ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
guest
บัวบาน

เข้าร่วม: 09 ก.ค. 2008
ตอบ: 254
|
ตอบเมื่อ:
18 ส.ค. 2008, 9:44 pm |
  |
“ธรรมอันใดเกิดจากเหตุ เมื่อเหตุเกิด ผลย่อมเกิด เมื่อเหตุดับ ผลย่อมดับ”
ต้องพิจารณาแล้วครับว่าอะไรคือเหตุ
ถ้าไม่ดับที่เหตุต้องมีผลอยู่ร่ำไป
โปรดพิจารณา |
|
|
|
  |
 |
mes
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 09 มิ.ย. 2007
ตอบ: 643
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
18 ส.ค. 2008, 9:51 pm |
  |
สงคมต้องมีความยุติธรรม
ที่วุ่นวายเพราะเรายอมรับนอกกติกา
คุณคามินธรรมไม่ได้แสดงความใจร้อน วู่วามหรอก
แต่นี่คือเสรีภาพในการแสดงความคิด
ถ้าเราไม่กล้ายืนอยู่บนความถูกต้อง
ก็อย่าพึงหมายว่าจะเป็นผู้ประพฤติธรรมได้เลย
ผมกลับเห็นด้วยส่วนหนึ่งว่า
ถูกแล้วที่เด็กกล้าออกมาต่อสู้เพื่อความถูกต้อง
ไม่ใช้เอาแต่ตัวรอด
ผมขอให้กำลังใจคุณคามินธรรมครับ |
|
|
|
   |
 |
guest
บัวบาน

เข้าร่วม: 09 ก.ค. 2008
ตอบ: 254
|
ตอบเมื่อ:
18 ส.ค. 2008, 10:22 pm |
  |
ทุกท่านจะปล่อยให้สังคมในเวปของเรา
เป็นสังคมที่มีแต่การด่ากันไปด่ากันมาเหรอครับ
ใครเป็นผู้นำวัฒนธรรมการด่ากันมาในเวปแห่งนี้ครับ
ท่านผู้มีใจเป็นธรรมโปรดพิจารณาครับ
จะยินยอมให้เวปของเรามีวัฒนธรรมแห่งการด่ากันหรือครับ
เมื่อคุณขันธ์แกเป็นคนแบบนี้ และในเวปพลังจิตแกก็เป็นแบบนี้
คิดว่าคุณขันธ์แกจะเปลี่ยนตัวเองได้หรือครับ |
|
|
|
  |
 |
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
18 ส.ค. 2008, 10:28 pm |
  |
ถูกต้อง!!! ถูกต้อง!!! ถูกต้อง!!! ถูกต้อง!!! ถูกต้อง!!!
ชันธ์เป็นเหตุแห่งทุกข์
ชันธ์เป็นเหตุแห่งทุกข์
ชันธ์เป็นเหตุแห่งทุกข์
ชันธ์เป็นเหตุแห่งทุกข์
ขันธ์ อยากโก่งขาเยี่ยว ทุกเสาที่พบ
ขันธ ์อยากโก่งขาเยี่ยว ทุกเสาที่พบ
ขันธ์ อยากโก่งขาเยี่ยว ทุกเสาที่พบ
ขันธ์ อยากโก่งขาเยี่ยว ทุกเสาที่พบ
ขันหลงตัวเองว่าเป้นอรหันต์ ใครต่อว่าเขาจะบ้า... ฮูยยยย ..หน้าไม่อาย
ขันหลงตัวเองว่าเป้นอรหันต์ ใครต่อว่าเขาจะบ้า... ฮูยยยย ..หน้าไม่อาย
ขันหลงตัวเองว่าเป้นอรหันต์ ใครต่อว่าเขาจะบ้า... ฮูยยยย ..หน้าไม่อาย
ขันหลงตัวเองว่าเป้นอรหันต์ ใครต่อว่าเขาจะบ้า... ฮูยยยย ..หน้าไม่อาย
(เออ เว๊ย ประท้วงมันมันส์อย่างนี้นี่เอง ชักมันส์ๆ) |
|
_________________ ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
|
|
  |
 |
walaiporn
บัวบาน

เข้าร่วม: 02 ก.ค. 2006
ตอบ: 253
ที่อยู่ (จังหวัด): สมุทรปราการ
|
ตอบเมื่อ:
18 ส.ค. 2008, 11:23 pm |
  |
ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นค่ะ ได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ก็โพสไปแล้วค่ะ
-- ไม่ทราบว่าทุกคนเข้าไปอ่านที่กระทู้นี้หรือยังคะ
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=17117
-- จริงๆ แล้วคำว่า " โสดาบัน " เป็นเพียงชื่อสมมติบัญญัติ ที่เขาใช้เรียกแทนสภาวะที่เกิดขึ้นเหมือนหลายๆสภาวะ แต่เป็นเพราะคนๆ นั้นเจออุปกิเลส 10 เลยยึดมั่นถือมั่นในคำเรียกนั้นๆ
-- เหมือนอุทยัพพยญาณที่มีคนนำมากล่าวถึง ซึ่งอุทยัพพยญาณมี 2 ฃนิด มีตรุณณอุทยัพพยญาณ (อุทยัพพยญาณอย่างอ่อน) พลวอุทยัพพยญาณ (อย่างแก่) ตรงอย่างอ่อนจะเจออุปกิเลส 10 แต่ผู้ปฏิบัติส่วนมากจะไม่รู้ตัว ถึงมีใครมาบอกก็จะไม่เชื่อ แต่อันนี้ก็เป็นกุศลของเขา อย่างน้อยคนเหล่านี้เชื่อว่านรก สวรรค์นั้นมีจริง เขาย่อมไม่ประมาท อีกอย่างไม่ใช่เรื่องที่จะทำกันได้ง่ายๆ เพียงแต่กุศลเก่าเขามีมา แล้วมาได้ปฏิบัติต่อ
-- คนที่ไม่ทราบว่าอุทยัพพยญาณมี 2 แบบก็ยังมีอยู่ พอเจอสภาวะเกิด - ดับ ก็เข้าไปหาคำตอบ ก็จะเจอแต่คำเรียกว่า " อุทยัพพยญาณ " อย่างเดียว ดิฉันถึงได้นำเรื่อง " อธิโมกข " มากล่าวถึง เช่นกรณีที่กล่าวว่า
" จ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เพิกเฉยกับนามธรรมที่เกิด นามธรรมที่ดับ นี้ก็เห็น รูป นามเกิดดับ เรียกว่า อุทัพยญาณ เป็นวิปัสสนาญาณ "
-- นี่คือตรุณอุทยัพพยญาณ เพราะยังสามารถอธิบายได้ ว่ามีการเกิด - ดับ จากตรงนี้ สติ สัมปชัญญะเขามากพอ ถึงจับการเกิด - ดับได้ทัน เช่นอย่างกรณีลิงค์นี้ด้วยค่ะ
http://www.pantown.com/board.php?id=9706&area=1&name=board2&topic=202&action=view
-- ที่เขาอธิบายมาเรื่องพลวอุทยัพพยญาณ จริงๆแล้วสภาวะที่เกิดขึ้นที่เขาบรรยาย ก็คือตรุณอุทยัพพยญาณ แต่เขาไม่รู้ เพราะเอาไปเทียบเคียงกับตำรา จึงคิดว่าใช่
-- แต่ถ้าเป็นสภาวะอุทยัพพยญาณอย่างแก่ จะเกิดในสมาธิเท่านั้น (เมื่อพละ 5 พร้อม เขาจะเกิดของเขาเอง เหนือการคาดเดา) จะผ่านอุปกิเลสไปได้ สภาวะที่เกิดขึ้นจะอธิบายเป็นรูปธรรมไม่ได้ แต่สิ่งที่เขาได้ปัญญาที่เกิดจากตรงนี้จะประหาณกิเลสได้ทันที คือละสังโยชน์ใน 2 ข้อแรกได้ทันที สิ่งที่รู้ก็รู้เพียงสั้นๆ (ความรู้ที่เกิดขึ้น) ตรงกับอภิธรรมทุกอย่าง ถึงแม้คนนั้นจะไม่ได้ศึกษาปริยัติมาก็ตาม
-- เพียงอยากบอกว่า ส่วนดีของเขามี สิ่งที่เขาปฏิบัติได้ก็เป็นกุศลของเขา ซึ่งยังมีคนอีกมากมายที่ยังก้าวไม่ถึงตรงนี้ แม้แต่คำตอบในเรื่องของการปฏิบัติอาจจะถูกในความคิดของเรา เพราะเราทำแล้วได้ผล อาจจะมีคนเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ได้ค่ะ เหมือนตัวเขาเองที่พยายามถ่ายทอดในสิ่งที่เขาคิดว่าเขารู้ และก็เหมือนคนอื่นอีกหลายๆคนที่พยายามถ่ายทอดแนวทางของตัวเอง เป็นเรื่องธรรมดาย่อมมีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ดิฉันเองก็เคยโดนเขาต่อว่า เพียงแต่ว่าดิฉันมองทุกอย่างว่ามันต้องมีเหตุมาก่อน มันถึงมีผลเช่นนี้ ดิฉันต้องเคยสร้างเหตุไว้ จึงมามีวิบากเช่นนี้ จึงเป็นฝ่ายขออโหสิกรรมต่อเขาเอง เพื่อจะได้ไม่มีวิบากกรรมร่วมกันต่อไป
-- แบบนี้ดีไหมคะ ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างตอบ อย่าไปเอาคำตอบของเขามาอ้างอิง หรือมากล่าวพาดพิงถึง อย่าลืมว่าคำตอบที่ทุกคนตอบนั้น ต่างคนต่างรู้ รู้นั้นย่อมแตกต่างกันไป ใครทำได้ผล ก็คิดว่าแบบของตัวเองนั้นถูก แต่เรื่องจริงที่ลืมกันไปก็คือ จริตแต่ละคนไม่เหมือนกัน กุศลก็สร้างสั่งสมมาไม่เท่ากัน เราทำอาจจะได้ผล แต่คนอื่นนำไปทำอาจจะไม่ได้ผลก็ได้ ส่วนบางคนที่แนะนำ เราคิดว่าเขาแนะนำผิดๆ แต่ถ้าคนอื่นนำไปทำ อาจจะทำแล้วได้ผลก็ได้ค่ะ การที่เราพูดว่าไอ้นั่นถูกไอ้นี่ผิด มันเป็นเพียงความคิดของเราค่ะ ก็เหมือนคนอื่นๆ น่ะแหละ เรายังคิดแบบนี้ แล้วไม่เคยคิดบ้างหรือว่าคนอื่นเขาก็คิดเหมือนเรา
-- แบบว่าเสียดายความรู้ของแต่ละคนน่ะค่ะ จริตใครจริตมัน
-- ทั้งหมดนี้เป็นเพียงข้อคิดเห็นของดิฉัน ถ้าใครอ่านแล้วทำให้ขุ่นเคืองใจ ดิฉันขออโหสิกรรมมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ  |
|
_________________ ไม่มีคำว่าทำไม่ได้ หากเราพยายามทำและตั้งใจทำอย่างต่อเนื่อง |
|
  |
 |
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
18 ส.ค. 2008, 11:36 pm |
  |
walaiporn พิมพ์ว่า: |
-- แบบนี้ดีไหมคะ ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างตอบ อย่าไปเอาคำตอบของเขามาอ้างอิง หรือมากล่าวพาดพิงถึง อย่าลืมว่าคำตอบที่ทุกคนตอบนั้น ต่างคนต่างรู้ รู้นั้นย่อมแตกต่างกันไป ใครทำได้ผล ก็คิดว่าแบบของตัวเองนั้นถูก แต่เรื่องจริงที่ลืมกันไปก็คือ จริตแต่ละคนไม่เหมือนกัน กุศลก็สร้างสั่งสมมาไม่เท่ากัน เราทำอาจจะได้ผล แต่คนอื่นนำไปทำอาจจะไม่ได้ผลก็ได้ ส่วนบางคนที่แนะนำ เราคิดว่าเขาแนะนำผิดๆ แต่ถ้าคนอื่นนำไปทำ อาจจะทำแล้วได้ผลก็ได้ค่ะ การที่เราพูดว่าไอ้นั่นถูกไอ้นี่ผิด มันเป็นเพียงความคิดของเราค่ะ ก็เหมือนคนอื่นๆ น่ะแหละ เรายังคิดแบบนี้ แล้วไม่เคยคิดบ้างหรือว่าคนอื่นเขาก็คิดเหมือนเรา |
พี่สาวคับ หมายถึงอันนี้ปะ
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=17104
จากนั้น มันเกิดอันนี้ขึ้น
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?p=74673#74673
มันได้ผลลัพธ์อย่างที่เป็นอยู่นี่ล่ะคับ |
|
_________________ ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
|
|
  |
 |
guest
บัวบาน

เข้าร่วม: 09 ก.ค. 2008
ตอบ: 254
|
ตอบเมื่อ:
19 ส.ค. 2008, 12:21 am |
  |
คุณ วลัยพร ครับ
กระแสเมตตาธรรมของคุณดับร้อนได้ดีจริง ๆ ครับ
ขอบคุณมากครับ |
|
|
|
  |
 |
walaiporn
บัวบาน

เข้าร่วม: 02 ก.ค. 2006
ตอบ: 253
ที่อยู่ (จังหวัด): สมุทรปราการ
|
ตอบเมื่อ:
19 ส.ค. 2008, 7:30 am |
  |
อนุโมทนาค่ะคุณguest สาธุค่ะ
-- ต่างคนต่างอยู่ ไม่มาอ้างอิง พาดพิงถึงกัน ใครปฏิบัติมาแบบไหน ทำแล้วได้ผลก็พยายามพูดในส่วนของตน อย่าไปนำคำตอบของผู้อื่นมาพาดพิงว่าเขาตอบถูกหรือผิด มันเป็นเพียงแค่รู้แตกต่างกันไป กฏแห่งการกระทำนั้นมีจริงค่ะ สิ่งที่เกิดขึ้นย่อมมีเหตุมาก่อน ผลจึงเป็นเช่นนี้ วันนี้คุณกล่าวพาดพิงถึงเขา เขาก็ตอบโต้ในลักษณะแบบของเขา ไม่มีใครถูกหรือผิด เพียงแต่ว่าใครจะมีสติยั้งคิดหยุดได้ก่อนกันเท่านั้นเอง แต่คนส่วนมากจะชอบคิดเข้าข้างตัวเองว่าตัวเองถูก อันนี้ก็เป็นเรื่องธรรมดาค่ะ วิบากกรรมมันมีจริงๆ ถึงเขาไม่ตอบโต้คุณ กรรมนั้น ยังไงย่อมส่งผลอยู่ดี กรรมมันจัดสรรให้คุณโดนคนอื่นว่าแทน อโหสิกรรมกันดีกว่าค่ะ เพื่อเวรกรรมจะได้จบเพียงเท่านี้
-- อุปกิเลส 10 ไม่ใช่เรื่องที่นำมาพูดกันเล่นๆ ดูจากคำพูดของลิค์ที่ 2 ยกมาเป็นบางตอน
"ที่เขียนเรื่องนี้ขึ้นมาไม่ใช่มุ่งโจมตีผู้อื่น แต่เพราะสงสารหมู่เพื่อนผู้ปฏิบัติจะเกิดสำคัญผิดหลงทาง จึงเขียนเพื่อจะสะกิดใจให้คิดสักนิดว่า จะฝึกหัดปฏิบัติธรรมอย่าหลงเชื่ออาจารย์อย่างเดียว ให้รู้จักศึกษาไตร่ตรองให้รอบด้านและรอบคอบ สิ่งที่ผู้เขียนเขียนขึ้นนี้อาจจะไม่จริงหรืออาจจะจริงก็ได้ ไม่ได้ต้องการให้เชื่อ เพียงแต่อย่าหลงงมงายขาดเหตุผลเชื่ออาจารย์ไปข้างเดียว ถ้าผิดขึ้นมาจะเสียประโยชน์ของตนเอง ผู้เขียนไม่ได้เสียประโยชน์หรือได้ประโยชน์ใดๆ ด้วย "
-- ให้ดูคำพูดของคนที่ติดอยู่อุปกิเลส 10 จะมีคำพูดที่คล้ายคลึงกัน จริงๆแล้ว ญาณทั้ง 16 ที่เขานำมากล่าว เขาเพียงแค่เข้าไปชิมลางเท่านั้นเอง เหมือนกรณ์สภาวะภังคญาณที่เขานำมากล่าวถึง
"ปริยัติธรรม
ญาณอันตามเห็นความสลาย คือเมื่อเห็นความเกิดดับแล้ว คำนึงเด่นชัดในส่วนความดับอันเป็นจุดจบสิ้น ก็เห็นว่าสังขารทั้งปวงล้วนจะต้องสลายไปทั้งหมด
ความรู้จากการปฏิบัติ
เมื่อเห็นอารมณ์เกิดดับบ่อยเข้า และเห็นปฏิกิริยาของจิตต่ออารมณ์บ่อยเข้า ผู้ปฏิบัติที่มีสติสัมปชัญญะเข้มแข็งจะพบว่า เมื่อจิตเกิดปฏิกิริยาใดๆ ต่ออารมณ์เพียงแวบเดียว พอรู้ทัน ปฏิกิริยานั้นก็จะดับไปทันที เช่น กำลังรู้ตัวอยู่ ได้ยินเสียงลูกร้องไห้เสียงดัง จิตมีปฏิกิริยาต่อเสียงคือเกิดความโกรธผ่านแวบเข้ามา สติรู้ทันความโกรธที่กำลังปรากฏ จิตไม่เผลอไปตามความโกรธ ความโกรธจะดับวับไปต่อหน้าต่อตาทันที แม้อารมณ์อื่นเกิดแล้วพอรู้ก็ดับเช่นกัน จิต จะกลับเข้าสู่สภาวะดั้งเดิมคือเป็นกลางและรู้ตัว จะขาดความรู้ตัวไม่ได้เลย
สภาวะที่เห็นปฏิกิริยาของจิตต่ออารมณ์ขาดหายไปต่อหน้าต่อตานั้นคือภังคญาณ ขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า อารมณ์ภายนอกที่มากระทบนั้น มันเกิดดับไปตามเหตุปัจจัยภายนอก เช่น ลูกร้องไห้ เราก็ได้ยินเสียงร้องไห้ จะห้ามไม่ให้ได้ยินไม่ได้ สิ่งที่เราแก้ไขได้ก็คือ เมื่อเราได้ยินเสียงนั้นแล้ว หากจิตไม่เป็นกลาง เช่น เกิดโกรธหรือเกิดห่วงใย สติจะรู้ทันอย่างว่องไว แล้วปฏิกิริยาของจิต เช่น ความโกรธหรือความห่วงใยจะดับไป จิตกลับเข้าสู่ความเป็นกลางดังเดิม "
-- นี่ก็เพียงนำสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองแล้วนำไปเทียบเคียงกับตำรา จริงแล้วสภาวะเหล่านี้ จิตจะแจ้งออกมาเอง จากจิตขณะจิตกำลังเป็นสมาธิ ไม่ใช่ไปน้อมเอา คิดเอา ถ้าเพียงแต่เขาสนใจศึกษาเรื่องกิเลส 10 ประการ ( ไม่ใช่อุปกิเลส ) เขาจะรู้เลยว่าเขาติดกับอยู่ในอุปกิเลส 10
-- เหมือนอย่างเรื่องครูบาฯ ที่เขานำมากล่าวว่า " เพียงแต่อย่าหลงงมงายขาดเหตุผลเชื่ออาจารย์ไปข้างเดียว "
-- คนที่ปฏิบัติผ่านได้ เขาจะไม่มาว่ากล่าวครูบาฯท่านใดทั้งสิ้น เพราะเขารู้จะรู้ว่า การละเมิดครูบาฯ หรือแม้แต่ธรรมของคนอื่น มันมีผลต่อการปฏิบัติของเขา ทำให้การปฏิบัติของเขาไม่ก้าวหน้า เขาจะไม่ทำ เขาจะรู้ว่าผลเช่นนี้เพราะมันมีเหตุมาก่อน มันเป็นวิบากกรรมของแต่ละคน
-- แต่เมื่อเขารู้แล้วว่าเขาติดอยู่ เพียงเขาเจริญสติให้มากขึ้น เขาจะผ่านตรงนี้ไปได้ ไม่ใช่คนๆนี้เพียงคนเดียว ยังมีอีกหลายคน สำนวนการพูดของผู้ที่ติดอยู่ตรงนี้ สำนวนจะคล้ายๆกัน อนุโมทนาบุญของเขาดีกว่าค่ะ ยังไงสิ่งที่เขาทำมาก็เป็นกุศลของเขา เราไม่เห็นด้วยกับความคิดของเขา หรือไม่ชอบคำพูดของเขา เราก็มองสิ่งที่เขาโพสมา มันก็แค่ตัวหนังสือ เราไปปรุงกับมันก็เลยทำให้เกิดความชอบใจ ไม่ชอบใจเกิดขึ้น ส่วนดีของแต่ละคนมีนะคะ เมื่ออารมณ์เย็นลงแล้ว ลองเข้าไปอ่านทบทวนการตอบกระทู้ของแต่ละคนดูนะคะ จะเห็นว่า แต่ละคนก็มีส่วนดี ส่วนที่เราคิดไปเองว่า เขาไม่ดี อันนั้นมันก็เรื่องของเขา อย่าลืมว่าผู้กระทำไม่ว่าจะเป็นกุศลหรืออกุศล เขาผู้นั้นย่อมรับผลเอง หาใช่คนอื่นไม่ แล้วเราจะสร้างกรรมใหม่ให้เกิดขึ้นทำไมคะ เราหยุดก่อน เขาไม่หยุดก็ช่างเขา เพราะเขาจะได้รับผลจากการกระทำนั้นเอง
-- ทั้งหมดนี่เป็นเพียงข้อแสดงความคิดเห็นของดิฉัน ถ้าอ่านแล้วอาจทำให้ขุ่นเคืองใจ ขออโหสิกรรมมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
ขออนุโมทนาบุญกับจิตที่เป็นกุศลของทุกๆท่านค่ะ เจริญในธรรมยิ่งๆไปค่ะ สาธุ
 |
|
_________________ ไม่มีคำว่าทำไม่ได้ หากเราพยายามทำและตั้งใจทำอย่างต่อเนื่อง |
|
  |
 |
ขันธ์
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520
|
ตอบเมื่อ:
19 ส.ค. 2008, 10:14 am |
  |
เรื่องของเรื่องคือ คนไม่ยอมรับความจริงใช่ไหม
เรื่องของเรื่องคือ คนที่ตามด่า ใช่ไหม
เรื่องของเรื่องคือ คนที่ตามตั้งกระทู้ อ้างชื่อผมถึง 3 คนใช่ไหม
สำหรับ ผม ก็พูดแบบนี้ แต่คนที่รับไม่ได้กับความโง่ของตัวเองต่างหากที่โกรธเคือง
มันเริ่มต้นจากจุดเดียวคือ ผมมาพูดความจริงเรื่องพระเกษม ซึ่งก็มีเหตุคือ มีคนถามและอยากทราบความกระจ่าง
ก็มีคนซึ่งหมั่นไส้ผมเป็นทุนเดิม ออกมาแสดงความเห็นอย่างไม่ใช่ธรรม
แต่ด้วยกิเลส ผมก็บอกไปว่า ถ้าจะไม่พูดก็ไปนั่งอยู่บ้านดีกว่า
นี่เริ่มต้นตรงนี้แล้วหาว่าผมไล่ คิดเป็นตุเป็นตะ ตามด่าตามล้างสาระพัด
ผมก็บอกว่าโง่ พอบอกว่าโง่ยิ่งเดือดใหญ่ มาจนถึงตอนนี้ ใครหละครับที่ดิ้น
ถ้าคิดแต่จะเอาความสงบสุขโดยไม่ได้พิจารณาตามธรรม
มันก็ ติดอยู่กับ ความหลง ควมมัวเมาในธรรมกันนั่นแหละ
ทีนี้ คำถามอาจจะมีว่า แล้วพูดดีๆ ไม่ได้หรือ
ผม จะบอกให้ฟัง ว่า ใครตอบด้วยอกุศล ผมก็ไม่พูดดีหรอก
คำถามคือ แล้วจะดูอย่างไร ว่า อกุศล
ตอบว่า ให้ดูว่าสิ่งที่เป็นอกุศลจะไม่มีข้อธรรมปรากฎ จะไม่เป็นสิ่งที่จริง คือ นึกเอาเองคิดเอาเอง ปรากฎแบบลอยๆ นั้นคือ อกุศล
คุณต้องแยกกระหว่างความสงบสุข กับ ความจริง คุณจะยอมให้มันเป็น ความสุขโดยไม่ดูความจริง มันก็อยู่อย่างนี้แหละ
ในสมัยพุทธกาล ก็มีคนตามด่าพระพุทธองค์ นั่นพระองค์ยอมเฉยหรือ
ท่านไปด่าใครหรือเปล่า ท่านก็พูดสัจธรรมตามความจริง แล้วทำไมจึงมีคนตามด่า
ข้อนี้ จะมาบอกว่า พระพุทธองค์ ไปที่ไหนมีแต่คนด่า แสดงว่าพระพุทธองค์ ไม่ดีหรือ ทำไมท่านพระพุทธทาส สร้างประโยชน์ไว้มากมาย แต่ก็มีคนด่า
หลวงตามหาบัวสร้างประโยชน์มากมายแต่ก็มีคนด่า
พระพยอม สร้างประโยชน์มากมายแต่ก็มีคนด่า
ก็เพราะว่า กิเลสมันอยุ่ในสันดานของคนมากเกินไป มองเห็นอะไรขัดหูขัดตาหรือกระทบอัตตามัน มันก็ด่า
นั้นแหละเราต้องไป พิจารณาตัวเองว่า ไปด่าเขานั้นเรา มีอะไรดีหรือยัง
สำหรับ คุณ guest คุณทำอะไรคุณรู้แก่ใจดี อย่าให้ผมพูดอะไรมาก |
|
_________________ เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์ |
|
  |
 |
กรัชกาย
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348
|
ตอบเมื่อ:
19 ส.ค. 2008, 10:22 am |
  |
 |
|
_________________ สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา |
|
  |
 |
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
19 ส.ค. 2008, 10:27 am |
  |
อ๊าววว ขันแตกเอ๊ย
ไอ้นี่ สะเหร่อ ...พูดได้ไม่อายปาก
บอกว่าสอนธรรม กระแทกกิเลส
พอกรัชกายวางเฉย หาว่าเขา "เพี้ยน เอาแต่แปะข้อความ ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น"
ไอ้คนบ้า
ใส่เสื้อกลับด้านบ้างหรือเปล่า ทำไมระบบประสาทมันทำงานแย่อย่างนี้
|
|
_________________ ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
|
|
  |
 |
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
19 ส.ค. 2008, 10:31 am |
  |
ขันเอ๊ย
จุดเริ่มอยู่ที่ความวิปลาสของแกนั่นแหละ
ไปตรงไหนก็มีแต่ความขัดแย้ง
ยังเที่ยวมาคิดหาเหตุนอกตัว
สันดานแกนั่นแหละ เป้นเหตุ
นี่ กระแทกกิเลสให้นะ
จำไว้
ดูสิว่า การกระแทกกิเลส จะถูกลบข้อความอีกมั๊ย
ทำไมไอ้ขันมันทำได้คนเดียว |
|
_________________ ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
|
|
  |
 |
ขันธ์
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520
|
ตอบเมื่อ:
19 ส.ค. 2008, 11:05 am |
  |
ก็ไม่รู้สิ
เห็นคนดีที่จับกลุ่มกัน เถียงด้วยเหตุผลไม่ได้สักข้อ
บ้าๆบอๆ ด่าเป็นอย่างเดียว |
|
_________________ เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์ |
|
  |
 |
guest
บัวบาน

เข้าร่วม: 09 ก.ค. 2008
ตอบ: 254
|
ตอบเมื่อ:
19 ส.ค. 2008, 11:07 am |
  |
คุณ ขันธ์
เสียดายที่คุณไม่ได้อ่านความเห็นของผมใน
กระทู้ "ปวารณา...." ของพี่กรัชกาย
เพราะผมตั้งใจให้เป็นความเห็นสุดท้ายในเวป
แต่บังเอิญถูกลบไปเสียก่อน
ผมจึงตั้งใจจะกล่าวกับคุณครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย
คุณไม่ต้องคิดมาก
ว่าผมคิดอะไร
คุณคิดไม่ออกหรอก
โลก cyber แห่งนี้
ยิ่งสมมติ
กว่าโลกของแห่งความเป็นจริงเสียอีก
"โก นุ หาโส กิมานนฺโท นิจฺจํ ปชฺชลิเต สติ อนฺธกาเรน โอนทฺธา ปทีปํ น คเวสถ. ก็เมื่อโลกสันนิวาสนี้มันร้อนด้วยอำนาจแห่งกิเลสตัณหาเผาลนเป็นฟืนเป็นไฟทั้งวันทั้งคืน ยืนเดินนั่งนอนหาเวลาว่างไม่ได้แล้ว พวกท่านยังมีแก่ใจมาหัวเราะรื่นเริงบันเทิงกันหาอะไร
โก นุ หาโส หัวเราะรื่นเริงบันเทิงกันหาอะไร ทำไมไม่เสาะแสวงหาที่พึ่ง" |
|
|
|
  |
 |
ขันธ์
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520
|
ตอบเมื่อ:
19 ส.ค. 2008, 11:20 am |
  |
อ้างอิงจาก: |
คุณไม่ต้องคิดมาก
ว่าผมคิดอะไร
คุณคิดไม่ออกหรอก |
ผมจะไปคิดอะไรทำไมหละคุณ guest
ผมเห็นตรงๆ ไม่ต้องคิดอะไร
แล้วก็ชัดเจนเสียด้วย
มันชัดเจนมานานแล้ว แต่ขี้เกียจพูด |
|
_________________ เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์ |
|
  |
 |
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
19 ส.ค. 2008, 11:21 am |
  |
เดี๋ยวผมช่วยย้ำ
ขันแตก แกน่ะปากกล้า เวลาอยู่กับคอมพิวเตอร์
แกคิดว่าไม่มีใครรู้จัก แกเลยได้ใจ
ยิ่งบวกกับความคิดของแกว่ามันฟ้องไม่ได้ กฏหมายเอาไม่ถึง
แกยิ่งหลงไปใหญ่ ว่าข้าฟ้องแกไม่ได้
ข้าใช้ชื่อจริงนะ จะบอกให้
ตรงนี้แหละ ลากแกขั้นโรงพักไปคุยกันหน้าจ๋อยๆกับสารวัตได้
ตรงนั้น ไม่มีผู้ชมมวยแล้ว ดูสิว่าแกจะปั้นหน้าอรหันต์อีกมั๊ย
เก่งเนาาะ กฏหมาย ของถนัดนี่
รู้รึยังว่าชื่อจริงของข้า มันพลิกคดียังไง
อย่านะ ไม่เลิกๆ
ไอ้โง่ของแท้ |
|
_________________ ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
|
|
  |
 |
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
19 ส.ค. 2008, 11:24 am |
  |
กลับไปเยี่ยวถิ่นเดิมไป๊
ถาวรเลย ไป๊ !!
แถวนี้ข้าเยี่ยวใส่หมดแล้ว |
|
_________________ ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
|
|
  |
 |
ขันธ์
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520
|
ตอบเมื่อ:
19 ส.ค. 2008, 11:26 am |
  |
คามิน อย่าทะลึ่งให้มาก อยากจะโดนของจริงใช่ไหม
ผมปล่อยให้คุณลามปรามเกินไป หรืออยากจะเอาจริงๆ
และผมจะไม่พูดเล่นอีก
ผมจะให้เพื่อนที่กระทรวงเทคโนโลยี ตรวจสอบไอพี ก่อน แล้วผมจะตามไป เอาแบบนั้นดีไหม
คุณ คิดว่าผมเป็นไอ้แก่ โง่ๆ คนหนึ่งหรือ |
|
_________________ เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์ |
|
  |
 |
ขันธ์
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520
|
ตอบเมื่อ:
19 ส.ค. 2008, 11:27 am |
  |
มีกำลังเงินแค่ไหน ที่ว่าอยากจะเสียตังเนี่ย
มีความรู้แค่ไหน มีพวกพ้องแค่ไหน |
|
_________________ เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์ |
|
  |
 |
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
19 ส.ค. 2008, 11:32 am |
  |
ข้อหาอะไรมิทราบ |
|
_________________ ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
|
|
  |
 |
|