เราเป็นเกย์ควรทำตัวอย่างไร

ตอบเมื่อ: 13 พ.ย.2007, 5:05 pm

1. ควรทำตัวอย่างไร
ทำปกติ สำคัญคือศีล 5

2. จะดำเนินชีวิตอย่างไร
ดำเนินปกติ สำคัญคือศีล 5

3. มีความรักทำอย่างไร
ทำตามปกติ คุณห้ามอารมณ์ไม่ได้หรอก บังคับไม่ได้ งั้นเลิกคิดที่จะห้ามใจไปเลย เพราะมันคืออารมณ์จริง ของจริงที่เกิดขึ้น สำคัญคือศีล 5

4. บวชได้หรือป่าว
บวชกายไม่ได้ บวชใจได้ (เนกขัมมะ) อันนี้สำคัญกว่าเยอะ พระพุทธองค์ท่านมิได้ต้องการสาวกหรอกครับ ท่านต้องการให้สรรพสัตว์พ้นทุกข์ต่างหาก ถ้าบวชกายห่มผ้าเหลืองแล้วพ้นทุกข์ได้ ท่านคงมิต้องลำบาก แต่เป็นที่จิตต่างหาก แล้วคุณคิดว่าบวชพระสำคัญหรือป่าวล่ะทีนี้ เคยได้ยินไหมครับ "ผู้ใดปฏิบัติตามคำสอนเรา ผู้นั้นได้ชื่อว่าทำการบูชาเรา" "ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา" "ผู้ใดเข้าใกล้ธรรม ผู้นั้นเข้าใกล้เรา"

ปล. ที่จริงเกิดเป็นเกย์ มิใช่ผิดศีลข้อ 3 อย่างเดียว มิได้ผิดศีลข้อ 3 ก็เกิดเป็นเกย์หรือทอมได้ สืบเนื่องจากสภาพจิต ที่มีความหมกมุ่นในเพศ การร่วมเพศ ชายมีปกติจิตหมกมุ่นในเพศหญิง หรือหญิงมีปกติจิตหมกมุ่นในเพศชาย ขณะจิตสุดท้ายดับอย่างไรก็ไปเกิดอย่างนั้น ด้วยแรงส่งของการกระทำที่ทำมา กรรมจะส่งผลให้ไปเกิดตามภพ ปกติจิตที่กระทำมา ก็จะส่งผลตามเพศ เป็นเพศผู้ก็มีจิตของเพศเมียด้วย เป็นเพศเมียก็มีจิตของเพศผู้ด้วย เพราะปกติจิตติดอยู่กับเพศ ที่ใช้ว่าเพศผู้หรือเพศเมียนั้น เพราะ ไม่ได้หมายถึง ภพมนุษย์เท่านั้น ภพใดที่เกิด ก็มีสองเพศตามนั้นด้วยเหตุนี้แล...สาธุฯ

ตอบเมื่อ: 13 พ.ย.2007, 5:10 pm

สาธุๆ

ตอบเมื่อ: 14 พ.ย.2007, 8:38 am

ตอบเมื่อ: 14 พ.ย.2007, 4:56 pm

ตอบเมื่อ: 26 ธ.ค.2007, 2:54 pm

เกย์ก็คน มีสิทธิ์บรรลุธรรมครับ ไม่ต้องคิดมากว่าคุณเป็นอะไร คนเราอยู่ที่การกระทำอยู่แล้ว
ไม่ต้องแคร์อะไรครับ เป็นกำลังใจให้นะ

ตอบเมื่อ: 05 เม.ย.2008, 9:21 pm

พึ่งสมัครสมาชิกครับก็เลยพึ่งได้อ่านกระทู้นี้

เกย์ก็คือคนครับ คนเราก็แค่ธาตุสี่ ขันธ์ห้า อายตนะหก หรือ รูปนาม เท่านั้นเองครับ
จะเป็นหญิง ชาย เกย์ กระเทย ทอม ดี้ หรือแม้แต่บัณเฑาะว์ ก็ประกอบด้วยสิ่งต่างๆตามที่ได้กล่าวมาแล้ว กรรมนำมาเกิด เราเกิดตามกรรมเก่าที่ได้กระทำไว้ แต่ว่ากรรมใหม่ที่เราสร้างในชาตินี้จะกลายเป็นกรรมเก่าในชาติหน้า เพราะฉนั้นเราควรจะเลือกทำกรรมที่เป็นกุศล เพื่อจะได้มีชีวิตที่สมบูรณ์ในภายหน้า

การฝึกสติ สัมปชัญญะ การทำกรรมฐาน ภาวนา การเดินจงกรม นั่งสมาธิ เป็นการประกอบกรรมไม่ดำไม่ขาว และยังให้ผลได้ในปัจจุบัน อันมีความสุข สงบ ในการใช้ชีวิตเป็นต้น

ใช้กรรมเก่าอันทำให้เกิดเป็นเกย์ พิจารณาให้เห็นเป็นทุกข์ แล้วก็หาทางออกจากทุกข์สิครับ
พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส แล้วจะรู้ว่าธรรมะของพระพุทธองค์ไม่ได้ปิดกั้นสำหรับผู้ได้เลย

สมกับพระพุทธพจน์ที่ว่า

ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

ขอความสุขเกิดแก่ผู้ที่มีความทุกข์ ทุกรูปทุกนาม ครับ

สาธุ สาธุ สาธุ

ตอบเมื่อ: 29 เม.ย.2008, 8:15 pm

อยากทราบว่าในกรณีที่แฟนเราทิ้งเราไปมีคนใหม่ โดยอ้างว่าแต่งงานด้วยความจำเป็น ก่อนแต่งสัญญาว่าจากกันแต่กายใจไม่จาก แต่ตอนนี้เค้าทิ้งเราไปรักคนที่เค้าแต่งงานด้วย ทิ้งหนี้ให้เราชดใช้คนเดียว บีบให้เราลาออกจากงาน ส่งข้อความมาถากถางว่าเราเป็นคนเห็นแก่ตัว ไม่รักเค้าจริง แล้วที่สัญญากันไว้ต่อหน้าองค์พระประธานเค้าจะบาปไหมคะ

ตอบเมื่อ: 02 พ.ค.2008, 10:44 am

เห็นด้วยกับ amai และ ปุ๋ยคับ

ผมขอเอาใจช่วยด้วยคนนะครับ ยิ้มเห็นฟัน

ตอบเมื่อ: 21 ก.ค.2008, 5:48 am

ผมคิดอย่างนี้นะว่า

การที่มีรสนิยมเกย์นั้นก็เพราะจิตมีความพึงใจ ในสภาวะอันนั้น

จิตกับกาย ไม่ใช่อันเดียวกัน แต่อยู่ด้วยกัน
จิต สั่งกายได้ กายสั่งจิตไม่ได้

เมื่อจิตเลือกชอบไปอย่างนั้น ผูกพันธ์อย่างนั้น
กายก็ต้องทำอย่างนั้น เพื่อสนองงานจิต

ไม่ต่างอะไรจากการชอบสีฟ้า สีแดง สีเหลือง หรือสีอะไรก็แล้วแต่
มันเป็นธรรมชาติของจิต ว่าจิตจะพึงพอใจอะไร (ภวตันหา) .. ไม่พอใจอะไร (วิภวตันหา)[b]

[b]การเป็นเกย์ จึงจัดว่าเป็นตันหาธรรมดา อย่างหนึ่งของปุถุชน
ไม่ได้มีความบาปหนาสาหัสอะไร

การชอบสีทั้งหลาย ใช้แค่ตา ก็มีความสุขแล้ว
ชอบกลิ่น้นำหอมอะไร ใช้จมูกดม มันก็ทำให้จิตพอใจแล้ว
แต่การที่จิตจะอิ่มจากความอยากในร่างกายและกริยาของชายด้วยกันนั้น
ต้องใช้ระบบสืบพันธ์ในการเสพ จึงจะบำเรอให้จิตคลายความกำหนัดลงได้
ดังนั้น
การร่วมเพศของเกย์ นั้นเมื่อมองอย่างธรรมะ
ก็จะพบว่า ต้นเหตุก้คือกามตันหาธรรมดาๆ เฉกเช่นชายหญิงมีกามตันหาเกิดขึ้น

แต่ด้วยผู้คนในสังคม มองว่าการใช้ร่างกายทำอย่างนี้ มันผิดไปจากธรรมชาติของเขา ไม่เหมือนเขา ตัวตนไม่เหมือนเขา เขาไม่ชอบ
ถ้าเหมือนเขาา เขายอมรับได้
ไม่เหมือนเขา เขารังเกียจ

ความรับได้ หรือไม่ได้ ของคนในสังคม ก็เป้นตันหา เป็นกิเลส
เป้นความชอบ/ไม่ชอบ อันเกิดจากกิเลสทั้งสิ้น

บางสังคม ความรังเกียจอันเกิดจากแรงกิเลสตันหานี้ แรงมากถึงขนาดต้องมีกฏหมายประหารชีวิตชายรักชาย
บางประเทศก็จำคุกหลายสิบปี
แต่บางประเทศนั้น อยู่กันอย่างเสรี มีความสุข
ซึ่งจะเห้นได้ว่า
ความชั่ว ความเลว ความน่ารังเกียจ ของชาวเกย์นั้น
บางแห่งตั้งค่าความชั่วความบาปไว้มาก ต้องทำลายทิ้งสถานเดียว
บางแห่งตั้งไว้น้อย บางแห่งไม่ตั้งค่าความชั่วไว้เลย
ผมจึงสรุปว่า ... ชาวเกย์ ไม่ควรเป้นทุกข์ในบาปที่คนอื่นสมมุติขึ้น

บาปที่แท้ บุญที่แท้ ต้องเป็นสากล
ไม่ยึดติดด้วยเพศ เป้นจริงตลอดเวลา ทุกสถานที่
เช่น การทำลายชีวิตเป้นบาปที่แท้ เป้นสากล

ชาวเกย์ทั้งหลาย จึงอย่าพึงหลงในบาปปลอม ที่เขาสมมุติให้
จงละความสมมุตินั้นออกไปจากใจเสีย
จงตื่นรู้ว่ามนุษย์ ทำดี ทำเลว ได้เสมอกันทุกคน
ขอให้ดำรงตนด้วยศีล และ ธรรม

ขอให้ไม่บ้า เป็นเกย์หรือทอมก็มีสิทธิได้นิพพานกันทุกคน

ท่านโชคดีมากแล้ว ที่เป็นเกย์ในศาสนาพุทธ

...............

ส่วนเรื่องการบวช
พระพุทธเจ้าแยกแยะบันเฑาะว์เอาไว้ละเอียดมาก ในพระวินัย
ถ้าศึกษาพระวินัยดีๆ จะพบว่า ท่านแยกไว้ 2 หลัก
1. คนสติยังดีอยู่ .... ท่านให้บวช เพราะยังสามารถละวางความยินดีในกิเลสได้

2. บ้าแล้ว ... ไม่ให้บวช ...
เพราะบวชไปก็หมดสิทธิบรรลุธรรมจึงป่วยการจะให้บวช เช่นกระเทยที่เกิดกำหนัดรุนแรงจนควบคุมตัวเองไม่ได้เมื่อเวลาข้างขึ้น หรือข้างแรมเป้นต้น
อันนี้เข้าขายควบคุมตัวเองไม่ได้ พระองค์ไม่ให้บวช

การบวชนั้นเรียกว่า สมณะเพศ หมายความว่า เพศที่ 3
เพศพิเศษ คือไม่ถือเพศว่าชาย หรือหญิง
เป็นอเพศที่มีชื่อเรียกว่า สมณะเพศ
ผู้บวชต้องละความยินดีในเพศกันทุกคน
เพราะฉะนั้น จะเคยยินดีเสพกามด้วยวิธีไหนก็ตาม
จึงไม่สำคัญ เท่ากับว่า ยังมีสติดีไหม สอนตัวเองได้ไหม

ซึ่งเป็นการตอกย้ำว่า ท่านโชคดีแค่ไหน ที่เป็นเกย์ในศาสนาพุทธ
ดีก็ที่จิต ชั่วก็ที่จิต ... วัดกันที่จิต
ทุกอย่างอยู่ที่ใจ

ใจที่รู้จักทุกข์อย่างถ่องแท้ ย่อมอยู่เหนือทุกข์ทั้งปวง

..............................

ส่วนกรรมอะไรทำให้เป้นเกย์นั้น อย่าไปคิดเลยครับ
พระพุทธเจ้าห้ามคิดว่าวิบากที่เราเป้นอยู่นี้ เกิดจากรรมอะไรในชาติก่อน
เพราะพ้นวิสัยจะรู้ได้ คิดมากจะบ้าได้
ครั้นจะถามใคร แล้วท่านจะเชื่อคำตอบเขาได้หรือ รู้ได้หรือว่าจริง

ผู้ที่จะระลึกชาติผู้อื่นได้ ก็มีแต่พระพุทธเจ้า และพระอรหันต์เท่านั้น
และต่อให้เราไปถามท่านเหล่านั้น ท่านก็ไม่บอกปุถุชนหรอก
เพราะยิ่งทำให้หลงในเรื่องชาติก่อน ทำให้โง่จากการมองความจริง

ตอบเมื่อ: 06 ส.ค. 2008, 2:55 pm

หันหลังให้ มันซะเข้มแข็ง
ทำ สมาธิ วันละ10นาที วันหนึ่งเรา
จะเห็นว่า อ้อ ...ชีวิต นี้ ตลกสิ้นดี
พบ จาก เลิก รา พราก
ถึง ตอนนั้นจะหัวเราะ ดังๆๆ ก้องฟ้าได้ ยิ้มเห็นฟัน

ตอบเมื่อ: 08 ส.ค. 2008, 6:07 pm

ผมก็เป็นเกย์ และเป็นลูกจีน คนเดียว ของครอบครัว
แต่ ญาติพี่น้อง พ่อแม่ ผมไม่เดือดร้อน ในการดำเนินชีวิตของผม
ทุกคนในครอบครัว บอกกับบุคคลภายนอกครอบครัวว่า "การที่เค้าเป็นเกย์ ใช่ว่าจะสนับสนุนให้เป็น แต่ไม่เคยเสียใจกับการเป็นเกย์ของ ลูกหลานคนนี้ เพราะ เค้าไม่เคยสร้างความเสียหาย ให้กับชื่อเสียงของวงศ์ตระกูล ไม่เสื่อมเสียในเรื่องของกามรมณ์ (สำส่อนทางเพศ) เค้าเป็นคนยที่ คนทั่วไปให้เชื่อใจ และความเคารพ ตั้งแต่อายุได้ 26 ปี (เพราะผมได้รับเลือกให้เป็น สจ. (ส.อบจ.) โดยได้รับคะแนนเสียที่บริสุทธิ์ อย่างท่วมท้น มากกว่าคู่แข่งที่ซื้อเสียงหลายเท่าตัว

คนในครอบครัว จะบอกกับคนทั่วไป เสมอ เมื่อถูกถาม ว่า ผมเป็นเกย์ ใช่ไหม???

เค้าจะตอบว่า "คนเราเลือกที่เกิด และเกิดแล้วจะเป็นอย่างไรไม่ได้ แต่คนเราเลือกที่จะเป็นคนดีได้ ฉะนั้น เค้าเป็นคนดีเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว"

เป็นกำลังใจให้ทุกๆ คนที่เป็น กระเทย เกย์ ทอม ดี้ และเพศอื่นๆ อีกมากมาย ขอให้ทุกคนเป็นคนดี และสร้างความดีให้มากๆ ความดีเหล่านั้น มันจะบดบัง การที่เราเป็น กระเทย เกย์ ทอม ดี้ และเพศอื่นๆ ให้เราได้โดยที่เราไม่ต้องอึดอัด กับสิ่งที่เราเป็น เพราะคนที่เห็นความดีของเรา จะถูกความดีทั้งหลายที่เราทำไว้ ทำให้คนเหล่านั้นมองข้ามการเป็น กระเทย เกย์ ทอม ดี้ และเพศอื่นๆ ของเราไปเสีย แต่กลับจะมาชื่นชมในความดีที่เราทำแทน

เป็นกำลังใจให้ครับ
ส.ศรัทธานาบุญ ๙๙