สงสัยเรื่องภพชาติค่ะ

ตอบเมื่อ: 17 ก.พ.2008, 11:30 pm

มีข้อสงสัยเรื่องภพชาติค่ะว่าถ้าเราเคยสัญญาไว้กับใครคนหนึ่งว่าเราจะรักและติดตามกันไปทุกๆ ชาติ แล้วมันจะมีผลยังไง และขณะนี้รู้สึกว่าได้พบเจอคนที่เคยสัญญากันไว้คนนั้น แต่บังเอิญว่าทั้งเขา และเราต่างก็มีครอบครัวแล้ว แต่เราไม่ได้คิดจะทำผิดใดๆ เราสัญญากันด้วยชีวิตว่าเราจะรอจนกว่าจะถึงเวลาของเรา โดยเราจะทำหน้าที่ปัจจุบันของเราให้ดีที่สุด แม้ว่าทั้งชีวิตนี้เราจะไม่ได้ใช้ชีวิตร่วมกัน เราก็จะยังคงรักกันตลอดไป และจะขอตามไปเจอกันอีกในชาติต่อไป อยากทราบว่าสัญญานี้จะมีผลยังไงต่อไป แล้วถ้าเขาคือคนที่เคยสัญญากันไว้ตั้งแต่อดีตชาติ ทำไมชาตินี้ถึงไม่ได้พบเจอและได้ใช้ชีวิตร่วมกัน แล้วคู่ชีวิตของเราและเขาคือใคร มายังไง เราจะสามารถพิสูจน์ข้อข้องใจทั้งหมดนี้ได้หรือไม่ ใครจะพาไปพิสูจน์เรื่องนี้ได้บ้าง???????
สงสัย

ตอบเมื่อ: 18 ก.พ.2008, 8:27 am

เรื่องภพชาติในความหมายนี้ เรื่องใหญ่ครับคุณมินตรา เกินวิสัยมนุษย์ปุถุชนทุกคนครับ

แต่...แหม ! มีอิจฉาเล็กๆ อายหน้าแดง

อยากรู้จัง มีเหตุการณ์อะไรคุณจึงมั่นใจว่า

คนๆนี้ คือ คนที่เคยสัญญากันไว้ในอดีตชาติ

รึว่า ...ปัจจุบันเคยช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ให้คำปรึกษากันในทุกๆ เรื่องได้ พูดคุยกันถูกคอ

มีบ้างไหมครับ

ตอบเมื่อ: 18 ก.พ.2008, 10:04 am

........ที่ทำให้มั่นใจว่าเขาคือคนที่ใช่ เพราะรู้สึกตลอดมาตั้งแต่จำความได้ว่าตัวเองกำลังตามหาใครบางคนอยู่ แล้วก็มารู้จักเขา โดยการติดต่อกันทางอินเตอร์เน็ต และทางโทรศัพท์
.......แรก ๆ ต่างก็งงงันในความรู้สึกของตัวเองทั้งสองฝ่ายว่าทำไมเราเพิ่งรู้จักกันไม่นาน แต่รู้สึกรักและผูกพันธ์กันมาก แต่เราสองคนยังไม่ยอมรับในความรู้สึกของตัวเอง เพราะต่างฝ่ายต่างก็มั่นคงในสถานภาพของตัวเอง ต่างก็มั่นใจว่าเราจะไม่คิดนอกใจคู่ชีวิตของเรา แต่ยิ่งได้พูดคุยยิ่งรู้สึกว่าเขาคือคนที่ใช่
.......เราสามารถรับรู้ความรู้สึกของกันและกันได้ เหมือนมีสัมผัสที่ 6 ซึ่งตัวเราเองนั้นมีอยู่บ้างแล้ว กับบางคน และบางเรื่อง แต่เขาไม่เคยมี นอกจากจะสัมผัสได้ถึงวิญญาณอะไรแบบนั้น แต่เขาไม่เคยสัมผัสทางจิตกับใคร ๆ ได้เลย จนมาพบเรา เหมือนเราเป็นคนเปิดประตูทางจิตให้เขารับรู้ได้ เขาเองก็ไม่เข้าใจว่ามันเป็นไปได้อย่างไร เพราะทั้งเราและเขาแทบจะรู้ความคิดของกันและกัน เหมือนเป็นตัวเราเอง เราจะรู้ในใจตลอดเวลาว่าขณะนี้อีกคนกำลังมีทุกข์ หรือสุขใจ และเราจะรู้สึกได้ไม่ต่างกัน ทั้ง ๆ ที่อยู่ไกลกันมาก ไม่เคยได้พบเจอกันเลย
.......และตัวเขาเองชอบฝันถึงเรื่องราวในอดีตชาติ ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่านั่นเป็นแค่ความฝันที่ไร้สาระหรือไม่ หรือว่ามันคือความจริง แต่บางเหตุการณ์มันมาพ้องกับที่เราเคยรู้สึกตลอดมา เช่นเรื่องที่เราพยายามหาคำตอบตลอดมาก่อนที่จะรู้จักเขาด้วยซ้ำว่าทำไมเราชอบฝันถึงเรื่องที่ว่าเรากำลังจมน้ำ เพราะเราเป็นคนชอบเล่นน้ำ และว่ายน้ำเก่ง แต่จะกลัวมาก ๆ เวลาที่มองลงไปในน้ำกว้าง ๆ ในตอนกลางคืนที่พระจันทร์สว่าง และมองเห็นท้องฟ้าในน้ำ มันจะเป็นความรู้สึกหวาดกลัวฝังใจมาก ๆ จนอยากจะหาคำตอบว่าเพราะอะไรต้องกลัวขนาดนั้น แต่เราไม่เคยเล่าให้เขาฟัง จนเขามาเล่าความฝันให้ฟังว่าเราจมน้ำตาย และเขาเป็นคนมาช่วยเอาศพขึ้นจากน้ำ และจะมีบางชื่อที่แว๊บเข้ามาในความรู้สึก ทั้งเราและเขา
......อีกความฝันหนึ่งของเขาคือ เขาฝันว่าเขาเป็นเจ้าเมือง ตัวเขาเองมีชื่อว่า ปุญญ และมีนางสนมใส่ชุดขาว 4 คน และเราเป็นหนึ่งในนั้น อันนี้ก็ทำให้สงสัยมากว่ามันจริงเท็จแค่ไหน หรือว่าเราสองคนเป็นบ้าไปแล้ว และขณะที่คุยกันเราจะรู้สึกเหมือนว่าเราเคยได้สัญญากันไว้แบบนี้ บางคำพูดมันเหมือนทวนคำพูดของตัวเอง เรามีความรู้สึกเหมือนว่าเรากำลังจะตาย แล้วเขาสัญญาให้ได้ยินว่าเขาจะรัก และดูแลเราตลอดไป ซึ่งอันนี้ถ้าพูดไป คนอื่น ๆ อาจจะหาว่าเราบ้า แต่มันรู้สึกได้แบบนั้นจริง ๆ
......เราสองคนสงสัยมากว่า ทั้งหมดนั้นคือเรื่องจริงที่เคยเกิดขึ้น หรือแค่จินตนาการ หรือว่ามันเป็นความรู้สึกที่หลอกตัวเองให้เชื่อตามนั้น จึงอยากหาคำตอบที่แท้จริงค่ะ ขณะนี้รู้สึกสับสนกับชีวิตมาก และสงสัยว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น เพราะเราสัญญากันว่าเราจะรอจนกว่าจะถึงเวลาของเรา ถ้าเราใช่ก็จะได้มาใช้ชีวิตร่วมกัน แต่เราจะไม่ทอดทิ้งคู่ชีวิตปัจจุบันของเราเพื่อหนีไปหาอีกคน เราจะปล่อยให้ชะตาชีวิตเป็นคนพาไป โดยมีเงื่อนไขว่า ถ้าเราจะได้มาอยู่ร่วมกันก็คือคู่ชีวิตของเราได้ตายจากไปเท่านั้น หรือไม่ก็อาจจะมีเหตุการณ์อื่นทำให้เราอยู่กับคู่ชีวิตของเราไม่ได้ แต่ไม่ใช่เป็นเพราะเราดิ้นรนที่จะไปอยู่ด้วยกัน และเราสัญญากันว่าถ้าชาตินี้ไม่ได้พบเจอ เราจะขอตามไปเจอกันในชาติหน้า แต่เท่าที่รู้สึกว่าได้ตามหาเขามาเนิ่นนานก็เหนื่อยพอแล้ว ๆ ยังจะไปเที่ยวตามหากันในชาติต่อไปอีกหรือ แล้วเมื่อไหร่มันจะจบสิ้น
......แล้วถ้าเราเคยเป็นคู่ชีวิตกัน เคยสัญญากันไว้ แล้วใยชาตินี้จึงเพิ่งมารู้จักกัน ตอนที่มันสายเกินไป

ตอบเมื่อ: 18 ก.พ.2008, 8:43 pm

ฯลฯ.............เป็นกฎของกรรม..............ฯลฯ

ตอบเมื่อ: 18 ก.พ.2008, 10:40 pm

นี่แหละคือเหตุผลที่ว่า ทำไม่จึงไม่ควรอธิษฐานในสิ่งที่เป็นกิเลส

สวดมนต์ไหว้พระแล้วขอถอนคำอธิษฐาน คำสาบานที่จะติดตามคู่ของตน จากภพชาติอื่น (ลองไปอ่านเรื่อง ทางเอก ของอาจารย์สนอง วรอุไร ดูจะมีเรื่องนี้)

ผีเสื้อ

ตอบเมื่อ: 19 ก.พ.2008, 5:25 am

นั่งกรรมฐาน ดีไหมคะ จะให้ดีไปสถานที่ที่มีการสอน เพื่อให้ผู้รู้จะได้แนะนำค่ะ

ไม่แนะนำให้แก้ปัญหาโดยปรึกษาหมอดูนะคะ

ตอบเมื่อ: 19 ก.พ.2008, 8:14 am

เป็น อจินไตย

นอกเสีย จาก จะได้ อตีตังสญาณ หรือ ปุพเพนิวาสานุสติญาณ

ตอบเมื่อ: 19 ก.พ.2008, 11:22 am

กำลังสับสนในชีวิตว่า ระหว่างการที่มีคนที่เรารักด้วยดวงจิต ด้วยวิญญาณ ด้วยชีวิตทั้งชีวิตที่มีอยู่ และเขาก็รู้สึกไม่ต่างจากเรา แต่มันมีผลกระทบต่อผู้คนรอบด้านอีกหลายคน และในความเป็นปุถุชนที่ยังตัดกิเลส ตัณหาไม่ได้ เราจะทำยังไงกับสถานการณ์นี้ ถ้าจะให้ตัดเลยก็ตัดไม่ได้ แต่ถ้าจะให้ไปแย่งเขามาก็ไม่คิดจะทำ และระหว่างความสุขที่ได้รัก กับความทรมานกับการรอคอย ความลำบากที่จะได้พูดคุย ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ตอนนี้ทุกอย่างกำลังตีกันวุ่นวายอยู่ในใจไปหมด สรุปว่าตอนนี้เหมือนคนกำลังเดินหลับตาในความมืด และไม่รู้ว่าสิ่งรอบตัวมีอะไรบ้าง เดินไปแล้วจะชนกับอะไรแตกหัก เสียหายบ้าง หรือว่าเดิน ๆ ไปแล้วอาจจะหล่นลงไปโดยไม่รู้ตัว จะทำฉันใดดีหนอ

ตอบเมื่อ: 19 ก.พ.2008, 12:43 pm

ไม่เคยเห็นหน้าค่าตากันและกันมาก่อน ได้ฟังแต่เสียงกันและกัน

ไม่แน่นักครับ พบกันอาจไม่รุนแรงดังคาดก็ได้ ความคิดอาจเปลี่ยน โลกแห่งความคิดไม่มี

อะไรแน่นอน

ตอบเมื่อ: 20 ก.พ.2008, 8:03 am

ต้องขอออกตัวก่อนน่ะค่ะ..คือดิฉันคิดไปตามแบบฉบับของตัวเองน่ะคะ..การที่คนเรารู้สึกผูกพันกันมันไม่ผิดหรอกค่ะ..จะเป็นภพชาตินี้ หรือชาติที่แล้วก็ตาม แต่ชาติที่แล้วเราปถุชนคนธรรมดาไม่สามารถพิสูจน์ได้ (ถึงแม้ตัวเองจะเชื่อเรื่องนี้มากก็ตาม) แต่เราควรจะอยู่กับปัจจุบันมากกว่าน่ะคะดูแลครอบครัว เป็นภรรยาที่ดีของสามี เป็นแม่ที่ดีของลูก ปฏิบัติตามศิล 5 อย่างเคร่งครัด จะเป็นหนทางเจริญมากกว่า แต่ถ้าเค้าและคุณเป็นคู่กันตั้งแต่ชาติที่แล้ว ก็คงจะได้เป็นคู่กันในชาตินี้ แต่ปัจจุบันเค้าและคุณมีคนที่ต้องดูแล มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ หันกลับมาดูแลครอบครัวตัวเองดีกว่าน่ะค่ะ เพราะสิ่งที่คุณสงสัย จะทำให้คนอยู่ใกล้เจ็ดปวด.....แต่ก็ขอยินดีน่ะคะ อย่างน้อยคูณก็มีคนที่เข้าใจ พูดคุยเรื่องที่คุณไม่สบายใจ พูดคุยเรื่องเดียวกันได้ สวดมนต์ นั่งสมาธิซิคะ จะได้ใช้กรรมเก่าด้วยไง... ยิ้ม

ตอบเมื่อ: 20 ก.พ.2008, 8:06 am

ต้องขอออกตัวก่อนน่ะค่ะ..คือดิฉันคิดไปตามแบบฉบับของตัวเองน่ะคะ..การที่คนเรารู้สึกผูกพันกันมันไม่ผิดหรอกค่ะ..จะเป็นภพชาตินี้ หรือชาติที่แล้วก็ตาม แต่ชาติที่แล้วเราปถุชนคนธรรมดาไม่สามารถพิสูจน์ได้ (ถึงแม้ตัวเองจะเชื่อเรื่องนี้มากก็ตาม) แต่เราควรจะอยู่กับปัจจุบันมากกว่าน่ะคะดูแลครอบครัว เป็นภรรยาที่ดีของสามี เป็นแม่ที่ดีของลูก ปฏิบัติตามศิล 5 อย่างเคร่งครัด จะเป็นหนทางเจริญมากกว่า แต่ถ้าเค้าและคุณเป็นคู่กันตั้งแต่ชาติที่แล้ว ก็คงจะได้เป็นคู่กันในชาตินี้ แต่ปัจจุบันเค้าและคุณมีคนที่ต้องดูแล มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ หันกลับมาดูแลครอบครัวตัวเองดีกว่าน่ะค่ะ เพราะสิ่งที่คุณสงสัย จะทำให้คนอยู่ใกล้เจ็ดปวด.....แต่ก็ขอยินดีน่ะคะ อย่างน้อยคูณก็มีคนที่เข้าใจ พูดคุยเรื่องที่คุณไม่สบายใจ พูดคุยเรื่องเดียวกันได้ สวดมนต์ นั่งสมาธิซิคะ จะได้ใช้กรรมเก่าด้วยไง... ยิ้ม

ตอบเมื่อ: 20 ก.พ.2008, 9:37 am

.........ขอบคุณสำหรับทุกคำตอบค่ะ ดิฉันคิดว่าเป็นคำแนะนำที่มีค่ามาก และจะพยายามอยู่กับความรู้สึกนี้ให้นิ่งที่สุด เพราะจริง ๆ ก็ไม่ได้คาดหวังถึงกับว่าจะไปใช้ชีวิตร่วมกัน แต่เมื่อมีเหตุการณ์และความรู้สึกรุนแรงขนาดนี้เกิดขึ้นกับชีวิต มันปุบปับ รุนแรง จนทำให้ชีวิตเป๋ไปค่ะ จะพยายามกลับมาเดินบนเส้นทางชีวิตที่ปกติให้ได้
........ส่วนความรู้สึกที่เกิดขึ้น ณ วันนี้จะเก็บไว้เป็นความทรงจำที่ดี เพราะในชีวิตหนึ่ง บนเส้นทางชีวิตอันเหนื่อยล้า และยาวไกล ในท่ามกลางผู้คนมากมาย คงไม่ง่ายนักที่จะได้พบเจอคนที่เราคิดว่าเราหามาทั้งชีวิต
........สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้น มันจะผิดแค่ใจเท่านั้นค่ะ เพราะเราทั้งสองยึดมั่นในปัจจุบัน และสัญญากันแล้วว่าจะไม่ทำผิดไปมากกว่านี้ ปัจจุบันก็ลดการติดต่อพูดคุย ต่างฝ่ายต่างหันกลับมาดูแลปัจจุบันของตัวเอง แต่คงต้องใช้เวลาปรับสภาพจิตใจ
........ขอบคุณสำหรับทุกความหวังดี และทุกกำลังใจค่ะ สาธุ

ตอบเมื่อ: 22 ก.พ.2008, 1:58 pm

ได้อ่านข้อความแล้วก็น่าเห็นใจนะคะ........ตอนนี้ก็มีความรู้สึกเดียวกันเลย เศร้า

ส่วนตัวดิฉันแล้ว..มันก้อคิดได้2.แง่นะคะ ผีเสื้อ

แง่ที่1.คือ.........ถ้าเราเคยเป็นคู่กันจริง..ไม่ว่าวันไหน..นานแค่ไหน..อยู่ที่ไหนบนโลกใบนี้..เราก็สามารถรักกันได้ค่ะ ยิ้ม

ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะอะไร..ถ้าอย่างที่คุณบอกถ้าคุณและเค้าสามารถเข้าใจกันทุกๆอย่างแล้ว.........ไม่มีอะไรที่ขัดแย้งกันเลย..ว่าอะไรก็ว่าตามกัน..นานๆๆๆต่อไปในอนาคตข้างหน้าแล้ว..เชื่อค่ะว่าคุณต้องเคยทำบุญร่วมกันมาเพียงแต่ตอนนี้ยังมีกรรมติดอยู่แค่นั้น สาธุ

เวลาค่ะ..เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจธ์ทั้งหมด.................เคยได้ยินมาว่าถ้าคนเราสามารถคบ+เข้าใจกัน+อยู่ด้วยกันได้นานอย่างน้อย 4.ปี....นี่คืออย่างน้อยที่สุดนะคะ....ผลวิจัย.ทางวิทยาศาสตร์....และเชื่อว่าคงต้องเป็นหลักของธรรมมะด้วยอ่ะนะ.. แลบลิ้น

นั่นแหล่ะคือคนที่เราเคยทำบุญร่วมกันมากับเค้า..............แต่กรรมไงคะ จะจัดสรร ให้เป็นอย่างไรในชาตินี้..ก็ต้องรอดูกันต่อไปค่ะ ร้องไห้

แง่ที่.2. คือ....เค้าไม่ใช่ของๆเราค่ะ ร้องไห้

............อย่างที่เค้าบอกไงคะ.........ของๆเรายังไงก็เป็นของเรา.....ถ้าไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ อืมม์

ทุกวันนี้ก็ทุกข์ใจเหมือนกันค่ะ.มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆด้วย.สับสน.....เพราะก็มีครอบครัวแล้วเหมือนกัน ก็พยายามจะคิดไปในทางที่ดีแหล่ะค่ะ.......แล้วเราก็สอนเค้าด้วยนะ..ถ้ารักกันจริงแล้วไม่ว่าจะอยู่ในฐานะอะไร มันก็คือรักไม่ใช่หรือคะ เศร้า

รักที่บริสุทธิ์.....ไงคะ..รักคือการเสียสละ......คือรักที่ดิฉันคิดว่ายิ่งใหญ่จริงๆค่ะ.........เพราะเมื่อก่อนนี้ก็ไม่เคยยอมใครเหมือนกัน....อยากได้อะไรก็จะพยายามเอามาเป็นของๆเราให้ได้ หลับ

แต่ธรรมมะค่ะที่ช่วยให้เข้าใจชีวิตมากขึ้น...ปลงได้บ้าง แต่ก้ยังเป็นคนมีชีวิตจิตใจอ่ะนะ..มีกิเลสอยู่ คิดว่าทำได้เท่านี้ก็หรูแล้ว สำหรับตัวเอง..... ซึ้ง

ปลงค่ะต้องปลงให้ได้......ทุกสิ่งทุกอย่างมันมีเวลาของตัวมันเองค่ะ.....เชื่อสิ สาธุ

ตอบเมื่อ: 22 ก.พ.2008, 3:31 pm

หมั่นให้ทาน รักษาศีล เจริญจิตภาวนา ตามหลักไตรสิกขา
ให้มาก ให้บ่อย ให้ต่อเนื่อง เพื่อสร้างบารมีให้กับตนเอง

เรื่องความรัก หากมีเพื่อส่งเสริมการสร้างบารมี ก็ถือว่ามีส่วนดี และมีประโยชน์มาก
หากมีความรักเพื่อสิ่งอื่นๆ นอกนั้น ถือว่ามีส่วนดี และมีประโยชน์น้อยอ่ะค่ะ

ตอบเมื่อ: 23 ก.พ.2008, 9:05 pm

ใช่ค่ะเห็นด้วยกับคุณ.ใบโพธิ์.... ยิ้ม

เพราะที่ผ่านๆมาก็พยายามทำเช่นนั้นเหมือนกันค่ะ ผีเสื้อ

ตอบเมื่อ: 24 ก.พ.2008, 1:15 pm

ที่ชาตินี้เป็นเช่นนี้ เพราะบุญเก่าเป็นเหตุ รับรู้ เข้าใจ ไม่มีตัวตนทั้งเขาและเรา ถ้ากรรมระหว่างกันยังมี คงหนีไม่พ้นที่จะต้องเผชิญ เป็นกำลังใจให้

ตอบเมื่อ: 01 มี.ค.2008, 1:21 am

ภพชาติไม่ใช่หนทางไปสู่การดับทุกข์...อย่าไปใส่ใจไร้สาระเปล่ๆ

ตอบเมื่อ: 06 มี.ค.2008, 12:09 pm

เป็นข้อความที่ น่าสนใจมากครับ... แต่คุณจำได้จริงอย่างนั้นหรือเปล่า ไม่มีใครตอบได้นอกจากตัวคุณเอง เรื่องของสัญญา และการเจริญสติ ที่จะข้ามภพข้ามชาตินั้นเป็นของคู่กันครับ ที่ผมพูดอย่างนี้ผมไม่ได้พูดตามตำราหรืออธิบายตามภาษานะ ขอรับ ก็ไม่รู้ว่าคุณเองจำได้ตั้งแต่เกิดออกมาจากท้องแม่หรือเปล่า นะครับ เรื่องแบบนี้ไม่ใช่ว่าจะไม่มีวิธีพิสูจน์ครับ แต่พิสูจน์ได้เฉพาะตัวผู้จำได้หรือมีสัญญายาวนานขนาดนั้นได้ เท่านั้น ขอรับ เพราะมีองค์ประกอบมาก อาศัยความเพียรมาก (ก่อนอื่นคุณต้องทิ้งสมมุติในภาษาและสมมุติของโลกก่อนนะครับ เพราะสัญญา หรือความจำต่างๆ นั้นมีลักษณะที่ไม่สามารถอธิบายด้วยภาษาสมมุติได้ ปล. ถ้าคุณสามารถที่จะจำได้ตั้งแต่คุณเกิดมาคุณจะเข้าใจเรื่องโลกสมมุติได้ดี ครับ) แต่อีกอย่างหนึ่งคุณอาจคิดไปเองก็ได้นะครับ เพราะมันมี 4 ลักษณะ คือลักษณะในการรัก ๑ ลักษณะอันแสดงความเป็นบุคลนั้น อีก ๑ ลักษณะที่ย้อนกลับมาของความที่เคยมีความรักอีก ๑ ลักษณะในการปักใจ ๑ (ที่ว่าคิดไปเองนี้ไม่ได้มีความหมายตามตัวอักษร นะครับ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเปล่าประโยชน์นะครับ แต่อาจเป็นไปเพื่อความเบื่อหน่ายคลายกำหนัด "ความว่า ผู้ไม่ศึกษาอดีตไม่สมควรมีอนาคต นะขอรับ"

ตอบเมื่อ: 21 มี.ค.2008, 10:13 pm

อันที่จริงเราไม่ควรสัญญา หรือสาบานกับใครในชาตินี้เพราะว่า ไม่แน่เสมอไปว่า ชาติหน้าคุณจะเกิดเป็นอะไร เป็นใคร บางคนเกิดไม่ตรงกันทุกชาติ ถ้าสมมุติว่า ชาตินี้คุณเกิด แล้วเขาคนนั้นยังไม่ได้เกิด ( ถ้าคุณสัญญาว่าจะเกิดเป็นคู่กันทุกชาติไป ) ด้วยแรงอธิษฐานนั้นอาจจะทำให้คุณต้องปราศจากคู่ในชาตินั้นไป หรือ ถ้าคุณเกิดมาชาติเดียวกันก็จริง แต่เป็นเพศเดียวกัน อะไรจะเกิดขึ้น!!! หรือ ถ้าเกิดเป็นคน กับ สัตว์ จะทำอย่างไร ฯลฯ คิดดูนะคะ ทุกข์ไม่มีที่สิ้นสุดเลยคะ ตื่นเต้น

ตอบเมื่อ: 09 เม.ย.2008, 8:30 pm

ต้องขอออกตัวว่า คำว่าคู่แท้หรือคำอื่นมากมายกายกอง ทุกคนต้องมีคู่แท้ผมว่าไม่จริง น่าจะใช้ว่าเราอยากมีคู่แท้มากกว่า เรื่องของคุณผู้หญิงข้างต้นผมว่าแล้วแต่จะคิดนะ ถ้าคุณเป็นคู่แท้ ทำไมชาตินี้ถึงไม่ได้เป็นคู่กันเพราะเหตุผลอย่างไร หรืออาจจะมีกรรมมาบังซะก่อน บางทีเรื่องหลายๆอย่างเราอาจจะคิดไปเองก็ได้ไม่ว่าจะความรู้สึกสัมผัสที่ 6 อะไรก็แล้วแต่จะคิด