Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
นิมิตท้าวธรรมถึกและเทพบุตรมาขอเป็นลูก (แม่ชีแก้ว เสียงล้ำ)
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
กรกต
บัวใต้ดิน
เข้าร่วม: 28 ต.ค. 2006
ตอบ: 11
ตอบเมื่อ: 07 มี.ค.2007, 12:20 am
คุณแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ
- นิมิตท้าวธรรมถึกมาขอเป็นลูก
คุณแม่เล่าว่า เมื่อคืนนี้ได้นิมิตว่าตัวเองได้เหาะขึ้นไปคลอดลูกบนอากาศแต่ไม่เหมือนกับที่ชาวโลกเขาคลอดลูก ไม่มีเลือดไม่มียาง ไม่สกปรก เป็นลูกผู้ชาย ผิวพรรณเหลืองดั่งทองคำ มีรัศมีออกโดยรอบ ขณะอยู่ในท้องแม่ก็ใสเหมือนกับมองไปในแก้ว คลอดออกมาแล้วก็ลุกกราบได้ทันที พร้อมกับบอกชื่อว่า ท้าวธรรมถึก
คุณแม่ถามว่า ทำไมจึงอยากเกิด ได้รับคำตอบว่า จะลงมาบำเพ็ญบารมีจึงมาขอเกิดกับคุณแม่ก่อน ไม่ประสงค์จะเกิดในครรภ์ของมนุษย์ ขอเป็นลูกของคุณแม่ ขณะพูดคุยกันอยู่นั้น พระผู้ใหญ่ท่านหนึ่งก็มารับทารกทองคำนั้นไปเลี้ยงไว้ ต่อไปภายหน้าเด็กคนนี้คงต้องได้บวชและอยู่รับใช้ใกล้ชิดท่าน
คุณแม่พยากรณ์ไว้ โดยบอกถึงชื่อพ่อ-แม่ของเด็กทารกคนนั้น และติดตามถามข่าวว่าพ่อ-แม่ของเด็กได้ลูกชายจริงไหม และยังบอกอีกว่า เด็กจะอยู่ได้เพียง 3 วัน แล้วจะมีผู้มาแทน เหตุการณ์ตามนิมิตก็เป็นจริงทุกอย่าง คือเมื่อเด็กทารกคลอดแล้ว ก็ร้องอุแว้เกือบตลอดทัง 3 วัน จนเย็นวันที่ 3 ก็สลบไป พ่อ-แม่ และญาติของทารกก็ว่าวันนี้เย็นค่ำมืดแล้ว พรุ่งนี้ค่อยเอาไปฝัง จากนั้นได้เอาผ้าหุ้มห่อเด็กเอาไว้ พอรุ่งอรุณวันใหม่ ซึ่งเป็นความหวังครั้งสุดท้ายของผู้เป็นพ่อ-แม่ ผู้เป็นแม่ก็บีบน้ำนมจากเต้านมใส่ช้อนแล้วใช้สำลีชุบน้ำนมค่อยๆ แตะที่ริมฝีปากของทารก และน้ำนมได้ซึมไหลเข้าสู่ปากลงสู่ลำคอจนที่สุดทารกก็ขยับคอได้ จึงรู้ว่ายังไม่ตาย
เมื่อครบกำหนดวันออกไฟแล้ว พ่อ-แม่ของเด็กรีบพาเด็กไปกราบคุณแม่ทันที คุณแม่พูดว่า ไม่ต้องเอามาให้แม่หรอก เขามาหาก่อนที่จะไปอยู่กับพวกเธอแล้ว เลี้ยงเขาให้ดี เขามาอาศัยร่างที่ได้จากโยม จึงนับว่าเป็นลูกของโยม ต่อไปภายหน้าเขาจะได้บวชค้ำชูพระพุทธศาสนา
- นิมิตเทพบุตรมาขอเป็นลูก
นิมิตที่เป็นจริงของคุณแม่อีกเรื่องหนึ่งก็คือ เรื่องที่เทพบุตรตนหนึ่งจุติมาเกิดเพื่อสร้างบุญบารมีในบวรพระพุทธศาสนาสืบธรรมไว้ โดยคุณแม่เล่าว่า ก่อนที่จะมาเกิด เทพบุตรตนนั้นได้ลงมายังโลกมนุษย์ เพื่อมาเสาะหาที่เกิด คือเสาะหาผู้จะได้เป็นพ่อเป็นแม่ ชาติตระกูลและลำดับการเป็นลูก แต่เป็นเพราะบุญเก่าส่งผลให้ จึงได้มาพบปะกันตอนที่อยู่ภูเก้า
จนที่สุดผู้เป็นแม่ตั้งท้องได้ 6 เดือน พระอินทราธิราชผู้เป็นหัวหน้าเทวดาอยู่บนสวรรค์พร้อมเทวดาหมู่มาก พากันนำเทพบุตรตนนั้นมาถวาย วันที่หมู่เทวดาเอามาส่งนั้น มีแสงสว่างไสวทั่วไปหมดในแถบถิ่นนั้น แต่รู้ได้เฉพาะคุณแม่กับคุณแม่แดง (แม่ชีมะแง้ ผิวขำ) แต่คุณแม่แดงท่านไม่ได้พูดให้ฟัง ในตอนหลังจึงได้พูดกับพระอาจารย์ผู้ใหญ่ ท่านจึงว่า สามเณรรูปนี้ได้เห็นตั้งแต่ลงมาเสาะหาที่เกิด จึงได้ชวนให้มาเกิดกับ...
วันนั้นเทพบุตรลงมาแล้วก็บอกว่า จะมาขอเป็นลูกของคุณแม่ชี คุณแม่ก็บอกว่า แม่บวชแล้วไม่อาจที่จะให้ใครมาเกิดด้วยได้ หากจะเกิดให้ไปเกิดเข้าครรภ์ของนาง...ภรรยาของนาย...ให้เฝ้าครรภ์เอาไว้ เกิดกับสามีภรรยาคู่นี้แหละ ต่อไปภายหน้าก็จะได้บวชในพระพุทธศาสนาตามประสงค์ ผู้เป็นพ่อเป็นแม่ก็เป็นชาวไร่ชาวนา ก็พอที่จะส่งเสียให้เรียนหนังสือพออ่านออกเขียนได้ ถ้าหากถือเอาพ่อ-แม่คู่นี้เป็นที่เกิด เกิดมาในตอนนี้ก็จะดีมาก เพราะเป็นลูกที่เกิดกลางๆ เกิดมาแล้วพ่อแม่จะไม่ห่วงหาอาลัยนัก เพราะคนแถบถิ่นนี้เขารักและห่วงอาลัยลูกคนแรกและคนสุดท้ายเท่านั้น หากจะเกิดกับสามีภรรยาคู่นี้ก็จะได้เป็นลูกคนกลางกอปรกับต้นตระกูลของเขา ก็ฝักใฝ่สนใจในพระพุทธศาสนาจัดเป็นตระกูลสัมมาทิฐิ
เทพบุตรตนนั้นก็ว่า จะรับรองได้อย่างไรว่า เมื่อเติบโตพอที่จะบรรพชาอุปสมบทแล้วจะได้บรรพชาอุปสมบทตามประสงค์ คุณแม่ก็ว่า แล้วแต่ว่าบุพกรรมของท่านเอง เมื่อได้สนทนาตกลงตัดสินใจกับแล้ว พระอินทราธิราชผู้เป็นหัวหน้าเทวดาทั้งหลายก็กลับสวรรค์ไป เหลือแต่เทพบุตรผู้จะถือกำเนิดในครรภ์มนุษย์ต่อไป
หลายวันต่อมาคุณแม่จึงเรียกสามีภรรยามาพูดคุยให้ฟังตามเรื่องราวที่ปรากฏในนิมิตและออกปากขอทารก สามีภรรยาคู่นั้นก็ตกลงถวายให้เป็นลูกของคุณแม่ตั้งแต่บัดนั้น เมื่อครบกำหนดคลอดได้คลอดออกมาเป็นเด็กผู้ชาย รูปร่างหน้าตาอวัยวะครบถ้วนสมบูรณ์ พ่อของเด็กได้มากราบเรียนคุณแม่ทราบ คุณแม่บอกว่าให้ตั้งชื่อว่า...ปัจจุบันได้อุปสมบทในบวรพระพุทธศาสนาสมความประสงค์และเป็นลูกศิษย์องค์สำคัญมากรูปหนึ่งขององค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
ไม่สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th