ผมอายุ 16 อ่ะคับ อยากปฏิบัติธรรมบ้างจะเหมาะมั้ยคับ

ตอบเมื่อ: 08 ก.ค.2008, 5:57 am

อายุ ไม่ใช่อุปสรรคของการปฏิบัติธรรม

ทุกๆ คน ทุกๆ เพศ ทุกๆ วัย
สามารถเข้าถึงธรรมได้ สามารถปฏิบัติธรรมได้

ตอบเมื่อ: 10 ก.ค.2008, 4:54 pm

Yodsapat พิมพ์ว่า:

คือว่าตอนนี้เหมือนจะฟุ้งซ่านกับเรื่องที่คิดว่าทำผิดไว้ อยากให้จิตสงบอยากเข้าใจชีวิตบ้าง แต่ด้วยอายุของผมแล้วจิตที่ไม่ค่อยนิ่งจะเหมาะกับการปฏิบัติธรรมมั้ยคับ เศร้า

พยายามเข้าครับคุณน้อง เป็นความคิดที่ดีครับ กระผมอยากจะแนะนำบางอย่างนะครับ คือ อย่าไปคิดในสิ่งที่นอกเหนือความควบคุมครับ ปล่อยวางเรื่องเหล่านั้นเสีย เพราะมันเป็นธรรมชาติครับ และทุกสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนมีเหตุปัจจัยให้เกิด และสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนต้องดับไปเป็นธรรมดาครับ

ตอบเมื่อ: 13 ก.ค.2008, 5:01 pm

สาธุ!

เป็นความคิดที่ดี และถูกต้องที่จะปฏิบัติธรรมเสียตั้งแต่อายุยังน้อยครับ
เพราะเราไม่รู้ว่าจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ในนาทีข้างหน้า

สิ่งแรกที่ควรทำคือตั้งใจรักษาศีล 5 ให้มั่นคง

ส่วนสิ่งใดที่ล่วงไปแล้ว ก็ปล่อยวางเสีย อย่านำมาคิดเพราะเราแก้ไขไม่ได้

สำหรับจิตไม่นิ่งนั้นเป็นธรรมชาติที่เกิดขึ้นกับทุกคน หากคนจิตนิ่งกันอยู่แล้ว
คงไม่มีความจำเป็นต้องปฏิบัติธรรมหรอกครับ เเล้วก็ไม่มีใครที่มีจิตนิ่งโดยไม่ได้ฝึกจิตใจมาก่อน ดังนั้น จึงไม่มีเหตุผลอันใดจะนำมาอ้างได้ว่าไม่เหมาะควรแก่การปฏิบัติธรรมเลยครับ

ตอบเมื่อ: 20 ก.ค.2008, 3:04 am

เหมาะกับทุกวัยเลยท่าน

ตอบเมื่อ: 23 ก.ค.2008, 4:15 pm

มาเลยครับผม....เป็นเพื่อนกัน
อายุกำลังดีอะครับ สาธุ

ตอบเมื่อ: 09 ส.ค. 2008, 4:45 pm

พี่ก็มือใหม่หัดขัด เอ๊ย หัดขับ เหมือนกันคุณน้อง อนุโมทนาบุญด้วยนะ พุทโธ

ตอบเมื่อ: 22 ส.ค. 2008, 8:41 pm

อนุโมทนา ครับ

ตอบเมื่อ: 23 ส.ค. 2008, 8:53 am

แวะมาทักทาย น้องมุทิตาภาวนา ปฏิบัติไปถึงไหนแล้ว
เล่าสู่กันฟังบ้างนะจ๊ะ ธรรมะสวัสดีจ้า สาธุ

ตอบเมื่อ: 31 ส.ค. 2008, 10:02 am

การศึกษาศาสตร์ไม่ว่าแขนงใด เข้าใจว่ายิ่งอายุน้อยยิ่งมีเวลาศึกษาไดมาก
เป็นกำลังใจให้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นค๊ะ

ตอบเมื่อ: 01 ก.ย. 2008, 10:38 am

ทำได้อยู่แล้ว

ตอบเมื่อ: 03 ก.ย. 2008, 12:14 pm

อายุไม่ใช่สิ่งสำคัญ ไม่ใช่ตัวกำหนด ความเพียรปฏิบัตินั่นต่างหากที่สำคัญ อย่ามัวทอดทิ้งธุระมุ่งหาแต่ไฟใส่ตัว มาปฏิบัติขัดเกลากิเลส ถึงแม้จะไม่หมดจดหรือบรรลุในชาตินี้ แต่ก็จะเป็นปัจจัยเป็นนิสัยตามส่งในภพหน้า บารมีจะมีมาได้ก็ต้องทำ อย่ามัวแต่กินบุญเก่าอยู่ ไม่นานบุญก็หมด ถ้าไม่เร่งทำเพิ่ม
ดีแล้วนะ เร่งปฏิบัติตั้งแต่อายุยังน้อย ผลเป็นอย่างไรไม่ต้องไปสนใจ เราทำของเราไปเถอะ สะสมไปเรื่อยๆ สักวันจะรู้เอง และเห็นเอง ไม่ต้องไปอ้างตำราที่ไหน ประจักแก่ใจเราเองนี่แหละดีที่สุด
ดูใจตัวเอง รู้ใจตัวเอง และไม่ประมาท นี่แหละคือธรรมทั้งปวง สาธุ...
แล้วก็มีอะไรก็ kae_fine@hotmail.com นะ เราอายุห่างกันแค่สองปี รู้จักเพื่อนนักปฏิบัติรุ่นเดียวกันสักคนก็เป็นเรื่องดีไม่ใช่น้อย ว่าไหมล่ะ

ตอบเมื่อ: 07 ก.ย. 2008, 8:21 pm

ขออนุญาตแอ๊ดเมล์ด้วยคน มือใหม่ครับ

ตอบเมื่อ: 11 ก.ย. 2008, 10:55 am

เหมาะมากครับ...ดีแล้วแหละ...ผู้ที่เหมาะจะปฏิบัติธรรมที่สุดคือผู้ที่สนใจที่จะปฏิบัติ....ครับผม...
..มันไม่มีอะไรยุ่งยากหรอก...
ที่ผ่านมาแล้วช่างมัน...ดีก็ดีแล้ว...ที่ไม่ดีก็จำไว้แล้วระวังไม่ทำอีก
...นับแต่ปัจจุบันก็...เริ่มทำไปตามกำลังของตน.....
คือ...เริ่มจาก 1. คิดดี 2. พูดดี 3.ทำแต่สิ่งที่ดีๆ..ท่อตัวเองและผู่อื่น..
หากหลวงได้ทำผิด....
ก็ ถ้า คิดผิดก็คิดแก้
ทำผิด ก้อทำแก้
พูดผิด ก้อ พูดแก้...
แก้ไข้...แล้วต่อไปก้ระวังตัวเองไม่ผิดอีก...
ตามกำลังตัวเอง...

ขออนุโมทนาครับผม.

ตอบเมื่อ: 11 ก.ย. 2008, 11:26 am

ปฏิบัติไปเลยค่ะ พยายามเข้า ฝึกเยอะๆ บ่อยๆ จะนิ่งเองไม่ต้องกังวลอะไร ตัวพี่เองกว่าจะเจอการปฏิบัติธรรมก็งมหามานาน หาความสงบให้ตัวเองมานาน เจอแล้วดีจริงๆจ๊ะ ปฏิบัติไปเถอะ ไม่มีอะไรดีเท่านี้อีกแล้ว นี่แหละสุดยอดแล้ว แต่ก่อนพี่ก็ไม่นิ่ง พอทำไปมันนิ่งเองแต่ต้องขยันน่ะ คือมีความเพียรมันขึ้นอยู่กับความเพียรจ๊ะ แล้วน้องจะเจอของดี พี่เป็นกำลังใจให้น่ะจ๊ะ เมล์มาคุยกับพี่ก็ได้ piglet_nika@hotmail.com พี่ก็ปฏิบัติอยู่ตลอดทุกวัน ช่วยแก้ปัญหาชีวิตได้จริง มีสมาธิมีสติ อารมณ์เย็นลงเยอะจนที่บ้าน งง

ตอบเมื่อ: 11 ก.ย. 2008, 11:29 am

ที่สำคัญ อย่าท้อน่ะ พระอาจารย์บอกว่าถ้าท้อความเพียรก็หาย แล้วจะไม่ได้อะไรเลย
สู้ๆน่ะ

ตอบเมื่อ: 21 ก.ย. 2008, 1:47 pm

สู้ๆนะค่ะ เราก้อ17 (แก่กว่านิดนึงเอง) จะตั้งใจเหมือนกานค่ะ สู้ สู้

ตอบเมื่อ: 22 ก.ย. 2008, 3:20 pm

เรื่องเก่าๆ รึเปล่า
โพชฌงค์ 7
ผู้สนใจท่านหนึ่งได้เมล์มาถามปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทางผู้ดำเนินการเห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์ แก่ท่านอื่นๆ ด้วย จึงขออนุญาตนำมาลงเอาไว้ ณ ที่นี้ ดังนี้
คำถาม
..... ดิฉันต้องการทราบความหมายของคำว่า " โพชณงค์ 7 " คืออะไร มีความหมายว่าอย่างไร และยกตัวอย่าวอธิบายประกอบเพื่อให้เข้าใจถึงความหมายให้ดียิ่งขึ้น ต้องการคำตอบด่วนมาก
จักขอบพระคุณอย่างยิ่ง
ตอบ
โพชฌงค์ ๗ จากพจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ โดย พระธรรมปิฎก (ป.อ. ปยุตฺโต) ให้ความหมายไว้ดังนี้ :
โพชฌงค์ ธรรมที่เป็นองค์แห่งการตรัสรู้หรือองค์ของผู้ตรัสรู้มี ๗ อย่างคือ ๑. สติ ๒. ธัมมวิจยะ (การสอดส่องเลือกเฟ้นธรรม) ๓. วิริยะ ๔. ปีติ ๕. ปัสสัทธิ ๖. สมาธิ ๗. อุเบกขา
อธิบายเพิ่มเติม
โพชฌงค์ คือสิ่งที่เป็นพื้นฐานที่สำคัญที่ทำให้การตรัสรู้ หรือโพธิจิต หรือการบรรลุธรรมเกิดขึ้นได้ มี 7 อย่าง คือ
๑. สติ - ความระลึกได้
๒. ธัมมวิจยะ - การสอดส่องเลือกเฟ้นธรรม การวิจัยธรรม ซึ่งเป็นตัวปัญญานั่นเอง
๓. วิริยะ - ความพากเพียร
๔. ปีติ - ความอิ่มใจ, ความดื่มด่ำในใจ มี ๕ ชนิด คือ
๑. ขุททกาปีติ ปีติเล็กน้อยพอขนชันน้ำตาไหล
๒. ขณิกาปีติ ปีติชั่วขณะ รู้สึกแปลบๆ ดุจฟ้าแลบ
๓. โอกกันติกาปีติ ปีติเป็นระลอก รู้สึกซู่ลงมาๆ ดุจคลื่นซัดฝั่ง
๔. อุพเพคาปีติ ปีติโลดลอย ให้ใจฟูตัวเบา หรืออุทานออกมา
๕. ผรณาปีติ ปีติซาบซ่าน เอิบอาบไปทั่วสรรพางค์ เป็นของประกอบกับสมาธิ
(จากพจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ โดย พระธรรมปิฎก (ป.อ. ปยุตฺโต) เช่นกัน)
๕. ปัสสัทธิ - ความสงบกายสงบใจ, ความสงบใจและอารมณ์, ความสงบเย็น, ความผ่อนคลายกายใจ (จากพจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ โดย พระธรรมปิฎก (ป.อ. ปยุตฺโต) เช่นกัน)
๖. สมาธิ - ความตั้งใจมั่น ความที่จิตมีอารมณ์เดียว ไม่ซัดส่ายไปในอารมณ์ต่างๆ
๗. อุเบกขา - ความที่จิตมีความสงบระงับเป็นอย่างยิ่ง ไม่กระเพื่อมไหวไปตามสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความสุข ทุกข์ ดีใจ เสียใจ รัก ชัง กล้า กลัว ยินดี ยินร้าย ฯลฯ ซึ่งจะเป็นจิตที่มีความประณีต ละเอียดอ่อน ปลอดโปร่ง เบาสบาย เป็นอย่างยิ่ง
เมื่อธรรมทั้ง 7 อย่างนี้เกิดขึ้น จิตจะมีทั้งกำลัง (จากวิริยะ และสมาธิ) ความเฉลียวฉลาด (จากธัมมวิจยะ) ความเบาสบาย (จากปีติ ปัสสัทธิ และอุเบกขา) ความเป็นกลาง ไม่ลำเอียง (จากอุเบกขา) โดยมีสติและปัญญา (ธัมมวิจยะ) เป็นเครื่องนำทาง จึงเป็นฐานที่สำคัญของการบรรลุธรรม ซึ่งแน่นอนว่าจิตที่มีสภาพเช่นนี้ เมื่อจะน้อมไปเพื่อทำประโยชน์สิ่งใด ความสำเร็จย่อมอยู่ไม่ไกลเลย

ตอบเมื่อ: 10 ต.ค.2008, 3:40 pm

พี่23กลัวแทบตาย..อายเพื่อน...นี่น้อง16...สุดยอด..เลยอ่ะ..อนุโมธนาด้วยนะจ๊ะ... สาธุ

ตอบเมื่อ: 10 ต.ค.2008, 5:41 pm

ตอบเมื่อ: 14 ต.ค.2008, 12:16 am

เคยซื้อปลาไหลไปปล่อยตัวละ 50 บาท แหนะวันพระด้วยนะ
ก็ไม่คิดว่าแพงอะไรแต่พอมาอีกวันตัวละ8 บาท ทำไมเค้าทำแบบนี้อ่าแย่จัง