Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ปัญญาสามารถป้องกันคนเห็นแก่ตัวได้หรือไม่ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
วิ
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 20 ก.พ. 2007
ตอบ: 3
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม

ตอบตอบเมื่อ: 20 ก.พ.2007, 11:40 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ในโลกความเป็นจริง หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเจอกับคนเห็นแก่ตัว มากบ้าง น้อยบ้าง แล้วทำอย่างไรเราถึงจะใช้ปัญญาเพื่อปกป้องตนเองจากคนเห็นแก่ตัวได้บ้าง
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ปุ๋ย
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275

ตอบตอบเมื่อ: 21 ก.พ.2007, 12:28 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

กราบสวัสดี คุณวิ

หลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็ปฏิบัติตรงข้ามกับพฤติกรรมของความเห็นแก่ตัว ก็คือ ประพฤติ"ไม่เห็นแก่ตัว" ก็คือ พฤติกรรมที่เห็นแก่ประโยชน์ผู้อื่น มากกว่าเห็นแก่ประโยชน์ตน เราเคยเห็นพฤติกรรมของความเห็นแก่ตัวอย่างไร รู้ว่าเป็นโทษอย่างไรก็เห็นชัดอยู่แล้ว ก็ให้เรียนรู้มาพิจารณาตน ประพฤติปฏิบัติตนที่ไม่เบียดเบียนตน ไม่เบียดเบียน ผู้อื่น และเป็นคุณประโยชน์ต่อผู้อื่น เช่น การทำบุญ การบำรุงเลี้ยงดู การบริจาคทาน ความเมตตากรุณา การอนุเคราะห์ช่วยเหลือ การเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เป็นต้น ก็คือความรัก ความเมตตา นั่นแหละ ไม่ต้องไปเอาชนะความเห็นแก่ตัวของใคร เพียงเพื่อชนะใจตนก็พอ

เจริญในธรรม

มณี ปัทมะ ตารา


ผีเสื้อ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
วิ
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 20 ก.พ. 2007
ตอบ: 3
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม

ตอบตอบเมื่อ: 21 ก.พ.2007, 10:47 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

กราบเรียนคุณปุ๋ย (ผู้ชี้นำแนวทาง)

ถ้าเป็นเช่นอย่างคุณปุ๋ยชี้นำแนวทางให้ นั่นหมายความว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือใจของเราต้องเข้มแข็ง เอาชนะความรู้สึกทุกข์ร้อนที่เกิดจากความเห็นแก่ตัวของคนอื่นใช่หรือไม่ ไม่ว่าเราจะมีโอกาสในการประพฤติตรงกันข้ามหรือไม่ก็ตาม

อยากจะกราบเรียนถามคุณปุ๋ยเพิ่มเติมถึงสิ่งที่ค้างคาอยู่ในใจของข้าพเจ้ามาโดยตลอด คือ การทำความดีแก่บุคคลอื่น นอกจากประโยชน์จะเกิดแก่คนที่เราทำให้แล้ว ประโยชน์นั้นยังทำให้ใจเราเป็นสุข แต่ครั้นพอพบกับคนเห็นแก่ตัว แม้เมื่อทำความดีให้เท่าไรๆ เรากลับเกิดคำถามว่าทำไมเขาเอาแต่รับอย่างเดียว ไม่ใช่ว่าเราจะคิดถึงสิ่งตอบแทนอะไรมากมาย เพียงแค่ความรู้สึกนึกถึงความดีของเราบ้าง เมื่อเขาไม่รู้สึก เราก็ไม่อยากทำ พอเราไม่อยากทำเราก็ไม่รู้สึกเป็นสุข เพราะไม่มีใครได้รับประโยชน์ มันก็จะวนเวียนอยู่อย่างนี้ไม่สิ้นสุด
ดังนั้น ถ้าจะเอาคำชี้นำแนวทางของคุณปุ๋ยมาใช้ ก็คือ เราต้องชนะใจตนเอง ทำได้เท่าไรก็ทำ เหนื่อยก็หยุด ไม่ต้องนำความคิดหรือความรู้สึกของใครมาตัดสินตัวเรา ใช่หรือไม่ค่ะ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ปุ๋ย
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275

ตอบตอบเมื่อ: 21 ก.พ.2007, 2:18 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ทำความดีแล้วเกิดคำถามขึ้นภายใจ ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่ให้คนอื่นรู้สึกนึกถึงความดีของเราบ้าง มันก็ยังอยู่กับความอยากที่จะได้รับผลตอบแทนที่ดีอยู่นั่นเอง ทำความดีให้มันออกมาจากจิตจากใจว่าสิ่งที่เราทำเป็นไปในทางกุศลผลมันก็ย้อนมาที่จิตใจของเราเอง ถ้าทำไปคิดไปมันก็ติดมันก็ข้อง มันติดมันข้องที่ไหน มันก็จิตใจคุณเองนั่นแหละ ทำแล้วไปคิดมาก กลัวคนนั้นจะคิดอย่างนั้น กลัวคนนี้จะคิดอย่างนี้ ใจเราก็ไม่เป็นสุข อย่างนี้ไม่เรียกว่ากุศล

ทางกุศลทำไป ผลจะเป็นอย่างไรก็ช่าง ใครจะคิดอย่างไร เรื่องของความคิดคนอื่น ไม่ใช่เรา คนอื่นจะรับหรือไม่รับเป็นเรื่องของเค้า ความรู้สึกของผู้ใดใครจะทราบเท่าตัวเราเอง จิตเรา อารมณ์ ความรู้สึกเรา ไม่ต้องการแม้ผลตอบแทน ไม่ต้องการแม้คำสรรเสริญเยินยอ มันก็ปล่อยวางได้ สุขหรือทุกข์มันก็ไม่มีความหมาย ดี ไม่ดี ก็ไม่ยึด ปล่อยไปเหมือนท่อระบายน้ำ มันก็ไม่ติดอะไร หากทำได้เช่นนี้ เรารู้สึกอย่างไร คนอื่นก็รู้สึกได้เช่นเดียวกับเรา

เจริญในธรรม

มณี ปัทมะ ตารา


ผีเสื้อ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
ผู้เยี่ยมชม






ตอบตอบเมื่อ: 22 ก.พ.2007, 11:19 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

กราบเรียนคุณปุ๋ย
ต้องขอกราบขอบคุณกับคำสั่งสอนที่ทำให้ข้าพเจ้ารู้เท่าทันใจตนเองได้ดียิ่งขึ้น สาธุ

อยากเรียนถามคุณปุ๋ยช่วยแนะนำแนวทางในการศึกษาจิตของตนเองเพิ่มเติมด้วยค่ะ เพราะแม้คุณปุ๋ยจะแสดงธรรมมาเพียงเสี้ยวหนึ่ง แต่ข้าพเจ้าก็เข้าใจว่าคุณปุ๋ยมีความเข้าใจในธรรมอย่างลึกซึ้งจริง ๆ ทำให้ข้าพเจ้าสนใจอยากจะนำใจของตนเองเข้าสู่หนทางความสุขที่แท้จริงได้
ฃอบคุณค่ะ
 
ปุ๋ย
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275

ตอบตอบเมื่อ: 23 ก.พ.2007, 12:23 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

กราบสวัสดีค่ะ คุณวิ

ก็อย่างรายละเอียดที่คุณกล่าวในกระทู้นี่แหละค่ะ คุณทำความดี คุณก็รู้สึกสุข แต่ทว่าสุขนั้นก็หาได้จีรังยั่งยืนไม่ เมื่อคุณพบเห็นคนที่คุณบอกว่าเห็นแก่ตัว ความคิดมันก็เริ่มทำงานปรุงแต่งเป็นคำพูดขึ้นในหัวออกมาไม่ขาดสาย ความคิดคุณนี่แหละที่ส่งผลมาทางอารมณ์ ความรู้สึกตรงจิต จากที่รู้สึกปิติสุขที่ได้ทำความดี อารมณ์มันก็เปลี่ยนเป็นไม่พอใจ ไม่สบายใจ และรู้สึกท้อใจ หดหู่ในที่สุด นี่แหละที่เรียกว่าอารมณ์ ความรู้สึก หรือการดูจิต

หากคุณพิจารณาให้เป็นประโยชน์ต่อการเจริญสติแล้ว ก็จะเป็นประโยชน์มาก ตัวเราแท้ๆ อารมณ์ ความรู้สึกเราแท้ๆ ยังควบคุมให้มันสุขอย่างที่เราต้องการมิได้เลย นี่คือธรรมชาติของขณะจิต ขณะจิตที่ปรวนแปรไปตามความคิด ความฟุ้งซ่าน ความปรุงแต่งไปกับสิ่งเร้าภายนอกนี่แหละ ที่เป็นเหตุให้วนเวียนอยู่ในสังสารวัฏ เมื่อคุณย้ำคิดอยู่กับเรื่องเก่าๆ สงสัยในสิ่งที่ได้กระทำลงไปว่าทำไม อารมณ์มันก็ขุ่นมัวอยู่อย่างนั้น ซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่อย่างนั้น วนไปวนมา

พิจารณาได้ว่า ไม่ว่าอารมณ์ ความรู้สึกใด เกิดได้ ก็สลายไปได้ทั้งสิ้น เป็นธรรมชาติอยู่อย่างนั้น ไม่มีอารมณ์ใดตั้งอยู่ได้นานเลยแม้แต่น้อย นี่คือธรรม ให้พิจารณาให้เป็นประโยชน์ทางธรรม มีสติระลึกรู้ อารมณ์ ความรู้สึก ในอิริยาบท ณ ปัจจุบันขณะ ตรงกาย ตรงจิต ทำบ่อยๆ ฝึกบ่อยๆ ไม่ทันก็ย้อนดูด้วยความมีสติบ่อยๆ การปฏิบัติให้เข้าถึงธรรมอย่างแท้จริง ไม่มีอะไรพิสดารมากกว่านี้

เจริญในธรรม

มณี ปัทมะ ตารา


ผีเสื้อ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
เจ๊เป็นตุ๊ด
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 29 พ.ย. 2006
ตอบ: 60
ที่อยู่ (จังหวัด): ร้อยสอง

ตอบตอบเมื่อ: 23 ก.พ.2007, 8:19 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ตามที่อ่านมา แบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ กลุ่มที่เห็นแก่ตัว และ กลุ่มที่ไม่เห็นแก่ตัว

คุณดูใจตนแล้วเป็นคนกลุ่มไหนก็เอาใจใส่แต่กลุ่มตนก็พอแล้ว ส่วนคนที่ไม่ใช่แบบคุณนั้น อย่าไปใส่ใจให้มากเลย แค่มีน้ำใจบ้างเล็กน้อยเพื่อรักษาความสัมพันธ์กันไว้ก็พอ หรือถ้าเลี่ยงได้ก็เลี่ยงเสีย อย่าไปยุ่งกับกลุ่มคนที่ไม่เหมือนคุณเลยเป็นดี ไม่มีวุ่นวาย เปรียบกับการทำบุญ ทำบุญให้คนไม่ดี จะได้ผลบุญมากเท่าทำบุญให้คนดี หรือ ครับ มีทางเป็นไปได้น้อย คนไม่ดีเอาทานที่ได้รับไปใช้ในทางไม่สร้างสรรค์ คนดีเอาทานที่ได้รับไปใช้ในทางที่สร้างสรรค์ ผลที่เกิดย่อมแตกต่างกัน คุณทำดีให้มากกับคนที่เหมือนคุณดีกว่าครับ ส่วนคนที่ไม่เหมือนคุณนั้นทำดีแค่รักษาความสัมพันธ์ก็เพียงพอแล้ว

สาธุ ฟังเอาไว้คิดนะ ครับ ส่วนจะใช้วิธีการไหนนั้น คุณเลือกเองตามความเหมาะสมดีกว่า
 

_________________
ปัญญาอยู่ไหน ที่ไหนมีขายบ้าง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ผู้เยี่ยมชม






ตอบตอบเมื่อ: 03 มี.ค.2007, 2:12 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ก๊ใช้ปัญญาคิดเอาสิครับ ว่าควรจะออกห่างจากพวกเห๊นแก่ด้วยวิธีไหน
 
v
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 26 มี.ค.2007, 7:26 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ซึ้ง สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ
 
แทบเท้าพุทธองค์
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 15 มี.ค. 2007
ตอบ: 20

ตอบตอบเมื่อ: 27 มี.ค.2007, 9:15 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คนไม่ดี มีทั่วแผ่นดินเสียด้วย ถ้าหากลุ่มคนที่มีความคิดคล้ายตนไม่ได้ หรือกลุ่มของตนไม่มีความเข้มแข็งพอ ก็เสนอให้ ตัวใครตัวมัน น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ กำลังคนไม่เพียงพอก็ไม่อาจต่อต้านแรงกำลังที่เหนือกว่ามากมายได้ เรื่องธรรมดาครับ ยิ้มเห็นฟัน

สาธุ นกน้อยย่อมเลือกที่ทำรังอันเหมาะสม คนก็เช่นเดียวกัน สามารถเลือกสถานที่อันเหมาะสมแก่ตนได้ สักวันจะหาที่อยู่อันใจตนปรารถนาอยากอยู่ให้จงได้ คงมีสักวันครับ
 

_________________
รับสารอาหารทางปาก
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง