Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
ยมฑูต นายยมบาล
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
หนังสือธรรมะ
ผู้ตั้ง
ข้อความ
เด็กบ้านยางสีสุราช
บัวบาน
เข้าร่วม: 05 มิ.ย. 2004
ตอบ: 305
ตอบเมื่อ: 06 มิ.ย.2004, 7:58 pm
พบ ยมฑูต นายยมบาล
ในปีนั้นในเขตอุทยานแห่งชาติเขาหลวง ป่ากรุงชิงจังหวัดนครศรีธรรมราช พระธุดงค์ หลวงพ่อธรรมงาม เล่าเรื่องให้ฟังว่า
พระพุทธศาสนา เป็นบ่อเกิดแห่งมหาสมบัติสารพัดอย่างในไตรภพ แดนมนุษย์ เป็นสถานที่สถิตแห่งศาสนธรรมอันล้ำค่า
ผู้ประสงค์สมบัติจากศาสนธรรมจึงไม่ควรปล่อยโอกาสที่มีอยู่ให้ผ้านพ้นไป จะเสียใจในภายหลัง เพราะเกิดมาเป็นมนุษย์ที่บริสุทธิ์เต็มภูมิอย่างเรา ๆ ท่าน ๆ นี้ มิได้เป็นของหาได้อย่างง่ายดาย
ในทางธรรมท่านกล่าวไว้ว่า ความเป็นมนุษย์เป็นของหายาก
ผู้ไม่มีภูมิควรแก่ความเป็นมนุษย์ แต่จะโผล่มาผุดมาเกิดเป็นมนุษย์เอาเลยนั้น ย่อมผิดวิสัย เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน แม้ฝืนมาเกิดก็เป็นทำนองสัตว์นรกตนหนึ่ง ที่ยังไม่พ้นโทษ แต่ขโมยเกิดเป็นมนุษย์ และมาบวชเป็นสามเณรในพุทธศาสนา พำนักอาศัยอยู่ในวัด
ในปีพรรษาที่พระธุดงค์หลวงพ่อธรรมงามได้ธุดงค์มาจำพรรษาในทางภาคใต้ โดยเจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราชนิมนต์ลงมาเปิดสำนักพระกรรมฐานที่ถ้ำเขาเหล็ก ตำบลนบพิตำ อำเภอ ท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช .
ในปีนั้น คืนวันหนึ่ง หลวงพ่อธรรมงาม ผู้ทรงธุดงควัตรและเป็นที่เคารพนับถือของชาวปักษ์ใต้ทุกชนชั้นเป็นอันมาก ได้นั่งสมาธิฝันเห็นว่า มีนายยมบาลรูปร่างใหญ่และสูงเสมอกุฏิลักษณะท่าทางน่ากลัวมาก เข้ามาหาหลวงพ่อธรรมงามแล้วถามหาตัวโยมผู้ชายชื่อว่า นายสมาน ผู้มีกรรมเบาบางแล้วจวนจะพ้นโทษจากนรกภูมิ เธอได้รับความผ่อนผันจากการควบคุมเช่นเดียวกับนักโทษในเมืองมนุษย์ ที่จวนจะพ้นโทษได้รับการผ่อนผันพอประมาณฉะนั้น แต่พอได้โอกาสมีจังหวะดี ก็คิดเป็นขโมยสองชั้น กล่าวคือ เมื่อชาติก่อนเป็นมนุษย์เธอก็เคยขโมยเขาเก่งจนถึงต้องตกนรกเพราะกรรมที่ทำนั้น ครั้นพอไปอยู่ในนรก พอมีโอกาสจากการผ่อนผัน เธอก็ขโมยหนีจากนรกภ๔มิกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ ทราบว่าได้หลบมาบวชเป็นเณร อยู่ในเขตวัดถ้ำเขาเหล็กแห่งนี้ใช่ไหม และเณรสมานอยู่ที่นี่มีหรือเปล่า ?
ฝ่ายพระธุดงค์หลวงพ่อธรรมงามก็แปลกใจ และบอกด้วยความจริงว่า มีสามเณรชื่อดังกล่าวมาบวช และอยู่ในวัดแห่งนี้จริง แต่ท่านจะมาเที่ยวตามหาเธอไปทำไม เวลานี้สามเณรเธอกำลังบวชประพฤติศีลธรรมอยู่ด้วยความเลื่อมใสศรัทธา ควรจะให้อภัยเธอบ้างมิได้หรือ
นายยมบาลบอกว่า ไม่ได้ท่าน จะต้องเอาตัวสามเณรกลับไปนรก เพราะยังไม่พ้นโทษ เธอต้องกลับไปเสวยกรรมซึ่งเป็นสิ่งที่สามเณรสร้างไว้เสียก่อน เมื่อพ้นจากโทษนั้นแล้วจะมาบวชอีก หรือจะไปที่ไหนทางนรกมิได้สนใจเกี่ยวข้อง แต่เวลานี้จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องนำตัวเธอกลับไปนรก
ทางฝ่ายพระธุดงค์หลวงพ่อธรรมงามก็พูดย้ำขอความผ่อนผันอีกว่า เวลานี้เฎรก็กำลังบวชปฏิบัติบำเพ็ญด้วยความต้งอกตั้งใจ ทั้งไม่รู้เนื้อรู้ตัวว่า แต่ก่อนตนได้เคยทำอะไรไม่ดีไว้บ้างจึงน่าสงสารและเห็นใจอย่างยิ่ง ไม่อยากให้เธอต้องพลัดพรากจากเพศเณรอันเป็นเพศที่เย็นตาเย็นใจเลื่อมใสของมวลมนุษย์ผู้รู้จักบุญบาปอยู่บ้าง และเธอก็เป็นเด็กที่มีความเมตตาปรานี้เพราะก่อนหน้าที่เณรจะมาอยู่วัดนี้ เณรเคยอยู่ในวัดที่มีสมภารรูปหนึ่งอายุพรรษามากแล้ว ทราบว่าเป็นคนมาจากถิ่นอื่น เมื่อวัดนั้นว่างตำแหน่งเจ้าอาวาสลง ท่านสมภารรูปนั้นจึงมาอยู่รับตำแหน่งนั้น แล้วอยู่จำพรรษาในวัดนั้นเรื่อยมา แม้ว่าท่านจะไม่ใช่นักปฏิบัติธรรมที่เข้าถึงธรรม และมิใช่ธรรมกถึกผู้ปราดเปรื่องในธรรมแต่ประการใดก็ตาม ก็ยังเป็นที่เคารถนับถือของผู้คนในถิ่นนั้นอย่างกว้างขวาง เนื่องจากว่าท่านเป็นคนพูดเก่ง สังคมเก่ง เข้ากันได้ดีกับคนทุกชั้น และประการสำคัญท่านเป็นเกจิอาจารย์ที่มีชื่อรูปหนึ่งในถิ่นนครปฐมนั้น เป็นที่ทราบกันดีว่าตะกรุดและผ้ายันต์ของท่านมีชื่อเสียงในทางเมตตามหานิยม ! วัดของท่านน่าอยู่ มีกุฏิหลายหลังปลูกไว้เป็นระเบียบสวยงามทันสมัยลานวัดมีทรายขาวสะอาดตา กลาววันเย็นสบายด้วยร่มไม้ที่ปลูกไว้เป็นหย่อม ๆ ชวนนั่งเล่น
_________________
สายลมเริ่มเปลี่ยนทิศแล้ว
ลมหนาวกำลังมาเยือนแล้ว
จันทร์ ๒๒ กันยายน ๒๕๕๑
เด็กบ้านยางสีสุราช
บัวบาน
เข้าร่วม: 05 มิ.ย. 2004
ตอบ: 305
ตอบเมื่อ: 06 มิ.ย.2004, 7:59 pm
ในเช้าวันหนึ่ง วันนั้นไฟฟ้าดับ สามเณรสมานลูกศิษย์องค์น้อย อายุ ๑๒ ขวบ ของท่านต้องลงไปต้มน้ำที่โรงเตาข้างกุฏิ ขณะสมภารกำลังง่วนอยู่กับอะไรบนกุฏิชั้นสอง
อ้อ มาใหม่อีกตัวแล้ว ออกมาซิฉันจะต้มน้ำ เสียงใส ๆ ของสามเณรสมานนั้นฟุงดูยังไร้เดียงสานัก ขณะเธอค่อย ๆ จับลูกแมวตัวหนึ่งออกมาจากเตา เพื่อจัดแจงก่อไฟต้มน้ำถวายพระอาจารย์
แกยังไม่ได้กินข้าวละซิเช้านี้ แย่จังปลาทูหมดเสียแล้ว เพื่อนของแกตัวหนึ่งอยู่ข้างบนนั่นแน่ะ เดี๋ยวจะพาไปให้อยู่ด้วยกัน เธอพูดกับลูกแมวตัวนั้นราวกับว่ามันรู้เรื่อง ขณะมันคลอเคลียอยู่ใกล้ ๆ อย่างประจบ ง
ในขณะที่สามเณรน้อยนั่งคอยน้ำเดือดอยู่หน้าเตา พลางสูบหัวลูบตัวมันเล่นด้วยความเมตตาปรานีนั้นเอง ได้มีก้อนดำ ๆ มากองอยู่กับพื้นซีเมนต์ใกล้ ๆ กับโรงเตา พร้อมกับเสียงหนึ่งที่จำได้ว่าเป็นเสียงของท่านสมภารดังไล่หลังลงมาด้วยว่า สัตว์ขี้ไม่เลือกที่
โธ่ อาจารย์ ลูกแมวผม สามเณรสมานร้องขึ้นอย่างตกใจในทันทีที่เหลือบไปเห็น พร้อมกับลุกถลาขึ้นไปยังลูกแมวตัวนั้น ดูเหมือนว่าเธอลืมกาน้ำร้อนบนเตาไฟ และลูกแมวตัวใหม่ไปชัวขณะหนึ่ง เธอค่อย ๆอุ้มประคองมันขึ้นมาจากพื้นอย่างเบามือที่สุดด้วยเกรงว่ามือน้อย ๆ ของเธอจะทำให้มันเจ็บปวดมากไปกว่านั้น แมวมันชักกระตุกอยู่ในมือของเธอครู่เดียวก็แน่นิ่งไป
โธ่ เสียงของเณรเธอหลุดลอดออกมาเพียงคำเดียว แค่นั้น ขณะเธอหันไปมองหน้าต่องห้องของพระอาจารย์ด้วยสายตาที่งงงันและมีน้ำตาคลอเบ้า
ด้วยเหตุนี้รู้สึกว่ามันมีความหมายประจักษ์ชัดในวันนั้นเองว่า
อันความเมตตาปรานีนั้น มันมิได้เจริญงอกงามขึ้นตามวัยและสังขารของมนุษย์ที่นับวันยิ่งแก่หง่อม หากแต่มันจะกลับเหือดหายไปจาก
xxx
จนแทบไม่เหลือ เมื่อเรา ๆท่าน ๆ ไม่ใส่ใจในอันเจริญเมตตาภาวนามัน
ในเวลาต่อมา ณ วัดสำนักแห่งนี้ ซึ่งอยู่ตรงทางแยกเข้าป่าชัฎอันเป็นที่อยู่ของผีดิบและพวกเปรตที่หิวโหย เห็นผู้คนมากมายชุลมุนกันอยู่กับการเซ่นไหว้ เจ้าพ่อเจ้าแม่แห่งจอมปลวก โดยมีเจ้าอาวาสวัดพระสงฆ์เป็นผู้นำพิธี แต่ทำตามนิ้วชี้ของชาวบ้านผู้ศรัทธา ขณะสมภารเจ้าอาวาสกล่าวคำอาราธนาพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ให้เสด็จมาประทับในพิธี สามเณรน้อยร้องตะโกนออกไปว่า
พระพุทธเจ้าไม่มาหรอกโว้ย ในพิธีบ้าบอเช่นนี้ แล้วเณรน้อยก็ต้องรีบวิ่งจีวรปลิวว่อนออกจากสำนักวัดแห่งนั้นทันทีที่วัตถุหลายอย่างปลิวว่อนเข้าหาเณร จากมือที่ชูสลอนนับร้อยนับพัน
แต่น่าประหลาดเหลือที่วัตถุเหล่านั้นกลายเป็นสิ่งที่ไร้น้ำหนักไปในฉับพลัน เมื่อล่องลอยมาถูกเณรน้อยชิ้นแล้วชิ้นเล่าประดุจดังปุยนุ่น แต่ทว่ามีอยู่ชิ้นหนึ่งที่ไม่ยอมกลายเป็นปุยนุ่นเหมือนอย่างของคนอื่น คือ เศษอิฐหินจากมือสมภารเจ้าสำนักมันลอยละลิ่วมาโดนเอาหัวเณรสมานเสียบวมเป่ง .
..เณรน้อยวิ่งหนีออกมาจนอ่อนกำลังล้มหลับลงที่หน้าวัดถ้ำเขาเหล็กแห่งนี้ ขณะลืมตาขึ้นมาในความมืด เณรสมานเผลอเอามือลูบศรีษะตรงที่โดนเศษอิฐของสมภารผู้มาจากถิ่นนครปฐมนั้น ก่อนจะลุกเข้ามาอยู่ในวัดแห่งนี้ในคืนวันนั้น แล้วท่านไม่เห็นใจเณรที่จะต้องกลับไปเป็นเพศสัตว์นรกทรมานเช่นนั้นอีก อาตมาขอบิณฑบาตเณรไว้ประพฤติพรหมจรรย์ต่อไป กรรมที่ยังเหลือเล็กน้อยนั้น ก็ขอได้เป็นอโหสิกรรมไปเสีย อย่าต้องมาทำลายเพศและความดีของเณรให้เสียไปเลย ขอท่านจงเห็นใจและอนุญาตให้เณรได้มีโอกาสทรงเพศนี้ต่อไปจนสุดความสามารถแห่งศรัทธาของเธอ จะพอผ่อนผันให้ได้หรือไม่อย่างไร
ฝ่ายนายยมบาลก็พูดยืนคำว่า ไม่ได้ ท่านธรรมงาม ! ไม่ว่าท่าน ไม่ว่าผม และไม่ว่าใคร ๆ จะขอร้องไม่ได้ทั้งนั้นเพราะเป็นเรื่องสุดวิสัย ขึ้นชื่อว่ากรรมแล้ว ไม่ว่ากรรมดีหรือกรรมไม่ดี ล้วนเป็นสิ่งที่มีอำนาจมาก เหนือการขอร้อง การบังคับและการวิงวอนใด ๆ ทั้งนั้น ถ้าเป็นการผ่อนผันได้บ้าง ตัวผมเองก็ไม่มาตามหาเณรให้ลำบากและเสียเวลา ผมยอมให้การผ่อนผันไปแล้ว แต่นี่มิใช่เรื่องของผมซึ่งพอพูดกันได้ หากเป็นเรื่องของกรรมซึ่งมิใช่ฐานะจะพอเป็นไปตามคำขอร้องของใคร ๆ แม้ผมมานี้ก็มาในนามของกรรมเณรเอง มิใช่ตัวผมเองเป็นผู้มา แต่เป็นตัวกรรมต่างหากเป็นผู้มา จึงไม่มีอคติแก่ผู้ใด ต้องเป็นไปตามกรรมเท่านั้น
เด็กบ้านยางสีสุราช
บัวบาน
เข้าร่วม: 05 มิ.ย. 2004
ตอบ: 305
ตอบเมื่อ: 06 มิ.ย.2004, 8:00 pm
พระธุดงค์หลวงพ่อธรรมงามเกิดสงสัยถามว่า ไม่ใช่ตัวผมอย่างไร อาตมาไม่เข้าใจเลย เพราะก็เห็นท่านเดินเข้ามาหาอาตมา และถามหาเณรสมานอยู่เดี๋ยวนี้อย่างสด ๆ ร้อน ๆ ถ้าไม่เป็นท่านแล้วจะเป็นที่ไหนกันอีก
นายยมบาลพูดกับหลวงพ่อธรรงามว่า เป็นผมจริงในร่างยมบาล แต่มิใช่ผมในรูปแห่งกรรมและอำนาจแห่งกรรม ทั้งสองนั้นเป็นเรื่องกรรมของเณร ไม่ใช่เรื่องของผมพอจะพูดขอความผ่อนผันกันได้ แม้เณรเองถ้าทราบว่าถูกตามหาตัว เธอก็จะเสียใจเอาอย่างมาก และอาจสลบหรือตายไปในขณะนั้นก็ได้ เธอเองก็ไม่ปรารถนา แต่ก็ได้ทำกรรมนั้นมาเสียแล้ว จึงสุดวิสัยที่จะแก้ไขให้เป็นอย่างอื่นได้ นอกจากต้องยอมให้เป็นไปตามหลักกรรมอันเป็นหลักตายตัวเท่านั้น ไม่มีทางหลบหลีกเอาเลยท่าน เพราะคำว่ากรรมชั่วนี้ใครจะเป็นผู้ทำขึ้นก็ตาม ต้องเป็นไปในทำนองนี้ทั้งนั้น
เมื่อต่างฝ่ายต่างร้องขอต่องรองกันไม่เกิดผลแล้ว พระธุดงค์หลวงพ่อธรรมงามจึงถามยมบาลว่า เณรสมานนี้ขโมยหนีมาจากนรกนานเท่าไรถึงได้ตามมา
เขาบอกว่า มาได้ครู่เดียวเท่านั้นก็ตามมา ทำไมถึงได้ทันมาเกิดเป็นมนุษย์มนาและบวชเป็นเณรได้เร็วหนักหนา เวลาของเมืองมนุษย์นี้นับว่าเร็วเสียจริง ๆ แล้วเวลานี้อายุเณรได้เท่าไรแล้วท่านธรรมงาม
หลวงพ่อธรรมงามตอบว่า ได้ ๑๓ ปีแล้ว
เขาอุทานว่า โอ้โฮ ! ตายจริงน่าสงสารเณร กรรมนี้เหลือประมาณไม่ยอมลดหย่อนผ่อนผัน พอให้เณรได้ประพฤติพรหมจรรย์สืบพระศาสนาต่อไปบ้างเลย เขาพูดอย่างอ่อนใจ ประหนึ่งเป็นเชิงเห็นใจเณรที่ไม่รู้อะไรกับเรื่องนี้เลย ในขณะนั้นมัวแต่นอนหลับฝันเพลินไปตามประสาคนไม่รู้ แม้สิ่งที่ตนทำแล้วกลับมาเป็นภัยแก่ตนที่เรียกว่า กรรมตามทัน เวลาเขามาหาหลวงพ่อธรรมงามเป็นยามดึกสงัด และพูดเป็นเชิงสงสารหลวงพ่อผู้เป็นอาจารย์ ซึ่งเณรเคารพเลื่อมใสมากและกำลังจะหลุดมือจากอ้อมอกอันอบอุ่นไปในวันรุ่งขึ้นอยู่แล้ว ตามคำคำที่ยมบาลบอกกับท่านว่าราว ๓ ทุ่ม ของวันรุ่งขึ้น จะมารับสามเณรไป .
พอนายยมบาลลาจากไปแล้ว ท่านก็เริ่มรู้สึกตัวถอนออกจากสมาธิ ตื่นขึ้น เกิดความสะดุ้งตกใจ และเสียใจเป็นกำลังแทบสลบไปในเวลานั้น เพราะท่านหลวงพ่อจำนิมิตฝันได้แม่นยำมากตลอดมา ทั้งท่านหลวงพ่อเองก็เป็นพระพุทธสาวก สิ้นสุดในสาวกภูมิชาตินี้ ท่านก็เคยปรารภความมุ่งมั่นต่ออรหัตภูมิของตนให้ใครฟังอย่างออกหน้าออกตา ไม่มีความสะทกสะท้านเลย
พอรุ่งขึ้นก็ให้เณรไปนิมนต์พระที่ท่านสนิทและไว้ใจมาหาและเล่ากระซิบเรื่องนิมิตให้ฟังพร้อมกับกำชับไม่ให้พูดให้เณรสมานรู้และไม่ให้ใคร ๆ รู้ด้วย แม้นิมิตนั้นจะเป็นจริงหรือไม่ก็ตามเพราะกลัวจะเป็นภัยแก่เณรเอง และเป็นเรื่องอื้อฉาวไปในที่ต่าง ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ดีงาม หลวงพ่อธรรมงามกับพระที่ทราบเรื่องเณรแล้วต่างก็รู้กันเป็นการภายใน และรอดูเหตุการณ์ตามวันเวลาที่นายยมบาลบอกไว้ ง
นับแต่เช้าถึงเย็นวันนั้น หลวงพ่อมีความกังวลวุ่นวายอยู่กับนิมิต และเณรที่เป็นต้นเหตุตลอดเวลา จนไม่เป็นอันขบฉันและพักผ่อนร่างกายและจิตใจ ตลอดการงานและการปฏิสันถารต้อนรับประชาชน พระเณรที่มาพบปะเยี่ยมเยียนก็ระงับไปทั้งวันเก็บตัวอยู่ลำพังภายในห้องกุฏิ และพิจารณาใคร่ครวญเฉพาะเรื่องนิมิตอย่างเดียว ด้วยความประหลาดใจ และสงสารเณรเป็นล้นพ้นที่สุดวิสัยจะช่วยได้ เพราะนิมิตประเภทที่แปลกประหลาดดังที่ปรากฏคืนก่อนนี้ไม่เคยมีมาก่อน แม้ผู้ที่ปรากฏให้เป็นเรื่องในนิมิตก็เป็นบุคคลที่แปลกเหลือที่จะประมาณถูก ทั้งรูปร่างก็ใหญ่โตกว่ามนุษย์ธรรมดามาก ทั้งความสูงก็สูงเสมอกุฏิตึกสองชั้นที่หลวงพ่อพักอยู่ ซึ่งก็นับว่าเกินประมาณที่มนุษย์ในโลกจะเป็นได้ ลักษณะท่าทางก็น่ากลัวมาก คำพูดที่เขาพูดกับหลวงพ่อผู้ทรงศีลและธุดงควัตร มีอำนาจทางธรรมภายในใจก็เป็นคำพูดที่เฉียบขาดบาดใจ แม้จะเป็นคำพูดกันอย่างสามัญธรรมดา มิได้เป็นคำกระแทกแดกดัน ก็ยังเป็นคำพูดที่เต็มไปด้วยอำนาจราชศักดิ์อยู่นั่นเอง เป็นที่น่ากลัวและเกรงหาผู้เสมอมิได้ในแดนมนุษย์
ในวันนั้นทั้งวัน หลวงพ่อธรรมงามภาวนาและใคร่ครวญกับนิมิตอย่างไม่ยอมขยับเขยื้อนไปมาในทิศทางใด มีความสนใจและเศร้าใจในเหตุการณ์เป็นอย่างมาก ราวกับได้นั่งดูเปลวไฟนรกกำลังเผาผลาญสัตว์โลกอยู่ในขณะนั้นอย่างน่าใจหาย ทั้งรอเวลาที่เหตุการณ์นั้นจะมาถึงตามกำหนดเวลาที่ทราบไว้ในนิมิตฝันนั้น กรรมช่างรู้ซอกแซกไปจนกระทั่งเวลานาทีของนาฬิกาในเมืองมนุษย์ตีบอกเวลาอะไรเช่นนั้น
พอเวลา ๓ ทุ่มเศษนิดหน่อย ก็เห็นพระองค์ที่ทราบเหตุการณ์ด้วยกันวิ่งตะลีตะลานขึ้นมากุฏิที่ท่านหลวงพ่อธรรมงามพัก พร้อมกับเรียนขึ้นด้วยเสียงสั่นเครือแทบจะไม่เป็นเสียงมนุษย์ว่า เณรสมานเจ็บท้องถ่ายออกมาเป็นเลือดสด ๆ มีอุจจาระติดออกมาเล็กน้อย และเริ่มไปส้วมถ่ายได้สองครั้งแล้ว กระผมก็รีบมานี่อาการเป็นที่น่าวิตกมาก และการถ่ายนั้นห่างระยะกันเพียง ๔ - ๕ นาทีเท่านั้น จึงน่าวิตกมาก
เด็กบ้านยางสีสุราช
บัวบาน
เข้าร่วม: 05 มิ.ย. 2004
ตอบ: 305
ตอบเมื่อ: 06 มิ.ย.2004, 8:00 pm
หลวงพ่อธรรมงามถามว่า เณรเริ่มเป็นเวลาเท่าไร
เริ่มเวลรา ๓ ทุ่ม ตามเวลาที่นิมิตบอกไว้ไม่มีผิดเลย พระตอบหลวงพ่อให้ทราบ
พอจบประโยคคำพูดทั้งหลวงพ่อธรรมงามและพระที่มาตามก็รีบวิ่งลงไปที่กุฏิเณรสมานและถามอาการ เณรก็ได้เล่าถวายว่าเห็นจะไม่พ้นคืนนี้แน่ เพราะความรู้สึกที่เคยมีต่อโลกปรากฏว่า เริ่มขาดความสืบต่อกันหมดแล้ว ความหวังที่จะได้อยู่ในโลกอีกต่อไปไม่มีความรู้สึกเลย มีความจากไปเท่านั้นที่เต็มอยู่ในธาตุขันธ์และจิตใจ
ท่านหลวงพ่อก็เตือนเณรเพื่อมีสติในเวลาดับขันธ์ด้วยอุบายที่เข้าใจไว้ก่อนแล้วว่าจะไปไม่รอดดังนิมิตบอก อุบายที่หลวงพ่อธรรมงามสอนเณรก็พอเหมาะสมกับเหตุการณ์ที่กำลังเป็นไปอยู่อย่างเร่งรีบ รวมประหนึ่งแทบจะหายใจไม่ทัน ต้องไปถ่ายส้วมบ่อยที่ไปด้วยเลือดสด ๆ ทั้งนั้น การเจ็บปั่นป่วนอยู่ภายในนั้นเหมือนมีเครื่องจักรเครื่องยนต์ตั้งโรงงาน และทำงานอยู่ภายในด้วยเครื่องจักรชนิดต่าง ๆ ที่หมุนไม่มีการหยุดยั้งราวกับว่าอวัยวะภายในจะขาดออกมาเป็นจุณมหาจุณต่อหน้าต่อตา
ฉะนั้น หลวงพ่อธรรมงามก็รีบให้โอวาทอย่างกะทัดรัดถือเอาเฉพาะใจความเท่าที่จะได้มีว่า ..โรคชนิดที่เณรเป็นนี้ หลวงพ่อเองก้ไม่เคยพบเห็นมาก่อน คงจะเป็นด้วยโรคกรรมตามทันเสียแล้วกระมัง ที่อยู่ ๆ ก็เป็นขึ้นมาอย่างปุปปัปกะทันหันอย่างนี้ การถ่ายก็กลายเป็นเลือดสด ๆ ไหลออกมาอย่างรีบร้อน ไม่มีหยูกยา อะไรหยุดยั้งได้เลย ซึ่งทำให้แปลกอกแปลกใจและน่าหวั่นวิตกมากเพื่อความไม่ประมาทและอย่าให้ได้พลาดท่าเสียที เมื่อถึงเวลาจำเป็นจริง ๆ เณรจงตั้งสติให้ดีและทูลอาราธนาพระพุทธเจ้าองค์ผู้ประเสริฐสุดเข้ามาไว้ที่ดวงใจโดยบริกรรมว่า พุทโธ ๆ อย่าให้เผลอ เผื่อถึงเวลาจากไปก็ขอให้ได้ตายกับท่านที่เป็นองค์สรณะของใจ และยึดไว้จนสิ้นลมจะช่วยเณรได้ อย่างอื่นหลวงพ่อมองไม่เห็น นอกจากพระธรรมดวงเอกนี้เท่านั้น แม้จิตเณรจะหมดความหวัง จงพึ่ง พุทโธ และให้ตายกับ พุทโธ นี้เท่านั้น เณรอย่าได้เสียใจ เพราะการตายนี้โลกทั้งโลกจะต้องตายเหมือนเณรนี้ทั้งนั้น จะต่างกันก็เพียงก่อนหรือหลังเท่านั้น แม้หลวงพ่อเองผู้กำลังบอกทางแก่เณรอยู่ขณะนี้ ก็ต้องตายเช่นเดียวกับเณร และหลวงพ่อก็กำลังเตรียมตัวก่อนตายด้วยความไม่ประมาท ทั้งทำสมาธิภาวนาและความดีต่าง ๆ ที่สามารถทำได้อยู่แล้ว
เณรประนมมือรับโอวาทของท่านหลวงพ่อด้วยท่าทางอันสงบยิ้มแย้ม และบริกรรมภาวนาด้วยท่าทางองอาจกล้าหาญไม่สะทกสะท้านต่อโรคและมรณภัย ซึ่งเป็นที่น่าสงสารเหลือประมาณอย่างพูดไม่ออกบอกไม่ถูก ถึงกับน้ำตาหลวงพ่อธรรมงามและพระที่รู้เหตุการณ์ด้วยร่วงพรูลงในขณะนั้น ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับขณะที่เณรสิ้นลมด้วยท่าอันสงบตลอดมา นับแต่ขณะที่ได้รับโอวาทจากหลวงพ่อเป็นต้นมาในเวลาประมาณ ๔ ทุ่มพอดี ธรรมสังเวชได้เกิดแก่หลวงพ่อธรรมงามและพระเณร ตลอดประชาชนที่ไปเยี่ยมอาการของเณร สุดวิสัยที่จะอดกลั้นไว้ได้ในเวลานั้น เพราะความสงสารเณรสุดจะกล่าวออกมาได้
เฉพาะหลวงพ่อธรรมงาม เกิดความสลดใจต่อกรรมซึ่งเป็นสิ่งลึกลับเหลือวิสัยที่คนธรรมดาสามัญจะทราบได้ แม้จะเป็นทางนิมิตฝัน แต่ก็ช่างตรงตามคำบอกและเวลาอะไรเช่นนั้น ทั้งที่เคยเชื่อกรรมอย่างฝังใจมาก่อนอยู่แล้ว ยิ่งมาเห็นเรื่องเณรเป็นประจักษ์พยานก็ยิ่งทำให้ซึ้งต่อกรรมที่เกี่ยวพันต่อชีวิตจิตใจของมวลมนุษย์ว่า เป็นเหมือนผักปลาเครื่องสังเวยต่อกรรม ไม่มีทางหลีกเลี่ยงและไม่มีสิ่งใดในตัวมนุษย์ปุถุชนจะฉลาดรู้ และแผลงฤทธิ์ว่า ตัวมีอำนาจเหนือกรรมผู้ครองไตรภพแต่สิ่งเดียว
หลวงพ่อได้ยึดเหตุการณ์ที่ประสบนั้นเป็นเทวทูตหรือธรรมทูตเครื่องเตือนสติอันยอดเยี่ยมประจำใจตลอดมา ชีวิตร่างกายจิตใจทั้งมวลอันเป็นสมบัติประจำองค์ของหลวงพ่อธรรมงามได้อุทิศต่อความเชื่อกรรมโดยสิ้นเชิง ไม่มีการแบ่งรับแบ่งสู้เพื่อการหลบหลีกปลีกตัวแต่อย่างใด แต่เป็นความเชื่อและมั่นใจอย่างมั่นคงว่า ถึงอย่างไรก็ขอให้ได้บำเพ็ญบุญกุศลความดีอย่างพอใจเสียก่อน ก่อนที่ยมบาลหรือพระยากรรมเจ้ากรรมนายเวรจะมาเอาตัวไป จะไม่ต้องเสียใจภายหลังว่าเรายังขาดอะไรบ้าง บรรดาความดีที่ควรทำในชีวิตที่ลมหายใจยังมีอยู่ เผื่อเวลาสิ้นลมจะได้สิ้นเรื่องหมดกังวลไปพร้อม ๆ กัน
เท่าที่ชีวิตได้รับความผ่อนผันจากเหตุการณ์ที่น่าสลดสังเวชใจเหลือประมาณมา และได้มีโอกาสบำเพ็ญหพรหมจรรย์ตามหน้าที่ของนักบวชมาถึงวันนี้ นับว่าเป็นผู้มีบุญวาสนาพอจะอวดตัวเองได้ว่า มิใช่ผู้ขโมยกรรมอันลามกที่ตนสร้างไว้มาเกิดโดยไม่ยอมรับโทษให้สิ้นกรรมก่อน แต่เป็นผู้มีกรรมพามา พาอยู่พาไป เหมือนโลกที่มีกรรมทั่ว ๆ ไป นี่เป็นคำรำพังรำพันของหลวงพ่อธรรมงามที่ได้รับจากเหตุการณ์ของเณร แล้วนำมาพร่ำสอนตน ซึ่งเป็นอุบายที่น่าจับใจไพเราะอย่างยิ่ง ยากจะได้พบบุคคล และอุบายทำนองนี้ แม้ผู้เล่าเองก็อดจะวาดภาพไปตามด้วยความสลดสังเวชมิได้ และยังรู้สึกประทับใจตลอดมาทั้ง ๆ ที่เชื่อกรรมอยู่แล้วตามศรัทธาที่มี
--------------------------------------------------------------------------------
เด็กบ้านยางสีสุราช
บัวบาน
เข้าร่วม: 05 มิ.ย. 2004
ตอบ: 305
ตอบเมื่อ: 06 มิ.ย.2004, 8:01 pm
เด็กบ้านยางสีสุราชเชื่อเรื่องกรรมนะครับ แต่สิ่งที่ยังสงสัยจนปัจจุบันนี้ คือ พยายม ยมบาล เนี่ยเขาเป็นใคร เขาทำกรรมอะไรไว้ เขาถึงได้เกิดเป็น ยมบาล เป็นพยายม และเขามีสิทธิอะไรถึงแบบสามารถมารับคนเวลาถึงคราวยังเงี้ยนะครับ
แล้วมีในพระไตรปิฎกสูตรไหนหรือเปล่า ถ้าใครรู้แล้วบอกเด็กบ้านยางด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
หนังสือธรรมะ
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th