Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 การเพ่งโทษผู้อื่น ไม่ใช่บัณฑิต อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 08 ก.ย. 2008, 9:40 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

บันทึก - คุณขันธ์ทำละเมิดผมเป็นครั้งที่ 2
คือมาวุ่นวานต่อล้อต่อเถียงกับความเห็นของผม

ขันธ์ พิมพ์ว่า:
อ้างอิงจาก:
คนที่มีปัญญา ...ขี้มีคุณประโยชน์...มากจนสามารถทำให้เข้านิพพาน


นี่แสดงว่า ไม่เข้าใจ ในการวิปัสสนา พระพุทธองค์ไม่เคยสอนนะครับว่าให้พิจารณาขี้แล้วจะ เข้าถึงธรรมจนถึงนิพพาน นี่มันคิดเองเออเอง

สมถะ ก็มีแต่ อสุภะกรรมฐาน และ อาหาเรปฏิกูลสัญญา อันลงเพียงแต่สมถะ

ส่วนพระอรหันต์ที่กล่าวอ้างมา ซึ่งผมก็ยังไม่ทราบว่าจริงหรือไม่ หากว่า ถ้าจริงแล้ว การพิจารณาตัดกระแสโลกเข้าสู่นิพพานนั้น ท่านต้องลงที่ใจท่าน คือ พิจารณา ความรังเกียจเดียดฉัน ในใจ ไม่ใช่พิจารณาขี้

และอีกประการคือ ประเด็น ที่คุณ วลัยพรพูดมา พูดจาเรื่อยเปื่อย จากเรื่องเพ่งโทษคนอื่น กลายมาเป็นเล่าเรื่องแมว โยงใยมาเป็นเรื่องขี้เรื่องตด เล่าไปว่า ลองไปจิ้มขี้ดมดู

ขอโทษนะครับ นี่ผมเตือนหรอกว่า จิตใจแบบนี้ ไม่ปกติ สงสารสัตว์ แต่เอาความเดือดร้อนมาเข้าตัว ไปไกลจนถึงจิ้มขี้ แล้วมันก็ไม่ได้ นำไปสู่การปฏิบัตอย่างจริงจัง
จนถึงกับ เข้าถึงนิพพานตามที่ คามึนกล่าวมา ได้

ทีนี้ หากจะเล่าเป็นสัพเพเหระ เล่าไปเรื่อยๆ เล่าแบบไม่ได้คิดอะไร ก็พอฟังได้อยู่ แต่อย่างไร ก็เรียกได้ว่า ขาดสติสตังค์ เพราะความที่เล่ามานั้น ไม่ประติดประต่อ จับนั่นโยงนี่

จะเอาเป็นธรรม ไม่ได้

ส่วนที่ผมพูดไป คำว่า ทุเรส นี่มันก็ทุเรสจริงๆ เอาเรื่องจิ้มขี้มาดม แล้วจะให้ผมบอกว่า ดีแล้ว อนุโมทนาด้วยกับการจิ้มขี้ นี่ผมทำไม่ได้หรอกครับ ผมตรงไปตรงมา ถ้าจะพูดกันจริงๆ ต้องบอกว่า ผมมีสัมมาวาจาเสียด้วยที่ผมพูดตรงความรู้สึกที่สุด จิ้มขี้แล้วจะมาสรรเสริญ แบบนี้เป็นไปไม่ได้

ใครไม่เชื่อว่าผมพูดตรง ลองนึกถึงอาการจิ้มขี้ แล้วเอามาดมสิ มันทุเรสไหม แล้วจะรู้เองว่าผมพูดตรงหรืออ้อม
 

_________________
ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
natdanai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 18 เม.ย. 2008
ตอบ: 387
ที่อยู่ (จังหวัด): bangkok

ตอบตอบเมื่อ: 08 ก.ย. 2008, 10:01 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขันธ์ พิมพ์ว่า:
คุณ natdanai คุณบอกว่า เป็นคำถามคุณ ก็ตอบสิ
ไม่ใช่ ทำเป็นพูดเหน็บแนม นี่คุณ มีปัญญาหรือไม่ คนที่เหน็บแนมเป็นอย่างเดียว เป็นพวกชอบ เพ่งโทษผู้อื่น
แต่คนที่ เอามาพูดด้วยเหตุด้วยผล ไม่ใช่เพ่งโทษผู้อื่น

คุณรู้จักแยกมันหน่อย เหน็บแนม คือ ไม่มีเหตุผล เป็นพวกชอบเพ่งโทษผู้อื่น ได้อกุศล

แต่คน เห็นเหตุผล แล้วบอกผู้อื่น ไม่ใช่เพ่งโทษ และได้กุศล

ก็แล้วแต่ว่าคุณจะเลือกอย่างไร


อยู่ที่เจตนาครับ กระผมรู้เจตนาตัวเองดีครับ..... ยิ้มเห็นฟัน ยิ้มเห็นฟัน

กระผมมิได้เหน็บแนมท่าน แต่จิตสังขารของท่านเองที่เป็นผู้เหน็บแนม... สาธุ สาธุ
 

_________________
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailMSN Messenger
ขันธ์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520

ตอบตอบเมื่อ: 08 ก.ย. 2008, 10:41 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อ้างอิงจาก:
อยู่ที่เจตนาครับ กระผมรู้เจตนาตัวเองดีครับ..... ยิ้มเห็นฟัน ยิ้มเห็นฟัน

กระผมมิได้เหน็บแนมท่าน แต่จิตสังขารของท่านเองที่เป็นผู้เหน็บแนม..


คุณ natdanai คุณ เอาตัวหนังสือ ตัวแดงๆ โต แล้วก็เอาข้อความผมมาแปะ
นี่คุณ ยังจะบอกว่า คุณไม่เหน็บแนมอีกหรือ

คุณ นี่กล้าพูดหน้าด้านๆ นะ ผมถามหน่อย ถ้าคุณพูดอยู่ แล้ว ผมเอาตัวหนังสือแดงๆ โตๆ มาแปะ พร้อมกับคัดลอกข้อความคุณมาด้วย
นี่ผม เจตนาสุจริต ไม่ได้เหน็บแนมหรอกหรือ

แถมยังจะมาบอกว่า จิตสังขารคนอื่นปรุงเอง
คุณเข้าใจคำว่า การปรุงผิดไป การปรุงนี้คือ ค้างอยู่ เคืองอยู่ ด้วยเหตุอะไรก็ไม่ทราบนะ ทั้งๆที่ผมก็เคย พูดธรรม ให้ธรรมทานกับคุณไปก็มาก
คุณก็แว้งกัด แต่หากการรับรู้ด้วยเหตุผล นี่มันก็ชัดๆ จะต้องไปปรุงทำไม


คุณแน่ใจหรือว่าคุณเป็นคนดี เจตนาดี ผมว่า การที่คุณเคลื่อนไหว แบบไม่มีธรรม ให้กับสังคม คุณอย่าทำดีกว่า แต่ไหนแต่ไรมาคุณก็ไม่เคยมีธรรมให้กับสังคม มีแต่ ตามน้ำหรือไม่ก็ เหน็บแนม คุณไปพิจารณาดู เล่นกระทู้เอาแต่สนุก ทุเรศจริงๆ

คามึนยังดีเสียกว่าที่ ยังมีธรรมมาให้คนอื่นบ้าง นั้นแหละ เขามีวาสนา แม้ตัณหาจะมากไปหน่อย
 

_________________
เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 08 ก.ย. 2008, 12:21 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ครั้งที่ 3 - มีข้อความใหม่ ขันธ์ - ตอบเมื่อ: 08 ก.ย. 2008, 10:41 am

- โอกาส นำไปสู่ความขัดแย้งจริงๆ
 

_________________
ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ขันธ์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520

ตอบตอบเมื่อ: 08 ก.ย. 2008, 12:26 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณ คามิน ถ้าคุณ ไม่ต้องการให้มีความขัดแย้ง กรุณากลับบ้านไปเล่นหม้อข้าวหม้อแกง คุณ ตั้งข้อสังเกตุ เรื่อยเปื่อย อ้างว่า ครั้งที่ 1 2 3 นี่แหละคือการที่คุณ กำลังก่อเรื่องราวอย่างแท้จริง เพราะผมก็พูดไปแล้วว่า ผมพูดตามธรรม ถ้าคุณจะไม่ให้เอ่ยชื่อ คุณ ไม่ให้ตอบกระทู้คุณ กรุณากลับบ้านไปเล่นคนเดียว

สรุปว่า คุณกำลังสร้างเรื่อง เพราะว่าผมพูดไปตามสิ่งที่เห็น แต่คุณกำลังพูดหาเรื่องเอง คือ เอาใจมาบ้าบอสาลวนอยู่กับการคำนึงว่า ผมจะพาดพิงหรือไม่ คุณอย่าเป็นคนเรื่องมาก อ่านแล้วถ้ามันมีเหตุผลก็ควรพิจารณา
แต่ถ้ามันไม่มีเหตุผล ก็แย้งมา
จะไปสุดโต่งห้ามคนนั้นคนนี้ พูด นี่ท่าทางจะเพี้ยนแล้วกระมัง
 

_________________
เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ขันธ์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520

ตอบตอบเมื่อ: 08 ก.ย. 2008, 12:34 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ต้นเหตุมันคือ คนเรื่องมาก พูดถึงก็ไม่ได้ ตอบกระทู้มันก็ไม่ได้
อ้างว่า พาดพิง อย่างนั้นอย่างนี้ เรียกว่า คนเรื่องมาก สังคมไทยมันมีพวกเรื่องมากแบบนี้อยู่ ประเทศมันเลยจะแย่

ยกตัวอย่างเช่น นายกสมัคร โดนฟ้องเรื่องชิมไปบ่นไป นี่มันเรื่องมากขนาดว่า เขาพูดหน่อยหนึ่ง มันก็หาว่าผิด มันต้องฟ้อง นี่แหละสันดานมาร

ตัวเองกระทำอะไรไม่ถูกต้อง สร้างเรื่องราว ต่างๆ นาๆ คนที่เขาเห็นไม่ถูกเขาก็มาชี้แจงให้เห็น แล้วแทนที่จะพิจารณา คราวนี้จ้องว่า มันจะพลาดเมื่อไร รอจังหวะ พอเขาพูดนิดหน่อยมันก็หาว่า ผิด
จริงไหม คามึน เรื่องจะมาตำหนิผม เชิญเลย ข้อธรรมที่ผมพูดมันผิดอะไรแบบนี้ ผมเชิญ แล้วผมก็ยินดีจะแก้ต่าง

แต่หากมาบอกว่า ผมละเมิด เพราะไปตอบในกระทู้ที่คุณตั้ง หรือ ผมเอ่ยชื่อคุณ แบบนี้มันเป็นเผด็จการ และคนที่ไม่ยอมรับฟังความเห็นคนอื่น
 

_________________
เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 08 ก.ย. 2008, 1:04 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ครั้งที่ 6 + 7
 

_________________
ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
walaiporn
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 02 ก.ค. 2006
ตอบ: 253
ที่อยู่ (จังหวัด): สมุทรปราการ

ตอบตอบเมื่อ: 08 ก.ย. 2008, 6:46 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

โซดาขัน

กะแล้วไม่มีผิดว่า " โซดาขัน " จะต้องพูด เพราะมานะกิเลสมันท่วมท้น มิจฉาทิฏฐิมันเลยเพียบ โดนกิเลสมันหลอกยังไม่รู้ตัวอีก บอกวิธีการไปแล้ว แทนที่จะไปเจริญสติ สัมปชัญญะให้มากขึ้น เปล่าเลย ยังมาทำซ่าอยู่เรื่อยไป

ดีแต่ทำตัวซ่าไปวันๆ น้ำลายแตกฟองฟ้อดๆ โทษคนอื่นน่ะขุนเขา โทษตัวเองกลับมองไม่เห็น เอ้า ... ตั้งใจอ่านข้อความต่อไปนี้ให้ดีๆนะ " โซดาขัน "

รู้จักใช้ประโยชน์จากขี้ไหม " โซดาขัน " หรือเวลาขี้ เยี่ยว ก็แค่ปล่อยมันออกมาโดยหายใจทิ้งไปวันๆ แบบนั้นใช่ไหม " โซดาขัน "

ฝึกตนได้ ย่อมบอกผู้อื่นได้ นี่กำลังจะบอกวิธีการให้นะ " โซดาขัน " ว่าให้รู้จักวิธีใช้ขี้ให้เป็นประโยชน์ ทำมาแล้ว ทุกวันนี้ก็ยังทำอยู่

เวลากินอาหาร เคยมองว่ามันเป็นขี้มั่งไหม ขี้ที่มีความสวยงามยังไม่ได้แปลงรูปบดบังอยู่ หัดพิจรณานะ จะได้มีสติเวลากิน จะได้มีโลภะลดน้อยลง

ที่บ้านมีส้วมยองๆ หรือโถนั่งล่ะ ถ้าส้วมยองๆก็ทำความสะอาดก่อนที่จะนั่งขี้นะ อย่านั่งยองๆขี้ นั่งยองๆขี้จะไม่ได้อะไร จิตใจมันจะเลื่อนลอยไหลไปเรื่อย นั่งลงไปเลย นั่งลงไปแล้ว นั่งหลับตานะ อย่าลืมตา แล้วจะบอกต่อไปว่าทำไมต้องให้หลับตา หายใจยาวๆ อย่าหายใจสั้น จะได้ไม่เป็นคนเจ้าโทสะแบบปัจจุบัน เวลาขี้ออกมาก็ให้รู้ว่าขี้ออกมา ไม่ต้องไปเบ่งมัน เดี๋ยวจะเป็นริดสีดวงจะเจ็บอีกนาน เวลาเยี่ยวก็ให้รู้ว่าเยี่ยว ให้มีสติรู้ อย่าส่งจิตออกนอก พอว่างจากขี้หรือเยี่ยว ให้เอาจิตดูอาการของกาย หายใจเข้า ท้องมันจะพอง หายใจออก ท้องจะยุบ ตามธรรมดาของร่างกาย เอาจิตจดจ่อไว้ที่ท้องพองยุบ ไม่ต้องไปภาวนานะ พอมันขี้อีก เยี่ยวอีก ก็ให้ดูตรงขี้ เยี่ยว เกิดอะไรชัดเจนให้ดูตรงนั้นนะ " โซดาขัน " ไม่ใช่มาเพลินกับการจับพองยุบ ตรงนี้นะ จะทำให้มีสติ สัมปชัญญะ สมาธิก็เกิด วิปัสสนา ( ดูตามความเป็นจริง ) ก็ทำได้ โอภาสเกิด ก็ให้รู้ว่าโอภาสเกิด อย่าไปติดโอภาสนะ " โซดาขัน " มันสว่างพรึ่บๆอยู่อย่างนั้น ดีไหม รู้จักเอาขี้มาใช้ให้เป็นประโยชน์ ได้ทั้งสมาธิ ได้ทั้งวิปัสสนา ได้ทั้งสติ ไม่ใช่เอามาคิดว่ามันทุเรศ ไม่เคยทำใช่ไหมล่ะ ไม่งั้นไม่มาพูดแบบนี้หรอก " โซดาขัน " อย่าเอาแต่ความซ่า เที่ยวมาพูดเพื่อสนองกิเลสตัณหาของตัวเองอยู่เลย ดีแต่ซ่าไปวันๆ หายใจทิ้งไปวันๆ แม้แต่เวลาขี้ เยี่ยว ยังไม่รู้จักหาประโยชน์ ถ้าทำได้นะ จะรู้เลยว่า ขี้เขา ขี้เรา มันก็ไม่แตกต่างกันหรอก

" โซดาขัน " ชีวิตนี้มันช่างสั้นนัก จะตายวันตายพรุ่ง เวลานอนนะ " โซดาขัน " อย่าจ้องเอาแต่นอนยาว อีกไม่นานก็ได้นอนยาวอยู่แล้ว รู้จักใช้เวลาที่เหลือให้เกิดประโยชน์ นั่งสิ กลางคืนน่ะนั่งไหวไหม ไม่ใช่แค่นั่งสมาธิ เจริญสติไปด้วย ทำวิปัสสนาไปด้วย อ้อ .. คำว่า " วิปัสสนา " หมายถึงดูความเป็นจริงนะ " โซดาขัน " ไม่ใช่วิปัสสนาญาณ เดี๋ยวจะมาถกเรื่องภาษาสมมติบัญญัติอีก ยังทำงานอยู่หรือเปล่าล่ะ " โซดาขัน " ถ้าไม่ได้ทำงาน ทำไปเลย ทำได้ทั้งวันทั้งคืน อย่าไปนอนยาว รู้จักใช้เวลานอนให้เกิดประโยชน์ อย่าเอาแต่มาฟุ้งน้ำลายแตกฟอง หายใจทิ้งไปวันๆ วันนึงทำได้ไหม 24 ช.ม. น่ะ " โซดาขัน " อ้อ .. บางที 24 ช.ม. อาจจะมากไปสำหรับ " โซดาขัน " เอาสัก 10 ช.ม. ก็แล้วกัน

ตราบใด ที่ยังดมขี้คนอื่นไม่ได้ อย่ามา " ซ่า " ขี้ มันก็แค่ รูป เพราะสังขารมันทำงาน มันก็ปรุงไปเรื่อย หากมีสติ สัมปชัญญะมากพอ ต่อให้ดมขี้ แม้ว่ากลิ่นที่คนอื่นบอกว่าเหม็น ผู้ที่ฝึกแล้ว ย่อมบอกว่า มันก็สักแต่ว่ากลิ่น มันไม่มีความแตกต่างกันเลย เพราะไปปรุงมัน ก็เลยกล่าวว่า อันนี้เหม็น อันนี้หอม

อ้อ ... แล้วที่กล่าวว่า " เกลียดคุณน่ะ " หัดใช้สติให้ดีๆก่อนนะ ประโยคไหนที่บอกว่า " เกลียดคุณ " ตัวคุณเองน่ะแหละ ตามใจกิเลสตัวเอง ไม่รู้จักตั้งสติ เที่ยวพูดไปต่างๆนาๆ

อ้างอิง

ก็อยากจะบอกว่า คุณ tanaphomcinta เขาพาดพิงครับ ผมสนับสนุน แต่บังเอิญว่า คุณเกลียดผมเอง คุณก็ พูดไปต่างๆ นาๆ


อย่าลืมที่บอกล่ะ ให้รู้จักใช้ ขี้ ให้เป็นประโยชน์
 

_________________
ไม่มีคำว่าทำไม่ได้ หากเราพยายามทำและตั้งใจทำอย่างต่อเนื่อง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
walaiporn
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 02 ก.ค. 2006
ตอบ: 253
ที่อยู่ (จังหวัด): สมุทรปราการ

ตอบตอบเมื่อ: 08 ก.ย. 2008, 6:49 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

" โซดาขัน " อ่านซะ จะได้ไม่มามั่วเอาอีก


tanaphomcinta พิมพ์ว่า:
อ้าวๆๆๆ ไหงเป็นหงั้นไปละจะ เรามาหาความรู้หาเหตุและผลมาแล้งกันไม่ใช้หรือ ทำไมจะต้องจริงจังกันขนาดนั้นนะมันไม่ใช้วิสัยของคนที่มีการศึกษานะจะสิบอกให้ ฮิฮิฮิ
ไม่มีอะไรมากหรอกจ้าทุกคนมีกันทั้งนั้แหละ ขี้ นะ ขี้เล็บ ขี้ฟัน ขี้หู ขี้ตา
ขี้ไคล ขี้เต่า สาระพัดขี้มีอยู่ในตัวคนนะ ยิ่งในท้องยิ่งมากเลย สุดท้ายยังมีขี้เหนียวอีกเด้อสิบอกให้ ฮิฮิฮิฮิ

ปล. อย่าเน้ออย่าเอาเราไปอ้างด้วยเน้อ เราไม่ได้พูดให้เขาเสียหายเด้อ
เพียงแค่หยิกเล่นเพื่อความนุกเท่านั้นนะ ไม่ได้ว่าถึงทุเรสทุแรดอะไรเด้อที่เข้ามาเล่นนี้ก็เพื่อหาความรู้ให้ธรรมเป็นทานเท่านั้นเด้อ อย่าเอาไปเกี่ยวเด้อ สิบอกให้ อยากรู้ว่าใผเป็นใผก็ไปดูเด้อไม่ปิดบังหรอกเพราะไม่มีประโยชน์อันใด www.supasok.com เด้อสิบอกให้ ฮิฮิฮิฮิ
จะคุยกันส่วนตัวก็ tanaphom.supashok99@gmail.com ว่ากันด้วยเหตุผลจึงค่อยส่งไปนะถ้าไม่มีเหตุผลไม่ประโยชน์ไม่ตอบด้วยนะสิบอกให้ ฮิฮิฮิ



อ่านซะ อย่าไปเที่ยวโบ้ยให้คนอื่นเขา เขาไม่ได้ทำแบบที่คุณคิด เฮ่อ ... คนอะไรดีแต่น้ำลายแตกฟองไปวันๆ
 

_________________
ไม่มีคำว่าทำไม่ได้ หากเราพยายามทำและตั้งใจทำอย่างต่อเนื่อง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
tanaphomcinta
บัวใต้น้ำ
บัวใต้น้ำ


เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 127
ที่อยู่ (จังหวัด): 138 หมู่ที่ 1 ต.โนนคูณ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ 36180

ตอบตอบเมื่อ: 08 ก.ย. 2008, 7:31 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อ้างอิง walaiporn -พิมพ์ว่า" โซดาขัน " อ่านซะ จะได้ไม่มามั่วเอาอีก

เงียบคะรับท่าน ฮืฮิฮิฮิ
 

_________________
ทำบุญตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาทำบุญอุทิศหา รักษาศีลตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาเคาะโลงลุกขึ่นมารักษาศีล
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัวตำแหน่ง AIMYahoo MessengerMSN Messenger
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 08 ก.ย. 2008, 9:00 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ยิ้มเห็นฟัน ยิ้มเห็นฟัน ยิ้มเห็นฟัน สู้ สู้ สู้ สู้ สู้ สู้
 

_________________
ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ขันธ์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520

ตอบตอบเมื่อ: 09 ก.ย. 2008, 8:54 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อ้างอิงจาก:
กะแล้วไม่มีผิดว่า " โซดาขัน " จะต้องพูด เพราะมานะกิเลสมันท่วมท้น มิจฉาทิฏฐิมันเลยเพียบ โดนกิเลสมันหลอกยังไม่รู้ตัวอีก บอกวิธีการไปแล้ว แทนที่จะไปเจริญสติ สัมปชัญญะให้มากขึ้น เปล่าเลย ยังมาทำซ่าอยู่เรื่อยไป

ดีแต่ทำตัวซ่าไปวันๆ น้ำลายแตกฟองฟ้อดๆทษคนอื่นน่ะขุนเขา โทษตัวเองกลับมองไม่เห็น เอ้า ... ตั้งใจอ่านข้อความต่อไปนี้ให้ดีๆนะ " โซดาขัน "

รู้จักใช้ประโยชน์จากขี้ไหม " โซดาขัน " หรือเวลาขี้ เยี่ยว ก็แค่ปล่อยมันออกมาโดยหายใจทิ้งไปวันๆ แบบนั้นใช่ไหม " โซดาขัน "


อาการของคนสติแตกครับ ด่ากราด ตัวสีแดงผมเน้นให้

คนเราถ้าไม่โมโหโกรธา ก็ต้องพิจารณาสิ่งที่คนอื่นพูด ว่าจิ้มขี้มาดมนั้นมันทุเรส และไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติธรรม มันเป็นการอุตริ แต่นี่ ไม่พอใจ โมโห ด่ากราดอย่างสติแตก แล้วนึกว่า ตัวเองฉลาด

ส่วนกองเชียร์ ก็เข้าข่าย รักเพราะเกลียด คือ รักกัน เห็นชอบกันเพราะเกลียดคนๆ เดียวกัน โดยไม่ลืมหูลืมตา นี่แหละเขาเรียกว่า อวิชชามันปิด มันไม่ตื่น มันตามเรื่องตามราว อย่าโง่เขลาที่สุด
 

_________________
เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
mes
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 09 มิ.ย. 2007
ตอบ: 643
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 09 ก.ย. 2008, 10:13 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขันธ์ พิมพ์ว่า:
จิ้มขี้มาดมนั้นมันทุเรส



ไหนละขี้ เห็นแต่กองธาตุล้วนๆ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
ขันธ์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520

ตอบตอบเมื่อ: 09 ก.ย. 2008, 11:03 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณ mes คุณอย่าเพิ่งมาปรมัต ตอนนี้ ประเด็นมันอยู่ที่คนออกมาแสดง ธรรม อันไม่ใช่กาละ

คุณไปยกมา ว่ากรรมฐานกองไหนเขาให้เอาขี้มาจิ้มดม
 

_________________
เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 09 ก.ย. 2008, 11:21 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

mes พิมพ์ว่า:

ไหนละขี้ เห็นแต่กองธาตุล้วนๆ


ยิ้มเห็นฟัน ยิ้มเห็นฟัน ยิ้มเห็นฟัน ยิ้มเห็นฟัน สาธุ
 

_________________
ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
กรัชกาย
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348

ตอบตอบเมื่อ: 09 ก.ย. 2008, 11:24 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อ่านกระทู้นี้ กรัชกายอายุยืนอีกหลายปี อดหัวเราะไม่ได้ ผ่อนคลายดี

จิงๆ ยิ้ม ยิ้มเห็นฟัน

ถ้อยทีถ้อยอาศัยหยอกเอินกัน เหมือนหนุ่มสาวหยิกแกมหยอกกันไปกัน

มา ซึ้ง อายหน้าแดง
 

_________________
สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
tanaphomcinta
บัวใต้น้ำ
บัวใต้น้ำ


เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 127
ที่อยู่ (จังหวัด): 138 หมู่ที่ 1 ต.โนนคูณ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ 36180

ตอบตอบเมื่อ: 09 ก.ย. 2008, 11:56 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ถอยดีกว่า ถอย ถอย ถอย ดีกว่า มั่ง ไม่มีประโยชน์เลย แฮะแฮะแฮะ
 

_________________
ทำบุญตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาทำบุญอุทิศหา รักษาศีลตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาเคาะโลงลุกขึ่นมารักษาศีล
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัวตำแหน่ง AIMYahoo MessengerMSN Messenger
ขันธ์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520

ตอบตอบเมื่อ: 09 ก.ย. 2008, 12:03 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณ tanaphomcinta คุณ ควรพิจารณาสิ่งที่ควรถอยก็ต้องถอย สิ่งที่ไม่ควรถอย ก็ไม่ต้องถอย การโต้แย้งกัน มันก่อให้เกิด ทิฎฐิที่ตรง หากมีคนคุมสติได้ มันมีประโยชน์ อยู่แล้วครับ
 

_________________
เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
mes
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 09 มิ.ย. 2007
ตอบ: 643
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 09 ก.ย. 2008, 1:46 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อ้างอิงจาก:
คุณ mes คุณอย่าเพิ่งมาปรมัต ตอนนี้ ประเด็นมันอยู่ที่คนออกมาแสดง ธรรม อันไม่ใช่กาละ

คุณไปยกมา ว่ากรรมฐานกองไหนเขาให้เอาขี้มาจิ้มดม


เรียนท่านขันธ์

พิจารณาแยกธาตุครับ

(แต่รู้ลึกจะแยกผิดเวลาแล้วละครับ)
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
ขันธ์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520

ตอบตอบเมื่อ: 09 ก.ย. 2008, 3:31 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณ mes ผมแยก มานานแล้วแหละครับ
แต่ว่า จิ้มขี้นี่ผมไม่เคย ถึงเคยแต่ก็ไม่ได้ เอามาดมแล้วพิจารณาครับ
 

_________________
เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง