พุทธภูมิ
บัวใต้ดิน

เข้าร่วม: 22 ต.ค. 2006
ตอบ: 22
ที่อยู่ (จังหวัด): ขอนแก่น
|
ตอบเมื่อ:
30 ม.ค. 2007, 11:46 am |
  |
ขอเชิญปล่อยโคครั้งใหญ่สุดในโลก3258ตัวสร้างเจดีหลายร้อยล้าน5ที่622ล้าน1ที่องปฐมปิดทองจุฬามณี
ด้วยสำนักสงฆ์ผาผึ้ง ร่วมกันพุทธบริษัท ได้ดำเนินโครงการจัดสร้าง พระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา และบูชาผู้มีพระคุณทั้งหลายที่มีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มาตั้งแต่ชาติต้นจนถึงปัจจุบัน โดยจะจัดสร้าง พระเจดีย์ ณ ผลาญหินบนเนินสูงสุดของสำนักสงฆ์ ซึ่งมีหลักฐานบางประการปรากฏอยู่ว่าสถานที่แห่งนี้เคยเป็นพระเจดีย์เก่า ซึ่งมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่ภายใต้ และจากปรากฏการณ์ซึ่งมีดวงแก้วสุขสกาวสว่างไสว เสด็จขึ้นเหนือสถานที่นี้เป็นอัศจรรย์ คณะพุทธบริษัทจึงเห็นสมควรให้มีการก่อสร้างพระเจดีย์ขึ้น ครอบไว้ตรงจุดที่ดวงแก้วเสด็จขึ้นมา เพื่อทำให้สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ได้รับความเคารพสักการบูชาอย่างถูกต้องสืบไป
____________________________________________________________
ขออำนาจอันศักดิ์สิทธิ์แห่งคุณพระศรีรัตนตรัยอันมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ ,พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกพระองค์ ,พระอรหันต์เจ้าและครูบางอาจารย์ผู้ทรงพระคุณทั้งหลาย รวมทั้งอานิสงส์ผลบุญที่ท่านได้ร่วมในบุญอันประเสริฐครั้งนี้ ขอเป็นพลปัจจัยส่งผลให้ท่านถึงพร้อมด้วยความเจริญรุ่งเรือง สมบูรณ์พลูผลในมนุษย์สมบัติทุกๆด้าน และสมประสงค์ในสิ่งที่ปรารถนาไว้ทุกประการ จนกว่าจะเข้าถึงซึ่งพระนิพพานในอนาคตอันใกล้นี้เทอญ นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ
ประธานอุปถัมภ์ หลวงพ่อประสงค์ จันทสุวรรโน
ประธานฝ่ายสงฆ์ พระธวัชชัย ชาครธัมโม (พระอาจารย์นิล)
ประธานฝ่ายฆราวาส คุณวิชชัย ธรรมประดิษฐ์
การบริจาค
สำหรับหมายเลขบัญชีที่จะใช้ในการโอนเงินเพื่อร่วมทำบุญ
บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาลาดพร้าว 102
บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 189-0-13128-8
ชื่อบัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีชญา ,นายอุเทน งามศิริ ,นายสิรเชษฏ์ ลีละสุนทเลิศ
ผมมีพระพิมพ์มามอบให้ผู้ร่วมบริจาคทำบุญ เพื่อเป็นที่ระลึกถึงความเมตตาที่ท่านได้ช่วยกันร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งกันครับ
เมื่อโอนแล้วแจ้งยอดเงินและชื่อที่อยู่เพื่อจัดส่งไว้ในกระทู้ หรือส่งข้อความส่วนตัวมาที่ผมหรือคุณนักเดินทาง(แล้วแต่ชุดของพระพิมพ์) แล้วผมหรือคุณนักเดินทางจะจัดส่งพระพิมพ์หรือวัตถุมงคลให้ครับ
ขอขอบพระคุณและโมทนาสาธุกับทุกท่านที่เมตตาครับ
--------------------------------------------------------------------------------
ขอเชิญร่วมสร้างพระฯจากสูตรโบราณซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปจะมีความแข็งแกร่งประดุจหิน...
สำนักสงฆ์พุทธสวรรค์
บ้านโนนสวรรค์ ต.เขาคอก
อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์
เนื่องด้วยทางพุทธบริษัทสำนักสงฆ์พุทธสวรรค์ ตั้งอยู่ที่บ้านโนนสวรรค์ ตำบลเขาคอก อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ มีความประสงค์จะสร้างพระพุทธรูปปางพุทธลีลา และทำเป็นลานธรรมมณฑล เพื่อเป็นที่สักการะบูชาอีกทั้งการประกอบกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา และเป็นสถานที่ อันเป็นลานธรรมอบรมธรรมสัมมาปฏิบัติแก่พุทธบริษัท เยาวชน นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ในเขตอำเภอประโคนชัย และจังหวัดใกล้เคียง
ในการสร้างพระนั้นจำเป็นต้องใช้วัสดุชนิดปูนเผาตำผสมสูตรโบราณ ซึ่งเมื่อการสร้างแล้วเสร็จเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 10 ปีนั้น พระพุทธรูปจักมีความแข็งแกร่งประดุจดั่งหินผา สำหรับงบประมาณในการดำเนินการสร้างปั้นพระ พร้อมทั้งอาสนสงฆ์ และลานธรรมะ นั้น งบประมาณ อยู่ที่ ประมาณ 300,000 (สามแสนบาท)
ด้วยเหตุนี้ พุทธบริษัทบ้านโนนสวรรค์จึงบอกบุญมายังพุทธบริษัทสาธุชนทุกๆท่าน เพื่อจะได้ร่วมสร้างทานบารมีและได้ร่วมทำความดีถวายเป็นพุทธบูชา
จึงเรียนมายังพุทธบริษัทสาธุชนทุกๆท่าน
หากท่านสะดวกเดินทางไปทำบุญเองที่สำนักสงฆ์ กระผมก็ขอโมทนามา ณ ที่นี้ หากท่านไม่สะดวกด้วยเหตุประการใด ก็สามารถร่วมทำบุญผ่านการโอนผ่านทางบัญชีได้ครับ
ธนาคารกรุงไทย สาขาบ้านนา
ชื่อบัญชี พระดำรงธรรม อตฺตฺทีโป(บัญชีของพระอาจารย์ใหญ่)
บัญชีเลขที่ 212-0-04675-1
ท่านสามารถติดต่อสอบถามและแจ้งยอดการทำบุญได้ที่ พระคำปุ่น มุนิวังโส โทร 086-252-7658
____________________________________________________________
.....คนเห็นช้าง เขาไม่เถียงให้เมื่อยปาก
ไม่ยุ่งยาก มองดูก็รู้นั่น
คนเห็นธรรม ก็เป็นเช่นเดียวกัน
ไม่มีวันถกเถียง เปลืองเวลา.........
สร้างวัดร่วมกันนะครับ มี 2 วัด ไม่ใช่การเรี่ยไร ท่านใดศรัทธาก็มาร่วมสร้างครับ
1. วัดป่าหนองศาลาสามัคคีธรรม (เป็นวัดในบ้านนอกที่อิสาน ทุรกันดาร)
http://www.palungjit.com/club/palmnaraks/
2. วัดป่าปฐมพุทธาราม (เป็นวัดในสายหลวงพ่อวัดท่าซุงฯ ครับ)
http://www.palungjit.com/board/showt...513#post259513
เทศนาออนไลน์ จากพระอรหันต์หลายๆรูป
http://www.rachinuthit.ac.th/thamma/#
รวมบทความที่เกี่ยวกับแม่ชีทศพร ชัยประคอง
เสียงธรรมจากแม่ชีทศพรบรรยาย
http://www.palungjit.com/club/jshapy/
หลายๆบทสวดมนต์ ที่สำคัญๆที่จะพาท่านสวดออนไลน์ http://www.suadmon.com/
ขอเชิญเป็นเจ้าภาพร่วมบุญสร้างพระศรีอาริยเมตไตร
--------------------------------------------------------------------------------
กระผมขออนุญาติประกาศบอกบุญไว้ในกระทู้นี้ ถึงเรื่องสร้างบุญบารมีกัน สร้างพระศรีอาริยเมตไตร ทรงเครื่องจักรพรรดิ์ ขึ้นมา หน้าตัก 20 นิ้วประดิษย์สถานที่ สำนักปฏิบัติธรรมถิ่นกาขาว จ.อุบลฯ
รายละเอียด
องค์พระ 2 องค์ องค์ละ 35,000 บาท 2 องค์ 70,000 บาทครับ
ช่วงหลังมากช่างขอค่าใช้จ่ายเพิ่มครับเพราะว่า วัสดุแพงขึ้นผมพิจารณาแล้วน่าเห็นใจเหมือนกันครับ ที่เพิ่มมาก็ องค์ละ 5,000 บาท 2 องค์ก็ 10,000 บาท
-รวมทั้งหมด 80,000 บาท
ตอนนี้ได้สร้างไปได้ประมาณ 80 % แล้วคือได้ปั้นหุ่นแบบเรียบร้อยแล้วครับสวยมาก
และค่าใช้จ่ายที่ผ่านมาก็มี
- ค่ามัดจำ 30,000 บาท
- ก่อนหล่อพระ 20,000 บาท
จ่ายแล้ว คงเหลือ 30,000 บาท
- และที่เหลือหลังจากพระเสร็จแล้วก็จ่ายให้หมดครับ
ตอนนี้ปัจจัยที่ เหลือก็ประมาณ 30,000 บาท ครับ
กระผมจึงบอกบุญมายังท่านทั้งหลายได้เมตตาร่วมแรงร่วมใจกันร่วมสร้างร่วมสร้างบุญ บารมีร่วมกันครับ
สำหรับท่านที่ประสงค์จะทำบุญ ได้ที่
บัณฑิต สุวรรณโท
ธนาคาร กรุงไทย
สาขา สุวรรณภูมิ
เลขบัญชี 4 1 4 1 3 4 5 7 4 1
086-8528535
bunditsster@gmail.com
____________________________________________________________
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน) พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้... - หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร - ขอความเมตตาช่วยต่อชีวิตพระเณร - เชิญร่วมบริจาคค่าขุดบ่อบาดาล สนส บ่อเงินบ่อทอง บัญชีออมทรัพย์ 2030-06304-5 บัญชี รร.พระปริยัติธรรมบ่อเงินบ่อทอง ปริยัติศึกษา บมจ.ธ.กรุงไทย สาขาพนมสารคาม
ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาลาดพร้าว 102 บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 189-0-13128-8 ชื่อบัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีชญา ,นายอุเทน งามศิริ ,นายสิรเชษฏ์ ลีละสุนทเลิศ
ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ วัดพระพุทธบาทจำศีล อ.ดอยเต่า จ.เชียงราย
--------------------------------------------------------------------------------
วัดพระบาทจำศีลเป็นวัดเก่าแก่โบราณ ตามประวัติกล่าวว่าสร้างในสมัยพระนางจามเทวี มีอายุกว่า 1,400 ปี เมื่อเวลาผ่านไปวัดได้ถูกทิ้งร้าง และล่มสลายไปตามกาลเวลา จนกระทั่งครูบาเจ้าศรีวิชัยได้ธุดงค์ผ่านมาปักกลดทำสมาธิอยู่บริเวณภูเขา ได้มีนิมิตเห็นรอยพระพุทธบาทองค์นึ่ง มีไผ่สีสุก 4 กอปลูกอยู่ล้อมรอบรอยพระพุทธบาทองค์นั้น เมื่อท่านออกจากสมาธิ จึงได้ทำการค้นหาไผ่สีสุก 4 กอ ตามที่ท่านได้นิมิตเห็นแต่ก็ไม่พบ ต่อมาในสมัยครูบาเจ้าอภิชัย (ครูบาขาวปี) ท่านได้มาค้นหารอยพระพุทธบาทและไผ่สีสุก 4 กอ ตามคำบอกเล่าของครูบาเจ้าศรีวิชัย เมื่อค้นหาแล้วไม่พบ ท่านจึงได้สร้างศาลาไว้ที่เชิงเขา ล่วงมาจนกระทั่งถึงสมัยหลวงปู่ครูบาชัยวงศาพัฒนา (ครูบาวงศ์) ได้มาค้นหารอยพระพุทธบาท และไผ่สีสุก 4 กอ ตามคำบอกเล่าของครูบาศรีวิชัยและครูบาขาวปี ท่านได้นั่งสมาธิค้นหาจนกระทั่งพบไผ่สีสุก 4 กอ และรอยพระพุทธบาทซึ่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับไว้บนก้อนหินในบริเวณภูเขาลูกนั้นเอง
เมื่อครูบาวงศ์ค้นพบรอยพระพุทธบาทตามที่ครูบาศรีวิชัยได้นิมิตเห็นแล้ว ท่านได้ทำสมาธิพิจารณาดูรอยพระพุทธบาทและพบว่าแต่เดิมบริเวณพระพุทธบาทแห่งนี้ เป็นพระเจดีย์เก่าแก่ มีพระบรมสารีริกธาตุประดิษฐานอยู่ด้านล่าง ท่านจึงได้ดำริให้สร้างฐานเจดีย์ครอบเจดีย์องค์เก่าไว้ เพราะท่านเห็นตามนิมิตว่าพระเจดีย์องค์นี้จะสำเร็จได้ ต้องรอเจ้าภาพมาร่วมกันสร้างก่อน ในปี พ.ศ. 2540 ท่านจึงสร้างฐานพระเจดีย์ พร้อมทั้งทำพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และพระพุทธรูป ไว้ที่ฐานพระเจดีย์องค์นี้ด้วย จนมาถึงปัจจุบัน พระแก้ว เขมปญฺโญ (ได้รับมอบหมายจากการสร้างพระเจดีย์จากครูบาวงศ์) และคณะศิษยานุศิษย์ต่างเห็นพ้องต้องกันว่า เป็นเวลาเหมาะสมแล้วที่จะร่วมกันสถาปนาพระเจดีย์องค์นี้ขึ้นมาใหม่ให้ยิ่งใหญ่ดังเดิม) (ประวัตินี้ได้รับคำบอกเล่ามา หากมีข้อผิดพลาดโปรดให้อภัยด้วย)
อานิสงส์พระเจดีย์
อานิสงส์ในการสร้างพระเจดีย์นั้นเป็นอเนกประการ กล่าวคือ เป็นปูชนียสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ย่อมมีความศักดิ์สิทธิ์อย่างยิ่ง ทันทีที่พระพุทธศาสนิกชนได้พบเห็นปรากฏในสายตา แม้จากที่ไกลก็เท่ากับเห็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แม้เพียงแต่เห็นก็เป็นการเห็นที่เลิศ (ทัศนานุตริยะ) เช่นเดียวกับการเห็นพระสมณะ ถือว่าเป็นมงคลอันสูงสุด (สมณาณัญจ ทัสนัง เอตัมมัง คะละมุตตะมัง) และเมื่อได้นมัสการก็ถือได้ว่าเป็นการบูชา หรือการบูชาด้วยดอกไม้ ธูปเทียน ซึ่งแม้จะเป็นอามิสบูชา ก็ถือว่าเป็นการบูชาที่เลิศ (ปูชานุตตะริยะ) และเป็นมงคลอันสูงสุดเพราะถือว่าเป็นการบูชาพระบรมศาสดา ผู้ประกอบด้วยพระปัญญาคุณ พระบริสุทธิ์คุณ และพระมหากรุณาคุณ ซึ่งเป็นมงคลอันสูงสุด เพราะบูชาบุคคลที่ควรบูชา (ปูชาจะปูชะนียานัง เอตัมมัง คะละมุต ตะมัง) เป็นที่ที่เทวดาและพรหมทั้งหลายจะมามนัสการเมื่อท่านเหล่านั้นเหาะผ่านมา และเป็นที่พึ่งของเทวดา และพรหมทั้งหลายจากเทวโลกและพรหมโลก จะได้นมัสการอธิษฐานขอบารมี ขอพลัง ก่อนที่จะไปเกิดในภพใหม่เพื่อสร้างบารมีต่อ เป็นที่พึ่งของมนุษย์ทั้งหลายที่จะมานมัสการและเวียนเทียนปทักษิณให้เป็นสิริมงคลแก่ชืวิต ซึ่งไม่ว่าจะเป็นเทวดา เป็นพรหม ที่มาไหว้พระมหาเจดีย์ หรือพุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธามานมัสการ และเวียนเทียนรอบพระมหาเจดีย์เมื่อใดก็ตาม บุญย่อมเกิดแก่เจ้าของบุญที่มีส่วนร่วมในการบริจาคทรัพย์และแรงงานที่สร้างพระมหาธาตุเจดีย์องค์นี้ >>
อานิสงส์ในการสร้างพระเจดีย์ครั้งนี้ จะได้อานิสงส์ในด้านวิหารทาน ซึ่งเป็นอานิสงส์สูงสุดในวัตถุทาน ซึ่งจะมีอานิสงส์มากกว่าการถวายสังฆทานถึง ๑๐๐ เท่า และมีอานิสงส์สูงกว่าการถวายทานแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเองถึง ๑๐,๐๐๐ เท่า และมีอานิสงส์สูงกว่าพระปัจจเจกพุทธเจ้า ๑,๐๐๐,๐๐๐ เท่า และมีอานิสงส์สูงกว่าการถวายทานแด่พระโสดาบันปฏิมรรคถึง ๑๐,๐๐๐,๐๐๐, ๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐ ล้านเท่าหรือ((๑๐)๒๓เท่า); ซึ่งลำพังการถวายทานแด่พระโสดาบันปฎิมรรค ก็มีอานิสงส์มากมายจนนับไม่ถ้วนอยู่แล้ว จึงไม่อยากให้ท่านพลาดโอกาสทำบุญใหญ่นี้ จึงขอเชิญชวนท่านพุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธาทุกท่านได้ทำบุญตามกำลังศรัทธา
ด้วยพุทธานุภาพของพระบรมธาตุ และพระบรมสารีริกธาตุ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแลพระอรหันตธาตุของพระอรหันต์ และพระบรมสารีริกธาตุของพระปัจเจกพุทธเจ้า และอัฎฐิธาตุของพระเกจิอาจารย์ ซึ่งเป็นพระสงฆ์ผู้ทรงศีล ทรงคุณธรรม ที่บรรจุในพระเจดีย์นั้นย่อมยังความร่มเย็นเป็นสุขให้แก่มนุษย์และสรรพสัตว์ทั้งหลาย ในแว่นแคว้นที่พระเจดีย์นั้นตั้งอยู่
ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยอันศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง จงดลบันดาลให้ทุกท่านจงประสพแต่ความสุขความเจริญด้วยจตุพรพิธพร อันระกอบด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฎิภาณ และธนสารสมบัติ จะประสงค์สิ่งใดอันเป็นที่ชอบและที่ควร ทั้งไม่ผิดกฎหมายและศีลธรรม ก็
ขอจงสำเร็จดังมโนปรารถนา ทุกประการเทอญในการนี้คณะกรรมการทุกท่านขอเรียนเชิญท่านผู้มีจิตศรัทธาได้ร่วมทำบุญนี้ โดยทำบุญได้โดยตรงที่คณะกรรมการที่ได้บอกบุญมายังทุกท่านหรือทางธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาย่อยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ชื่อบัญชี พระเจดีย์วัดพระพุทธบาทจำศีล เลขที่ 235-205155-5
ประติมากรรมพระพิฆเนศ สมทบทุนสร้างเจดีย์จุฬามณี
สดจากหน้าพระ
ชมรมพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ได้จัดสร้างประติมากรรม พระพิฆเนศรูปแบบต่างๆ เพื่อนำรายได้ส่วนหนึ่งสมทบทุนสร้างเจดีย์จุฬามณีที่วัดพระบาทปางแฟน
นายทศพล จังพานิชย์กุล ประธานอำนวยการชมรมพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ กล่าวว่า ทางชมรมพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ได้จัดสร้างประติมากรรมพระพิฆเนศ รุ่น "ขอได้ดังใจหวัง" ขึ้นมาหลายรูปแบบ เช่น ประติมากรรมแบบบูชาขนาด 22 นิ้ว, 9.9 นิ้ว, 5 นิ้ว, 3 นิ้ว และ 1.5 นิ้ว ประติมากรรมแบบประดับผนังขนาด 24 นิ้ว เพนต์สีสวยงาม สร้างขึ้นครั้งแรกในเมืองไทย รูปหล่อลอยองค์มีหลายเนื้อให้เลือก ล็อกเก็ตออกแบบพิเศษให้สวยงามคลาสสิค เหรียญทรงกลมขนาด 3 เซนติเมตร มีหลายเนื้อให้เลือก พระผงดวงตราขนาด 5 เซนติเมตร ออกแบบพิเศษเพนต์สีสวยงาม เพื่อให้ประชาชนได้บูชา
กำหนดพิธีบวงสรวงพระพิฆเนศ เททองหล่อนำฤกษ์ และเทวาภิเษกชนวนมวลสารที่วัดพระบาทปางแฟน อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ วันอาทิตย์ที่ 28 มกราคม 2550 โดยมีพระเกจิชื่อดังมากมายร่วมพิธีเทวาภิเษก
อาทิ พระอาจารย์ประสิทธิ์ วัดป่าหมู่ใหม่ จ.เชียงใหม่, หลวงพ่อวรงคต (หลวงตาม้า) วัดถ้ำเมืองนะ จ.เชียงใหม่, ครูบาน้อย วัดศรีดอนมูล จ.เชียงใหม่, พระอาจารย์เกษม วัดป่าตึง จ.เชียงใหม่, พระอาจารย์อนันต์ วัดดอนจั่น จ.เชียงใหม่, พระอาจารย์โต ฐิตวีริโย วัดพระบาทปางแฟน จ.เชียงใหม่, หลวงปู่เณรคำ วัดป่าขันติธรรม จ.ศรีสะเกษ และปู่ฤาษีเกษแก้ว อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู เชิญชมภาพได้ที่ www.prapikanate.phraphuttharoop.co
พิธีสำคัญครั้งนี้ทางวัดพระบาทปางแฟนได้จัดเตรียมพระสยามเทวาธิราชเนื้อผง ซึ่งผสมมวลสารสำคัญมากมายมอบให้กับทุกท่านที่ไปร่วมงานฟรี
สอบถามรายละเอียดได้ที่ ชมรมพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ โทร.02-512-5135, 02-938-1380-1, 02-938-1504-5 ร้านทองและศูนย์พระเครื่องชั้นนำทั่วประเทศ วัดพระบาทปางแฟน อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ โทร.08-9999-5628
หน้า 28
ขอเชิญสร้างเจดีย์เฉลิมพระเกียรติ622ล้านบาทณวัดสุทธาวาสวิปัสสนา อำเภอเมือง พระนครศรีอยุธยา รายละเอียดติดต่อวัด0811905757
ขอเชิญร่วมสร้างพระพุทธรูป พุทธมณฑล
บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระอัฐิธาตุพระอริยสงฆ์
เนื่องด้วย คณะสงฆ์วัดป่าสวนสงฆ์ดำรงพุทธธรรม มีความประสงค์ที่จะสร้างพระพุทธรูปปูนปั้น ปางพุทธลีลา ขนาดองค์พระสูง ๙ ศอก ๙ เซ็นติเมตร จำนวน ๔ องค์ ประดิษฐาน ณ พุทธมณฑลวัดสาขา ๔ แห่ง เพื่อเป็นสถานที่สำหรับประพฤติปฏิบัติธรรม เจริญพระกรรมฐาน บำเพ็ญทาน ศีล สมาธิ ปัญญา ตามแนวคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เนื่องในงานวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา และงานอบรมปฏิบัติธรรมในโอกาสต่าง ๆ
ดังนั้น จึงขอเชิญชวนท่านผู้มีจิตศรัทธาเลื่อมใสในบุญกุศลผลบารมีทั้งหลาย ร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างพระพุทธรูป พุทธมณฑลในโอกาสนี้ร่วมกัน เพื่อเสริมสร้างกุศลผลบารมี เป็นศิริมงคลแก่ชีวิต ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียด และร่วมถวายปัจจัยได้ที่ วัดป่าสวนสงฆ์ดำรงพุทธธรรม บ้านห้วยพอก ต.หนองหญ้าลาด อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ 33110 โทร. 085-0242071
(หรือที่) หมายเลขบัญชี. 351-0-62671-0
ชื่อบัญชี. พระทวีศักดิ์ ปัญญาทีโป
ธนาคารกรุงเทพ สาขา กันทรลักษ์
Kati-numhorm@hotmail.com
ขอเชิญท่านผู้ที่สนใจร่วมบริจาค เพื่อจัดสร้าง พระแก้วเกล้าเวียงกุมกาม พร้อมเครื่องทรง รวมทั้งบุษบกและเครื่องสักการะ โดย โอนเงินบริจาคที่
ธนาคารไทยพาณิช บัญชีออมทรัพย์ ชื่อบัญชี พระเกศพระแก้วเกล้าเวียงกุมกาม
เลขที่บัญชี 852 2 0 2517 8
สาขาย่อยสี่แยกหนองหอย
ทุกๆการโอนเงินของท่านกรุณาโทรแจ้ง
เพื่อทางคณะผู้ดำเนินการจะได้จัดส่งใบอนุโมทนาบัตร ให้แก่ท่าน
ติดต่อสอบถามได้ที่
คุณอดิศร โอดศรี
เบอร์ติดต่อ 089-1100508
( และในครั้งนี้ทางดิฉันได้รับพระเครื่อง กรุวังหน้าจำนวนหนึ่ง จากผู้ใจบุญที่มีความรู้ทางด้านพระเครื่อง เพื่อแจกให้แก่ท่านผู้ร่วมทำบุญตั้งแต่ 1000 บาท
ซึ่งดิฉันขออนุโมทนา ในกุศลจิตของท่านผู้ใจบุญไว้ ณ ที่นี้ด้วย โดยทางดิฉันจะจัดส่งวไปให้ท่านโดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น )
ขอเชิญร่วมบริจาคปัจจัยสมทบทุนสร้างเจดีย์พิพิธภัณฑ์หลวงปู่พวง สุวีโร วัดป่าปูลูสันติวัฒนา อุดรธานี
พระครูวีรธรรมานุยุต(หลวงปู่พวง สุวีโร) เดิมชื่อพวง สีทะเบียน เกิดเมื่อวันจันทร์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะโรง ตรงกับวันที่ ๒ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๗๑ ณ บ้านปูลู ตำบลบ้านเชียง อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานีเป็นบุตรของนาย จุ่น สีทะเบียน และนางมา ขันตีพันธุวงศ์ บิดาเป็นชาวบ้านกงพาน อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี ส่วนมารดาเป็นชาวบ้านปูลู มีพี่น้องทั้งหมด ๑๔ คน หลวงปู่เป็นคนที่ ๘
มูลเหตุให้ได้ออกบวช
เมื่อหลวงปู่อายุได้ ๑๖ ปี ได้ทำงานประมงบ้าง ทำงานโรงต้มสุราบ้าง ไม่นานก็ได้ยินข่าวว่ามารดาป่วยหนักจึงลางานไปเยี่ยมมารดา ก่อนมารดาของหลวงปู่จะสิ้นลม ได้สั่งหลวงปู่ว่า " บวชให้แม่นะ ถ้าลูกไม่บวชให้ แม่จะตายตาไม่หลับ" หลวงปู่ก็รับปากแล้วมารดาก็สิ้นใจ ด้วยจิตศรัทธาอยากจะบวชอยู่แล้ว ในช่วงที่รอเวลาเหมาะที่จะบวชอยู่นั้นหลวงปู่ได้แสวงหาฟังธรรมะจากครูบาอาจารย์อยู่เรื่อยๆ เช่น ไปฟังธรรมะพระอาจารย์สิงห์ สหธัมโม พระอาจารย์พร สุมโน พระอาจารย์สีลา เทวมิตโต เมื่อถึงพ.ศ.๒๔๙๐หลวงปู่ได้ไปนุ่งขาวห่มขาวอยู่กับพระอาจารย์สีลา เทวมิตโต อยู่ถึง ๒ ปีจึงได้บวชในช่วงระยะนั้นหลวงปู่ยังได้ฟังธรรมของหลวงปู่ขาว อนาลโยที่มาแวะเวียนธุดงค์อยู่แถวนั้นด้วย อีกทั้งยังเป็นช่วงที่หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ท่านอาพาธหนักหลวงปู่ยังได้ช่วยหามหลวงปู่มั่นไปจนถึงวัดป่าสุทธาวาสและหลวงปู่มั่นก็มรณภาพ ณ ที่นั่น หลวงปู่จึงได้อยู่ช่วยงานถวายเพลิงศพหลวงปู่มั่นจนแล้วเสร็จจึงได้บวช
อุปสมบท
เมื่อหลวงปู่สีลาและหลวงปู่พรพิจารณาเห็นว่าหลวงปู่เรียนรู้ข้อวัตรปฏิบัติครบถ้วนแล้วจึงอนุญาตให้บวชได้โดยบรรพชาเป็นสามเณรก่อนเมื่อวันที่ ๖ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๙๓ และในวันรุ่งขึ้นคือวันที่ ๗ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๙๓จึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อเวลา ๑๕.๔๐ น. ณ อุทกุกเขปสีมากลางหนองแวง อำเภอส่องดาว จังหวัดสกลนคร โดยมีพระครูพุฒิวราคม (พุฒ ยโส) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์อ่อน ญาณสิริ เป็นพระกรรมวาจาจารย์คู่นาคที่บวชพร้อมกับหลวงปู่ในครั้งนั้น คือพระราชญาณมุนี (บุญมี ฐิตปุญโญ) เจ้าคณะจังหวัดสกลนครองค์ปัจจุบัน(พ.ศ.๒๕๔๙)
หลวงปู่ได้ออกปฏิบัติธรรมโดยเคร่งครัด ได้ออกเที่ยวธุดงค์กรรมฐานไปในเขตหลายจังหวัดทั้งในภาคอีสานและภาคเหนือ และได้รับการอบรมกรรมฐานจากครูบาอาจารย์หลายรูปอาทิเช่น หลวงปู่ขาว อนาลโย หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ หลวงปู่จวน กุลเชฏโฐ หลวงปู่จันทร์ เขมปัตโต หลวงปู่มหาบุญมี สิริธโร เป็นต้น และได้มาก่อตั้งวัดป่าปูลูสันติวัฒนา ที่บ้านปูลู ตำบลบ้านเชียง อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี
หลวงปู่พวง สุวีโร มีสหธรรมมิกที่เคยร่วมปฏิบัติธรรมด้วยกันหลายรูป อาทิเช่น หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ หลวงปู่จันทร์โสม กิตติกาโร หลวงปู่ท่อน ญาณธโร หลวงปู่บุญมา คัมภีรธัมโม เป็นต้น
หลวงปู่พวง สุวีโร มรณะภาพเมื่อวันที่ ๒๒ มกราคม ๒๕๔๖ โดยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ณ โรคพยาบาลวิชัยยุทธ กรุงเทพฯ เวลา ๐๙.๕๐ น.
ทางคณะศิษย์วัดป่าปูลูสันติวัฒนาได้จัดงานพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่พวง สุวีโร ในวันที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๔๖ ณ เมรุชั่วคราว วัดป่าปูลูสันติวัฒนา
ต่อมาอัฐิธาตุของหลวงปู่บางส่วนได้แปรสภาพเป็นพระธาตุ รวมทั้งอังคารธาตุ และเกศาธาตุก็ได้แปรสภาพเป็นพระธาตุเช่นกัน
ขณะนี้ทางวัดป่าปูลูสันติวัฒนากำลังดำเนินการก่อสร้างเจดีย์พิพิธภัณฑ์ เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่เสด็จมาหาหลวงปู่พวง ในเวลาที่ท่านนั่งสมาธิภาวนา ซึ่งพระบรมสารีริกธาตุจะเสด็จลงบนผ้าจีวรที่หลวงปู่ครองอยู่เป็นจำนวนมาก และพระธาตุอื่นๆ ที่หลวงปู่ได้เก็บสะสมไว้ รวมทั้งจะได้จัดแสดงพระธาตุและอัฐบริขารของหลวงปู่ เพื่อให้ศรัทธาสาธุชนได้มากราบไหว้สักการะเป็นลำดับไป
ตอนนี้ทางวัดป่าปูลูสันติวัฒนายังขาดปัจจัยทุนทรัพย์ในการก่อสร้างเป็นจำนวนมาก จึงขอเชิญชวน ท่านผู้มีจิตศรัทธาได้ร่วมบริจาคทุนทรัพย์เพื่อสร้างเจดีย์พิพิธภัณฑ์อัฐบริขารหลวงปู่พวง สุวีโร ซึ่งสามารถบริจาคได้โดยตรงที่วัดป่าปูลูสันติวัฒนา ตำบลบ้างเชียง อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี หรือ โอนเงินเข้าบัญชีชื่อ วัดป่าปูลู เลขที่บัญชี 473-0-880475 ธนาคารกรุงเทพ สาขาหนองหาน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ พระคำภา อนาวิโร เจ้าอาวาสวัดป่าปูลูสันติวัฒนา หมายเลขโทรศัพท์ 081-0495596
--------------------------------------------------------------------------------
ขออนุญาตเว็บมาสเตอร์ประกาศข่าวบุญ
แหล่งน้ำที่ใช้ในปัจจุบัน
เจริญพร พุทธศาสนิกชนทุกท่าน เนื่องจากวัดพันษีมีพระภิกษุสามเณรหลายรูป พร้อมกันนี้ทางวัดยังมีเขตบริการอีกมากมาย อาทิเช่น วัดใหม่ศรีวิหารเจริญ วัดป่าตามอ วัดประทุมวัน วัดยะหาญ วัดบ้านข่า ฯลฯ ที่เดินทางเข้ามาศึกษาพระธรรมวินัย ในโรงเรียนพระปริยัติธรรมพันษีวิทยา วัดพันษี ตำบลจารพัต อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ ประมาณเกือบ 100 รูป แต่เนื่องจากว่าสภาวะการณ์ตอนนี้ทางวัดเกิดความขัดสนมาก หลังจากที่พระเดชพระคุณพระครูสุทนต์กิจจานุกิจ อดีตเจ้าอาวาสวัดพันษีท่านมรณะภาพลง ทำให้แหล่งปัจจัยทั้งสี่ขาดลง
ดังนั้นทางวัดพันษี ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนทุกท่าน ร่วมเป็นเจ้าภาพขุดบ่อบาดาลและซื้อปั้มน้ำ เครื่องกรองน้ำ สอบถามผู้ขุดเจาะบาดาลแล้วว่า ค่าขุดเจาะขนาด 4 นิ้ว ราคา 13,000 บาท และค่าปั้มน้ำอีก 20,000 บาท ค่าท่อ ค่าเครื่องกรองน้ำ อีกยังไม่ทราบราคา
พระภิกษุสามเณรกำลังรอโอกาสสำหรับผู้ที่ต้องการให้โอกาสแก่พวกท่านเหล่านั้น ขอบุญกุศลที่คุณโยมมีเจตนาดีครั้งนี้ จงช่วยดลบันดาลให้ท่านและครอบครัวจงมีความสุขด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ ธนสารสมบัติ ธรรมสารสมบัติ และได้เข้าสู่พระนิพพานในภพชาตินี้ ตลอดกาลนาน เทอญ
ร่วมทำบุญได้ที่
- ธนาคารกรุงเทพ สาขาย่อย มหาวิทยาลัยราชภัฎ สุรินทร์ ชื่อบัญชี พระสมรัก ตรงแก้ว
หมายเลขบัญชี 644 - 0 05669-2
คุณโยมท่านใดที่ต้องการใบอนุโมทนาบัตร กรุณาช่วยแจ้ง ชื่อ-นามสกุล จำนวนเงิน และที่อยู่ในกระทู้นี้เพื่อทางวัดจัดส่งทางไปรษณีย์ หรือคุณโยมท่านใดไม่ต้องการแสดงตนในการบริจาคต่อสาธารณะชน แต่ต้องการใบอนุโมทนาบัตร แจ้งทางอีเมล์มาได้ที่ somrak43@hotmail.com
เว็บวัดพันษี/โรงเรียนพระปริยัติธรรมพันษีวิทยา/สถานีวิทยุชุมชนวัดพันษี
http://www.srru.ac.th/org/priyatitum/
ฟังธรรมจากวัดพันษี
http://www.srru.ac.th/org/priyatitum/downlondseahgdham.php
ร่วมบริจาคสร้างพระไตรปิฎก ฉบับ เฉลิมฉลองสิริราช 60 ปี
พระราชสุธี เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชร เขตพระนคร กทม. เผยว่า ตามมติมหาเถรสมาคมครั้งที่ 24/2549 เรื่อง รายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการพิจารณาตรวจต้นฉบับ และจัดพิมพ์พระไตรปิฎกเพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีในการประชุมมหาเถรสมาคม ครั้งที่ 24/2549 เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2549 ที่ประชุมพิจารณาแล้วลงมติดังนี้ 1.ให้ฝ่ายเลขานุการประสานกับประธานกองงานทั้ง 3 ปิฎก เพื่อพิจารณาชื่อพระไตรปิฎกทั้งภาษาบาลีและภาษาไทย 2.มอบฝ่ายเลขานุการยกร่างคำปรารภและคำนำ 3.เห็นชอบให้โรงพิมพ์สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเป็นผู้ออกแบบปกและรูปเล่ม 4.มอบให้ พระราชสุธี วัดเทวราชกุญชร กรรมการเลขานุการเป็นผู้เปิดบัญชีธนาคาร เพื่อรับบริจาค ชื่อบัญชี สมทบทุนการจัดสร้างพระไตรปิฎกฉบับเฉลิมพระเกียรติ ฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี และให้พระราชสุธี เป็นผู้มีอำนาจลงนามในใบอนุโมทนาบัตร ซึ่งจัดทำในนามของวัดเทวราชกุญชร โดยระบุวัตถุประสงค์การบริจาคไว้ในใบอนุโมทนาบัตรว่า เพื่อสมทบจัดสร้างพระไตรปิฎก ฉบับเฉลิมพระเกียรติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี 5.เมื่อดำเนินการตามข้อ 1 , 2 หรือ 3 เสร็จแล้ว ให้ฝ่ายเลขานุการรวบรวมนำเสนอมหาเถรสมาคมพิจารณา ส่วนข้อ 4 ให้นำเสนอเถรสมาคมทราบหรือพิจารณา แล้วแต่กรณี ขณะนี้ทางวัดได้เปิดบัญชีธนาคารเพื่อรับบริจาค จากท่านผู้มีจิตศรัทธาสมทบทุนการจัดพิมพ์พระไตรปิฎก บริจาคสมทบทุนได้ที่ ธนาคารกรุงไทย สาขากระทรวงศึกษาธิการ ชื่อบัญชี สมทบทุนการจัดสร้างพระไตรปิฎก ฉบับเฉลิมพระเกียรติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี บัญชีเลขที่ 059-0-06179-8 หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่วัดเทวราชกุญชร โทร 0-2281-2430 แฟกซ์ 0-2628-9638
ขอเชิญร่วมหล่อพระใหญ่หน้าตัก19ศอก ที่บริเวณท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
ร่วมบุญกับหลวงพ่อกล้วยได้ทุกวันที่บริเวณสันเขื่อนป่าสัก ใกล้ห้องอาหารคุณนอ
ทางไปประตูวังม่วง เขื่อนป่าสักฝั่งสระบุรี
หลวงพ่อสำราราญ(กล้วย)รับนิมนต์จากทางราชการให้มาสร้างบนสันเขื่อนป่าสักฝั่งวังม่วง อุทิศถวายในหลวงและเพื่อความผาสุขของประเทศไทยร่วมทำบุญธนาณัตินามหลวงพ่อสำราญ ธัมมธุโร วัดป่าธรรมอุทยาน บ้านสำราญ อำเภอเมือง ขอนแก่น
ขอเชิญร่วมพืธีเททองหล่อพระพุทธรูปทันใจ หน้าตัก 39 นิ้ว
วันเสาร์ที่ 3 มีนาคม 2550 วันมาฆบูชา
ณ วัดม่อนจำศีล
ต.กลางดง อ. ทุ่งเสลี่ยม จ. สุโขทัย
พระเถราจารย์ล้านนา อาทิ หลวงปู่ครูบาสิทธิ วัดปางมะเดื่อ อ. แม่อาย, หลวงปู่ครูบาผัด วัดหัวฝาย, ครูบาอินทร วัดสันป่ายางหลวง ฯลฯ อธิษฐานจิต ในพิธีเททองหล่อพระพุทธรูปทันใจ
หากท่านไม่สามารถมาร่วมพิธีได้ ติดต่อรับแผ่นทองดวงมหายันต์โภคทรัพย์ได้ที่
พระมหาธนวัฒน์ คุณวีโร เจ้าอาวาสวัดม่อนจำศีล
ต,กลางดง อ. ทุ่งเสลี่ยม จ. สุโขทัย 64150
โทร. 055-629471, 087-2067973, 087-2111750, 084-8201993, 081-0433248
หรือโอนปัจจัยทำบุญได้ โดยผ่านทาง
ธนาคารออมสิน สาขาทุ่งเสลี่ยม ชื่อบัญชี วัดม่อนจำศีล
เลขที่ 04-2605-20-054072-8
ปล. แผ่นดวงมหายันต์โภคทรคัพย์นี้ หากท่านต้องการเพิ่มเติม ทางวัดจัดส่งให้ไม่จำกัดจำนวน โปรดแจ้งมาทางโทรศัพท์พร้อมที่อยู่ของท่าน
อนุโมทนาบุญโดยทั่วกันค่ะ
ขอเชิญร่วมงานบุญครั้งใหญ่..ทอดบังสกุลเพื่ออุทิศแก่ผืนแผ่นดินไทย..1 ก.พ. 2550..วัดป่าดานวิเวก จ.หนองคาย...
ตอบคำถามเพิ่ม คลิกที่นี่
เนื่องด้วย ในวันพฤหัสบดีที่ 1 กุมภาพันธ์ 2550 ที่จะถึงนี้
ทางวัดป่าดานวิเวก ต.ศรีชมภู อ.โซ่พิสัย จ.หนองคาย (พระอาจารย์ปรีดา (ทุย) ฉนฺทกโร)
ได้จัดงานพิธีทอดผ้าบังสุกุล เพื่ออุทิศส่วนมหากุศลผลบุญให้บรรพบุรุษผู้มีพระคุณทั้งหลายที่พลีชีพ เพื่อแผ่นดินไทย ผู้ล่วงลับไปนับแต่ครั้งโบราณกาลจนถึงปัจจุบัน โดยหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด เมตตาแสดงพระธรรมเทศนา เวลา 15.00 น.
ทางคณะเว็บไซต์วัดป่าจัดรถเดินทางร่วมงานมงคลพิธีในครั้งนี้ด้วย
กำหนดการเดินทาง
วันพุธที่ 31 มกราคม 2550
เวลา 20.00 น. ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ (หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ รัชโยธิน)
วันพฤหัสบดีที่ 1 กุมภาพันธ์ 2550
เวลา 06.00 น. ถึงวัดป่าดานวิเวก ต.ศรีชมภู อ.โซ่พิสัย จ.หนองคาย
เวลา 07.00 น. พระสงฆ์บิณฑบาต
เวลา 08.00 น. พระสงฆ์ฉันจังหัน , คณะเดินทางร่วมรับประทานอาหาร
เวลา 09.00 น. ฟังธรรมพระอาจารย์ปรีดา(ทุย) ฉนฺทกโร
เวลา 10.00 น. เข้าชมพุทธสถานทรัพยากร วัดป่าดานวิเวก (อยู่ฝั่งตรงข้ามวัด)
เวลา 12.00 น. รับประทานอาหาร (โรงทาน)
เวลา 14.00 น. หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน แสดงพระธรรมเทศนา
เวลา 16.00 น. ออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ
วันศุกร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2550
เวลา 05.00 น. ถึงกรุงเทพฯโดยสวัสดิภาพ
หมายเหตุ
ผู้ร่วมเดินทางต้องลาหยุดงาน 1 วัน คือวันพฤหัสบดีที่ 1 กุมภาพันธ์ 2550
ไม่ต้องพักค้างคืน เนื่องจากเดินทางไปถึงตอนเช้ากลับตอนเย็น
เดินทางโดยรถตู้ ค่ารถท่านละ 1,500 บาท
(รับจำนวนจำกัด 10 ท่านเท่านั้น)
สนใจร่วมเดินทาง สอบถามรายละเอียดที่ ทีมงานวัดป่า โทร.086-776-7999
จัดโดย เว็บไซต์วัดป่ากรรมฐาน
.............................................................................
* หายากนักสำหรับงานมงคลพิธี ณ วัดป่าดานวิเวก (พระอาจารย์ปรีดา (ทุย) ฉนฺทกโร)
วัดป่าป่าดานวิเวก เป็นวัดปฏิบัติธรรมภาวนาสำหรับพระกรรมฐานล้วนๆ
และยังเป็นวัดที่ พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรีคนที่ 24 ของประเทศไทย)
เมื่อครั้งบรรพชาอุปสมบทเป็นพระภิกษุ แล้วท่านเดินทางมาจำพรรษาปฏิบัติธรรมภาวนา
ตลอด 1 พรรษา เมื่อปี พ.ศ. 2547
เนื่องจากวัดป่าดานวิเวกเป็นวัดป่าปฏิบัติธรรมภาวนาล้วนๆ เดินทางไปวัดค่อนข้างไกล จึงหาโอกาสยากนักที่จะมีงานแบบนี้ และนับว่าเป็นความเมตตาจากหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ที่ท่านเดินทางมาเป็นประธานในพิธีและแสดงพระธรรมเทศนา จึงอยากเชิญชวนเพื่อนๆสมาชิก ร่วมเดินทางไปงานบุญครั้งนี้ เว็บไซต์วัดป่าจัดรถเดินทางไปร่วมงานดังกล่าว (รับจำนวนจำกัด) รีบๆหน่อยนะครับ ก่อนเต็ม
--------------------------------------------------------------------------------------------------
จากการปะติดปะต่อจากคำเทศนาของหลวงตามหาบัว บวกกับจินตนาการของผม ผมคาดว่า เส้นทางที่หลวงตาท่านชอบไปธุดงค์เมื่อวัยหนุ่ม น่าจะเป็นบริเวณเลียบแม่น้ำโขงโดยทิ้งระยะ งจากแม่น้ำโขงประมาณ 20-40 กิโลเมตร ถ้าเริ่มจากดงศรีชมภู มาทาง ภูทอก ภูสิงห์ ภูวัว ภูลังกา มาแถบ อ.โคกศรีสุพรรณ (วัดดอยธรรมเจดีย์-บ้านนาสีนวล, วัดป่าวิสุทธิธรรม-บ้านโคก,วัดป่านาคนิมิตต์-บ้านนามน-และอาจแยกไปวัดป่าหนองผือนาในจากจุดนี้) ลงไปจนถึงดงบังอี่(อ.คำชะอี -สำนักชีบ้านห้วยทราย) แล้วก็ย้อนกลับขึ้นไปด้านบนใหม่
ดงศรีชมภูที่ว่านี้ ก็คือวัดป่าดานวิเวกครับ(หลวงตาท่านมักจะเรียกวัดนี้ว่า ดงศรีชมภู คือในอดีตเป็นดงใหญ่ น่าจะครอบคลุมมาถึงวัดป่าดานศรีสำราญด้วย ปัจจุบันกลายเป็นดงเล็ก เป็นหย่อมๆ คือตามวัดป่าที่พระท่านรักษาป่าไว้นั่นเอง ) ผมได้ยินหลวงตามหาบัวท่านเทศน์ถึงวัดนี้หลายต่อหลายครั้ง ว่าเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมชั้นเยี่ยม ขออนุญาตยกตัวอย่าง ที่คัดมาจากกัณฑ์เทศน์ของหลวงตาเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2548 มาให้อ่านกันครับ
หลังจังหัน
ไปทุกวันแหละไปแจกของ ไม่ไปโรงพยาบาลก็ไปวัด ถ้าวันราชการก็ไปโรงพยาบาล ไปส่งโรงพยาบาลโรงนั้นโรงนี้ ถ้าเป็นวันหยุดราชการส่วนมากไปวัด ส่งของให้วัด เมื่อวานขบขัน ไปเจอเอาทุเรียนรถกระบะคันหนึ่งเต็มเลย จะขนขึ้นใส่รถเรา รถเรามันเต็มหมดขึ้นไม่ได้แล้ว เอ๊ ทำไง มองหน้ามองหลัง ระยะทางจากนี้ถึงนาคำน้อย โถ พอผ่านอำเภอผือไปเดี๋ยวก็ไปเจอ ทางไม่ใช่เล่นนะ ไม่งั้นจะให้เขาไปส่งเลย เอาหมดทั้งคันเลยนะ แต่นี้มันไกลแสนไกล กลืนน้ำลายผ่านไป ไม่ได้กินกลืนน้ำลายก็เอาเมื่อวาน ที่โน้นพระก็มาก ที่วัดนาคำน้อย เป็นสถานที่เหมาะสมมากสำหรับพระบำเพ็ญเพื่ออรรถเพื่อธรรมเพื่อมรรคผลนิพพาน เหมาะสมมาก
ที่ชั้นเอกๆ นี้มีเยอะนะทางภาคอีสาน สถานที่อยู่เป็นชั้นเอกๆ อย่างภูสังโฆ ชั้นที่หนึ่งละ ชั้นเอก ผาแดง นาคำน้อย ศรีชมภู ถ้ำพระภูวัว วัดดอยธรรมเจดีย์ นี้เป็นสถานที่ชั้นหนึ่งๆ เอาตำรามากางซิ ประเภทที่หนึ่ง ที่สอง ที่สาม เวลานี้พระกรรมฐานเรา ที่พูดเหล่านี้มีแต่ที่สำคัญสำหรับพระกรรมฐานเราอยู่เพื่อบำเพ็ญอรรถธรรมทั้งนั้น เราส่งเสริม
เรื่องอรรถเรื่องธรรมจิตตภาวนาสำหรับพระกรรมฐาน เราส่งเสริมตลอด แม้มีการงานที่ช่วยชาติก็ให้ท่านมาช่วยระยะเวลานิดหน่อยๆ จากนั้นก็ปัดเข้าที่เดิมให้ท่านภาวนาเรื่อยมา ทางภาคอีสานจึงมีพระกรรมฐานมาก เป็นมาดั้งเดิมตั้งแต่ต้นลำคือหลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น เวลาเข้าในป่าในเขาอย่างนั้น ธรรมจะค่อยยิ้มแย้มๆ จากหัวใจขึ้นนะ จิตใจจะตื่นเนื้อตื่นตัว ต่างกันนะกับอยู่ธรรมดา เช่นอยู่วัดป่าธรรมดาก็ดี แต่พอเข้าในที่สำคัญๆ ยิ่งดีดขึ้นเรื่อยนะจิต ตื่นเนื้อตื่นตัว สติตั้งตัวตลอดๆ ปัญญาก็ออกในนั้น นั่นละเรียกว่าสั่งสมธรรม
.
.
............................................................................................
อยากเชิญชวนให้ลองไปชมไปปฏิบัติด้วยตัวเอง ตามวัดที่หลวงตาท่านว่า สถานที่ปฏิบัติธรรมชั้นเอกนะครับ จะได้มีประสพการณ์ว่า สถานที่ดี ก็ช่วยส่งเสริมการปฏิบัติธรรมได้ด้วย
(อ้างอิงจากคำตอบที่ 4 )
ที่ผมลงไว้ว่า
"จากการปะติดปะต่อจากคำเทศนาของหลวงตามหาบัว บวกกับจินตนาการของผม ผมคาดว่า เส้นทางที่หลวงตาท่านชอบไปธุดงค์เมื่อวัยหนุ่ม น่าจะเป็นบริเวณเลียบแม่น้ำโขงโดยทิ้งระยะ งจากแม่น้ำโขงประมาณ 20-40 กิโลเมตร"นั้น
อาจจะไม่ถูกก็ได้นะครับ เพราะ เมื่อผมไปเปิดดูจากในหนังสือบูรพาจารย์ ก็มีบันทึกไว้ว่า ช่วงที่หลวงปู่มั่นพำนักอยู่ที่วัดป่าหนองผือ หลวงตามหาบัวท่านจะไม่ไปธุดงค์ไกลนัก ประมาณ 20-30 กิโลเมตรจากวัดป่าหนองผือ
แต่ที่ผมคิดว่า หลวงตาท่านชอบไปธุดงค์ในเส้นทางดังกล่าวก็เพราะว่า สถานที่ปฏิบัติธรรมตามแนวนี้ท่านพูดถึงบ่อย และเมื่อดูจากแผนที่ก็จะเห็นว่าเป็นแนวเลียบแม่น้ำโขง ประกอบกับหลวงตาท่านเคยเล่าว่าไปหลงทางอยู่กลางป่าระหว่างสกลนครกับกาฬสินธุ์(น่าจะเป็นเทือกเขาภูพาน) ผมเลยคิดว่าท่านคงจะแก้ปัญหาการหลงทาง โดยการหาแนวอ้างอิง(Baseline)ในการเดินธุดงค์ซึ่งแม่น้ำโขงก็น่าจะเป็นแนวอ้างอิงที่ดีแนวหนึ่ง
หากผิดพลาดพลั้งไป ต้องขออภัยกับท่านผู้อ่านด้วยนะครับ
ผู้ตอบ : ณัฐวุฒิ
-----------------------------------------------------------------------------------------------
เรียนคุณรัตน์
คุณสามารถสอบถามเส้นทางไปวัดป่าดานวิเวก ได้ที่คุณณัฐวุฒิ โทร.084-685-7001
..............................................................
สังเกตกันไหมครับว่าช่วงนี้มักจะมีการจัดงานบูชาแผ่นดินไทยกันมากเป็นพิเศษ
ไม่ว่าวัดวาอาราม ครูบาอาจารย์สายไหนๆ ก็จะจัดพิธีนี้ขึ้น
ในสายกรรมฐานเรา วัดป่าดานวิเวก นี้เหมาะที่สุดแล้วครับ ที่จัดงานพิธีทอดผ้าบังสุกุล เพื่ออุทิศส่วนมหากุศลผลบุญให้บรรพบุรุษผู้มีพระคุณทั้งหลายที่พลีชีพ เพื่อแผ่นดินไทย ผู้ล่วงลับไปนับแต่ครั้งโบราณกาลจนถึงปัจจุบัน
อย่างไรก็ขอเชิญทุกท่าน(ถ้าว่าง) ขอเชิญร่วมเดินทางไปร่วมงานดังกล่าวด้วยนะครับ
สำหรับเว็บไซต์วัดป่า จัดรถตู้ 1 คัน สมาชิกร่วมเดินทางเพียง 10 ท่านเท่านั้นนะครับ
รีบจองด่วน
วันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 16 ฉบับที่ 5895
บูชาพระพิฆเนศวร ทุนสร้าง"เทวาลัย"
ข่าวจากมหาวิทยาลัยศิลปากร แจ้งว่า มหาวิทยาลัยศิลปากรได้จัดสร้างพระคเณศเฉลิมพระเกียรติประจำมหาวิทยาลัยศิลปากร เนื่องในโอกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีเททองหล่อองค์พระคเณศประจำมหาวิทยาลัยศิลปากรองค์นี้ จุดประสงค์เพื่อให้ผู้มีจิตศรัทธาได้เคารพสักการบูชาองค์พระคเณศเฉลิมพระเกียรติฯ และร่วมบริจาคเงินเพื่อเป็นทุนในการสร้างเทวาลัยประดิษฐานองค์พระคเณศ มหาวิทยาลัยศิลปากรได้จัดสร้างพระคเณศจำลอง โดยมีทั้ง รูปหล่อ, เหรียญและเข็ม ประเภททองคำ เงิน สำริด และนาก ซึ่งมีหลายขนาดให้เลือกบูชา ผู้สนใจบูชาได้ที่ฝ่ายคลัง มหาวิทยาลัยศิลปากร สำนักงานอธิการบดี ตลิ่งชัน กรุงเทพฯ โทร.0-2880-7374 ต่อ 2616, 2617 และที่งานคลังกองงานวิทยาเขต มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ จ.นครปฐม โทร.0-3425-3910-19 ต่อ 2174, 2442 และ 2438
สร้างทานบารมี-บูรณปฏิสังขรณ์วัดอัมพุวราราม
ข่าวจากวัดอัมพุวราราม อ.สามโคก จ.ปทุมธานี แจ้งว่า เนื่องด้วยวัดอัมพุวรารามได้ประสบอุทกภัย สิ่งก่อสร้างภายในวัดแช่น้ำเป็นเวลานาน อีกทั้งการปฏิบัติศาสนกิจของพระภิกษุสงฆ์องค์สามเณรเป็นอันต้องหยุด และได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก ตลอดจนกระทั่งการเรียนการสอนธรรมะศึกษาและอบรมศีลธรรมจริยธรรมให้แก่เยาวชนผู้เป็นกำลังของประเทศชาติในอนาคตในวันเสาร์และอาทิตย์ก็เป็นอันต้องยุติลง เพื่อให้การบูรณปฏิสังขรณ์ดำเนินไปอย่างราบรื่นและด้วยดี ทางวัดอัมพุวราราม ขอเชิญร่วมสร้างทานบารมีอันยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปีด้วยการสร้างเขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็ก และถมดินภายในบริเวณวัดอัมพุวราราม พร้อมทั้งจารึกชื่อไว้ที่เขื่อน ดังนี้ เขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็ก เมตรละ 5,000 บาท ถมดินภายในบริเวณวัด รถดิน 1 คัน คันละ 1,500 บาท ติดต่อร่วมบริจาคได้ที่ พระครูวิสุทธิกิตติคุณ เจ้าอาวาสวัดอัมพุวราราม ต.บ้านงิ้ว อ.สามโคก จ.ปทุมธานี 12160 โทร. 0-2979-8099, 08-1833-3037 บัญชีธนาคารกรุงเทพ สาขาปทุมธานี ชื่อ วัดอัมพุวราราม เลขที่ 178-420604-5 บริจาค 100 บาท รับพระกริ่งจิ๋ววัดอัมพุวราราม 1 องค์ บริจาค 1,000 บาท รับพระกริ่งวัดอัมพุวราราม 1 องค์
ขอเชิญท่านผู้ใจบุญร่วมสร้างอุโบสถ ณ วัดกระโพธิ์ช่างหม้อ
ตำบลดองกำเม็ด อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ 33140
วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2550 เริ่มก่อสร้าง วางศิลาฤกษ์
จากคุณ อนาลโย ภิกขุ เมื่อวันที่ 15/1/2550 14:12:52
ข้อความที่ 1
สนใจติดต่อสอบถามที่ พระอธิการชาญ อนาลโย
081-0644874
www.watkrapor.com
วัดท่าเสาสร้างจตุคามฯผงยาจินดามณี สมทบทุนสร้างฐานพระประธาน
พระครูนิเทศก์สาครธรรม เจ้าอาวาสวัดท่าเสา ต.ท่าเสา อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เปิดเผยว่า ทางวัดท่าเสาและคณะกรรมการวัดมีความประสงค์ที่จะก่อสร้างฐานพระประธานในพระอุโบสถ แต่ทางวัดยังขาดแคลนทุนทรัพย์ ทางวัดจึงได้ดำเนินการสร้างวัตถุมงคลรูปพ่อจตุคามรามเทพ รุ่นมหาวิเศษ พิมพ์น้ำตาลแว่น เนื้อผงยาวาสนาจินดามณี ผสมผงดอกบัวแฝด 21 คู่ เพื่อจัดจำหน่ายหารายได้มาดำเนินการก่อสร้างฐานพระประธานในพระอุโบสถ สำหรับการดำเนินการสร้างวัตถุมงคลรุ่นมหาวิเศษนั้น ทางวัดได้สร้างวัตถุมงคลโดยใช้มวลสารผงยาวาสนาจินดามณีตามตำราของหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม โดยอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าเสารูปหนึ่งคือหลวงพ่อทองอยู่ มีศักดิ์เป็นหลานแท้ๆ ของหลวงปู่บุญ ได้ศึกษาวิชาอาคมและการสร้างวัตถุมงคลด้วยผงยาวาสนาจินดามณีมาจากหลวงปู่บุญ และเจ้าอาวาสรูปปัจจุบันของวัดท่าเสาคือพระครูนิเทศก์สาครธรรม ได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมและการสร้างวัตถุมงคลด้วยผงยาวาสนาจินดามณีมาจากหลวงพ่อทองอยู่อีกต่อหนึ่ง มาครั้งนี้ทางวัดมีความขาดแคลนจึงได้ดำเนินการสร้างวัตถุมงคลด้วยผงยาวาสนาจินดามณีขึ้นให้ประชาชนทั่วไปได้เช่าบูชา
สำหรับการสร้างวัตถุมงคลนั้น ทางวัดได้ดำเนินการเสกถึง 3 วาระคือ ครั้งที่ 1 ประกอบพิธีเทวาภิเษก เพื่อเสกมวลสารที่จะใช้สร้างวัตถุมงคล ในวันที่ 26 ตุลาคม 2549 ณ วัดห้วยมงคล จ.ประจวบคีรีขันธ์ ครั้งที่ 2 ประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ จารแม่พิมพ์ และกดพิมพ์วัตถุมงคลในพระอุโบสถวัดท่าเสา ในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2549 ตรงกับวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ซึ่งตรงกับวันลอยกระทง และครั้งที่ 3 ประกอบพิธีพุทธาภิเษก ที่วัดสุวรรณรัตนาราม ต.แคลาย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จำนวนวัตถุมงคลที่สร้างขึ้น มีจำนวนทั้งสิ้น 5,999 องค์ โดยมีสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง เป็นประธานจุดเทียนชัย พระวิสุทธาธิบดี วัดสุทัศน์เทพวราราม เป็นประธานดับเทียนชัย หลวงพ่อทิม วัดพระขาว จ.อยุธยา เป็นประธานนั่งอธิษฐานจิต หลวงพ่อเก๋ วัดแม่น้ำ, หลวงพ่อเขียน วัดเขาคิชกูฏ, หลวงพ่อสุข วัดเขาตะเครา, หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน, หลวงพ่อวิมล วัดสุวรรณรัตนาราม ร่วมนั่งอธิษฐานจิตปลุกเสกวัตถุมงคล
ปัจจุบันทางวัดได้เปิดจำหน่ายวัตถุมงคลให้ประชาชนเช่าบูชาแล้ว โดยจำหน่ายในราคาองค์ละ 999 บาท สำหรับสาธุชนผู้ที่สนใจจะเช่าบูชาวัตถุมงคลพ่อจตุคามรามเทพเนื้อผงยาวาสนาจินดามณีผสมผงดอกบัวแฝด สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดหรือเช่าบูชาได้ที่วัดท่าเสา ต.ท่าเสา อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร หรือโทร.034-471698, 08-9209-1001, 08-4995-2215, 08-9684-5453, 08-9482-1172
รุ่นสร้างพระมหาเจดีย์(1) วัตถุมงคลทรงคุณค่าวัดนก
คอลัมน์ มุมพระเก่า
สรพล โศภิตกุล
วัดนก ซอยพณิชยการธนบุรี ถนนจรัญสนิทวงศ์ 13 เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร เป็นวัดที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อประมาณ พ.ศ. 2420 แต่ไม่ปรากฏนามผู้สร้าง ในสมัยที่เจ้าอธิการลอยเป็นเจ้าอาวาสวัดรูปแรกนั้น ได้สร้างอุโบสถขึ้นมาสำเร็จเรียบร้อย และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อประมาณ พ.ศ. 2431
ถึงวันนี้ทางวัดนกได้ดำเนินการสร้างพระมหาเจดีย์ ขนาดความกว้าง 15 เมตร ยาว 15 เมตร สูง 31 เมตร 3 ชั้น ซึ่งทางวัดได้ดำเนินการสร้างมาตั้งแต่กลางปี พ.ศ. 2547 จนถึงปัจจุบันโครงสร้างต่างๆ ได้ก่อสร้างสำเร็จแล้ว ขณะนี้กำลังตกแต่งติดลวดลาย ติดกระเบื้องโมเสคสีขาว สีทอง ทั้งภายในและภายนอก
ในการดำเนินการสร้างพระมหาเจดีย์นั้น ทางวัดได้จัดสร้างวัตถุมงคลเพื่อมอบเป็นที่ระลึกสมนาคุณแก่ผู้บริจาคทุนทรัพย์ในการก่อสร้างมาแล้ว 2 ครั้ง กระนั้นยังคงขาดทุนทรัพย์อยู่ในการดำเนินการจัดสร้างให้แล้วเสร็จเรียบร้อย
ทางวัดนกจึงได้ดำเนินการจัดสร้างวัตถุมงคลรุ่น "สร้างพระมหาเจดีย์"เป็นครั้งที่ 3 ซึ่งวัตถุมงคลประกอบด้วย พระบูชาสุโขทัยรัตนมงคล ขนาดหน้าตักกว้าง 5 นิ้ว จำลองมาจากพระประธานในอุโบสถวัดนก เหรียญและพระผงพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ และจตุคามรามเทพ ทั้งในรูปขนาดบูชา ลอยองค์ เนื้อผง และเนื้อโลหะ
วัตถุมงคลทั้งหมดนี้ ได้ทำพิธีพุทธาภิเษก และเทวาภิเษกยิ่งใหญ่สุดเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ผู้บริจาคทรัพย์สร้างพระมหาเจดีย์แก่ผู้นำไปสักการะถึง 2 ครั้ง คือ
ครั้งที่ 1 ประกอบพิธีพุทธาภิเษก และเทวาภิเษก ณ วิหารหลวง วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2549 โดยได้รับเมตตาจากพระราชธรรมสุธี เจ้าอาวาส จัดพิธีบวงสรวงบูชาฤกษ์เริ่มพิธีเวลา 13.39 น. พระสงฆ์ 9 รูป เจริญพระพุทธมนต์ พระเกจิอาจารย์สายใต้ และสายเขาอ้อ นั่งปรกภาวนาปลุกเสก 19 รูป ไปจนถึงเวลา 17.59 น. ดับเทียนชัย
ครั้งที่ 2 ประกอบพิธีพุทธาภิเษก และเทวาภิเษก ณ วัดนก ซอยพณิชยการธนบุรี ซอยจรัญสนิทวงศ์ 13 เมื่อวันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2550 เริ่มพิธีเวลา 08.39 น. พระเถราจารย์ 50 รูป เจริญพระพุทธมนต์-มหาทิพมนต์-คาถาชินบัญชร พระธรรมสิทธิมงคล (พ่อท่านฉิ้น) วัดเมือง จังหวัดยะลา เป็นประธานกดพิมพ์จตุคามรามเทพในพิธี เนื้อไม้ตะเคียน ซึ่งนำออกบูชาเมื่อเสร็จสิ้นพิธีพุทธาภิเษก และเทวาภิเษกแล้ว (ดับเทียนชัยแล้ว)
เวลา 13.19 น. พระครูใบฎีกาปรานพ ฐิตคนฺโธ วัดคอหงษ์ เจ้าพิธี บวงสรวงอัญเชิญองค์จตุคามรามเทพ เวลา 15.39 น. พระครูสังวรสมณกิจ (หลวงปู่ทิม) วัดพระขาว จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานจุดเทียนชัย พระเกจิอาจารย์ 39 รูป นั่งปรกปลุกเสก พระพิธีกรรมสวดพุทธาภิเษก และเทวาภิเษก ไปจนเสร็จสิ้นพิธีพระมงคลสิทธิคุณ (หลวงพ่อฟู) วัดบางสมัคร จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นประธานดับเทียนชัย
สำหรับวัตถุมงคลจตุคามรามเทพ รุ่นสร้างพระมหาเจดีย์ วัดนก สามารถบูชาได้โดยตรงที่วัดนก โทร. 0-2410-7849, 0-2410-7755 สอบถามรายละเอียดได้ที่วัดนก
มติมหาเถรสมาคมหนุน"ไถ่ชีวิตโค-กระบือ" ทูลเกล้าฯถวายพระราชกุศล
นางจุฬารัตน์ บุณยากร รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ในฐานะรักษาการผู้อำนวยการสำนักพุทธฯ เปิดเผยว่า ในที่ประชุมมหาเถรสมาคม เมื่อเร็วๆ นี้ ได้เห็นชอบตามที่คณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 เสนอให้มหาเถรสมาคมร่วมเป็นคณะกรรมการดำเนินงานโครงการไถ่ชีวิตโค-กระบือ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ทั้งนี้ เนื่องจากในการประชุมคณะกรรมการอำนวยการ เมื่อเร็วๆ นี้ ได้พิจารณารูปแบบในการจัดกิจกรรมจัดงานเฉลิมพระเกียรติ โดยจะมีการดำเนินการกิจกรรมเร่งด่วน คือโครงการไถ่ชีวิตโค-กระบือ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เป็นความร่วมมือระหว่างสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กับกรรมการมหาเถรสมาคม ทั้งนี้ กำหนดให้มีการไถ่ชีวิตโค-กระบือ อย่างน้อยวันละ 9 ตัว เป็นเวลา 1 ปี รวม 3,285 ตัว โดยจะบริจาคเข้าธนาคารโค-กระบือ เพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริ
นางจุฬารัตน์กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน ที่ประชุมมหาเถรสมาคม เห็นชอบให้ตั้งคณะกรรมการร่วมดำเนินการ โดยแต่งตั้งคณะกรรมการฝ่ายสงฆ์จำนวน 10 รูป โดยมีพระพรหมเมธี เป็นประธานคณะกรรมการฯ และพระพรหมเวที เป็นรองประธานกรรมการฯ ร่วมเป็นคณะกรรมการดำเนินงานในฝ่ายสงฆ์ ส่วนกรรมการมหาเถรสมาคมรูปอื่น ที่ไม่ได้ร่วมเป็นคณะกรรมการโครงการดังกล่าว จะให้เป็นที่ปรึกษาของโครงการ สำหรับการดำเนินงานจะมีพิธีเปิดในวันที่ 5 ก.พ. เวลา 14.00 น. ที่วัดพระศรีมหาธาตุ เขตบางเขน กรุงเทพฯ โดยมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นประธานเปิดงาน จากนั้นจะเริ่มทำพิธีถวายสังฆทานและไถ่ชีวิตโค-กระบือ สัปดาห์ละ 1 ครั้ง เป็นระยะเวลา 1 ปี โดยจะเริ่มตั้งวันที่ 12 ก.พ.เป็นต้นไป
สำหรับการคัดเลือกโค-กระบือ กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นฝ่ายรับผิดชอบ โดยคัดมาจากโรงฆ่าสัตว์ที่จ.พระนครศรีอยุธยา และจ.ปทุมธานี มากักโรคไว้ 21 วัน และเมื่อทำพิธีไถ่ชีวิตแล้ว จะนำโค-กระบือไปให้เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้ก่อนหน้านี้ จำนวน 7,000 คน ยืมเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ โดยจะให้มีคำสาบานปฏิญาณของผู้ยืมว่าจะไม่นำโค-กระบือไปฆ่าหรือจำหน่ายขายต่อ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีจิตศรัทธามีความประสงค์จะร่วมบริจาคปัจจัยเพื่อใช้ในการไถ่ชีวิตโค-กระบือ สามารถร่วมบริจาคผ่านธนาคารกรุงไทย สาขาย่อยรัฐสภา บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 089-0-02196-8 ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
วันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 16 ฉบับที่ 5906
"ราชันย์ดำ"วัดใหญ่ชัยมงคล องค์จตุคามฯ-ทุนสร้างหอฉัน
สดจากหน้าพระ
วัดใหญ่ชัยมงคล จ.นครศรีธรรมราช สร้างขึ้นประมาณปี พ.ศ. 1429 โดยกษัตริย์อาณาจักรศรีวิชัย ผู้ครองเมืองนครศรีธรรมราชในขณะนั้น เพื่อเป็นที่ระลึกในการชนะศึกประเทศสิงหล (ลังกา) และพระราชทานชื่อวัดว่า "วัดใหญ่ชัยมงคล" ณ สถานที่รวมพลกองทัพ
การสร้างวัดเพื่อเป็นที่ระลึกในการชนะศึก องค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชก็ทรงปฏิบัติเช่นกันคือ วัดใหญ่ชัยมงคล จ.พระนครศรีอยุธยา
สำหรับสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่กันก็คือ "พระเศียร" ของพระพุทธรูปที่พบเมื่อครั้งการเตรียมสถานที่สร้างอุโบสถหลังปัจจุบัน เป็นพระเศียรที่มีพุทธลักษณะแบบประเทศอินเดียแท้ โดยทางวัดได้นำมาประกอบเป็นพระพุทธรูปที่สมบูรณ์ประดิษฐานที่หน้าอุโบสถหลังปัจจุบัน และนับตั้งแต่สร้างวัดจวบจนปัจจุบันเป็นเวลาพันกว่าปีวัดใหญ่ชัยมงคลไม่เคยรกร้าง
เป็นวัดที่ได้รับการดูแลมาโดยตลอดทุกกาลสมัย
ในปี พ.ศ.2550 เสนาสนะต่างๆ ของวัดใหญ่ชัยมงคล ชำรุดทรุดโทรมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะหอฉันภัตตาหารของพระภิกษุสามเณร เนื่องจากสร้างด้วยไม้และผ่านลมผ่านฝนมาเป็นเวลานาน ตั้งแต่ครั้งพระครูสังวรศีลวัฒน์ (พ่อท่านเชียร) ยังมีชีวิตอยู่ และท่านได้ฝากให้ "พระครูสมุห์สุวรรณ ปัญญาทีโป" ให้เป็นธุระในการดูแล ท่านจึงได้ดำริที่จะสร้างหอฉันหลังใหม่ขึ้นเพื่อ
ยังประโยชน์แก่พระภิกษุสามเณรและเป็นถาวรวัตถุสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา
แต่ทางวัดยังขาดปัจจัยในการจัดสร้าง จึงได้ปรึกษากับคณะศิษย์ในการที่จะหาทุนทรัพย์ในการสร้าง แล้วก็เห็นพ้องกันว่าควรที่จะสร้างวัตถุมงคลขึ้น เพื่อมอบตอบแทนให้กับผู้ที่ร่วมบริจาคทุนทรัพย์ในการกุศลครั้งนี้
ส่วนวัตถุมงคลที่จัดสร้างขึ้น ทางวัดต้องการให้เป็นวัตถุมงคลที่สามารถหลอมรวมความศรัทธาของมหาชนจากทั่วทุกสารทิศได้ และเป็นวัตถุมงคลที่ควรค่าแก่ผู้ที่บูชาทั้งรูปธรรมและนามธรรม โดยหวังพึ่งบารมีแห่ง "องค์จตุคาม รามเทพ" มหาเทพผู้ปกปักรักษาดูแลพระพุทธศาสนา
จึงได้จัดสร้างวัตถุมงคลองค์จตุคาม รามเทพขึ้นและให้ชื่อว่า "รุ่นราชันย์ดำ" โดยมี โกจ้อง-สุภาพ สุนทรธีรวุฒิ เป็นที่ปรึกษาด้านมวลสารและพิธีกรรมตามสมควร
ประกอบพิธีเททองหล่อองค์ขนาดบูชานำฤกษ์และกดพิมพ์น้ำตาลแว่นเป็นปฐมฤกษ์ ณ มณฑลพิธีหาดทรายแก้วหน้าวิหารหลวงวัดพระบรมธาตุ จ.นครศรีธรรมราช สถานที่ประดิษฐานองค์จตุคาม รามเทพ เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2550 โดยมี พระราชธรรมสุธี เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช เมตตาเป็นประธานพิธีเททอง ร่วมอธิษฐานจิตคุมธาตุขณะเททองและกดพิมพ์นำฤกษ์ โดยพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงพุทธาคมสายเขาอ้อ และพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงคุณภาคใต้
ประกอบด้วย พ่อท่านวัน วัดเสาธงทอง หนึ่งในพระเกจิอาจารย์ที่ร่วมพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลหลักเมือง ปี 2530 พ่อท่านช่วย วัดบูรณาราม (ศิษย์สายพ่อท่านซัง) พ่อท่านเนื่อง วัดสวนจันทร์ พ่อท่านเอื้อม วัดยบางเนียน พ่อท่านท้วม วัดศรีสุวรรณ พ่อท่านเหวียน วัดพิกุลทอง พ่อท่านสลับ วัดป่าตอ พ่อท่านประดับ วัดป่าตอ พระอาจารย์รรรสิริ วัดบ้านสวน พ่อท่านเงิน วัดโพรงงู พระอาจารย์วิลาศ วัดเขาโพรกเพรง พระมหาอุทัย วัดดอนศาลา พระอาจารย์จิตร วัดเขาเมืองเก่า พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ 10 รูป เจริญพระพุทธมนต์ พระอาจารย์ปรานพ (หลวงหนุ่ย) เป็นเจ้าพิธีกรรมอัญเชิญองค์จตุคาม รามเทพ ประกอบพิธีเทวาภิเษก ตามหลักศาสตร์ศรีวิชัยโบราณ จามร เจริญอภิบาล ประธานหอการค้าจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานฝ่ายฆราวาส
วันที่ 22 มี.ค. 2550 ประกอบพิธีมหาพุทธา-เทวาภิเษก วัตถุมงคล ณ ศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช โดยพระเกจิอาจารย์สายจตุคาม รามเทพ และพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงคุณภาคใต้ พระอาจารย์ปรานพ (หลวงหนุ่ย) ประกอบพิธีอัญเชิญองค์จตุคาม รามเทพ ประกอบพิธีเทวาภิเษก
นอกจากปัจจัยที่ได้จากการเช่าบูชาวัตถุมงคลจะนำไปสร้างหอฉันวัดใหญ่ชัยมงคลแล้ว ทางวัดใหญ่ชัยมงคลยังเห็นถึงความสำคัญของเยาวชนในด้านการศึกษา จึงได้จัดรายได้จากการบูชาวัตถุมงคลส่วนหนึ่งมอบเป็นทุนการศึกษาให้กับโรงเรียนในเขตเทศบาล 9 โรงเรียน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่วัดใหญ่ชัยมงคล 0-7531-2645 นครศรีธรรมราช 08-1968-7963 กรุงเทพฯ 08-9650-0030, 08-9682-6665, 08-1677-2249, 08-9828-9352, 08-1685-4151
ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ วัดพระพุทธบาทจำศีล อ.ดอยเต่า จ.เชียงราย
--------------------------------------------------------------------------------
วัดพระบาทจำศีลเป็นวัดเก่าแก่โบราณ ตามประวัติกล่าวว่าสร้างในสมัยพระนางจามเทวี มีอายุกว่า 1,400 ปี เมื่อเวลาผ่านไปวัดได้ถูกทิ้งร้าง และล่มสลายไปตามกาลเวลา จนกระทั่งครูบาเจ้าศรีวิชัยได้ธุดงค์ผ่านมาปักกลดทำสมาธิอยู่บริเวณภูเขา ได้มีนิมิตเห็นรอยพระพุทธบาทองค์นึ่ง มีไผ่สีสุก 4 กอปลูกอยู่ล้อมรอบรอยพระพุทธบาทองค์นั้น เมื่อท่านออกจากสมาธิ จึงได้ทำการค้นหาไผ่สีสุก 4 กอ ตามที่ท่านได้นิมิตเห็นแต่ก็ไม่พบ ต่อมาในสมัยครูบาเจ้าอภิชัย (ครูบาขาวปี) ท่านได้มาค้นหารอยพระพุทธบาทและไผ่สีสุก 4 กอ ตามคำบอกเล่าของครูบาเจ้าศรีวิชัย เมื่อค้นหาแล้วไม่พบ ท่านจึงได้สร้างศาลาไว้ที่เชิงเขา ล่วงมาจนกระทั่งถึงสมัยหลวงปู่ครูบาชัยวงศาพัฒนา (ครูบาวงศ์) ได้มาค้นหารอยพระพุทธบาท และไผ่สีสุก 4 กอ ตามคำบอกเล่าของครูบาศรีวิชัยและครูบาขาวปี ท่านได้นั่งสมาธิค้นหาจนกระทั่งพบไผ่สีสุก 4 กอ และรอยพระพุทธบาทซึ่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับไว้บนก้อนหินในบริเวณภูเขาลูกนั้นเอง
เมื่อครูบาวงศ์ค้นพบรอยพระพุทธบาทตามที่ครูบาศรีวิชัยได้นิมิตเห็นแล้ว ท่านได้ทำสมาธิพิจารณาดูรอยพระพุทธบาทและพบว่าแต่เดิมบริเวณพระพุทธบาทแห่งนี้ เป็นพระเจดีย์เก่าแก่ มีพระบรมสารีริกธาตุประดิษฐานอยู่ด้านล่าง ท่านจึงได้ดำริให้สร้างฐานเจดีย์ครอบเจดีย์องค์เก่าไว้ เพราะท่านเห็นตามนิมิตว่าพระเจดีย์องค์นี้จะสำเร็จได้ ต้องรอเจ้าภาพมาร่วมกันสร้างก่อน ในปี พ.ศ. 2540 ท่านจึงสร้างฐานพระเจดีย์ พร้อมทั้งทำพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และพระพุทธรูป ไว้ที่ฐานพระเจดีย์องค์นี้ด้วย จนมาถึงปัจจุบัน พระแก้ว เขมปญฺโญ (ได้รับมอบหมายจากการสร้างพระเจดีย์จากครูบาวงศ์) และคณะศิษยานุศิษย์ต่างเห็นพ้องต้องกันว่า เป็นเวลาเหมาะสมแล้วที่จะร่วมกันสถาปนาพระเจดีย์องค์นี้ขึ้นมาใหม่ให้ยิ่งใหญ่ดังเดิม) (ประวัตินี้ได้รับคำบอกเล่ามา หากมีข้อผิดพลาดโปรดให้อภัยด้วย)
อานิสงส์พระเจดีย์
อานิสงส์ในการสร้างพระเจดีย์นั้นเป็นอเนกประการ กล่าวคือ เป็นปูชนียสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ย่อมมีความศักดิ์สิทธิ์อย่างยิ่ง ทันทีที่พระพุทธศาสนิกชนได้พบเห็นปรากฏในสายตา แม้จากที่ไกลก็เท่ากับเห็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แม้เพียงแต่เห็นก็เป็นการเห็นที่เลิศ (ทัศนานุตริยะ) เช่นเดียวกับการเห็นพระสมณะ ถือว่าเป็นมงคลอันสูงสุด (สมณาณัญจ ทัสนัง เอตัมมัง คะละมุตตะมัง) และเมื่อได้นมัสการก็ถือได้ว่าเป็นการบูชา หรือการบูชาด้วยดอกไม้ ธูปเทียน ซึ่งแม้จะเป็นอามิสบูชา ก็ถือว่าเป็นการบูชาที่เลิศ (ปูชานุตตะริยะ) และเป็นมงคลอันสูงสุดเพราะถือว่าเป็นการบูชาพระบรมศาสดา ผู้ประกอบด้วยพระปัญญาคุณ พระบริสุทธิ์คุณ และพระมหากรุณาคุณ ซึ่งเป็นมงคลอันสูงสุด เพราะบูชาบุคคลที่ควรบูชา (ปูชาจะปูชะนียานัง เอตัมมัง คะละมุต ตะมัง) เป็นที่ที่เทวดาและพรหมทั้งหลายจะมามนัสการเมื่อท่านเหล่านั้นเหาะผ่านมา และเป็นที่พึ่งของเทวดา และพรหมทั้งหลายจากเทวโลกและพรหมโลก จะได้นมัสการอธิษฐานขอบารมี ขอพลัง ก่อนที่จะไปเกิดในภพใหม่เพื่อสร้างบารมีต่อ เป็นที่พึ่งของมนุษย์ทั้งหลายที่จะมานมัสการและเวียนเทียนปทักษิณให้เป็นสิริมงคลแก่ชืวิต ซึ่งไม่ว่าจะเป็นเทวดา เป็นพรหม ที่มาไหว้พระมหาเจดีย์ หรือพุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธามานมัสการ และเวียนเทียนรอบพระมหาเจดีย์เมื่อใดก็ตาม บุญย่อมเกิดแก่เจ้าของบุญที่มีส่วนร่วมในการบริจาคทรัพย์และแรงงานที่สร้างพระมหาธาตุเจดีย์องค์นี้ >>
อานิสงส์ในการสร้างพระเจดีย์ครั้งนี้ จะได้อานิสงส์ในด้านวิหารทาน ซึ่งเป็นอานิสงส์สูงสุดในวัตถุทาน ซึ่งจะมีอานิสงส์มากกว่าการถวายสังฆทานถึง ๑๐๐ เท่า และมีอานิสงส์สูงกว่าการถวายทานแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเองถึง ๑๐,๐๐๐ เท่า และมีอานิสงส์สูงกว่าพระปัจจเจกพุทธเจ้า ๑,๐๐๐,๐๐๐ เท่า และมีอานิสงส์สูงกว่าการถวายทานแด่พระโสดาบันปฏิมรรคถึง ๑๐,๐๐๐,๐๐๐, ๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐ ล้านเท่าหรือ((๑๐)๒๓เท่า); ซึ่งลำพังการถวายทานแด่พระโสดาบันปฎิมรรค ก็มีอานิสงส์มากมายจนนับไม่ถ้วนอยู่แล้ว จึงไม่อยากให้ท่านพลาดโอกาสทำบุญใหญ่นี้ จึงขอเชิญชวนท่านพุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธาทุกท่านได้ทำบุญตามกำลังศรัทธา
ด้วยพุทธานุภาพของพระบรมธาตุ และพระบรมสารีริกธาตุ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแลพระอรหันตธาตุของพระอรหันต์ และพระบรมสารีริกธาตุของพระปัจเจกพุทธเจ้า และอัฎฐิธาตุของพระเกจิอาจารย์ ซึ่งเป็นพระสงฆ์ผู้ทรงศีล ทรงคุณธรรม ที่บรรจุในพระเจดีย์นั้นย่อมยังความร่มเย็นเป็นสุขให้แก่มนุษย์และสรรพสัตว์ทั้งหลาย ในแว่นแคว้นที่พระเจดีย์นั้นตั้งอยู่
ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยอันศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง จงดลบันดาลให้ทุกท่านจงประสพแต่ความสุขความเจริญด้วยจตุพรพิธพร อันระกอบด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฎิภาณ และธนสารสมบัติ จะประสงค์สิ่งใดอันเป็นที่ชอบและที่ควร ทั้งไม่ผิดกฎหมายและศีลธรรม ก็
ขอจงสำเร็จดังมโนปรารถนา ทุกประการเทอญในการนี้คณะกรรมการทุกท่านขอเรียนเชิญท่านผู้มีจิตศรัทธาได้ร่วมทำบุญนี้ โดยทำบุญได้โดยตรงที่คณะกรรมการที่ได้บอกบุญมายังทุกท่านหรือทางธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาย่อยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ชื่อบัญชี พระเจดีย์วัดพระพุทธบาทจำศีล เลขที่ 235-205155-5
โมทนาสาธุกับทุกท่านครับขอให้บารมีเต็มไวๆครับ |
|
_________________ พิจารณาความตายทุกลมหายใจเข้าออก |
|