Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ขอน้อบน้อม แต่พระผู้มีพระภาคเจ้า.......... อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
จันทโชต
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 24 มี.ค.2005, 10:38 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

>หน้านี้ สำหรับผู้มีศรัทธาแต่มีเวลาไม่มากนัก ใช้ปฏิบัติตรงไหนก็ได้ ทำที่ไหน ๆ ก็ได้ >ได้ยินมาว่า การปฏิบัติกัมมัฏฐานได้บุญมากได้กุศลมาก อยากได้บุญกะเค้าบ้าง อยากปฏิบัติบ้าง ต้องการเสพความสุขที่เป็นนิรามิสสุขบ้าง...

เอาแบบปฏิบัติย่อๆ น๊า..

ถามว่า ทำไงดี ? มีวิธีไหนบ้าง ?

>...มีอยู่... มีอย่างเดียวเอง

>ที่พระพุทธเจ้าแนะนำภิกษุรูปหนึ่งว่า

>สุทุสทะสัง สุนิปุณัง ยัตถะกามะนิปาตินัง

>จิตตัง รักเขถะ จิตตัง คุตตัง สุขาวะหัง

ผู้มีปัญญา พึงรักษาจิต ที่เห็นได้แสนยาก ละเอียดยิ่งนัก

มักตกไปในอารมณ์ตามความใคร่ (เพราะ) จิตที่คุ้มครอง

ไว้ได้แล้ว เป็นเหตุนำสุขมาให้.



คุ้มครองยังไง ?

>อุปมาก่อนจะมองเห็นภาพ) เหมือนเมื่อตอนเราเลี้ยงลูก/หลาน กำลังซนกำลังคลาน กำลังหัดเดิน...ว่า ซนเหมือนลิง

เพราะเห็นว่า ลิง มันซนไม่อยุ่นิ่ง ฯลฯ เราจึงเปรียบเด็กที่ซนว่า ซนเหมือนลิง..

จิต (ใจ) ก็ฉันนั้นเหมือนกัน มันเหมือนๆ ลิง (ยิ่งกว่าลิง) ไม่อยุ่นิ่ง ตามธรรมชาติของมัน แว๊บไปแว็บมา รับรู้อารมณ์ทางตาบ้าง แว๊บมารับรู้อารมณ์ทางหูบ้าง ฯลฯ ไม่เฉย พอเขา(จิตใจ) เป็นอย่างนี้นาน ๆ ก็เคยชิน ครั้นจะให้เค้าอยุ่กะอารมณ์ใด

อารมณ์หนึ่งนาน ๆ มันไม่ยอมง่าย ๆ ฯลฯ ต้องดึงต้องฉุดกันนานหน่อย...



>บางทีฝึกลิงยังง่ายกว่า เพราะลิงมีตัวตนให้เห็น เป็นรูปธรรมเห็นได้ คุมได้ง่าย เอาโซ่ผูกคอมันสะ มันก็โดดไปโดดมาอยู่บนต้นไม้ แต่จะฝึกให้มันเชื่อง จนเราใช้ประโยชน์จากมันได้ต้องใช้ขันติธรรมวิริยะอุตสาหะมากหน่อย



>แต่การฝึกจิตใจ (ความคิด) มันมองไม่เห็นตัว ไม่มีรุปร่าง เป็นนามธรรม ครั้นจะเอาโซ่ไปผูก ก็ไม่รู้ว่าคอมันอยุ่ตรงไหน (จับขังคุกล่ามโซ่ มันยังออกมาเพ่นพ่านนอกคุกได้)

แต่ก็รู้สึกว่า มีอาการหงุดหงิด หงุ่นง่าน เร้าร้อน ร้อนรน ชอบกลอยู่ ฯลฯ



>ครั้นจะฝึกให้มันเชื่องก็ไม่รุ้ว่าจะทำยังไง ใช้เครื่องไม้เครื่องมืออะไรไปฝึกมัน คิดแล้วกลุ้ม...



...พุทธวิธิ มีอยู่ 40 วิธี ที่เรียกกันว่า กัมมัฏฐาน 40 ที่มีหลายวิธีก็เพื่อให้เลือกสรรเอาให้เหมาะแก่วาสนาบารมีของแต่ละคน



>ถึงจะมีมากมายหลายวิธีอย่างนั้น จุดประสงค์เดียวคือเพื่อฝึกให้จิตมันหยุดผล่าน หยุดฟุ้งซ่าน ดังที่พระพุทธเจ้า ตรัสแก่องคุลิมาลว่า เราน่ะหยุดแล้ว แต่ท่านซิยังไม่หยุด



เวลามีปัญหาอะไร หรือมีอะไรมากระทบแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว ท่านว่า ต้องหยุดผล่านสะก่อน เมื่อมันหยุดแล้ว มีทางออกคิดออกเอง



>คาถาหรือโซ่ ที่ใช้ผูกจิต มีอยู่ 2 คำเอง เรียกว่า บริกรรมภาวนา 2 คำเองไม่ยาก แต่ต้องย้ำบ่อยๆ

เช่นเวลามันคิดฟุ่งซ่าน หงุ่นหง่าน หงุดหงิดไม่ได้ดังใจต้องการ ฯลฯ ไม่อยู่กะงานที่ทำ หรือมันเร่าร้อนทุรนทุราย ฯลฯ

>กระดุกคอมันด้วยโซ่ คือบริกรรมว่า คิดหนอ ๆ ๆ ท่อง ย้ำ ๆ แค่เนี้ย คิดหนอ ๆ แค่นี้เอง

เอาความรู้สึกตัวไว้ที่ความคิดนั้น คิดหนอๆ กลุ้มหนอ ๆ ฯลฯ



>มันทนอยู่ไม่ได้หรอก เพราะในการบริกรรมว่าคิดหนอ ๆ มันมีสติสัมปชัญญะ ฯลฯ (สติเป็นเครื่องกั้นกระแส อกุศลไว้ได้ รู้ตามตำราแล้วต้องเอามาใช้ให้ได้)



>แต่เดี๋ยวอาจมาอีกน่ะ ถ้าความทุกข์นั้นอาการหนัก เอาแบบเดิมอีก...คิดหนอๆๆ อีก

>มีอยู่เท่านี้เอง ที่พระพุทธเจ้าบอกให้อุกกัณฐิตภิกษุรักษาคือ รักษาจิต...ฝึกจิต (จิตตัง ทันตัง สุขาวหัง)

***เหตุของความสุขและความทุกข์ทั้งหมดอยู่ตรงนี้.



>ที่..หายไปดับไปมันมีเหตุปัจจัย...ดังนี้

ภาวนาว่า คิดหนอ ๆ เจริญคุณธรรม คือ ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา แล้ว

เท่ากับว่า เราได้ตัดวัฏฏะวงจรของความคิดแล้ว (ลองวาดรูปวงกลมดู) วงกลมๆ

เปรียบเหมือนความคิดขณะหนึ่ง ๆ (สมมุติว่าเรา..ไม่สะบายใจเรื่องสามี...เรื่องแฟน...วิตกเรื่องการเรียน รู้ว่ามันไม่ดีแต่ก็ห้ามไม่ได้)



เมื่อ...ภาวนาว่า คิดหนอ ๆ คุณธรรม 5 ดังกล่าว เกิดขึ้นทำหน้าที่ของเค้าแล้วดังนี้...

>>รู้ตัวว่ากำลังคิด สติ (สติสัมปชัญญะ) เกิดแล้ว ภาวนาว่า คิดๆ หนอ วิริยะเกิดแล้ว (วิริยะคือเพียรภาวนา) คิดหนอๆ ซ้ำๆ ย้ำๆ สมาธิ เกิดแล้ว เมื่อสมาธิเกิดปัญญาก็เกิดตามมา (ภาวนามยปัญญา ทำหน้าที่ประหารอกุศลธรรม (ความคิด) )

องค์ธรรม สำคัญ คือ ศรัทธา ถ้าเราไม่เชื่อก็ไม่ภาวนา ไม่ลอง ไม่พิสูจน์ อะไรทั้งนั้น ฯลฯ

องค์ธรรม ต่างๆ ก็ไม่เกิด...........ศรัทธาต้องมี ต้องมาก่อน



1 ศรัทธา = ความเชื่อ (พิสูจน์ก่อนจึงค่อยเชื่อ)

2 วิริยะ = ความเพียรขยัน (เพียรละอกุศลที่เกิดแล้ว คิดหนอๆ)

3 สติ = นึกได้.... (สติ เกิดคุ่กับสัมปชัญญะ=รู้ตัว=นึกได้รู้ตัว รู้สึกตัวเร็ว บริกรรมเร็วตัดได้เร็ว กันอกุศลใหม่ที่ยังไม่เกิดไม่ให้เกิดขึ้น)

4 สมาธิ = ตั้งใจมั่น (บริกรรมว่า คิดหนอๆย้ำๆ )

5 ปัญญา = รู้ทั่ว (หน้าที่ของปัญญา คือ ฆ่ากิเลสเครื่องหมองใจ (เรื่องที่กำลังคิดนั่น) )

คิดหนอๆ กุศลธรรม ดังกล่าว เกิดขึ้นทำหน้าที่ตัดกิเลสวัฏ ตัดวงจรของความคิดนั้นๆ ได้

เท่านี้ก็พอมองเห็นทางดับทุกข์แล้วทำบ่อยๆ



..............................................................................



.....ทำได้ทุกที่..เช่น

กายบริหาร รำมวยจีน จ๊อกกิ้ง เล่นกีฬา ได้หมด ฯลฯ

>สิ่งที่กำลังทำอยู่นั่นใช้เป็นอารมณ์ได้หมดแหละ

>วิธี คือผูกจิต ผูกใจ ผูกความคิด ผูกความรู้สึกตัวไว้ กับสิ่งที่เรากำลังทำนั้น ๆ ไม่ให้ออกไปจากสิ่งที่เราทำ คือ ห้ามความคิดไม่ให้ออกไปนอกงานที่เรากำลังทำ ฯลฯ

>กำลังจ๊อกกิ้ง ก็ผูกความรู้สึกไว้ กับร่างกายที่กำลังเคลื่อนไหว ผูกไว้กับเท้า (ขา) ที่ก้าววิ่งไป เป็นต้น.....อย่างนี้ไม่ต้องใช้บริกรรมอะไรก็ได้ เพียงแต่ดูการเคลื่อนไหว



หมายเหตุ หากความคิดมันแว๊บออกไป ต้องทุบมัน (ความคิด) ด้วยว่า คิดหนอๆ



เอวัง ก็มีด้วยประการะฉะนี้แล

...........................................









 
จันทโชต
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 28 มี.ค.2005, 5:17 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ดูก่อนวิสาขา 50 ปี ซึ่งเป็นของมนุษย์ เป็นคืนหนึ่งและวันหนึ่งของเทพดาชั้นจาตุมหาราช.
 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง