ฝันได้ทุกวัน

ตอบเมื่อ: 02 มี.ค.2007, 10:42 pm

อยากจะถามว่าทำไมดิฉันฝันทุกวันเล่า ที่ฝันคือจากหลังเที่ยงคืนจนถึงตีห้า อยากถามว่าเป็นเพราะอาไร (ไม่ได้คิดมาก)

ตอบเมื่อ: 04 มี.ค.2007, 7:53 pm

บางคน ทำงานหนัก ออกกำลังกายหนัก ร่างกายอ่อนล้า ลืมฝันไปเลยก็มีนะครับ

นักจิตวิทยาบางกลุ่ม ใช้ความฝันของคนไข้ เป็นส่วนหนึ่งในการวิเคราะห์แก้ไขปัญหาทางใจของคนไข้ ด้วยครับ

ถ้าหลับฝันดีแล้ว ก็ไม่น่ามีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจอะไร ให้ต้องคิดเลย

สาธุ

หลับฝันดี ตื่นมาใจเป็นสุข ครับ

ผู้เยี่ยมชม

ผมก็เหมือนกัน บางช่วงก็ฝันบ่อย แต่ก็มีบางช่วงก็ไม่ค่อยฝัน ช่วงที่ไม่ฝัน ยังนึกว่าเอ..คืนนี้อยากฝันถึงใครบางคนซะงั๊น...

ผมว่าก็ช่างมันเถอะครับ เดี๋ยวมันก็หยุดฝันบ้างหละ เชื่อผมสิ....

ขอให้หลับฝันดีนะครับ...อุ่ยย

ผู้เยี่ยมชม

ฝันบ่อยก็ดี นะครับ จะได้คลายเครียด

ผู้เยี่ยมชม

สำหรับผมแล้ว ถ้าผมฝัน ก็หมายถึงว่า จิตของผมคงตื่นจากหลับแล้วกระมัง ส่วนกายของผมคงยังไม่ตื่น ก็เลยเรียกสิ่งที่รับรู้โดยปราศจากสัมผัสทางว่าฝัน วันใดที่ผมเหนื่อยมาก กายกับจิตหลับพร้อมกัน ตื่นพร้อมกัน ก็ไม่ได้ฝัน วันใดเหนื่อยแต่กาย หลับนานแต่กาย จิตตื่นก่อนก็ฝันไปเรื่อย จำได้มั่ง จำไม่ได้มั่ง ............ ในตอนกลางวัน บางทีกายยังตื่นแต่อยู่นิ่งๆ ยังฝันเลย ฝันกลางวัน เลยครับ....

ผมว่าเกือบทุกคนคงฝันเหมือนกันละครับ แต่ใครจะจำได้ ใครจะเล่าให้ใครฟัง ใครจะสงสัย หรือฝันใครจะเป็นจริง นั่นก็อีกเรื่องนึงครับ

ขอให้ฝันดีทุกคืนที่ฝันนะครับ ..... สู้ สู้

ผู้เยี่ยมชม

ดิฉันก็เป็นคนหนึ่งที่ฝันทุกคืน เริ่มเป็นมาประมาณ 1 ปีมานี้ เหนื่อยมากค่ะ นอนเท่าไรก็ไม่พอ เพราะตลอดเวลานอนนั้นฝันตลอด ไม่ทราบว่าตัวเองเครียดอะไร แต่ตอนนี้เริ่มเครียดจริงๆ เพราะพักผ่อนไม่พอ ง่วงหงาวหาวนอนตลอด ทำงานไม่ค่อยได้

ดิฉันทำสมาธิไม่เป็น เมื่อพยายามจะตั้งจิตอยู่ที่ลมหายใจเข้าออก แป๊บเดียวก็หลุด
ดิฉันอยากพบแม่ชีทศพรมาก
ไม่ทราบว่าตอนนี้ท่านยังคงมาที่วัดพิชัยญาติอยู่หรือเปล่าคะ

ตอบเมื่อ: 08 มี.ค.2007, 11:38 pm

อือม...ฝันเหมือนกันค่ะ ตื่นก็ลืมแล้ว แต่ไม่ได้สนใจเพราะเป็นแค่ความฝัน ฝันหรือไม่ฝันก็ไม่มีอะไรน่าจดจำจ้า.....หวัดดีจ้า

ผู้เยี่ยมชม

ตื่นขึ้นมาก็เป็นปัจจุบันแล้ว

สนจัยทำมัยกะอดีตที่เป็นความฝัน..

คิดไปก้อไม่มีประโยชน์อารายเลย

"ให้ปัจจุบันอยู่กะตัวเราเองจะดีกว่าค่ะ"
ยิ้มแก้มปริ

ตอบเมื่อ: 11 มี.ค.2007, 2:01 am

ไม่ต้องไปพบแม่ชีเลย ออกกำลังกายตอนเย็น หัวเราะมากๆ ไม่ดูทีวีตอนค่ำ ไม่ดูละคร ไม่คุยโทรศัพท์ ทำความสะอาดห้อง ปิดไฟก่อนนอน 15 นาที ตั้งสติ ไหว้พระก่อนนอน ล้มตัวลงนอน แล้วเริ่มทำสมาธิ ค่อยๆหายใจให้ช้าลง ไม่ต้องคิดถึงเรื่องของพรุ่งนี้ ไม่ต้องคิดถึงใคร จดจ่อกับกายหายใจของเราแต่อย่าตรงเครียดว่าเรากำหนดไว้ต้องหายใจให้ได้ตามที่กำหนด ค่อยๆผ่อนลมหายใจให้ช้าลง แล้วหัวใจก็จะเต้นช้าลง ผ่อนคลายและจะหลับไปโดยไม่รู้ตัวและจะไม่ฝันเพราะก่อนนอน สติของเราอยู่กับลมหายใจและการเต้นของหัวใจเท่านั้น วิธีการก็เหมือนการสะกดจิดตัวเอง พอจะตื่นในตอนเช้าหัวใจที่เต้นเร็วขึ้นก็จะปลุกเราให้พ้นจากสภาวะที่เราสะกดจิตตัวเองเอาไว้ ลองดูสิค่ะ ก่อนนอนการจิตใจให้ผ่อนคลายคือสิ่งสำคัญที่สุด การฝันนั่นคือการฟุ้งซ่านของจิตใจ
ลองสังเกตดูหากวันไหนมีความสุขก่อนนอน คืนนั้นกะว่าจะฝันดีแต่ปรากฎว่าไม่ฝันอะไรเลย

ผู้เยี่ยมชม

ขอบคุณคุณอุมาพร และทุกท่านที่กรุณาแนะนำ
ดิฉันยอมรับว่า ยากสำหรับตัวเอง
หวังว่าสักวันคงทำได้น่ะค่ะ