Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ปฏิบัติธรรมจะไปทางไหน? อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
โอ่
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 12 ธ.ค.2004, 9:53 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อันนี้เป็นคำถามที่แกล้งถาม แต่ก็สำคัญ ผมจะทำทางที่จะไปอันมีหลากหลายให้ดูเล่นๆ

1 ทางที่จะบรรลุโสดาปัติมรรค (แล้วก็จะเป็นโสดาปัติผลไปเอง และเป็นสกิทาคามี อนาคามีไปด้วย)

ทางบรรลุโสดาบันนี้มีทางไปอีก เช่นเกิดในโลกมนุษย์ 7 ชาติ ก็บรรลุพระอรหันต์

ไม่ลงมาเกิดในโลกมนุษย์ให้ครบ 7 ชาติ แต่จะเกิดในสวรรค์ แล้วพัฒนาไปเป็นพระอนาคามีพรหมในที่สุด ไปอยู่ยาวนานในชั้นสุทธาวาส และนิพพานในชั้นนั้น พระพรหมอนาคามีที่จะขึ้นไปสุทธาวาสนั้น อาจไม่บรรลุพระอรหันต์เข้านิพพาน แม้ว่าศาสนาพระศรีอาริย์อาจหมดไปแล้ว เพราะอายุพรหมชั้นนี้ยาวนาน



2 ปฏิบัติให้บรรลุพระอรหันต์ในปัจจุบัน (แม้ปฏิบัติไม่ได้ก้อาจตั้งเป้าไว้อย่างนั้นได้)



3 ปฏิบัติให้ได้ฌานไปเกิดเป็นพรหม เมื่อพระศรีอาริย์มาตรัสรู้จึงลงมาเกิดเพื่อฟังธรรมบรรลุเป็นพรอรหันต์ในสมัยหน้า



4 ทำบุญทำทานให้มาก เพื่ออยู่ในสุคติ จนถึงยุคพระศรีอาริย์ (ต้องเป็นบุญทานขนาดสร้างวัด และทำนุบำรุงศาสนามากมายทีเดียว ไม่ให้ลงไปสู่ที่ชั่ว



5 ผู้ภาวนามีสมาธิ และรู้ว่าตนเองปรารถนาเป็นเอตทัคคะสาวกของพระศรีอาริย์ ประเภทเหล่านี้ย่อมบำเพ็ญบารมีทำบุญไปเกิดตามนั้น ไปเป็นสาวกฝ่ายขวา ฝ่ายซ้าย หรือชำนาญด้านไหนก็ว่ากันไป



6 ผู้เป็นพุทธมารดา และพุทธบิดา อันนี้ก็ไปตามนั้น ไม่ปฏิบัติเพื่อบรรลุโสดาบันในยุคนี้



7 ไปเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า อาจตรัสรู้ในกึ่งพุทธันดร ดังเช่นพระเจ้าอชาตศัตรู ที่ตกนรกอเวจี จะอยู่แค่กึ่งพุทธันดรเท่านั้น แล้วสิ้นบาปมาเกิดในโลกมนุษย์เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า



8 เพื่อเป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อๆไป ก็จะบำเพ็ญ ไม่บรรลุโสดาบัน



ที่ยกมาเพื่อแสดงว่าในการบำเพ็ญบุญนั้นมีคนจำนวนมาก ไม่ต้องการเป็นอริยบุคคลในศาสนานี้ ณ เวลานี้ เขาจำบำเพ็ญสมาธิหรือทำบุญมากๆก็ต้องเป็นเรื่องของเขา เพราะเป็นบุคคลต้องหาเสบียงกรังจำนวนมากเพื่อเดินทางในวัฏฏสงสาร



บุคคลบางพวกก็เหมาะที่จะบรรลุโสดาบัน และอริยบุคคล บุคคลแต่ละคนมีทางเป็นของตนเอง และได้ปรารถนามาแล้วแต่อดีต บางคนไม่ต้องการ คิดดูถ้าสาวกฝ่ายขวาพระศรีอาริย์ มาต้องการบรรลุเป็นอริยบุคคลในศาสนาพระพุทธเจ้าพระองค์นี้ พระศรีอาริย์จะมาตรัสรู้ได้หรือ ตรัสไม่ได้ เพราะไม่มีสาวกฝ่ายขวา จะสร้างคนแทนก็ไม่ได้ เพราะต้องบำเพ็ญบารมีมาตามแบบนั้น



ดังนั้นเส้นทางเดินของแต่ละคนถูกกำหนดแน่นอนโดยกรรม เป็นไปตามพระพุทธเจ้าได้ทำนายไว้ อุปนิสัยของสัตว์จะเป็นไปตามแรงปรารถนา และผู้ปฏิบัติธรรมนั้น เมื่อไประดับหนึ่งย่อมรู้ว่าตัวเองจะไปไหน



ถ้าไม่รู้จะเดินทางไปถูกหรือ มันต้องรู้โดยตัวเอง มิใช่คนอื่นบอก แม้ในอนาคตก็จะรู้บ้างไม่รู้บ้าง แต่กำหนดทางเดินตนเองถูก จะผิดพลาดเล็กๆน้อยๆเท่านั้น



ถ้าไม่รู้ก็ถามตนเองให้แน่ชัดว่า ตนเองจะไปทางไหน ถ้าเห็นว่ามีทางต้องไปยาวไกล เพราะใกล้ๆนั้นไปไม่ถึงแน่ ก็ต้องสร้างสะเบียงกรัง คือต้องทำทานไว้ อย่าคิดว่าทานไม่จำเป็น ไม่สำคัญเท่าปัญญานั้นไม่ได้ ไม่งั้นจะลำบากในระหว่างการเดินทาง ศีลก็ต้องรักษาเพื่อคุ้มครองไม่ให้ใจทำชั่วในชาติอนาคต ไม่ได้หวังในเรื่องสวรรค์ สวรรค์เป็นผลพลอยได้ แต่ต้องทำเพื่อส้ร้างสมอุปนิสัยบารมีให้เอาตัวรอดได้ เมื่อกำลังบุญอ่อนลงในอนาคต



ถ้าบุคคลไม่ต้องการบรรลุโสดาปัตติผลในปัจจุบันแล้ว การภาวนาก็เน้นที่สมาธิให้ได้ หรือเจริญสติให้ชำนาญเพื่อเป็นปัญญาในอนาคต
 
สำเร็จ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 13 ธ.ค.2004, 12:07 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ต้องขออภัย..ต้องขอแก้ไขข้อผิดพลาด..ในการแสดงของคุณโอ่สักเล็กน้อย

ที่ว่า...แล้วพัฒนาไปพระอนาคามีพรหมในที่สุด ไปอยู่ยาวในชั้นสุทธาวาส และนิพพานในชั้นนั้น.... ข้อนี้ถูกต้อง







แต่...ที่บอกว่า..พระอนาคามีที่จะขึ้นไปสุทธาวาสนั้นอาจไม่บรรลุพระอรหันต์เข้านิพพาน แม้ว่าศาสนาพระศรีอารย์จะหมดไปแล้ว เพราะอายุพรหมชั้นนี้ยาวนาน....ข้อนี้ผิดพลาด



ข้อผิดพลาดก็คือ...ที่เขียนว่า...สุทธาวาสนั้นอาจไม่บรรลุพระอรหันต์เข้านิพพาน...



ขอเรียนชี้แจงว่า..



1.บุคคลที่จะไปเกิดในสุทธาวาสภูมิได้...คือ พระอนาคามี เท่านั้น

2.การเกิดในสุทธาวาสภูมิ..จะไม่มีการเกิดซ้ำภูมิอีก..และจะไม่เกิดในภูมิที่ต่ำกว่า

3.สุทธาวาสภูมิมี 5 ชั้น

4.ในแต่ละชั้นที่จัดเป็นสุทธาวาสภูมิ...พระอนาคามีสามารถสำเร็จพระอรหันต์ในชั้นใดก็ได้

5.ในชั้นสูงสุดของสุทธาวาสภูมิ...เป็นชั้นที่สำเร็จพระอรหันต์อย่างแน่นอน





ดังนั้นควรเขียนว่า...พระอนาคามีบุคคลที่ไปเกิดในชั้นสุทธาวาสนั้นย่อมสำเร็จเป็นพระอรหันต์แน่นอน ในภูมิใดภูมิหนึ่งในสุทธาวาสภูมินั้น เนื่องจากการเกิดในสุทธาวาสภูมิก็จะไม่มีการเกิดซ้ำภูมิ หรือ เกิดในภูมิที่ต่ำกว่า...



ขอแก้มาเพราะมีความสำคัญพอสมควร...

ในชั้นสุทธาวาสมีแต่คำว่า...แน่นอน ...ไม่มีคำว่า..อาจจะ...ดังที่แสดงไว้





คำว่าแน่นอนหมายถึง....



1.ต้องเป็นพระอนาคามีแน่นอนจึงเกิดในสุทธาวาส

2.ในสุทธาวาสภูมิจะเกิดไม่ซ้ำภูมิแน่นอน..ถ้ายังไม่สำเร็จพระอรหันต์

3.ไม่เกิดในภูมิที่ต่ำกว่าแน่นอน

4.ในชั้นสูงสุดจะต้องสำเร็จพระอรหันต์แน่นอน



คำว่า อาจจะ..ใช้ไม่ได้กับภูมิที่เรียกว่า สุทธาวาสภูมิ



ขอแก้มาดังนี้ครับ













 
โอ่
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 13 ธ.ค.2004, 5:59 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอบคุณมากครับคุณสำเร็จที่ช่วยแก้ไข
 
สายลม
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004
ตอบ: 1245

ตอบตอบเมื่อ: 13 ธ.ค.2004, 6:25 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน





สาธุครับ คุณโอ่



 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
.
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 16 ธ.ค.2004, 8:22 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

โมทนาครับ
 
nong
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 20 ธ.ค.2004, 4:03 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

sadhu
 
โอ่
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 14 ม.ค. 2005, 4:29 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สิ่งที่ไม่ได้เขียนตรงนี้ทั้งที่คิดจะเขียนไว้ด้วย เพราะมีรายละเอียดมาก ก็กลับมาเขียนเพิ่มเติม คือเรื่องทางปฏิบัติ หรือเรียกว่ากรรมฐาน



เวลานี้มีการปฏิบัตินหลายแบบ มากเหลือเกิน



แต่วิธีบางวิธีที่มีในสติปัฏฐานสี่ และวิธีในพระไตรปิฏกที่อยู่นอกเหนืออกไปจากสติปัฏฐานสี่ก็มีหลายวิธี



สิ่งที่บรรดาผู้ปฏิบัตินำมากล่าวมาก คือ อานาปานสติ และการกำหนดอิริยาบถ เช่น เดินจงกรม กับการภาวนาแบบบริกรรม



รองลงมาก็อาจจะ มรณัสติ อสุภ กายคตาสติ



หมวดธัมมานุสติ มีเจริญภาวนามากแต่กล่าวไว้น้อย



หมวดเวทนานุสติยั้นมีกล่าวไว้บ้าง จิตตานุสติกล่าวไว้น้อยในบรรดาครูอาจารย์ที่สอนกันตามที่ต่างๆและเผยแพร่ความรู้



ในพระไตรปิฏกยังกล่าวการเจริญปัญญาในเรื่องนั้นๆโดยเฉพาะอีกมาก และแต่ละเรื่องก็สัมพันธ์หมด การศึกษาให้เข้าใจในวิธีการต่างๆตามสมควร จะทำให้การเลืกเฟ้นธรรมอันเป็นเรื่องจำเป็นในการภาวนา จะทำได้ง่ายเร็ว และชำนาญ จะเป็นประโยชน์ในการปฏิบัติ ในชีวิตประจำวัน ดังนั้นจึงแนะนำว่าควรศีกษา ธัมมานุสติ รวมทั้งอนุสติ 10 และการเจริญอื่น เช่นสัมมัปธานสี่ อิทธิบาทสี่ การพิจารณาอริยมรรคบ่ยๆ ฯลฯ
 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง