ครับไม่มีไรซับซ้อน

ถ้าอยากคุยรายละเอียด หรือว่าเห็นด้วยหรือโต้แย้ง ยังไงก็ แอดมาคุยกันได้ที่ shawn_da_vet@hotmail.com น่ะคับ

ทุกอย่างเกิดได้เพราะมีเหตุปัจจัย ครับ
 
ผู้เยี่ยมชม






ตอบตอบเมื่อ: 13 เม.ย.2007, 7:24 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ไม่ใช่คำถามโง่ไร้สาระ หรอกครับ

คำถามโง่เช่นนี้ในอดีตกาล ถ้าเอ่ยถามโดยไม่ดูการณ์ ผู้เอ่ยถามเพียงใคร่รู้เล็กน้อย อาจโดนคนบางกลุ่มจับเผาทั้งเป็น หรือจับแขวนคอตัดศรีษะได้ และบางเสี้ยวของอดีตความเชื่อจำพวกนี้ อาจเป็นชวนของสงครามที่ทำให้คนร้อยหมื่นนองเลือดฆ่าฟันกัน

คำถามของท่านเศษพุทธทาสนี้ จึงไม่ใช่คำถามโง่ แต่เป็นคำถามอันตรายในบางกาล โดยผู้เอ่ยถามไม่รู้การณ์ ไม่รู้ว่าควรถามกับคนกลุ่มไหนเวลาใด ความหายนะจึงเกิดแก่พวกเขาดังจารึกในอดีตโบราณ

สาธุ
 
ผู้เยี่ยมชม






ตอบตอบเมื่อ: 13 เม.ย.2007, 7:26 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

และบางเสี้ยวของอดีตความเชื่อจำพวกนี้ อาจเป็น ชนวน ของสงครามที่ทำให้คนร้อยหมื่นนองเลือดฆ่าฟันกัน

ชนวน ครับ พิมพ์ผิด ขออภัย

สาธุ
 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง