Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
หยุด ! กินหมูกะทะ..
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ไปที่หน้า
ก่อนหน้า
1
,
2
ผู้ตั้ง
ข้อความ
muntana
บัวใต้น้ำ
เข้าร่วม: 10 ม.ค. 2008
ตอบ: 108
ที่อยู่ (จังหวัด): bangkok , Thailand
ตอบเมื่อ: 22 ส.ค. 2008, 6:11 pm
งานวิจัยล่าสุดเรือง โรคมะเร็งร้าย
-----
Red meat links to various kinds of Cancer risk esp the Breast Cancer
in women and also the colon cancer - new finding from the latest study
and research by several international renowned medics institues and
the World Cancer Research Forum
*****************************************************************************
จากผลการศึกษา วิจัยล่าสุดจากหลาย ๆ หน่วยงานศึกษา
วิจัยโรคมะเร็ง ได้ข้อมูลใหม่ ๆ ว่า เนื้อสัตว์แดง มีส่วนสำคัญ
เป็นอย่างยิ่งต่อการเกิดโรคมะเร็งเต้านม และ
มะเร็งลำไส้ ที่ผู้ป่วยเสียชีวิตเป็นอันดับต้น ๆ ในประเทศ
ตะวันตก และรุกลามมาทางแถบเอเซีย ปีละหลาย ๆ สิบล้าน
คน ในไทย ตกว้นละกว่า 200 คน หรือปีละนับเกือบแสนราย
นอกจากนี้ยังข้อมูลใหม่ ของโรคมะเร็งตับอ่อน และ มะเร็ง
ต่อมน้ำเหลือง มีส่วนโยงไยถึงการบริโภคเนื้อสัตว์ จากการ
เก็บข้อมูล และ วิจัยจากผู้ป่วยหลาย ๆ แสนคน จากข้อมูล
ล่าสุดโดยมหาวิทยาลัยแพทย์ฮาวาด สหรัฐ ที่มีการศึกษา
วิจัยจากผู้ป่วยโรคมะเร็งกว่า 500000 คน ใช้เวลากว่า 7 ปี
ยังมีข้อมูลอีกมากมาย จากผลศึกษาทางวิทยาศาสตร์ และ
ทางการแพทย์ โดยคณะผู้เชียวชาญโรคมะเร็ง
ทางการไทยไม่ค่อยยอมที่จะเปิดเผยข่าวที่มีการศึกษาวิจัย
ล่าสุดทางการแพทย์ เนื่องจากหลายหน่วยงานราชการมี
ส่วนเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์การค้าขายยาข้ามชาติ ซึ่ง
มีผลประโยชน์ตอบแทนมหาศาล นับแสนล้านบาทต่อปี
ระวังอันตรายโรคมะเร็งร้าย มีโอกาสรักษาและรอดชีวิตไม่
มากถึงแม้จะเสียค้าใช้จ่ายนับล้าน บาท เพียงเพือพยุงชีวิต
หรือต่ออายุเพียงระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น
น้อยคนนักที่จะรู้ว่ายังมีคนไทยป่วยโรคมะเร็ง นับล้าน
คน หรืออาจมากกว่า 3 ล้าน คน ที่รอการบำบัดรักษา
****************************************************
ภัยเงียบ...มะเร็งลำไส้ใหญ่ / อ.นพ.วรมินทร์ เหรียญสุวรรณ ศัลยแพทย์
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 21 สิงหาคม 2551 08:27 น.
คอลัมน์สายตรงสุขภาพกับศิริราช
ทุกวันนี้ โรคมะเร็ง ยังเป็นสาเหตุการตายอันดับต้นๆ ของคนในโลกรวมทั้งในประเทศไทย ยิ่งมะเร็งลำไส้ใหญ่ด้วยแล้ว มีแนวโน้มผู้ป่วยด้วยโรคนี้เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วรำ
มะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นโรคที่มีอุบัติการณ์สูงในประเทศแถบตะวันตก เช่น สหรัฐอเมริกา และ ประเทศทางยุโรป ในสหรัฐอเมริกา ประชากรมีโอกาสที่จะเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ตลอดชีวิตประมาณร้อยละ 6 หรือ 1 ต่อ 20 ของประชากร ประมาณการว่ามีผู้ป่วยรายใหม่เกิดขึ้น 138,000 รายต่อปี และจะมีผู้ป่วยเสียชีวิตจากมะเร็งลำไส้ใหญ่ประมาณ 60,000 คนต่อปี
มะเร็งลำไส้ใหญ่และการตรวจสวนแป้งลำไส้ใหญ่ (Barium Enema)
สำหรับประเทศไทย มะเร็งลำไส้ใหญ่ มีอุบัติการณ์ต่ำกว่าประเทศที่พัฒนาแล้ว จากสถิติของสถานวิทยามะเร็ง โรงพยาบาลศิริราชพบว่า มะเร็งลำไส้ใหญ่ มีอุบัติการณ์สูงเป็นอันดับ 4 ในเพศชาย (รองจากมะเร็งตับ ปอด และ ต่อมลูกหมาก) ส่วนในเพศหญิงพบมากเป็นอันดับ 3 (รองจากมะเร็งปากมดลูกและ เต้านม)
ใครมีโอกาสเสี่ยงสูง
ถึงแม้ว่ามะเร็งลำไส้ใหญ่ อาจเกิดขึ้นได้ในทุกอายุ แต่อัตราเสี่ยงของการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ จะสูงขึ้นในผู้สูงอายุ ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะถูกวินิจฉัยในช่วงอายุระหว่าง 50-70 ปี นอกจากนี้อัตราเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นในผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นโรคลำไส้อักเสบบางชนิด (Crohns disease และ Ulcerative colitis) ผู้ที่มีประวัติมีติ่งเนื้องอก (Polyp) ในลำไส้ใหญ่ หรือมีประวัติโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ในครอบครัว
อาการของมะเร็งลำไส้ใหญ่
มะเร็งลำไส้ใหญ่จำนวนมากจะไม่มีอาการให้เห็นในระยะแรกๆ จนกว่าตัวเนื้องอกจะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ หากสามารถตรวจพบก้อนเนื้องอกในระยะเริ่มแรกหรือพบในขณะที่เป็นติ่งเนื้องอก (Polyp) ผลการรักษาจะดีและมีโอกาสหายขาดได้ ดังนั้นจึงมีคำแนะนำให้มีการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ตั้งแต่ไม่มีอาการ
อาการของมะเร็งลำไส้ใหญ่ ที่พบบ่อย ได้แก่ อาการถ่ายอุจจาระมีมูกปน หรือมีเลือดออกทางทวารหนัก มีการถ่ายอุจจาระที่ผิดปกติเกิดขึ้น เช่น ท้องผูก ท้องเสียที่ไม่หายหลังได้รับการรักษา หรือมีท้องผูกสลับท้องเสีย อาการอื่นๆที่อาจจะพบได้คือ น้ำหนักลด เบื่ออาหาร สำหรับมะเร็งลำไส้ใหญ่ส่วนต้นอาจตรวจพบว่ามีอาการซีดซึ่งเกิดจากการเสียเลือดโดยที่ไม่มีเลือดออกในอุจจาระให้เห็นได้ด้วยตาเปล่า อาจคลำพบก้อนที่บริเวณท้องน้อยด้านขวา ผู้ป่วยบางรายอาจมาพบแพทย์ด้วยอาการของลำไส้อุดตันซึ่งจะมีอาการปวดท้อง ท้องอืด อาเจียน และถ่ายอุจจาระ หรือผายลมลดลง
การส่องกล้องลำไส้ใหญ่ (Colonoscopy)
การรักษา
มะเร็งลำไส้ใหญ่ สามารถรักษาโดยการผ่าตัดเอาลำไส้ส่วนที่มีมะเร็งรวมถึงเส้นเลือดและต่อมน้ำเหลืองบริเวณเนื้องอกออก ในผู้ป่วยส่วนใหญ่ลำไส้จะถูกต่อเข้าหากันใหม่และผู้ป่วยจะสามารถถ่ายอุจจาระทางทวารหนักได้ตามปกติ โดยปกติการผ่าตัดจะทำผ่านแผลผ่าตัดทางหน้าท้อง ในปัจจุบันศัลยแพทย์สามารถทำการผ่าตัดโดยใช้ กล้อง(Laparoscopic Surgery) ในผู้ป่วยที่มีเนื้องอกขนาดเล็ก ซึ่งจะทำให้แผลผ่าตัดมีขนาดเล็กลงและผู้ป่วยจะมีอาการปวดบริเวณแผลหลังผ่าตัดลดลง
ถ้ามะเร็งเกิดขึ้นที่บริเวณลำไส้ตรงส่วนปลาย หรือทวารหนัก และก้อนเนื้องอกอยู่ในระยะเริ่มแรก การผ่าตัดสามารถทำได้โดยตัดเอาเนื้องอกออกผ่านทางทวารหนัก อย่างไรก็ตามถ้าก้อนเนื้องอกมีขนาดใหญ่และใกล้ปากทวารหนักมาก การผ่าตัดอาจจะต้องผ่าตัดเอาทั้งลำไส้ตรงและทวารหนักออกทั้งหมด ทำให้ไม่สามารถต่อลำไส้เข้าหากันได้ ผู้ป่วยกลุ่มนี้จึงจำเป็นต้องมีลำไส้เทียมมาเปิดที่ผนังหน้าท้องสำหรับการถ่ายอุจจาระ
หากตรวจพบว่ามะเร็งกระจายไปที่ต่อมน้ำเหลืองแล้ว ผู้ป่วยควรได้รับการรักษาเพิ่มเติมโดยการให้ยาเคมีบำบัดและถ้าเนื้องอกอยู่ในตำแหน่งลำไส้ตรงส่วนปลายหรือทวารหนัก ผู้ป่วยอาจจะต้องได้รับการฉายรังสีเพิ่มเติม
ป้องกันได้หรือไม่
แนวทางการป้องกันโรคนี้คือ ควรรับประทานอาหารที่มีกากใยสูงเช่น ผักและผลไม้ รวมไปถึงอาหารที่มีส่วนประกอบของไขมันต่ำจะช่วยลดการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ลดลง อย่างไรก็ตามเป็นที่ยอมรับว่า การตรวจคัดกรองสามารถป้องกันการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ ในผู้ที่ไม่มีอาการและไม่มีปัจจัยเสี่ยงควรเริ่มต้นที่อายุ 50 ปี สำหรับผู้ที่มีประวัติมะเร็งลำไส้ใหญ่ในครอบครัว ควรเริ่มตรวจคัดกรองที่อายุ 40 ปีหรือที่อายุ 5 ปีก่อนอายุของคนในครอบครัวที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ ส่วนผู้ที่มีประวัติเป็นลำไส้อักเสบชนิด Crohns disease และ Ulcerative colitis หรือ ผู้ป่วยที่มีติ่งเนื้องอกจำนวนมาก (Polyposis Coli) การตรวจอาจเริ่มในอายุที่เร็วขึ้นโดยสามารถปรึกษาแพทย์ของท่านได้
ติ่งเนื้องอก (Polyp) และการตัดติ่งเนื้องอกผ่านทางกล้อง (Polypectomy)
วิธีการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่มีหลายวิธีดังนี้
* การส่องกล้องลำไส้ใหญ่ (Colonoscopy) ทุก 5 ถึง 10 ปี หรือ
* ตรวจอุจจาระหาเลือดที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า (Fecal Occult Blood Test) ทุกปี หรือ
* การส่องกล้องลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย (Sigmoidoscopy) ร่วมกับ การตรวจสวนแป้งลำไส้ใหญ่ (Barium Enema) ทุก 5 ปี
จะเห็นได้ว่าการตรวจคัดกรองมีความสำคัญ เนื่องจากก่อนที่จะเกิดเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ขึ้น จะมีความผิดปกติเริ่มจากการเกิดมีติ่งเนื้องอก (Polyp) ขึ้นมาก่อน ดังนั้นถ้าสามารถส่องกล้องลำไส้ใหญ่และตรวจพบติ่งเนื้องอกได้ตั้งแต่ไม่มีอาการ แพทย์จะสามารถตัดติ่งเนื้องอกผ่านทางกล้อง (Polypectomy) โดยไม่ต้องทำผ่าตัดซึ่งจะเป็นการป้องกันการเกิดเป็นมะเร็งขึ้น
โดยสรุปหากแก้ไขพฤติกรรมการบริโภคและหมั่นสำรวจสุขภาพระบบขับถ่ายของคุณ จะทำให้มะเร็งลำไส้ใหญ่ไม่สามารถทำร้ายคุณได้
แต่ที่แน่ ๆ งานศึกษาวิจัยโดยคณะนักวิทยาศาสตร์ ทีมคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โรคมะเร็ง ได้ระบุว่า เนื้อสัตว์ เป็นต้นเหตุสำคัญของสารพัดโรคมะเร็งร้าย หลาย ๆ ชนิด ถ้าหลีกเลี่ยง การบริโภคก็จะลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งร้าย ได้ เช่น มะเร็ง ลำไส้ มะเร็งกะเพาะอาหาร มะเร็งตับอ่อน มะเร็งต่อมน้ำเหลือง นอกจากโรคหัวใจ ไขมันอุดตัน ที่ฆ่าชีวิตผู้คนทั่วโลกหลาย ร้อยล้านคน
ชัยพร พอกพูล
บัวพ้นดิน
เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2006
ตอบ: 73
ที่อยู่ (จังหวัด): กรุงเทพฯ
ตอบเมื่อ: 23 ส.ค. 2008, 9:08 am
สวัสดีครับ เจอกันอีกแล้วนะครับ คุณ muntana
ขออนุโมทนากับความตั้งใจของคุณนะครับ ที่ต้องการให้เลิกทานเนื้อสัตว์กัน ซึ่งก็เป็นเรื่องดี ตัวผมเองคงยังกินอยู่แต่ก็พยายามจะลดให้น้อยลง
และก็ขอแสดงความเห็นที่คุณ สี บุญมา บอกว่าคุณกำลังทำตามพระเทวทัต ผมเห็นว่า ไม่ถูกต้องที่กล่าวเช่นนั้น เพราะ สิ่งที่พระเทวทัตเสนอให้พระพุทธองค์ตั้งเป็นกฏให้ปฏิบัติตามทั้ง 5 ข้อนั้นดูเผิน ๆ แล้ว "น่าจะดี" แต่หากมองไปในภายภาคหน้าแล้ว "ไม่ดีแน่" ซึ่งไม่ใช่กับสิ่งที่คุณ muntana กำลังนำเสนอ เพราะสิ่งนั้น ดูเผิน ๆ "น่าจะดี" และในภายภาคหน้าแล้วก็จะ "ดีจริง ๆ"
ผมคงไม่ฟันธงว่ากินเนื้อสัตว์แล้วเป็นกรรมชั่ว เพราะผมไม่เห็นกรรมชั่วลอยเข้าปากผมตามเนื้อสัตว์ที่กินนั้น (หวังว่าคงไม่เอามาเป็นประเด็นกันนะครับ 555) แต่คุณ muntana กำลังบอกว่า การกินเนื้อสัตว์นั้นมีโทษใหญ่หลวงตามมา (กินข้าวอย่างเดียวแล้วไม่ออกกำลังกาย ก็อ้วนได้นะครับ) แต่หากลดการกินเนื้อสัตว์ได้ ก็จะเป็นการลดโอกาสที่จะเป็นโรคต่าง ๆ และจะช่วยให้ลดการฆ่าจนอาจจะถึงขั้นไม่มีการฆ่าก็เป็นไปได้ใครจะไปรู้
พระพุทธองค์ท่านไม่เคย "ห้าม" ไม่ให้ทำอะไร แต่ถ้า "เลี่ยง" หรือ "ละ" เสียได้ก็เป็นการดีทั้งตัวเราและผู้อื่น
ผมเคยถูกคนใส่ร้ายป้ายสีหนัก ๆ เข้าความอดทนมันเริ่มลดลงจนอยากจะฆ่าเขาคนนั้นเสียให้ได้ แต่ก็ฉุดคิดขึ้นมาได้ว่า "เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร" ผมจึงไม่ฆ่า ไม่แก้ตัว ปล่อยให้สิ่งต่าง ๆ ที่กระทบเข้ามานั้นผ่านไป ไม่เก็บมาใส่ใจ ตัวเรารู้ว่าอะไรเป็นอะไรก็เพียงพอแล้ว หลังจากนั้นก็ทำให้คิดได้ว่า ที่เราไม่ฆ่านั้นเป็นสิ่งที่ดีแล้ว ไม่ต้องทุกข์เพราะกลัวญาติพี่น้องเขาจะมาแก้แค้น ไม่ต้องหนีตำรวจ ไม่ต้องทำให้คนที่เรารักเป็นทุกข์ อืม... ดีแล้วที่ไม่ฆ่า
หากคุณ สีบุญมา ยังสงสัยเรื่องกินเนื้อเป็นบาปกรรมหรือเปล่านั้นลองอ่านกระทู้นี้ดูนะครับแล้วจะเข้าใจมากขึ้น (สุดแต่กำลังปัญญาของท่านนะครับ)
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?p=71965#71965
แต่คงต้องออกตัวก่นนะครับว่าผมไม่ได้เป็นเปนพวกที่เดินตามคุณ muntana นะครับ ผมแค่เข้าใจความหมายที่คุณ muntana ต้องการจะสื่อ "ทุกด้าน" เท่านั้นเองครับ
_________________
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ไปที่หน้า
ก่อนหน้า
1
,
2
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
ไม่สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th