ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
suthat
บัวผลิหน่อ
เข้าร่วม: 05 ส.ค. 2008
ตอบ: 1
|
ตอบเมื่อ:
05 ส.ค. 2008, 10:59 pm |
|
ก็อยากให้เรื่องนี้กระจ่างสักที จะได้รู้กันว่าที่ทำๆ กันมามันผิดหรือถูก ต้องทำการสอบถาม (ธรรมเป็นหลัก) ใครเป็นหลักด้านไหนก็ช่วยกันสอบ ไม่ใช่ตัดสินแบบตอนนี้อยู่โดยไม่ให้สอบ แต่จะสึกท่าเดียว ถ้าถูกศาสนาจะอยู่ต่ออีกถึง 5000 ปีแน่ๆ ช่วยกันหน่อยครับชาวพุทธ ต้องให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ต้องกระจ่าง |
|
|
|
|
|
ขันธ์
บัวบานเต็มที่
เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520
|
ตอบเมื่อ:
05 ส.ค. 2008, 11:36 pm |
|
เรื่องอะไรครับ ผมคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องพระเกษมนะ ไม่รู้ใช่หรือไม่ ก็ลองดูเหตุผลดังนี้
ถ้าเรื่องพระเกษม ก็ผิดเต็มประตูอยู่แล้วครับ คือ อวดอุตริมนุสธรรม และ ลบหลู่ดูหมิ่นองค์ศาสดา อาบัติปราชิก ครับ
การอวดอุตริมนุสธรรมอันไม่มีในตน คือ การอ้างธรรมที่ไม่ใช่ธรรม แล้วบอกว่าธรรม อ้างสิ่งที่ไม่มีในตนแล้วบอกว่ามี เพื่อลาภยศ สักการะ ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม
ข้อแรก วิชาโอนบุญที่อ้างว่า สูญหายไปนาน แล้วพระเกษมค้นพบ ข้อนี้ กล่าวอ้างลอยๆ และแสดงให้เห็นว่าในพระไตรปิฎกซึ่งพระอรหันต์มาประชุมกัน สังคยนานั้นตกหล่น วิชานี้ ก็แสดงโดยนัยว่า พระเกษม ดีกว่าพระอรหันต์ทั้งหลาย คิดค้นเองได้
ข้อต่อมา คำสอนที่ห้ามสวดมนต์ เพราะผีเปรตได้ยินแล้วจะไม่พอใจ
ข้อนี้พระเกษม อ้างเอาเองตามสิ่งที่ตนคิด โดยไม่ได้อิงหลักธรรม ซึ่งไม่มีใครไปเห็นได้ว่า ผีเปรต จะพอใจหรือไม่พอใจ อย่างไร เพราะว่า ตามความเป็นจริงแล้ว บทยถา สัพพี ก็ถือเป็นบทสวด ซึ่งแผ่กุศลให้เปรตผี นั้น พระอริยะ ตั้งแต่พุทธกาลก็กระทำกันมา หรือแม้แต่ พระปริตร หรือ บทโพชฌงค์ พระพุทธองค์ก็สรรเสริญ ในพุทธคุณ
ข้อต่อมา พระเกษม อ้างว่า พระพุทธรูป ไม่ต้องไปกราบมัน ข้อนี้ พระเกษม กำลังทำลาย วัตถุอันเป็น เครื่องหมายแห่งศาสนา ให้สูญไป โดยที่ไม่ดูว่า แม้กระทั่ง สมเด็จพระสังฆราช หลวงตามหาบัว และ พระอริยะ ทุกท่านล้วนแล้วแต่กราบไหว้ พระพุทธรูป อันเป็นเครื่องระลึกและสักการะ แต่พระเกษม แสดงความสุดโต่งของความคิด ด้วยการสั่งห้ามกราบ โดยเป็นคำสอนอันไม่เกิดประโยชน์ ทั้งทางธรรมและทางโลก
ข้อต่อมา เมื่อมีมติจาก เจ้าคณะสงฆ์ ซึ่งมีพรรษาอาวุโสกว่า ตักเตือนและข้อร้องให้เอาป้ายออก พระเกษมยังแสดงความดื้อดึง อันเป็นการแสดงให้เห็นว่า ไม่เคารพ มติของสงฆ์ และ สงฆ์ผุ้อาวุโสกว่าเลย อีกทั้งยัง แยกให้พระลูกวัด กระทำการฝ่าฝืน มติ ซึ่งเป็น การยุยงให้หมู่สงฆ์แตกแยกอันเป็นอนันตริยกรรม
ด้วยประการทั้งปวงนี้ พระเกษม เป็นโมฆะบุรุษ ต้องอาบัติปราชิก |
|
_________________ เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์ |
|
|
|
สี บุญมา
บัวพ้นดิน
เข้าร่วม: 02 ม.ค. 2008
ตอบ: 83
|
ตอบเมื่อ:
06 ส.ค. 2008, 12:10 am |
|
ศาสนาพุทธจะสิ้นไป เมื่อเหล่าพุทธบริษัทมัวแต่มองที่ตัวของ
ผู้อื่น ไม่ยอมมองดูจิตตัวเอง พิจรณาตัวเอง
เขาเสื่อม เรื่องของเขา อย่าเอาใจเราเข้าไปเสื่อมกับเขา
พุทธจะไม่สิ้นอรหันต์ ถ้าพุทธบริษัท ศึกษาที่จิตตัวเอง ไม่ใช่ที่ใคร
สาธุ |
|
|
|
|
|
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่
เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
06 ส.ค. 2008, 1:23 am |
|
สี บุญมา พิมพ์ว่า: |
ศาสนาพุทธจะสิ้นไป เมื่อเหล่าพุทธบริษัทมัวแต่มองที่ตัวของ
ผู้อื่น ไม่ยอมมองดูจิตตัวเอง พิจรณาตัวเอง
เขาเสื่อม เรื่องของเขา อย่าเอาใจเราเข้าไปเสื่อมกับเขา
พุทธจะไม่สิ้นอรหันต์ ถ้าพุทธบริษัท ศึกษาที่จิตตัวเอง ไม่ใช่ที่ใคร
สาธุ |
ถูกคับ หนับหนุน |
|
_________________ ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
|
|
|
|
ขันธ์
บัวบานเต็มที่
เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520
|
ตอบเมื่อ:
06 ส.ค. 2008, 9:19 am |
|
อ้างอิงจาก: |
ศาสนาพุทธจะสิ้นไป เมื่อเหล่าพุทธบริษัทมัวแต่มองที่ตัวของ
ผู้อื่น ไม่ยอมมองดูจิตตัวเอง พิจรณาตัวเอง
เขาเสื่อม เรื่องของเขา อย่าเอาใจเราเข้าไปเสื่อมกับเขา
พุทธจะไม่สิ้นอรหันต์ ถ้าพุทธบริษัท ศึกษาที่จิตตัวเอง ไม่ใช่ที่ใคร
สาธุ |
ขอโทษนะครับ พวกคุณหยุดมองไปที่คนอื่นได้แล้วหรือครับ ถึงออกมาพูดแบบนี้
ผมถามว่า หลวงตามหาบัว ท่านออกมาช่วยโลก นี่ท่านเพ่งคนอื่นหรือเปล่า
อะไรเป็นธรรมธรรมก็ว่าตามธรรม แล้วที่พวกคุณออกมามองคนอื่นที่เขาสงสัย
เขาต้องการถาม ความเป็นจริง นี่เรียกว่า ไปมองคนอื่นไหม
อย่ามาตอบกระทู้เลยครับ กลับบ้านไปดูจิตตัวเองเถิด |
|
_________________ เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์ |
|
|
|
natdanai
บัวบาน
เข้าร่วม: 18 เม.ย. 2008
ตอบ: 387
ที่อยู่ (จังหวัด): bangkok
|
ตอบเมื่อ:
06 ส.ค. 2008, 10:01 am |
|
ข้อความของท่านขันธ์
ขอโทษนะครับ พวกคุณหยุดมองไปที่คนอื่นได้แล้วหรือครับ ถึงออกมาพูดแบบนี้
ผมถามว่า หลวงตามหาบัว ท่านออกมาช่วยโลก นี่ท่านเพ่งคนอื่นหรือเปล่า
อะไรเป็นธรรมธรรมก็ว่าตามธรรม แล้วที่พวกคุณออกมามองคนอื่นที่เขาสงสัย
เขาต้องการถาม ความเป็นจริง นี่เรียกว่า ไปมองคนอื่นไหม
อย่ามาตอบกระทู้เลยครับ กลับบ้านไปดูจิตตัวเองเถิด
ทิฏฐิมานะ + วิภวตัณหา + โกรธ + หลง |
|
_________________ ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง |
|
|
|
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่
เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
06 ส.ค. 2008, 11:05 am |
|
ขันธ์ พิมพ์ว่า: |
ขอโทษนะครับ พวกคุณหยุดมองไปที่คนอื่นได้แล้วหรือครับ ถึงออกมาพูดแบบนี้
ผมถามว่า หลวงตามหาบัว ท่านออกมาช่วยโลก นี่ท่านเพ่งคนอื่นหรือเปล่า
อะไรเป็นธรรมธรรมก็ว่าตามธรรม แล้วที่พวกคุณออกมามองคนอื่นที่เขาสงสัย
เขาต้องการถาม ความเป็นจริง นี่เรียกว่า ไปมองคนอื่นไหม
อย่ามาตอบกระทู้เลยครับ กลับบ้านไปดูจิตตัวเองเถิด |
ขออนุญาต เพราะรู้รู้ว่าตัวเองเป็นคราด ที่ถูกกระทบจากการตีวัวนะครับ
การกำจัดพระเกษมไม่ใช่เรื่องยาก มีอีกหมื่นองค์ก็กำจัดได้
ไล่ออกจากผ้าเหลือง ง่ายจะตายไป
แต่การมีคนที่ดูจิต อย่างผม
คนที่มุ่งสติปัฏฐาน มุ่งนิพพาน มุ่งเอกายนมรรคนี่ ไม่ใช่ง่ายๆเหมือนไล่คนออกจากผ้าเหลือง
แค่หาคนสนใจก้ยากแล้ว
การสนใจดูตัวเองนี่แหละ ที่พระพุทธเจ้าพร่ำสอนเสมอๆ ไม่ใช่หรือคุณขันธ์ ?
คุณก็มีภูมิธรรมมากอยู่ วินัยก็ดูจะเก่งดี ทำไมมาสอบตกโจทย์อนุบาลแบบนี้?
ถ้าคุณขันธ์ยังคิดว่าพระศาสนาจะดำรงมั่นคงได้ด้วย"ศีล"หรือ?
ไม่ใช่เลย.........
การมีผู้รู้แจ้งในการดุจิต ที่คุณขันธ์พูดทำนองดูถูกนี่แหละ
ที่เป็นหลักประกันความมั่นคงพระศาสนา
เพราะพวกเขา(มุ่งจะ)รู้ชัดแจ้งในเอกายนมรรค
เพราะพวกเขา(มุ่งจะ)รู้ชัดแจ้งสติปัฏฐาน 4
เพราะพวกเขา(มุ่งจะ)รู้ชัดแจ้งในอริยะสัจจ
แต่คุณขันธ์(มุ่งจะ) ไล่พระออกจากผ้าเหลือง
พระเกษมท่านอาจจะเกิดวิปัสนูกิเลสก็ได้
ซึ่งคุณขันธ์ไม่ได้เกิดกิเลสประเภทนี้กับเขาหรอก...
เพราะสงวนสิทธิ์สำหรับพระอรหันต์เท่านั้น.
ถ้าได้พระที่แก่ฌานกว่ามาช่วยแก้ มันก็คลาย
เราก็ได้พระที่อรหันต์ กลับคืนมา
คุณขันธ์เป็นประเภท เห็นม้าขาหัก ฆ่าม้าทิ้งเลย เพราะมันวิ่งไม่ได้เล้ว
แต่ผมมองว่า มันไม่เสมอไป ซ่อมได้ แก้ไขได้ แก้ไม่ได้ก็ไม่ต้องถึงกับฆ่าทิ้ง
คุณขันธ์อย่าไล่ผมกลับไปดูจิตเลย ผมทำอยู่ตลอดเวลา
รวมถึงอโหสิกรรมคุณด้วย ที่วันนี้อาจจะน้ำมันเครื่องฝืด
หรือ อะไรมาไม่ปกติ ก็ว่ากันไป ให้โอกาส
้ท้ายสุดนี้ เรื่องพระเกษม เป็นเรื่องของสงฆ์
เราไม่ยุ่ง นั่นถูกที่สุดแล้ว
แต่พระไม่ควรยุ่งเรื่องเงินทองของชาติ ไม่ใช่หน้าที่
พระพุทธเจ้าไม่เคยยุ่งกับเศรษฐกิจของชาวชมพูทวีป |
|
_________________ ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
|
|
|
|
ขันธ์
บัวบานเต็มที่
เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520
|
ตอบเมื่อ:
06 ส.ค. 2008, 11:44 am |
|
อ้างอิงจาก: |
การสนใจดูตัวเองนี่แหละ ที่พระพุทธเจ้าพร่ำสอนเสมอๆ ไม่ใช่หรือคุณขันธ์ ?
คุณก็มีภูมิธรรมมากอยู่ วินัยก็ดูจะเก่งดี ทำไมมาสอบตกโจทย์อนุบาลแบบนี้?
|
อะไรของคุณ คุณคามิน โดนแค่นี้ คุณออกอาการร้อยแปดหรือ
คุณไปดูสิ่งที่ผมพูดข้อไหนที่ไม่เป็นเหตุผล ในเมื่อคุณขัดแย้งกับตัวเอง
คุณบอกว่า คนอื่นอย่าไปยุ่ง ให้ดูใจตน
ผมก็บอกว่า แล้วคุณมายุ่งกับคนอื่นทำไม
ธรรมะ คือ การเห็นตามความเป็นจริง ใครเขาเป็นอย่างไรดีไม่ดี เราก็พูดตามความเป็นจริง อีกทั้ง
การชี้แจงข้อเท็จจริงให้พุทธบริษัทนั้นคือ การช่วยเหลือพระศาสนา
ไม่ใช่นั่งดูจิต เรื่อยเปื่อยแบบคุณนี่
ไม่รู้อะไรสักอย่าง โดนกระทบเข้าหน่อย ดูเหตุดูผลไม่เป็น |
|
_________________ เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์ |
|
|
|
ขันธ์
บัวบานเต็มที่
เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520
|
ตอบเมื่อ:
06 ส.ค. 2008, 11:48 am |
|
ผมจะพูดให้ฟัง
เรื่องพระเกษม ถ้าจะบอกว่า เป็นเรื่องของพระ
เราไม่ควรไปยุ่ง ผมว่า คุณคิดผิดมาก
เพราะว่า ลูกที่ดี ศิษย์ที่ดี พนักงานที่ดี เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้าบ้าน ก็ควรชี้แจงกัน ไม่ใช่บอกว่า เป็นหน้าที่ของคนนั้นคนนี้
อีกประการหนึ่งคือ ผมไม่ได้มีสิทธิจะไปไล่ พระเกษม แต่ผมต้องพูด
ไม่ใช่เอาแต่ดูจิต อย่างเดียว อย่างอื่นทำไม่เป็น
ดูจิตก็ต้องรู้จักหน้าที่ของตนด้วย ผมทำหน้าที่ของผม แล้วมันไปต้องดูจิตอะไร |
|
_________________ เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์ |
|
|
|
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่
เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
06 ส.ค. 2008, 12:12 pm |
|
ขันธ์ พิมพ์ว่า: |
ผมจะพูดให้ฟัง
เรื่องพระเกษม ถ้าจะบอกว่า เป็นเรื่องของพระ
เราไม่ควรไปยุ่ง ผมว่า คุณคิดผิดมาก
เพราะว่า ลูกที่ดี ศิษย์ที่ดี พนักงานที่ดี เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้าบ้าน ก็ควรชี้แจงกัน ไม่ใช่บอกว่า เป็นหน้าที่ของคนนั้นคนนี้
อีกประการหนึ่งคือ ผมไม่ได้มีสิทธิจะไปไล่ พระเกษม แต่ผมต้องพูด
ไม่ใช่เอาแต่ดูจิต อย่างเดียว อย่างอื่นทำไม่เป็น
ดูจิตก็ต้องรู้จักหน้าที่ของตนด้วย ผมทำหน้าที่ของผม แล้วมันไปต้องดูจิตอะไร |
นั่นสิครับ ใครมีหน้าที่อะไรก็ทำ
คุณสี บุญมา .....จะพูดอะไรก้พูด
ผมเห็นด้วยกะเขา ....... ผมก็พูด จะพูดอะไรก็พูด
คุณจะพูดอะไร ....... คุณก็พูด
เรา 3 คน จะพูดอะไรก็พูด ....
แต่มีคุณคนเดียว ไล่ช่าวบ้านไม่ให้ตอบกระทู้
อ้างอิงจาก: |
อย่ามาตอบกระทู้เลยครับ กลับบ้านไปดูจิตตัวเองเถิด
ขันธ์ - 06 สิงหาคม 2008, 9:19 am
|
... เออ เนาะ .... ผมไม่คิดมาก่อนว่าผมจะพบอะไรอย่างนี้ ......
ใครๆต่อใครว่าแรงๆ เลิศๆ แปลกๆ
ยังไม่แปลกเท่าคุณเลยนะ
ดีแล้วล่ะที่ผมไม่ใช่ "ไม่รู้อะไรสักอย่าง ..... ดูเหตุดูผลไม่เป็น.."... อย่างที่คุณว่าผมอะนะ
เพราะ"ดูเหตุดูผล" แบบคุณขันธ์ + "รู้สักอย่าง" แบบคุณขันธ์
มันไม่มีในการดูจิต
ถ้ามีขึ้นมาล่ะยุ่งเลย ศาสนาพุธ ไม่ต้องรอ 5000 ปีละคับคุณ จขกท
ปีเดียวก็เหี้ยนแล้ว ไม่เหลือแล้ว หมดแล้ว ศาสนาพุทธ |
|
_________________ ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
|
|
|
|
ขันธ์
บัวบานเต็มที่
เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520
|
ตอบเมื่อ:
06 ส.ค. 2008, 1:49 pm |
|
เด็ก จริงๆ
เอาเถอะ ครับ อย่าให้ผมพูดมากเลย รอให้โตกว่านี้ก่อนแล้วกัน |
|
_________________ เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์ |
|
|
|
ขันธ์
บัวบานเต็มที่
เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520
|
ตอบเมื่อ:
06 ส.ค. 2008, 1:53 pm |
|
เอาเป็นว่า ขนาดหลวงตามหาบัว ท่านประเสริฐที่สุดในยุคนี้
คุณ ยังจะพูดเป็นนัยว่า พระมายุ่งกับทรัพย์สินของชาติ
แต่คุณกลับ บอกว่า กรณีพระเกษมเป็นเรื่องของสงฆ์
เด็กจริงๆ แถมโง่ด้วย เหตุผลอะไรก็ขัดกันเอง
บอกว่า ดูจิต ดูจิต จิตตัวเองร้อนเป็นไฟ เต้นออกท่าออกทาง
ตีความไปอย่างนั้นอย่างนี้ ยังจะอวดดี
เอาแค่นี้แล้วกัน ขี้เกียจเถียงกับเด็กอวดดี ดูจิตเก่ง แต่โมโห อัตโนมัต |
|
_________________ เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์ |
|
|
|
เมธี
บัวตูม
เข้าร่วม: 02 มี.ค. 2008
ตอบ: 222
|
ตอบเมื่อ:
06 ส.ค. 2008, 2:26 pm |
|
สี บุญมา พิมพ์ว่า: |
ศาสนาพุทธจะสิ้นไป เมื่อเหล่าพุทธบริษัทมัวแต่มองที่ตัวของ
ผู้อื่น ไม่ยอมมองดูจิตตัวเอง พิจรณาตัวเอง
เขาเสื่อม เรื่องของเขา อย่าเอาใจเราเข้าไปเสื่อมกับเขา
พุทธจะไม่สิ้นอรหันต์ ถ้าพุทธบริษัท ศึกษาที่จิตตัวเอง ไม่ใช่ที่ใคร
สาธุ |
เอ่อ ใจเย็นๆกันหน่อยคร้าบ ขอผมร่วมแสดงความคิดเห็นด้วยครับ
จากข้อความข้างต้นกระผมก็เห็นด้วยนะครับ
แต่ว่า ศาสนาพุทธจะเสื่อมเร็วขึ้นได้(ผม หมายถึง ศาสนาไม่ได้เสื่อมนะครับ ความน่าเลื่อมใสในสายตาปุถุชน ที่ปัญญายังไม่แก่กล้า จะลดน้อยถอยลงต่างหาก) อันเนื่องมาจากเราปล่อยให้เกิดสิ่งผิดปกติขึ้นแล้วไม่มีการทักท้วงใดๆน่ะครับ
พุทธศาสนิกชน มีสิทธิ์ทักท้วง มีสิทธิ์ติเตียนได้ มีสิทธิ์ไม่เลื่อมใส(พระรูปนั้น) เมื่อพระทำผิด
แต่การลงโทษ ควรแล้วที่จะให้คณะสงฆ์ตัดสินใจน่ะครับ
การดูจิตตนเองนั้น ก็เป็นการช่วยจรรโลงพระพุทธศาสนาที่ดีนะครับ
ศาสนาพุทธจะดำรงอยู่ได้นาน ต้องมีทั้งสองอย่างนะครับ จิตก็ดูที่ตนเอง ไม่ต้องไปเพ่งผู้อื่น แต่หน้าที่พุทธศาสนิกชนที่ดีก็ต้องทำ เห็นพระทำผิดก็ควรแจ้งแก่ผู้ที่มีอำนาจจัดการ(คณะสงฆ์) เท่านั้นพอครับ ที่เป็นหน้าที่ที่พึงกระทำ |
|
|
|
|
|
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่
เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
06 ส.ค. 2008, 2:46 pm |
|
ขันธ์ พิมพ์ว่า: |
เอาเป็นว่า ขนาดหลวงตามหาบัว ท่านประเสริฐที่สุดในยุคนี้
คุณ ยังจะพูดเป็นนัยว่า พระมายุ่งกับทรัพย์สินของชาติ
แต่คุณกลับ บอกว่า กรณีพระเกษมเป็นเรื่องของสงฆ์
เด็กจริงๆ แถมโง่ด้วย เหตุผลอะไรก็ขัดกันเอง
บอกว่า ดูจิต ดูจิต จิตตัวเองร้อนเป็นไฟ เต้นออกท่าออกทาง
ตีความไปอย่างนั้นอย่างนี้ ยังจะอวดดี
เอาแค่นี้แล้วกัน ขี้เกียจเถียงกับเด็กอวดดี ดูจิตเก่ง แต่โมโห อัตโนมัต |
คุณขันธ์เคยอ่านสติปัฏฐานสูตรมั๊ย แบบเช็ดแว่นดีๆ อ่านใหม่
เห้นคำว่าจิตเห็นจิตมั๊ย... เห็นนะ เห็นตรงกัน
แล้วจิตข่มจิต ... เห็นมั๊ย? จิตกำจัดจิตนะ ...เห็นมั๊ย?
พอๆ เลิกดู....... ไม่เห็นหรอกทูนหัว ... มันไม่มี๊
ในคำภีร์ เขาใช้คำว่า "ก็รู้ว่า..","ก็เห็นว่า..." นับได้สัก 8 ล้านคำ
แต่ไม่มีสักคำที่บอกว่า "ก็แก้ว่า..", "ก็ข่มว่า.." ไม่มีนะคุณขันธ์
พระพุทธเจ้าไม่ให้แก้นะ... ท่านให้รู้ ให้ดู ให้สังเกตุการณ์ บรรดาสรรพสิ่งที่เกิดขึ้น รวมทั้งอารมณ์โกรธด้วย
จิตมันก็มีธรรมชาติของมัน เราเรียนธรรมชาติของมัน ไม่ได้เข้าไปบังคับ
ดูจิต คือตามดู ไม่ใช่ตามข่มอารมณ์ ตามแก้อารมณ์ หรือ ตามกำจัดอารมณ์
พวกทำเป้นอารมณ์นิ่ง ข้างในอสุรกายก็มี
พวกตวาดๆ แว๊ดๆๆๆ ข้างในอริยะก็เยอะ
อย่างหลวงปู่มั่นชอบด่าลูกศิษย์ด้วย หลวงปู่ขึ้นชื่อเลยล่ะ หนาวกันทุกคน
หลวงพ่อวิริยังค์เคยโดนด่าชนิดที่หลวงพ่อไม่ยอมแปลออกมาเป้นภาษากลางเลยล่ะ หยาบขนาดนั้น
หลวงตาบัวก็เคยตวาดคน ไล่คน มีโมโห ไล่ตะเพิดทองเหลืองก้อน
กายที่แสดงออกเป็นเพียงกริยา
แต่จิตของท่านพระอริยะเหล่านี้ เป้นจิตที่แท้
สะอาดแล้ว ละออกจากจิตเทียมแล้ว
จิตเห็นจิตแจ่มแจ้งแล้ว เป้นอริยะแล้ว
แต่อริยะ โดนพวกผีหลอกใช้ได้เหมือนกัน
พวกผีโหย ผีหิว ข้างๆท่านนั่นแหละ
เอาท่านไปยุ่งทางนู้น ยุ่งทางนี้
ตัวท่าน-จิตท่าน ไม่เสียหรอก น้ำกลิ้งบนใบบอน
เหนือบาปเหนือบุญไปตั้งนานแล้ว คู๊น
ถ้าผมไม่แน่ใจผมพูดอย่างนี้ไม่ได้นะ ป่านนี้ด่าหลวงตาเสียๆหายๆไปแล้ว
เหมือนที่คุณด่าพระเกษมนั่นแหละ บาปหนานะบอกให้ นั่งสมาธิให้ตายก้ไม่บรรลุอะไรทั้งนั้น ด่าพระอรหันต์
หลวงตาบัว เป้นอาจารย์หลวงพ่อปราโมชนะจ๊ะ
ไปถามหลวงตาดุสิ ว่ายอมรับได้ไหม การดูจิตของหลวงปู่ดุลย์
การดูจิตของหลวงพ่อปราโมชเนี่ยะ
ถ้ามันแหกคอก ป่านนี้โดนกำจัดจุดอ่อนไปนานแล้ว
การดูจิต มันเป็นภาษาสมมุติ
แท้จริงแล้ว มันคือหลักสำคัญของสติปัฏฐานสูตร
ถ้าคุณขันธ์ไม่ดูจิต รังเกียจการดูจิต แล้วเที่ยวประกาศตัวจะสอนชาวบ้าน
ผมว่าอันตรายนะ พวกนี้แหละ
ที่เรียกว่าทำสัทธรรมปฏิรูป
ไม่มีใครบรรลุอะไรได้เลย ... ถ้าไม่ดูจิต
อย่าว่าแต่โสดาบันเลย แยกรูปนามยังไม่ได้เล๊ย ...
ละสักกายทิฐิยังไม่ได้เลย
นะ...จ้าววววว...นายยยยย...ย
ไปละ ไปชงนมผงกินก่อน
ดูดจากขวดด้วยนะ หัวยางดูดจู๊บๆอะ เสร็จแล้วก็จะนอนหลับ คาบหัวนมเทียม นอนดูปลาตะเพียนแขวน |
|
_________________ ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
แก้ไขล่าสุดโดย คามินธรรม เมื่อ 06 ส.ค. 2008, 3:07 pm, ทั้งหมด 1 ครั้ง |
|
|
|
ขันธ์
บัวบานเต็มที่
เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520
|
ตอบเมื่อ:
06 ส.ค. 2008, 3:04 pm |
|
เอาเถอะครับ คามิน ถ้าเมื่อไรดูจิตไม่เป็น ดูไม่ออกก็มาถามผมแล้วกัน |
|
_________________ เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์ |
|
|
|
กรัชกาย
บัวแก้ว
เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348
|
ตอบเมื่อ:
06 ส.ค. 2008, 3:36 pm |
|
อ้างอิงจาก: |
ก็อยากให้เรื่องนี้กระจ่างสักที จะได้รู้กันว่าที่ทำๆ กันมามันผิดหรือถูก ต้องทำการสอบถาม (ธรรมเป็นหลัก) ใครเป็นหลักด้านไหนก็ช่วยกันสอบ ไม่ใช่ตัดสินแบบตอนนี้อยู่โดยไม่ให้สอบ แต่จะสึกท่าเดียว ถ้าถูกศาสนาจะอยู่ต่ออีกถึง 5000 ปีแน่ๆ ช่วยกันหน่อยครับชาวพุทธ ต้องให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ต้องกระจ่าง
suthat: 05 สิงหาคม 2008, 10:59 pm |
ไม่ถึงกับสึกกระมังครับ คุณ suthat เพราะไม่ผิดวินัยร้ายแรง
ดังที่เจ้าคณะ กทม. กล่าวดังนี้ =>
พระพรหมมุณี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร ฝ่ายธรรมยุติ ระบุว่า กรณีพระเกษม คณะปกครองทำได้เพียงตักเตือนเพราะการเชิญชวนไม่ให้ประชาชน กราบไหว้พระพุทธรูป ไม่ผิดพระธรรมวินัยร้ายแรง และทำได้เพียงบอกกล่าวถึงความเหมาะสม ซึ่งเป็นความลำบากของคณะปกครองเช่นกัน ดังนั้นการจะจับสึกจึงทำได้ยาก แม้สังคมจะมองว่าผิด
และไม่อยากให้ชาวพุทธ เสื่อมถอยความเลื่อมใสในศาสนา เพียงพระประพฤติไม่เหมาะสม เนื่องจากหลักพระพุทธศาสนา ไม่ได้เสื่อมตามตัวบุคคล และต้องช่วยกันดูแล สนับสนุนพระสงฆ์ที่ประพฤติดี ประพฤติถูกต้อง
http://board.palungjit.com/showthread.php?t=142803 |
|
_________________ สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา |
|
|
|
กรัชกาย
บัวแก้ว
เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348
|
ตอบเมื่อ:
06 ส.ค. 2008, 3:43 pm |
|
ความเลื่อมใสศรัทธา ชาวพุทธไม่พึงยึดในบุคคลเหนี่ยวแน่นเกินไป
ยึดธรรมเป็นที่พึ่ง มีธรรมเป็นที่เคารพ แล้วจะไม่หวั่นไหว เศร้าเสียใจ
ว่า หลวงปู่ฉัน หลวงพ่อของข้าฯ หลวงตาของฉัน อาจารย์ของ
ข้า ฯ ฯลฯ ถูกอัปเปหิออกจากหมู่แล้ว ถูกจับสึกเสียแล้ว มรณะภาพ
ไปเสียแล้ว แล้วทีนี้ฉันจะทำยังไง ต่อไปฉันจะมีใครเป็นที่
พึง
พึงมีธรรมเป็นที่พึ่งเถิด |
|
_________________ สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา |
|
|
|
ขันธ์
บัวบานเต็มที่
เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520
|
ตอบเมื่อ:
06 ส.ค. 2008, 3:53 pm |
|
คุณกรัชกรายครับ ความจริงแล้ว พระเกษมผิด ในข้อ อวดอุตริมนุสสธรรม เป็นขั้นปาราชิกแล้วครับ แต่พระผู้ใหญ่ ท่านเมตตา ข้อนี้
ให้ดูธรรม ของพระเกษม ไม่ว่าจะเป็น การด่า การทำลายพระพุทธรูป
การอ้างว่าเหาะเหินเดินอากาศ
การอ้างธรรมอันไม่ใช่ธรรม
มีอีกหลายประการ แต่ไม่มีพระผู้ใหญ่ท่านใด อยากจะทำลายหรอกครับ
ไม่เหมือนกับทางโลก
อ้างอิงจาก: |
เพราะการเชิญชวนไม่ให้ประชาชน กราบไหว้พระพุทธรูป ไม่ผิดพระธรรมวินัยร้ายแรง และทำได้เพียงบอกกล่าวถึงความเหมาะสม ซึ่งเป็นความลำบากของคณะปกครองเช่นกัน ดังนั้นการจะจับสึกจึงทำได้ยาก แม้สังคมจะมองว่าผิดและไม่อยากให้ชาวพุทธ เสื่อมถอยความเลื่อมใสในศาสนา เพียงพระประพฤติไม่เหมาะสม เนื่องจากหลักพระพุทธศาสนา ไม่ได้เสื่อมตามตัวบุคคล และต้องช่วยกันดูแล สนับสนุนพระสงฆ์ที่ประพฤติดี ประพฤติถูกต้อง |
หากพิจารณาเพียงแค่เรื่อง ไม่เคารพ บูชาพระพุทธรูป นี้ก็เอาผิดไม่ได้ ถูกต้อง
แต่หากท่านจะย้อนกลับไปมอง ในคำสอนต่างๆ ของพระเกษม ก็ย่อมทำได้ในข้อ อวดอุตริมนุสสธรรม เช่นการอ้างว่า เป็นที่รักของเทวดา
มองเห็นพูดคุยกับสัตว์นรก ห้ามสวดมนต์ เหล่านี้เป็นการอวดอุตริมนุสธรรมทั้งสิ้น
แต่ใครจะทำ เนื่องจาก เมตตาและอุเบกขาเป็นเครื่องยังจิต ให้พระท่านไม่ทำลายด้วยการจับสึก |
|
_________________ เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์ |
|
|
|
กรัชกาย
บัวแก้ว
เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348
|
ตอบเมื่อ:
06 ส.ค. 2008, 4:23 pm |
|
อ้างอิงจาก: |
การด่า การทำลายพระพุทธรูป
การอ้างว่าเหาะเหินเดินอากาศ
การอ้างธรรมอันไม่ใช่ธรรม |
ข้อความประมาณคุณขันธ์นำมาดังกล่าว
กรัชกายไม่เห็นไม่เคยอ่านจากที่ใดๆ เลย
พอๆเห็นตามข่าวว่าท่านสอนให้เบิกบุญโอนบุญให้เชื้อโรคประมาณเนี้ย
อ้อ..และไม่ให้พุทธศาสนิกชนไหว้พระพุทธปฏิมา
ที่ถึงกับ
อ้างอิงจาก: |
การด่า การทำลายพระพุทธรูป
การอ้างว่าเหาะเหินเดินอากาศ |
เกินขอบเขตพุทธบุตรแล้วล่ะครับ
ยิ่งทำลายพระพุทธรูปด้วย ก็ไม่ต่างจาก ตาลีบัน
กลุ่มนอกศาสนา |
|
_________________ สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา |
|
|
|
สี บุญมา
บัวพ้นดิน
เข้าร่วม: 02 ม.ค. 2008
ตอบ: 83
|
ตอบเมื่อ:
06 ส.ค. 2008, 4:53 pm |
|
น่ากลัวจัง แนะไม่ได้ ให้ความเห็นไม่ได้
ขันธ์หนักเกินไปเสียแล้ว คงต้องปล่อยไป
นัยย์ของหลวงตาที่ท่านอ้างบ่อยๆนั้น
หลวงตาท่านดูจิตตนเองจนเกิดปัญญา
เข้าใจแล้ว สว่างแล้ว หลวงตาท่านจึง
ออกมาสอนโลก เมตตาโลก
ทำไม อะไร ทำให้ขันธ์คิดว่าตัวเองเหมือน
หลวงตา ถึงเอาท่านมาอ้าง
แย่นะท่าน
ข้าพเจ้าคงจะไม่ตอบกระทู้ต่อนะ จิตตกเสียเปล่า
สาธุ |
|
|
|
|
|
|