Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 พหุลกถาโอวาท พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
กรกต
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 28 ต.ค. 2006
ตอบ: 11

ตอบตอบเมื่อ: 19 ม.ค. 2007, 11:36 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

Image

พหุลกถาโอวาท
พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร


เมื่อเราจะประกอบความเพียรให้เกิดมีขึ้นในตัวของเรา ควรกำหนด ควรรู้ ควรเห็นและความเป็นอยู่ของจิตคือเรื่องสิ่งที่จิตของเรามันหลงอยู่ ให้รู้จักว่ามันหลง จิตหลงอะไร ติดข้องคาอะไร เราพากันค้นหาตัวหลงตัวคาในจิตของตนทันที แล้วรีบพยายามแก้ไขชำระสะสางในสิ่งเหล่านั้น ให้รู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันเป็นไปเพื่อทุกข์ หรือเป็นไปเพื่อปลดเปลื้องทุกข์

เราควรตามรู้ตามเห็น เพราะเราต้องการอยากพ้นทุกข์ และตัวเราเป็นผู้รู้อยู่ ถ้าเรารู้ว่าสิ่งนั้นเป็นไปเพื่อทุกข์เพื่อโทษ เราจะปล่อยให้เราเป็นทุกข์เป็นโทษอยู่ตั้งหลายภพหลายชาติหลายกัปหลายกัลป์เช่นนั้นหรือ เราต้องรีบชำระสะสางอารมณ์สัญญาของเราที่ลุ่มหลงมัวเมาให้เกิดความรู้เท่าเอาทัน ให้นั่งพิจารณาดูว่า เราต้องการความสุขคือความพ้นทุกข์ ถ้าสิ่งเหล่านั้นเป็นไปเพื่อความพ้นทุกข์ เป็นไปเพื่อความสุขแล้ว เราก็ต้องรักษาและปฏิบัติเอาใจใส่ในสิ่งเหล่านั้น ทำให้มากเจริญให้มากขึ้น

สิ่งใดเป็นไปเพื่อทุกข์ เป็นไปเพื่อโทษ ก็รีบชำระสะสางให้หมดสิ้นไปจากดวงใจของเรา ให้พึงเข้าใจในสิ่งเหล่านี้อยู่เสมอมิใช่ว่าเราไม่รู้ คือให้รู้ภายในจิตใจของตน อย่าส่งรู้ออกภายนอกจิตใจของตน ให้พากันดูให้พากันฟัง สมถกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งมีอยู่ในตัวเราทุกคนครบบริบูรณ์

ขณะนี้เราอยู่ในสมถกรรมฐาน คือความสงบ วางอารมณ์ภายนอกทังหมดได้ ไม่กำหนัดรักใคร่ยินดี ใจไม่หงุดหงิด ไม่ซึมเซา ไม่ท้อแท้ และไม่งมงาย เราอยู่ในวิปัสสนากรรมฐาน ก็ตัดหมด ตัดภพ ตัดชาติทั้งหลาย อารมณ์สัญญาที่เป็นไปตามกระแสโลกตัดหมด ไม่มีเหลือ เป็นเรื่องสมมตินิยมกันเท่านั้น จิตของเราเป็นวิมุติ หลุดพ้นไปหมด เรื่องภพ เรื่องชาติ เรื่องทุกข์ เรื่องภัย ไม่มีอีกแล้ว นี้แหละเป็นข้อปฏิบัติ

เพราะฉะนั้น ให้พากันพึงรู้พึงเห็นและเข้าใจในสัจธรรมให้เห็นแจ้งประจักษ์ในตัวของเรา เมื่อเรารู้แล้วเราจะได้มีศรัทธา ความเชื่อ ปสาทะ ความเลื่อมใส หนักแน่นในข้อวัตรปฏิบัติมากยิ่งขึ้น และจะได้ประกอบวิริยะ ความพากเพียรกล้า ในการประพฤติในการปฏิบัติทุกข้อ จะไม่ย่อท้อในหน้าที่ของตน เราจะได้มีความหมั่นขยัน มีความอดทนต่อหน้าที่กาลต่อไป เราเห็นแล้วว่าสุขจริงๆ ทุกข์จริงๆ บุญบาปมีจริงให้พึงรู้พึงเข้าใจต่อไป ดังนี้



------ จบ ------
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง