Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
จิตป่วย รู้..บำบัดก่อนสาย
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
นานาสาระ
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ฌาณ
บัวเงิน
เข้าร่วม: 23 ก.ค. 2008
ตอบ: 1145
ที่อยู่ (จังหวัด): หิมพานต์
ตอบเมื่อ: 22 ก.ย. 2008, 10:05 pm
ในความเจ็บป่วยทางจิตที่มีการกล่าวกัน
การป่วยทางจิตเวชค่อนข้างกว้างมีหลาย โรคด้วยกันไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมลักเล็กขโมยน้อย ซึมเศร้า ย้ำคิดย้ำทำ ฯลฯ พญ.สมรัก ชูวานิชวงศ์ จิตแพทย์ โรงพยาบาลศรีธัญญา
หัวหน้าโครงการให้การศึกษาแก่สาธารณชนเครือข่ายและครอบครัวผู้ป่วยจิตเวชให้ความรู้พร้อมเพิ่มเติมว่า
โรคทางจิตหากโฟกัสเข้ามาจะย่อเข้ามาภายใต้ร่มของจิตเวช ซึ่งจิตของคนเรามีหน้าที่เกี่ยวกับการคิด การรับรู้ความ รู้สึก
ขณะที่สภาพสังคมโลกาภิวัตน์การมีข้อมูลมาก บริโภคมาก
แต่ เกราะป้องกัน มีอยู่น้อย หากดำเนินชีวิตอยู่อย่างพอเหมาะพอเพียงก็จะไม่เกิดทุกข์ การพัฒนาทางด้านจิตใจจะช่วยให้มีเกราะป้องกันที่ดีดำเนินชีวิตได้เหมาะสมมี ความสุข
ความเครียดในการดำเนินชีวิต
สภาพ เศรษฐกิจ สังคมเวลานี้อาจไม่ใช่สาเหตุของการเจ็บป่วยทางจิตเสียทีเดียว สาเหตุที่ทำให้เกิดความเจ็บป่วยทางจิตมีด้วยกันหลายปัจจัยประกอบกัน สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนเป็นเรื่องของกรรมพันธุ์ที่มีมาตั้งแต่กำเนิด
ซึ่งหากครอบครัวใดมีโรคเหล่านี้อยู่
ใน ตัวเองก็จะถ่ายทอดทำให้กลุ่มคนเหล่านั้นมีความเสี่ยงมากกว่า และยิ่งเมื่อเจอะเจอกับปัญหาความเครียดที่ไปกระตุ้น สิ่งที่ได้รับการถ่ายทอดมาก็จะทำให้พัฒนาเกิดเป็นอาการของโรคจิตเวชได้เร็ว ขึ้น เป็นต้น
สถานการณ์ทั้งหลายที่เกิดขึ้นจึงเป็นตัวกระตุ้นให้โรคปรากฏ
อีก ทั้งสภาพสังคมที่อยู่กันอย่างหลวม ๆ ไม่แน่นแฟ้น เหมือนเดิมก็อาจทำให้การดูแล รักษาไม่เข้มแข็ง ทำให้ผู้ที่ป่วย ไม่สามารถฟื้นคืนมาได้ดีเท่าที่ควร สิ่งที่เป็นอยู่ในสังคม
ขณะที่ทุกคนได้รับผลกระทบแต่ก็ใช่ว่าจะมีอาการป่วยทางจิต
ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นตัวกระตุ้นเร้ามากกว่าซึ่งหากไปกระทบจุดบอดที่ซ่อนอยู่ก็จะทำให้โรคที่มีอยู่ปรากฏขึ้นมา
ในร่างกายของเราทุก อวัยวะมีสิทธิที่จะชำรุดทรุดโทรมและหากอวัยวะไหนป่วยก็จะแสดงอาการเหล่านั้นออกมา เช่นเดียวกับจิตใจที่ป่วย
อย่าง ระบบหัวใจป่วยก็จะมี ความบกพร่องในการสูบฉีด โลหิต สมองที่ควบคุมความ คิด ความรู้สึกพฤติกรรมป่วย พฤติกรรมความคิดของคนคน นั้นก็จะแสดงอาการ
หากมีการยอมรับการเจ็บป่วยและการป่วยเหล่านั้น
ได้ รับการรักษาที่ทันท่วงทีก็จะไม่เกิดความยากลำบากในการรักษา แต่ที่ผ่านมายังมีความเข้าใจผิดกันในเรื่องนี้และอยู่บนความเชื่อเดิม ๆ
ย้ำถึงการเจ็บทางจิตว่า เป็นสิ่งที่น่าอาย ดังนั้นไม่ว่าใครก็ตามที่เริ่มแสดง อาการเจ็บป่วยก็จะพยายามหนีการรักษา
อารมณ์ความคิดของคนเรามีผลต่อพฤติกรรม
เมื่อ มีความสุขก็จะทำอะไรที่สร้างสรรค์ แต่ถ้าเศร้าเซ็งก็จะแสดง ออกในทางตรงข้าม คนที่อยู่ใกล้ชิดจะสังเกตได้ถึงพฤติกรรม ที่เปลี่ยนแปลงไป
ซึ่งถ้าพฤติกรรมเหล่านั้นเพิ่มมากก็อาจเป็นสัญญาณอย่างหนึ่งที่ทำ ให้เห็นถึงความผิดปกติ เป็นภาวะอย่างหนึ่งทางจิตใจ
แต่การจะกลับไปสู่ที่เดิมได้เป็นเรื่องสำคัญ
ผู้ป่วยควรได้รับการดูแลเหมือนคนไข้ ทั่วไป มีผู้ป่วยไม่น้อยที่สามารถ ควบคุมตนเองได้
แต่ก็มีอีกส่วนที่มีอาการคุมไม่ไหว
มี อาการหลุดให้คนใกล้ชิดสัมผัสและอย่างที่อธิบายโรคทางจิตไม่ได้หมายความว่าจะ ต้องคลุ้มคลั่ง พูดไม่รู้เรื่อง แต่เมื่อเขาอยู่ในอาการนั้นความคิดของเขาจะแปลผลผิดไป
กำลังใจควบคู่กับความเข้าใจจึงเป็นสิ่งสำคัญ
ที่ จะช่วยคืนคุณค่าเกียรติยศให้กับผู้ป่วยเหล่านี้ให้กลับมายืนอยู่ที่เดิม อยู่ร่วมกับคนในสังคมได้ การเปิดใจเรียนรู้ ไม่ติดอยู่ในอคติอยู่ในความโมเมขาดความเข้าใจจะไม่ทำให้สูญเสียทรัพยากร บุคคลที่มีคุณค่าไป
การดูแลสุขภาพทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจจึงต้องเคียงคู่กัน
ซึ่ง โดยพื้นฐานควรพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียดว้าวุ่น รวมถึงอาจฝึกความ คิดให้คิดในสิ่งที่ดีทำดี แต่เมื่อมีความผิดปกติ เกิดขึ้นก็ควรได้รับการตรวจรักษา ต้องยอมรับมีความรู้เข้าใจเพื่อทันการแก้ไข
อีกทั้งควรเป็นกำลังใจให้กับผู้เจ็บป่วยได้ฟื้นคืนกลับมาเป็นคนเดิม มีความสุขกับครอบครัวดำเนินชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีสุข.
_________________
ผมจะพยายามให้ได้ดาวครบ 10 ดวงครับ
บัวหิมะ
บัวเงิน
เข้าร่วม: 26 มิ.ย. 2008
ตอบ: 1273
ตอบเมื่อ: 26 ก.ย. 2008, 2:51 pm
โมทนาสาธุด้วย น้องฌาณ ที่นำเรื่องนี้มาเผยแพร่
แต่ส่วนใหญ่ ที่ทราบมาจากผู้รู้จัก ผู้ป่วยมักจะไม่รู้ตัว อาจมีบ้างที่รู้ตัว
กรณีไม่รุนแรง ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของผู้อยู่ใกล้ชิด หรือญาติพี่น้อง ที่จะต้องคอยสังเกตุพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของเขา เพื่อที่จะได้รีบเยียวยา ต่อไป
ธรรมะสวัสดีค่ะ
_________________
ชีวิตที่เหลือเพื่อธรรมะ
ฌาณ
บัวเงิน
เข้าร่วม: 23 ก.ค. 2008
ตอบ: 1145
ที่อยู่ (จังหวัด): หิมพานต์
ตอบเมื่อ: 26 ก.ย. 2008, 10:59 pm
_________________
ผมจะพยายามให้ได้ดาวครบ 10 ดวงครับ
บัวหิมะ
บัวเงิน
เข้าร่วม: 26 มิ.ย. 2008
ตอบ: 1273
ตอบเมื่อ: 30 ก.ย. 2008, 5:14 pm
_________________
ชีวิตที่เหลือเพื่อธรรมะ
ฌาณ
บัวเงิน
เข้าร่วม: 23 ก.ค. 2008
ตอบ: 1145
ที่อยู่ (จังหวัด): หิมพานต์
ตอบเมื่อ: 05 ต.ค.2008, 10:06 pm
ผมตามมาแล้วนะพี่ๆ
_________________
ผมจะพยายามให้ได้ดาวครบ 10 ดวงครับ
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
นานาสาระ
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th