Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 เชิญสร้างพระประธานกันภัยพิบัติ-เจดีย์-ปล่อยวัว อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
พุทธภูมิ
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 22 ต.ค. 2006
ตอบ: 22
ที่อยู่ (จังหวัด): ขอนแก่น

ตอบตอบเมื่อ: 08 ก.พ.2007, 11:32 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอเชิญสร้างพระประธานกันภัยพิบัติ 29 องค์ 4 ภาค-เจดีย์หลายร้อยล้าน-ปล่อยวัว 3258 ตัวทุกๆ ปี

ขอเชิญร่วมสร้างอุโบสถพระศรีสรรเพชรบรมพุทธเจ้า 29 พระองค์ 4 ภาค
? เมื่อ: วันนี้ เวลา 12:34:13 AM ? อ้างถึง

--------------------------------------------------------------------------------
ด้วยคณะบุญธรรมประทานพร มีความประสงค์ที่ดำเนินการจัดสร้างอุโบสถพระศรีสรรเพชรบรมพุทธเจ้า จำนวน 29
พระองค์จำนวน 4 ภาค ที่ภาคเหนือ คือลำพูน ภาคอีสานคือจังหวัดสกลนครภาคกลาง คือปทุมธานีและภาคใต้
คือสงขลางบปะมาณในการก่อสร้างแห่งละ 50 ล้านบาท พุทธบริษัทคนใดสนใจที่ร่วมสร้างติดต่อได้ที่พระครูโสภณจริยานุกูล โทร
0896578978



ร่วมบริจาคเงินเพื่อปรับปรุงหอสงฆ์อาพาธแห่งใหม่
ตอบคำถามเพิ่ม คลิกที่นี่


ศ.นพ.วิรุฬห์ เหล่าภัทรเกษม คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.)เปิดเผย ว่า เนื่องในวโรกาส พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความตั้งใจที่จะจัดหอสงฆ์อาพาธ แห่งใหม่ ให้บริการรักษาพระภิกษุอาพาธได้อย่างมีคุณภาพและตามหลักพระธรรมวินัย ถวายเป็นพระราชกุศลแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

หอสงฆ์อาพาธแห่งใหม่ จะย้ายจากพื้นที่หอสงฆ์เดิม ไปยังพื้นที่ชั้น 10 ของอาคารสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี อนุสรณ์ (อาคาร 19 ชั้น) โรงพยาบาลศรีนครินทร์ อ.เมือง จ.ขอนแก่น จัดให้มีห้องผู้ป่วยพิเศษ 4 ห้อง ห้องพิเศษรวม 8 เตียง ที่เหลือเป็นเตียงสามัญ 26 เตียง รวมทั้งสิ้น 38 เตียง ภายในหอสงฆ์จะมีห้องสวดมนต์ (ห้องพระ) สำหรับพระภิกษุปฏิบัติศาสนกิจ บำเพ็ญจิตภาวนา และฉันภัตตาหารของภิกษุเฝ้าไข้ สามารถจัดกิจกรรมทำบุญในโอกาสสำคัญต่างๆ โดยมีพื้นที่รองรับญาติโยมที่เหมาะสม

ศ.นพ.วิรุฬห์ กล่าวต่อว่า ที่สำคัญการพัฒนาหอสงฆ์ แห่งใหม่นี้ โรงพยาบาลจะจัดบริการรักษาพยาบาลให้ถูกต้องตามหลักพระธรรมวินัย เพื่อเป็นต้นแบบการบริการ พระภิกษุอาพาธตามพระธรรมวินัย กับโรงพยาบาลอื่นใน ประเทศไทย โดยจัดบุรุษพยาบาลมาดูแลรักษาพระภิกษุ อาพาธเป็นการเฉพาะ และจัดให้พื้นที่ทั้งชั้น 10 เป็นพื้นที่ หอสงฆ์ รักษาพระภิกษุอาพาธแยกจากผู้ป่วยทั่วไป คาดว่าจะเปิดให้บริการรักษาได้ประมาณกลางปี 2550 โดยไม่ เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น

ทั้งนี้ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ เป็นโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยชั้นนำ ให้การรักษาพยาบาลระดับตติยภูมิ โดยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญครบทุกสาขา เป็นที่พึ่งด้านสุขภาพที่สำคัญของประชาชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทั่วประเทศ สมควรอย่างยิ่งที่จะพัฒนาเป็นศูนย์กลางการรักษาพยาบาลภิกษุอาพาธอย่างเป็นระบบ

เดิมคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ให้บริการรักษาพระภิกษุอาพาธ ณ หอสงฆ์อาพาธพระราชนิโรธรังสีคัมภีร์ปัญญาวิศิษฐ์ (หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี) โรงพยาบาลศรีนครินทร์ มาตั้งแต่ปี 2537 ปัจจุบันพื้นที่หอสงฆ์เดิมคับแคบ ไม่สามารถเอื้ออำนวยให้พระสงฆ์ปฏิบัติศาสนกิจประจำวันได้สะดวก ทำให้พระเถระผู้ใหญ่หลายรูปเมื่ออาพาธ จะไปรักษากับโรงพยาบาลส่วนกลางแทน


ที่ผ่านมามีพระเถระผู้ใหญ่ในภาคอีสานผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบหลายรูป มารักษาอาการอาพาธที่หอสงฆ์โรงพยาบาลศรีนครินทร์ อาทิ หลวงปู่หล้า เขมปัตโต หลวงปู่ ถิร ฐิตธัมโม พระอริยเวที (หลวงปู่มหาเขียน) หลวงปู่อุ่น ชาคโร หลวงปู่ลี ฐิตธัมโม หลวงปู่มหาบุญมี สิริธโร ฯลฯ
สำหรับงบประมาณปรับปรุงพื้นที่หอสงฆ์ใหม่ เบื้องต้นไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งโรงพยาบาลมีงบประมาณจำกัด สำหรับการตกแต่งภายในและต่อเติมหอสงฆ์ จำเป็นต้องขอรับสนับสนุนจากประชาชนทั่วไป โดยได้รับความเมตตาจากพระอาจารย์อินทร์ถวาย สันตุสฺสโก วัดป่านาคำน้อย จ.อุดรธานี ในฐานะประธานที่ปรึกษาฝ่ายสงฆ์ รับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธา จัดหาทุนมาดำเนินการข้างต้น


สำหรับผู้มีจิตศรัทธา สามารถร่วมบริจาคเงินเพื่อปรับปรุงหอสงฆ์แห่งใหม่ได้ที่ บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 551-2-99665-8 ชื่อบัญชี ‘หอสงฆ์ ตึก 19 ชั้น’ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขามหาวิทยาลัยขอนแก่น สอบถามรายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่ ผศ.น.พ.วิทูรย์ ประเสริฐเจริญสุข โทร.0-1872-0871 หรือ รศ.พ.ญ.มณเฑียร เปสี โทร. 0-1056-7555




ร่วมทำบุญสร้างเจดีย์3ที่พระประธาน16เมตรสององค์แผ่นหิน6ม.7000แผ่นพระผง84000องค์โบสถ์รวมแล้วกว่า100ล้านและร่วมทอดกฐินกับวัดหลวงพี่เล็กและวัดสายหลวงพ่อฤาษีอีก14วัดร่วมบุญผ่านธนาณัติศิวโมกข์ พุทธบุตร รับดูดวงและแก้กรรมแบบมโนมยิทธิ. 697 ซอยจรัลสนิทวงศ์ 75 ซอย1 เขตบางพลัด กรุงเทพฯ 10700
สร้างแม่พิมพ์องค์ปฐมต้น โอนเงินธนาณัตินาม รับพระบรมสารีริกธาตุฟรีนายศรัณย์ธร ยกเชื้อ 5 / 154 ( ตะวันนา 7 ) ม . 5 ถ . สนามบินน้ำ ต . บางกระสอ อ . เมือง จ . นนทบุรี 11000





ขอเชิญร่วมซื้อที่ดินถวายวัดถ้ำผาปู่

ร่วมกับหลวงปู่เผย วิริโย เพื่อขยายที่วัดเนื้อที่ 100 ไร่ๆละ 120,000 บาท คิดเป็นตารางวาละ 300 บาท ณ วัดถ้ำผาปู่ ต.นาอ้อ อ.เมือง จ.เลย

โอนเงินเพื่อซื้อที่ดินถวายวัดถ้ำผาปู่ ร่วมกับหลวงปู่เผย วิริโยได้ที่

ธนาคารกรุงไทย สาขาเลย บัญชีออมทรัพย์
ชื่อบัญชี พระอาจารย์เผย วิริโย
หมายเลขบัญชี 403-1-42983-5

วัดถ้ำผาปู่ โทร. 042-81-13-34




--------------------------------------------------------------------------------
เชิญร่วมเป็นเจ้าภาพ บูรณวัดเก่าเป็นวัดใหม่
โดยบริจาคสมทบทุนพัฒนา ณ วัดอิสานบ้านหนองละคร
ตำบลแคน อำเภอสนม จังหวัดสุรินทร์ ๓๒๑๖๐



บ้านหนองละคร ตั้งอยู่ในถิ่นอีสานตอนใต้ที่ทุรกันดาร ยังขาดความเจริญจึงเป็นอยู่แบบขาดความสัปปายะหลายอย่าง เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ มีวัดตั้งมาพร้อมกับหมู่บ้าน ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๗๕ มีเจ้าอาวาสมาแล้ว ๖ รูป
ปัจจุบันมีพระอธิการสาย ญาณวโร เป็นเจ้าอาวาส มีพระภิกษุสามเณรอยู่จำพรรษา ปีละ ๑๐ รูป เป็นที่พึ่งของหมู่บ้าน มีกุฎีรวมหลังใหญ่ ๑ หลัง มีศาลา ๑ หลัง เมรุ ๑ หลัง ห้องน้ำ ๑๓ ห้อง การสร้างวัดส่วนใหญ่ได้รับแรงกายจากชาวบ้าน
บัดนี้ ทางวัด อยากเทพื้นปูนใต้กุฎีหลังใหญ่ เพื่อใช้เป็นที่อบรมหมู่สามเณรภาคฤดูร้อน ที่พักของญาติโยมที่ประชุมของชาวบ้าน งบประมาณ ประมาณ ๑๐,๐๐๐-๒๐,๐๐๐ บาท จึงขอเชิญท่านมาช่วยกันพัฒนาวัดด้วยกันเพื่อถวายในพระพุทธศาสนาเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา และสังฆบูชา ขอความเจริญจงมีแก่ทุกท่านเทอญ.


บริจาคได้ที่

- พระอธิการสาย ญาณวโร เจ้าอาวาสวัดอิสานบ้านหนองละคร ตำบลแคน อำเภอสนม จังหวัดสุรินทร์ ๓๒๑๖๐ สั่งจ่าย ปณ.สนม

- หรือ โอนเงินเข้าบัญชี วัดอิสานหนองละคร (งานฌาปนกิจศพหลวงปู่ทองดี)
เลขที่บัญชี ๖๒๖-๒-๐๘๖๐๓-๖ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.)
สาขาสนม



ท่านใดมีจิตรศรัทธาอยากได้พระบรมสารีริกธาตุ และพระธาตุไว้บูชา สามารถมารับฟรีด้วยตนเองที่
เทวสถาน เสด็จพ่อพระนารายณ์ พระมารดาเจ้า กวนอิม 116 หมู่ 1 ต.สนามชัย อำเภอ เมืองฯ จ สุพรรณบุรี โทร 085-1857369,081-7049477 เป็นเทวสถานให้ผู้ศรัทธาได้ขอพร จากองค์มหาเทพ ต่างๆ

เชิญท่านผู้มีจิตรศรัทธา ร่วม บริจาค ทรัพย์ สมทบทุนสร้าง สมเด็จพระศรีอาริยะเมตตรัย เพื่อไห้เป็นที่สักการะ เเก่ผู้มาขอพร ที่เทวสถาน เสด็จพ่อพระนารายณ์ พระมารดาเจ้า กวนอิม 116 หมู่ 1 ต.สนามชัย อำเภอ เมืองฯ จ สุพรรณบุรี โทร 085-1857369,081-7049477 เป็นเทวสถานให้ผู้ศรัทธาได้ขอพร จากองค์มหาเทพ ต่างๆ และปรึกษาปัญหาชีวิตค่ะ

ทำบุญเพื่อ “ในหลวง” 80 พรรษา “ไถ่ชีวิตโค-กระบือ” รวมใจคนไทยทั่วโลก



ปี 2550 เป็นปีสำคัญอีกปีต่อเนื่องจากปี 2549 เนื่องจากเป็นปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงเป็นที่รักยิ่งของเหล่าพสกนิกร

ดังนั้น แต่ละหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนต่างจัดงานและโครงการต่างๆ ถวายเป็นพระราชกุศลมากมาย ล้วนแล้วแต่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระเกษมสำราญ และทรงพระเจริญ มีพระพลานามัยที่แข็งแรงสมบูรณ์ เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของราษฎรตลอดไป

ในจำนวนโครงการต่างๆ ที่จัดขึ้นเป็นพระราชกุศลนั้น "โครงการไถ่ชีวิตโค-กระบือ เพื่อถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 " ก็เป็นอีกโครงการหนึ่งที่จัดขึ้นด้วยวัตถุประสงค์ดังที่กล่าวมา

โครงการนี้เป็นความร่วมมือของ 2 ฝ่าย คือฝ่าย *สภานิติบัญญัติแห่งชาติ* และ *ฝ่ายมหาเถรสมาคม*

แต่ละฝ่ายได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมารับผิดชอบดำเนินการชักชวนให้ประชาชนร่วมกันบริจาคเงินไถ่ชีวิตโค-กระบือ แล้วนำโค-กระบือไปมอบให้ "ธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกรตามพระราชดำริ" (ธคก.) เพื่อ ธคก.จะได้มอบโค-กระบือให้แก่เกษตรกรเพื่อใช้ประโยชน์ต่อไป ภายใต้เงื่อนไขห้ามฆ่าหรือขายต่อ

สำหรับการคิดตั้ง "ธนาคารโค-กระบือ" ขึ้นมาเป็นศูนย์รวมช่วยเหลือเกษตรกรนั้น เกิดขึ้นจากสายพระเนตรอันยาวไกล ที่ต้องการช่วยเหลือแก้ปัญหาให้กับชาวบ้านคนยากคนจน เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินออกตรวจเยี่ยมราษฎร เดือนมีนาคม 2522

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงทราบว่ามีราษฎรผู้ยากจนในพื้นที่โครงการพัฒนาพื้นที่ราบเชิงเขา จ.ปราจีนบุรี ตามพระราชดำริจำนวนมาก ต้องเช่าโค-กระบือไว้ใช้แรงงานในราคาแพงมาก และบางครั้งเมื่อจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรแล้ว ก็แทบจะไม่เหลืออะไรเลย เพราะเงินที่ได้มาต้องจ่ายเป็นค่าเช่าโค-กระบือเกือบหมด

จึงมีพระราชดำริให้ *กรมปศุสัตว์* จัดตั้ง "ธนาคารโค-กระบือ" ขึ้นในปี 2522 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้มีโค-กระบือไว้ใช้แรงงานเป็นของตนเอง โดยการเช่าหรือเช่าซื้อ หรือวิธีการอื่นๆ ในราคาถูก กรมปศุสัตว์จึงสนองพระราชดำริ จัดตั้ง ธคก.ขึ้น เริ่มแรกทีเดียวใช้โค-กระบือของกรมปศุสัตว์ 280 ตัว นำไปช่วยเหลือเกษตรกรยากจนในท้องที่อำเภอสระแก้ว และอำเภอวัฒนานคร จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ในโครงการพระราชดำริ โดยให้เช่าซื้อและผ่อนส่งใช้ให้หมดภายใน 3 ปี นับจากนั้นมาชาวบ้านผู้ยากจนก็สามารถลืมตาอ้าปากได้ มีความผาสุกในการดำรงชีพ เพราะมีรายได้เพิ่มขึ้น ไม่ต้องเสียเงินแพงๆ ไปเช่าโคกระบือมาทำนา

พระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่นี้ทำให้เห็นว่าธนาคารโค-กระบือ ตามพระราชดำริมีประโยชน์มากมายแก่เกษตรกรจะต้องสานต่อไปและขยายให้กว้างขวางยิ่งขึ้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะน้ำมันมีราคาแพงใช้เครื่องยนต์กลไกทำงานลำบาก

ม.ร.ว.กำลูนเทพ เทวกุล ประธานกรรมการอำนวยการจัดงาน เล่าถึงรายละเอียดของโครงการว่า โครงการดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ รวมทั้งแสดงความจงรักภักดี ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

โดยจัดให้มีการรับบริจาคเงินเพื่อไถ่ชีวิตโค-กระบือ และมอบให้แก่เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการธนาคารโค-กระบือ เพื่อเกษตรกรตามพระราชดำริ ของกรมปศุสัตว์

*"ดังนั้น ในวาระอันเป็นมหามงคล สมควรที่ปวงชนชาวไทยจะได้ร่วมกันจัดกิจกรรม โดยจะไถ่ชีวิตโค-กระบืออย่างน้อยวันละ 9 ตัว เป็นเวลา 1 ปี โค-กระบือดังกล่าวจะบริจาคเข้าธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกรตามพระราชดำริ"*

ม.ร.ว.กำลูนเทพกล่าวว่า การร่วมกันทำบุญด้วยการไถ่ชีวิตโคกระบือที่กำลังจะถูกฆ่าถือเป็นกุศลอันยิ่งใหญ่ เป็นการบำเพ็ญอภัยทาน จัดเป็นทานที่มีผลสูงสุดในบรรดาทานทั้งปวง โดยเฉพาะอภัยทานต่อชีวิตของสัตว์ที่ทำคุณประโยชน์ให้แก่มนุษย์ จึงมีผลยิ่งใหญ่ต่อ 3 ฝ่าย คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงเป็นที่มาของโครงการนี้ทรงเจริญพระชนมพรรษายิ่งยืนนาน เป็นร่มโพธิ์ร่มไทร ปกเกล้าฯเหล่าพสกนิกรชาวไทยตลอดกาลนาน

ส่วนผู้บริจาคไถ่ชีวิตโค-กระบือ ซึ่งช่วยต่อชีวิตสัตว์ใหญ่ที่ทำประโยชน์แก่มนุษย์ ย่อมมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้นด้วยอานุภาพแห่งอภัยทานนั้น

และเกษตรกรในโครงการธนาคารโค-กระบือได้ใช้ประโยชน์จากโค-กระบือที่รอดชีวิตจากการถูกฆ่านั้น

"ที่เห็นชัดเจนคือ การร่วมทำบุญโครงการนี้ เป็นการดำเนินตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงที่ทรงชี้แนวทางให้ทุกฝ่ายมีความพอเพียงในการดำเนินชีวิต โดยเฉพาะเกษตรกร มีพระราชดำริว่าการใช้โค-กระบือยังอาจเป็นประโยชน์อยู่ ดังพระบรมราโชวาทที่พระราชทานแก่สมาชิกกลุ่มเกษตรกรทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2523 ที่ว่า

"...ปัจจุบันมีความคิดแต่จะใช้เครื่องกลไกเป็นเครื่องทุ่นแรงในกิจการเกษตร แต่เมื่อราคาน้ำมันเชื้อเพลิงแพงขึ้น ความก้าวหน้าในการใช้เครื่องกลไกเสียไป จำเป็นต้องหันมาพึ่งแรงงานจากสัตว์ที่เคยใช้อยู่ก่อน เมื่อหันกลับมาก็ปรากฏว่ามีปัญหามาก เพราะชาวนาไม่มีเงินซื้อโคและกระบือมาเลี้ยงไว้เพื่อใช้งาน

...การตั้งธนาคารโคกระบือก็มิใช่ว่าจะตั้งโรงขึ้นมาเก็บโคหรือกระบือ เพียงแต่มีศูนย์กลางขึ้นมา เช่น อาจจัดให้กรมปศุสัตว์เป็นศูนย์รวม ใครจะสมทบธนาคารโคและกระบือก็ไม่จำเป็นต้องนำโคหรือกระบือไปมอบให้ อาจบริจาคในรูปของเงิน..."

การบริจาคไถ่ชีวิตโค-กระบือ กรมปศุสัตว์ ผู้รับผิดชอบธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกรตามพระราชดำริ จะรับผิดชอบคัดโค-กระบือจากโรงฆ่าสัตว์ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา และ จ.ปทุมธานี มากักโรคไว้ 21 วัน ก่อนทำพิธีไถ่ชีวิต

และเมื่อทำพิธีแล้ว กรมปศุสัตว์โดยธนาคารโค-กระบือ จะนำโค-กระบือไปให้เกษตรกร ซึ่งมาขึ้นทะเบียนไว้ 7,000 คน ยืมโค-กระบือไปใช้ประโยชน์ โดยมีคำสาบานปฏิญาณของผู้ยืมว่าจะไม่นำโค-กระบือไปฆ่าหรือขายต่อ และกรมปศุสัตว์จะเป็นผู้ติดตามการใช้โค-กระบือดังกล่าวจากเกษตรกร

"สำหรับพิธีไถ่ชีวิตโค-กระบืออย่างน้อยวันละ 9 ตัว เป็นเวลา 1 ปี มีการจัดพิธีสงฆ์เพื่อถวายสังฆทานและไถ่ชีวิตจัดขึ้นสัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยจัดทุกวันจันทร์ อันเป็นวันพระราชสมภพ เวลา 14.00 น. ที่วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน เริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2550 เป็นต้นไป โดยเจ้าภาพผู้บริจาคไถ่ชีวิตโค-กระบือ ไปร่วมในพิธีด้วย"..

การทำพิธีไถ่ชีวิตโค-กระบือ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 63 ตัว (วันละ 9 ตัว 7 วัน) โดยมหาเถรสมาคมจะจัดพระสงฆ์มาทำพิธี และสภานิติบัญญัติแห่งชาติจะเป็นผู้รับผิดชอบในพิธีร่วมกับกรมปศุสัตว์

จากนั้นคณะกรรมการอำนวยการโครงการจะนำรายชื่อผู้บริจาคและจำนวนโค-กระบือที่บริจาครายงานให้ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบ เพื่อให้ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ นำความขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณาทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทเป็นระยะ

ด้าน น.ส.จิตติเทวี ตติยรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์โครงการกล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการนี้ยังได้ขยายไปในต่างประเทศด้วย โดยจะประสานกับกระทรวงการต่างประเทศให้ประชาสัมพันธ์ไปยังสถานทูตไทยประจำประเทศต่างๆ เพื่อแจ้งให้คนไทยในต่างแดนได้รับรู้โครงการ และเข้ามามีส่วนร่วมกันเป็นเจ้าของโครงการ ถือว่าเป็นการรวมใจชาวไทยจากทั่วโลกพร้อมใจกันทำบุญเพื่อในหลวง โดยจะแถลงรายละเอียดอย่างเป็นทางการในวันที่ 31 มกราคม เวลา 17.00 น. ที่อาคาร 2 รัฐสภา

โค-กระบือถือเป็นสัตว์ที่มีความสัมพันธ์กับวิถีชีวิตของชาวนาไทยมาแต่ไหนแต่ไร และถือว่าเป็นปัจจัยการผลิตที่สำคัญยิ่ง เพราะเป็นแรงงานอย่างเดียวซึ่งทำหน้าที่แทนเครื่องจักรกล ในกระบวนการผลิตข้าวเกือบทุกขั้นตอน ในบางท้องที่ยังใช้โค-กระบือเป็นแรงงานอีกด้วย

ผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากธนาคารโค-กระบือนั้นส่งผลโดยตรงกับตัวเกษตรกรที่ยากจน การร่วมกันบริจาคไถ่ชีวิตโค-กระบือ นอกจากการได้ช่วยเหลือสัตว์ที่จะถูกฆ่าให้มีชีวิตรอดแล้ว ยังได้ช่วยเหลือคนยากจนให้มีวิถีชีวิตที่อยู่ได้อย่างมีความสุข ส่งผลให้สังคมร่มเย็น ประเทศชาติสงบสุข

ที่สำคัญ ดังเช่น ม.ร.ว.กำลูนเทพกล่าว "...การร่วมกันทำบุญด้วยการไถ่ชีวิตโค-กระบือที่กำลังจะถูกฆ่าถือเป็นกุศลอันยิ่งใหญ่ เป็นการบำเพ็ญอภัยทาน จัดเป็นทานที่มีผลสูงสุดในบรรดาทานทั้งปวง...จึงมีผลยิ่งใหญ่ต่อ 3 ฝ่าย คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงเป็นที่มาของโครงการ ทรงเจริญพระชนมพรรษายิ่งยืนนาน เป็นร่มโพธิ์ร่มไทร ปกเกล้าฯเหล่าพสกนิกรชาวไทยตลอดกาลนาน

***********************************************

สามารถแสดงความจำนงและบริจาคเงินได้ที่ บัญชี "โครงการไถ่ชีวิตโค-กระบือ ถวายเป็นพระราชกุศล 80 พรรษา"

ชื่อบัญชี "โครงการไถ่ชีวิตโค-กระบือถวายเป็นพระราชกุศล 80 พรรษา

ธนาคารกรุงไทย ออมทรัพย์ สาขาย่อยรัฐสภา เลขที่ 089-0-02136-8

ธนาคารกรุงเทพ ออมทรัพย์ สาขาสนง.กพ. เลขที่ 201-0-54321-9

ธนาคารกรุงศรี ออมทรัพย์ สาขาสนง.พระราม 3 เลขที่ 777-1-42770-5

ธนาคารทหารไทย สำนักงานใหญ่ บัญชีออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 001-7-87474-4

ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเทเวศร์ บัญชีออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 202-2-62188-0

ธนาคารกสิกรไทย สาขานางเลิ้ง บัญชีออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 062-2-38889-8

แจ้งการโอนเงินเข้าบัญชีได้ที่ กลุ่มงานการเงิน
อาคารรัฐสภา 2 โทรศัพท์ 02-244-1578

ในการแสดงความจำนงดังกล่าว โปรดให้รายละเอียดว่าจะบริจาคไถ่ชีวิตโค-กระบือเป็นจำนวนกี่ตัว (ตัวละ 14,000 บาท)

หรือร่วมบริจาคเป็นจำนวนเงินเท่าใด ประสงค์จะให้ออกใบเสร็จในนามผู้ใด และประสงค์จะเข้าร่วมในพิธีสงฆ์หรือไม่ และหากไปจะไปร่วมวันใด ในกรณีที่บริบาคหลายตัว กรุณาแจ้งด้วยว่าจะบริจาคพร้อมกันในสัปดาห์เดียวหรือแยกบริจาคแต่ละสัปดาห์หรือแต่ละเดือน

การบริจาคอื่นๆ

เนื่องจากมีพิธีสงฆ์ ผู้มีจิตศรัทธาอาจร่วมบริจาคสิ่งของต่อไปนี้ด้วยก็ได้

การจัดพิมพ์หนังสือแจกผู้เข้าร่วมในพิธีอันประกอบด้วยคู่มือสวดพระปริตรของมหาเถรสมาคม และซีดีการสวดพระปริตร โดยคณะสงฆ์วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร

เครื่องสังฆทานถวายพระภิกษุสงฆ์ สัปดาห์ละ 9 รูป

จตุปัจจัยถวายพระภิกษุสงฆ์สัปดาห์ละ 8 รูป......
 

_________________
พิจารณาความตายทุกลมหายใจเข้าออก
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง