ชีวิตหลังความตาย

ตอบเมื่อ: 08 ก.ย. 2008, 10:25 pm

อยากทราบว่า ชีวิตหลังความตายเป็นอย่างไร ตายแล้วยังดูแลลูกได้หรือเปล่า

ท่านใดมีความรู้ว่า ท่านที่เจริญ โปรดทำบุญสักครั้ง โปรดแนะนำ หากเรามีห่วง ลูกยังเล็กอยู่ เมื่อเราตายไปแล้ว จะทำอย่างไร มีทางใดที่จะทำให้เรายังสามารถติดต่อโลกนี้ได้หรือไม่ ห่วงลูก

ไม่สามารถปล่อยวางได้ ขอท่านผู้เจริญได้โปรดช่วยแนะนำ

บาปกรรมใดๆ ขอให้เกิดแก่เรา ติดตามไปแต่เรา ไม่ขอสู่สุขติ ขอท่านผู้เจริญโปรดจงแนะนำ หากจำเป็นต้องตาย หากเราตั้งจิตให้ยังอยู่กับโลกนี้ จะยังสามารถติดต่อกับลูกได้หรือไม่

ขอกราบขอบพระคุณ

ตอบเมื่อ: 08 ก.ย. 2008, 10:43 pm

ไม่ได้กลัวความตาย แต่มีห่วง

หากไม่มีห่วง ความตายคือทางออก ทางแก้ไขปัญหา ความตายคือความสุข เพราะทุกวันนี้ทุกข์เหลือเกิน ตายไปแล้วสบาย ทนเจ็บนิดเดียว แล้วไม่ต้องทุกข์ ไม่รู้ว่าการมีชีวิตอยู่คือการชดใช้กรรมหรือไม่

ขอท่านผู้เจริญ โปรดแนะทางสว่าง

ตอบเมื่อ: 09 ก.ย. 2008, 4:07 am

เรียนเจ้าของกระทู้ ผมขอเอ่ยตัวนิดนึงก่อนว่า..ผมอาจจะยังไม่ใช่ผู้ที่เข้าถึงสัจธรรมชีวิตมากนักดั่งเช่นคนอื่นในบอร์ดนี้ แต่จากการที่ผมได้ศึกษาบางวิชามาจากรั้วมหาลัย อย่างเช่น จริยศาสตร์(Ethics) หรือปรัชญาต่างๆ(Metaphysics) บวกกับได้ลองเข้าทางธรรมมาสักพักนึงแล้ว ผมมีความคิดเห็นส่วนตัวว่า..

มาถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่แน่ใจว่าชีวิตหลังความตายมีจริงหรือไม่ เพราะยังไม่มีสิ่งใดที่มากล่าวอ้างให้เป็นสากลได้ สิ่งที่เป็นสากลในที่นี้หมายความว่า เป็นสิ่งที่มีอยู่อย่างปรนัย คือเป็นสิ่งที่คนทุกคนรับรู้ยอมรับตรงกันหมด และประจักษ์ให้เห็นเป็นสากลได้ ผมยังคงสงสัยว่างั้นคนที่นับถือศาสนา พุทธ คริสต์ อิสลาม เต๋า ฮินดู ฯลฯ แต่ละคนก็มีชีวิตหลังความตายคนละแบบอย่างนั้นหรือ เพราะแต่ละศาสนาก็มีความเชื่อที่แตกต่างกันไป งั้นฝรั่งตาย กับคนไทยตายก็ไปคนละที่อย่างนั้นหรือ ชีวิตหลังความตายจะแบ่งโซนๆอย่างนั้นหรือ คนนับถือคริสต์เสียก็ไปโซนอยู่กับพระเจ้า คนนับถือพุทธเสียก็ไปอีกโซน คนนับถือศาสนาอื่นก็ไปโซนของพวกเขาอย่างนั้นหรือ แล้วอะไรล่ะที่คือความจริง? หรือจริงๆแล้วแต่ละศาสนาเป็นเพียงความเชื่อของแต่ละกลุ่มบุคคลเท่านั้นเพื่อยึดเหนี่ยวจิตใจ บุคคลใดมีความเชื่อในทางพุทธแล้วมีความสุขใจก็ยึดถือไป บุคคลใดมีความเชื่อทางคริสต์แล้วมีความสุขใจก็ยึดถือไป แต่ที่สุดแล้วสิ่งที่ทุกศาสนาสอนเหมือนกันหมดนั่นคือสอนให้ทุกคนเป็นคนดีจริงแท้และแน่นอน มีความรักต่อเพื่อนมนุษย์ร่วมโลกและสรรพสิ่งทั้งหลาย โลกเราก็จะสงบสุข

ที่ผมพูดทั้งหมดมานี่คือในเมื่อชีวิตหลังความตายเรายังไม่สามารถพิสูจน์ให้เป็นสากลได้ คือยังไม่แน่ใจว่าจะได้ไปสู่สุขคติหรือไม่ จะยังสามารถติดต่อโลกนี้ได้อยู่หรือเปล่า หรือตายแล้วจะดับสูญไปเลย.. แต่ที่เป็นสากลแน่ๆและเราทุกคนสามารถรับรู้กันได้เป็นรูปธรรม คือตอนที่คุณมีชีวิตอยู่นี้คุณได้ใช้ชีวิตให้ดีที่สุดแล้วหรือยัง ในเมื่อ ณ ตอนนี้คุณยังมีชีวิตอยู่ ทำไมคุณไม่ทำสิ่งที่ดีต่างๆให้กับลูกคุณในตอนนี้ซะล่ะ การตายไม่ใช่ทางออกที่ดีเลยครับ ความทุกข์ทุกอย่างย่อมมีทางแก้ไขครับ ทำปัจจุบันให้ดีที่สุดนะครับ เพื่อลูก เพื่อตัวคุณเอง และเพื่อคนรอบข้างที่รักคุณ มีอะไรก็ลองปรึกษาคนในบอร์ดนี้ดูสิครับ เผื่อจะช่วยหาทางออกให้คุณได้

ยิ้มสู้ไว้ครับโลกแจ่มใส สู้ๆ ผมเป็นกำลังใจให้ครับ ^^ สู้ สู้

ตอบเมื่อ: 09 ก.ย. 2008, 5:44 am

คุณ Art เก็งคำตอบโดยอยู่ในโลกของผัสสะ

หมายว่าความว่า ถ้าความจริงหนึ่ง ไม่สามารถปรากฎหรือพิสูจน์รู้ได้ผ่านประสาทสัมผัส
เราก็จะปฏิเสธ ว่าไม่มี หรือไม่แน่ใจ
ซึ่งเป็นปกติของเราๆในยุควิทยาศาสตร์
ตอนผมศึกษาปรัชญาใหม่ ผมก็แทบจะเลิกนับถือศาสนากันเลยทีเดียว
เพราะเห็นว่าลวงโลก

แต่ยิ่งศึกษามาก ผมคิดว่าศาสนาพุทธ "มีน้ำหนัก" ที่สุดสำหรับผม
และมีสิ่ง "เหนือเหตุผล" มากมาย

ศาสนาอื่น หรือแนวคิดอื่นๆที่เป็นเชิงจริยศาสตร์
มักจะบอกให้เรา "เชื่อ และ อย่าสงสัย" ในความเหนือเหตุผลของคำสอน
หรือพยามให้เรา "ยอม ทำตาม" เพื่อประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง

แต่ศาสนาพุทธเราเป็นศาสนาเดียวที่บอกว่า ห้ามเชื่อทุกกรณี
เราบอกว่า เรามีอย่างนี้ อย่างนั้น อย่างโน้น
มีทั้งเหตุปลง่ายๆ และมีทั้งพิศดารจนหาเหตุผลไม่ได้ "เหนือ"เหตุผล

ยิ่งไปกว่านั้น ศาสนาเราไม่ได้บอกแค่ว่าเรามีอะไรดี อะไรแปลก
แต่เราท้าให้ลอง ลองทำดู จะพบคำตอบด้วยตนเองว่าจริงหรือไม่

ในการท้า เรายังได้มีทั้งระเบียบวิธีบอกไว้ครบถ้วน ทั้งหลักการและวิธีการ เขียนไว้หมด
ทั้งละเอียดยิบจนหลงกันได้เป็นชั่วอายุคน
และทั้งหยาบ(คร่าว/กว้าง/หลักๆ) จนง่ายอย่างแทบไม่น่าเชื่อ

---------
นรก สวรรค์ มีจริงไหม ตายแล้วไปไหน
-------

ผมก็เคยคิดอย่างคุณอาร์ทนะ
และค่อนข้างมั่นใจในความเชื่อนี้ ว่ามันไม่มีทางพิสูจน์
แต่อยากจะท้าให้ลองพิสูจน์ดู ด้วยการลงมือเจริญจิตภาวนา ผมก้ทำอยู่

เพราะปรัชญา... พาให้ผมพบพุทธปรัชญา
และเพราะพุทธปรัชญา ... ผมถึงใช้ปรัชญาอย่างไม่เสียเวลา

อนุโมทนาคับ

สาธุ

ตอบเมื่อ: 09 ก.ย. 2008, 6:23 am

พระพุทธศาสนาจากพระโอษฐ์

543 อนาคตของคนจิตเศร้าหมองและผ่องใส
http://84000.org/true/543.html

----------------------------------------------------------------
021 มนุษย์ไปเกิดเป็นสัตว์ได้
http://www.84000.org/true/021.html
-------------------------------------------------------
073 คนเกิดเป็นสัตว์ได้
http://www.84000.org/true/073.html
------------------------------------------------------
074 คนพาลเกิดเป็นมนุษย์ได้ยาก
http://www.84000.org/true/074.html
------------------------------------------------------
072 นรกมีจริงหรือ
http://84000.org/true/072.html
---------------------------------------------------
495 ตรัสว่าคนตายแล้วเกิดจริง
http://www.84000.org/true/495.html
----------------------------------------------------
526 พระพุทธองค์ทรงรับรองการตายแล้วเกิด
http://www.84000.org/true/526.html
-----------------------------------------------------
061 เหตุให้เชื่อชาติหน้า
http://www.84000.org/true/061.html
--------------------------------------------------------
037 โลกหน้ามีจริงหรือไม่
http://www.84000.org/true/037.html
-----------------------------------------------------------
166 เหตุให้เกิดในภพ
http://www.84000.org/true/166.html
------------------------------------------------------------
046 พุทธทำนาย
http://www.84000.org/true/046.html
-------------------------------------------------------------

พระอภิธัมมัตถสังคหะ

อารมณ์ของสัตว์ที่มรณะ
http://abhidhamonline.org/aphi/p5/083.htm
--------------------------------------------------
กรรมอารมณ์
http://abhidhamonline.org/aphi/p5/084.htm
-------------------------------------------------------
กรรมนิมิตอารมณ์
http://abhidhamonline.org/aphi/p5/085.htm

-----------------------------------------------------------
คตินิมิตอารมณ์
http://abhidhamonline.org/aphi/p5/086.htm
----------------------------------------------------
จุติ แล้ว ปฏิสนธิ
http://abhidhamonline.org/aphi/p5/087.htm
--------------------------------------------------

ศึกษาเพิ่มเติม จากท่านผู้ทรงพระไตรปิฏก ที่ท่านบรรยายไว้ในเรื่อง

คนตายแล้วไปเกิดได้อย่างไร ? โดยท่านอาจารย์บุญมี เมธางกูร

http://www.abhidhamonline.org/Ajan/book.htm

http://www.dharma-gateway.com/ubasok/boonmee/boonmee-02-01.htm

ตอบเมื่อ: 09 ก.ย. 2008, 6:27 am

ลบดีกว่า ความเห็นผิด
จะพูดให้ถูกก็ยาก
ของเีงียบดีกว่า ปลอดภัยไว้ก่อน

ตอบเมื่อ: 09 ก.ย. 2008, 11:19 am

สิ่งมีชีวิตต่างดิ้นรนเอาชีวิตรอด ปลาถูกจับโยนขึ้นบก ยังแถกยังแถเพื่อลงน้ำ
แล้วทำไมเล่าครับ คุณมีห่วงถึงอยากตาย เศร้า

อ้างอิงจาก:

อยากทราบว่า ชีวิตหลังความตายเป็นอย่างไร

ประเด็นนี้ไม่มีใครให้คำตอบได้ว่าชีวิตหลังความตายจะเป็นอย่างไร

อ้างอิงจาก:

ตายแล้วยังดูแลลูกได้หรือเปล่า

ฟันธงเลยว่า ดูแลไม่ได้ครับ ขนาดมีชีวิตอยู่ยังดูแลไม่ค่อยรอดไม่ค่อยจะได้
จะกล่าวไปใยถึงเสียชีวิตแล้วเล่า

หากห่วงลูกก็อยู่ดูแลรับผิดชอบชีวิตเขาครับ ทำให้เขาเกิดมาแล้ว จะตัดช่องน้อยหนีไปได้อย่างไร

แล้วภรรยาเราเล่า เขาจะเสียใจมากน้อยแค่ไหน

อีกอย่างหนึ่ง พ่อแม่เราด้วย ท่านคงเสียใจร้องไห้เพราะการกระทำของเรา นึกถึงหัวอกแม่พ่อด้วยครับ

คุณมีทุกข์อะไรจนเหลือทนหรือครับ ว่างๆไปโรงพยาบาลสิครับ คนที่นอนหยอดน้ำข้าวต้ม หรือคนไข้อื่นๆที่ทุกข์ยิ่งกว่าเรา ยังร้องระงมว่า หมอช่วยด้วย พยาบาลช่วยที ยังไม่อยากตายๆ ร้องไห้

ตอบเมื่อ: 09 ก.ย. 2008, 1:25 pm

การเกิดเป็นมนุษย์นั้นแสนยาก

เทวดาที่จุติมาเป็นมนุษย์เพื่อนเทวดาต่างอนุโมทนาสาธุ

เพราะ ได้มีโอกาสชดใช้กรรม และปฏิบัติธรรมได้ เนืองจากเวลาบนโลกเร็วกว่าเวลาบนสวรรค์

อย่างความทุกข์ที่ท่านเจ้าของกระทู้ประสบถ้าท่านใช้ไม่หมดปล่อยไว้หรือหนี

จะยืดเยื้อ สู้อดทนต่อสู้ให้ผ่านพ้นดีกว่า

ด้วยความอดทน

ด้วยการปฏิบัติธรรม

อย่างที่ท่านกำลังแสวงหาในพื้นที่ธรรม

ผลพลอยได้จะเกิดขึ้นมากมายมาก

คือนอกจากจะพ้นวิบากแล้ว คือเมือผ่านพ้นท่านจะได้ปิติ และเบิกบาน

ได้คุณธรรมที่ท่านได้จากการปฏิบัติธรรม เป็นการล่วงทุกข์

ทุกคนมีเวลานี้ทั้งนั้น ไม่เชื่อลองถามดู

ผมเองก็แทบอัตตวิบาตมาแล้ว

แต่พอผ่านพ้น

ก็แค่นั้นเอง

ที่เราทุกข์เพราะเรายอมทำตัวเป็นเป้า

ลองไม่ยอมทำตัวเป็นเป้าให้ความทุกข์ดูซิ

อย่างมากก็โดนแค่กาย ไม่โดนที่ใจแน่นอน

นี่คือสงครามวิบากที่เราต้องชนะ

ขอท่านจงมีอินทรีย์ มีพละที่จะชนะด้วยเทอญ

ตอบเมื่อ: 09 ก.ย. 2008, 8:29 pm

ทุกท่านกล่าวไว้ดีแล้ว

เป็นกำลังใจให้ละกันครับ

สาธุ

ตอบเมื่อ: 09 ก.ย. 2008, 10:25 pm

เห็นด้วยกับคุณเมธี อย่างยิ่งค่ะ

สาธุ

ตอบเมื่อ: 09 ก.ย. 2008, 11:24 pm

คุณมีห่วงครับ

ผมบอกคุณตรงๆ จะเชื่อหรือไม่แล้วแต่คุณ

1. ผมถอดจิตวิญญาณ และกายทิพย์ได้ ในโลกวิญญาณนั้นเราก็มีขันธ์ 5 เหมือนกัน

2. พวกเราไม่เคยตาย เพราะเราเป็นจิตวิญญาณ เราเพียงแต่สลับไป
สลับมากับการเกิดบนโลก และการเกิดในปรโลก

3. ผมเจอวิญญาณมานับแสนดวง จึงรู้ดีเกี่ยวกับวิญญาณในปรโลก มี
อะไรคุณถามผมได้ครับ

ตอบเมื่อ: 09 ก.ย. 2008, 11:38 pm

มีห่วง พิมพ์ว่า:

อยากทราบว่า ชีวิตหลังความตายเป็นอย่างไร ตายแล้วยังดูแลลูกได้หรือเปล่า

ท่านใดมีความรู้ว่า ท่านที่เจริญ โปรดทำบุญสักครั้ง โปรดแนะนำ หากเรามีห่วง ลูกยังเล็กอยู่ เมื่อเราตายไปแล้ว จะทำอย่างไร มีทางใดที่จะทำให้เรายังสามารถติดต่อโลกนี้ได้หรือไม่ ห่วงลูก

ไม่สามารถปล่อยวางได้ ขอท่านผู้เจริญได้โปรดช่วยแนะนำ

บาปกรรมใดๆ ขอให้เกิดแก่เรา ติดตามไปแต่เรา ไม่ขอสู่สุขติ ขอท่านผู้เจริญโปรดจงแนะนำ หากจำเป็นต้องตาย หากเราตั้งจิตให้ยังอยู่กับโลกนี้ จะยังสามารถติดต่อกับลูกได้หรือไม่

ขอกราบขอบพระคุณ

ไม่มีใครเคยตาย คุณห่วงลูกไปก็ไม่มีประโยชน์ ทุกคนมีบุญมีกรรมที่ทำเอาไว้เป็นเครื่องดูแล

ผมว่าคุณบอกชื่อลูกคุณมา ผมจะแผ่เมตตาให้กับเขา เ ชีวิตของเขาจะดีขึ้นมาก ส่วนคุณ
ผมก็จะแผ่เมตตาให้ ตอนนี้คุณยังไม่รู้ว่าผมเป็นใคร แต่เมื่อคุณตายไป คุณ
สามารถถามพระยายมราชดูได้ว่า พลังการแผ่เมตตาของผมมีพลังแรงกล้าเพียงใด ผมเป็นของจริงครับ วิญญาณพม่าเป็นแสนดวงที่ตายจากพายุนากิส ผมยังแผ่เมตตาให้พวกเขาเกือบ 10 ครั้งใน 5 วัน วิญญาณทุกดวงจึงไปได้

ตอบเมื่อ: 09 ก.ย. 2008, 11:49 pm

มีห่วง พิมพ์ว่า:

ไม่ได้กลัวความตาย แต่มีห่วง

หากไม่มีห่วง ความตายคือทางออก ทางแก้ไขปัญหา ความตายคือความสุข เพราะทุกวันนี้ทุกข์เหลือเกิน ตายไปแล้วสบาย ทนเจ็บนิดเดียว แล้วไม่ต้องทุกข์ ไม่รู้ว่าการมีชีวิตอยู่คือการชดใช้กรรมหรือไม่

ขอท่านผู้เจริญ โปรดแนะทางสว่าง

ความทุกข์อยู่ที่จิตไปคิดปรุงแต่งเรื่องราวในชีวิตเอาเอง เช่น เป็นโรคเอดส์ ทรมาน
ก็อยากตาย ตายไปแล้วสบาย ทนเจ็บนิดเดียว แล้วไม่ต้องทุกข์ แต่หารู้ไม่คุณจะ
ต้องฆ่าตัวตายในโลกวิญญาณอีกอาจจะ 10,000 ครั้ง แล้วก้ต้องใช้กรรมในปรโลก
ต่อไปอีก พอหมดกรรม มาเกิดก็จะจำสัญญาเก่า และฆ่าตัวตายอีก ทรมารหนัก
เข้าไปอีก

ทุกคนที่เกิดมาไม่ว่าจนหรือรวย ต่างก็ล้วนแล้วแต่มีทุกข์ทั้งนั้น จะหมดทุกข์ได้ ต้องหยุดความคิดปรุงแต่งของตัวเอง ไปบวชแล้วนั่งกรรมฐานก็ได้ ไม่ว่าทุกข์เรื่อง
ใดๆจะคลายลง เป็นหนี้ 100 ล้าน พอทำกรรมฐานก็พบทางออก ขายทรัพย์ใช้หนี้หมด มีชีวิตพอเพียง

คนเราเกิดมา มีแต่บุญบาปเท่านั้นติดตัวมา อย่างอื่นไม่มีมาด้วย เราจึงไม่มีอะไรจะเสีย

ตอบเมื่อ: 09 ก.ย. 2008, 11:59 pm

คามินธรรม พิมพ์ว่า:

คุณเจ้าของกระทู้ครับ

นรกสวรรค์มีจริงหรือไม่ ชีวิตหลังความตายเป็นอย่างไร
เราที่นี้ ไม่มีใครบอกได้แบบฟันธงเหมือนตาเห็นเอง
ไม่มีเลย

ถ้าจะมีคนฟันธงเรื่องนรกสรรค์ ก็จะมีคน 3 ประเภท
1. พระพุทธเจ้า -
2. คนที่กำลังจะบ้า
3. คนที่ฟังพระพุทธเจ้ามา

บ้า

....ผมฟันธงได้ครับว่านรกสวรรค์มีจริง ชีวิตหลังความตายมีจริง ที่นั่นมีแต่บุญเท่า
นั้นที่เป็นที่พึ่ง เห็นได้ชัดกว่าในโลก ในโลกยังคิดว่า เราขยัน ฉลาด ฯลฯ จึงมี
เงิน แต่จริงๆ ที่มีเงินเพราะบุญเก่าของเรานำมาให้

ผมไม่ได้บ้า และไม่ได้ฟังพระพุทธเจ้าเล่า แต่ผมไปดูมาเอง ติดต่อวิญญาณทุกวัน ตั้งแต่ผีนรก จนถึงเทพ พรหม ฯลฯ

ตอบเมื่อ: 10 ก.ย. 2008, 9:57 am

ทัศนะของคุณเฉลิมศักดิ์กับคุณพลศักดิ์ใกล้เคียงกัน หรือคุณเฉลิมศักดิ์ว่า

ไงครับประเด็นนี้ ยิ้ม

ตอบเมื่อ: 10 ก.ย. 2008, 10:25 am

คุณ มีห่วง ครับ

ผมก็มีลูกเพิ่งเรียน ป.๒

พาเค้าทำบุญบ่อย ๆ ครับ
เพราะมั่นใจว่าบุญกุศลที่เราพาเค้าทำ
เมื่อเวลาเราไม่อยู่กับเค้า
บุญกุศลนั้นจะสามารถช่วยเค้าได้ยามจำเป็นครับ

ทุกคืนก่อนนอนสอนให้เค้าสวดมนต์ นั่งสมาธิทุกคืน
เข้าวัดทำบุญอย่างน้อยทุกสัปดาห์

และสอนให้เค้ามีศีลครับ
เค้ารู้จักศีลห้าและประพฤติได้หมด

พาเค้าทำให้ครบครับ ทั้ง ทาน ศีล ภาวนา

มีครั้งนึงเค้ามองหน้าผม
เค้าบอกว่า เห็นสมองของพ่อ

นี่ครับผลของสมาธิ

ตอบเมื่อ: 10 ก.ย. 2008, 2:25 pm

คุณมีห่วงคับ

ผมไม่มีความรู้ไร ที่พอจะแนะนำได้
แต่ผมขอส่งกำลังใจ เอาใจช่วยคับ ยิ้ม

ตอบเมื่อ: 10 ก.ย. 2008, 9:55 pm

กรัชกาย พิมพ์ว่า:

ทัศนะของคุณเฉลิมศักดิ์กับคุณพลศักดิ์ใกล้เคียงกัน หรือคุณเฉลิมศักดิ์ว่า

ไงครับประเด็นนี้ ยิ้ม

ผมพลศักดิ์ ก็คือ พลศักดิ์ ผมไม่เคยรู้จักคุณเฉลิมศักดิ์ แต่เคยอ่านข้อเขียนของเขา
ในเว็บต่างๆ ถ้าคุณเฉลิมศักดิ์มีประสพการณ์ด้านวิญญาณมามาก ก็ต้องรู้เห็นใกล้เคียงกับผม

ตอบเมื่อ: 11 ก.ย. 2008, 3:14 pm

ขออนุญาตแนะนำ

ถึงตาย ก็ไม่พ้นทุกข์ และแน่นอนว่า ต้องทุกข์หนักกว่า

ที่เป็นอยู่

ตอบเมื่อ: 11 ก.ย. 2008, 11:09 pm

มีชีพ ก็มีห่วง ดุจะบ่วงประแจมือ
สิ้นชีพ ก็สิ้นถือ ทิฐิสิ้นสุบินหวัง

ไม่ทราบจำมาผิดหรือเปล่านะ ผิดตกขออภัยด้วยแล้วกัน