ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
Buddha
บัวบาน

เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2007
ตอบ: 415
|
ตอบเมื่อ:
21 ก.ย. 2008, 12:48 pm |
  |
สวัสดีทุกท่าน ผู้เจริญในธรรม
กระทู้นี้ เป็นกระทู้ที่ข้าพเจ้าตั้งใจที่จะอธิบาย และแนะนำให้ท่านทั้งหลาย ผู้เกี่ยวข้องกับศาสนาพุทธ ไม่ว่าจะครองเรือนอยู่ในฐานะ ฐานันดร หรือตำแหน่งหน้าที่ ใดใดก็ตาม ให้เกิดความเข้าใจ เกิดความรู้ เกี่ยวกับธรรมะในทางศาสนาพุทธที่ถูกต้อง และเป็นบรรทัดฐาน เป็นแนวทางอันหนึ่งอันเดียวกัน
ดังนั้น หากท่านทั้งหลายได้อ่าน ได้ศึกษา ก็จงใช้หลักธรรมะในข้อ ระลึก และ ดำริ อย่างยิ่งยวด อย่าได้มีความคิดความเห็นว่า ข้าพเจ้าขัดแยัง หรือคัดค้านสิ่งที่มีอยู่เดิม เป็นอันขาด ท่านทั้งหลายต้องทำความเข้าใจไว้อย่างหนึ่งว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีมานานแล้วนั้น ล้วนต้องได้รับการพัฒนา เพื่อให้ทันสมัย ทันยุค ทันเหตุการณ์ สามารถเข้ากันได้ กับยุคสมัย หรือสังคมสิ่งแวดล้อม รวมไปถึง ระบบนิเวศน์วิทยา ในแต่ละยุคแต่ละสมัย ได้อย่างกลมกลืนและลงตัว ...
ธรรมะ ในทางศาสนา ในที่นี้จะหมายเอาศาสนาพุทธ เพราะเป็นศาสนาประจำชาติไทย อีกทั้งข้าพเจ้าเอง ก็นับถือศาสนาพุทธ จึงไม่ขอกล่าวถึงธรรมะในศาสนาอื่น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ธรรมะในศาสนาอื่นๆจะไม่มีนะขอรับ ศาสนาทุกศาสนา ก็ย่อมล้วนมีธรรมะ หรือจะเรียกว่าหลักการก็คงไม่ผิด
ธรรมะ ในพุทธศาสนานั้น ทุกท่านล้วนมีความเข้าใจผิดๆ ในธรรมะที่มีอยู่ เหตุเพราะไม่ได้รับการพัฒนา และไม่ได้รับการแก้ไขให้ถูกต้อง จึงเกิดความเข้าใจผิดมาโดยตลอด เพราะแท้ที่จริงแล้ว ธรรมะ ในพุทธศาสนานั้น คือ หลักความจริงในการดำรงชีวิตของมนุษย์ สัตว์ พืช และอื่นๆ ธรรมะในศาสนาพุทธ เป็นหลักการที่แสดงให้มนุษย์ทั้งหลายได้รู้ว่า อะไรคือสิ่งที่ทำให้เกิดความทุกข์ อะไรเป็นเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ อะไรเป็นสิ่งที่ให้ถึงความดับทุกข์ และอะไร คือหนทางแห่งความดับทุกข์ หรือจะเรียกตามตำราว่า "อริยะสัจจสี่" ก็ดูจะเกิดความเข้าใจได้ง่ายขึ้น
ธรรมะในศาสนาพุทธ ทุกข้อ ล้วนเป็นอริยสัจสี่ เหมือนกันทุกข้อ เพราะธรรมชาติของมนุษย์นั้น สิ่งที่เป็นทุกข์ ก็ย่อมเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ อีกทั้งย่อมทำให้ถึงซึ่งความดับทุกข์ และย่อมเป็นหนทางแห่งความดับทุกข์
มาถึงตอนนี้ ท่านทั้งหลาย ควรได้ใช้หลักธรรมะ ในข้อ ระลึก และ ดำริ พิจารณาตามให้ดีว่า ธรรมะ ล้วน เป็นอริยสัจสี่จริงหรือไม่
ยกตัวอย่าง ข้อธรรมะ ที่เรียกว่า ระลึก และ ดำริ หากท่านทั้งหลายรู้ความหมาย และเข้าใจความหมายของคำว่า ระลึก และ ดำริ แล้ว ก็ลองทำความเข้าใจ ลองพิจารณาดูซิว่า ระลึก และ ดำริ อันเป็นข้อธรรมะทางศาสนาพุทธนี้ เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดทุกข์ จริงหรือไม่ (1)
แล้วก็พิจารณาต่อไปอีกว่า ระลึกและดำรินี้ เป็นเหตุที่ทำให้เกิด ทุกข์ ได้อย่างไร (2)
แล้วก็พิจารณาต่อไปอีกว่า ระลึกและดำรินี้ เป็นเหตุที่ทำให้ถึงความดับทุกข์ ใช่หรือไม่(3) ในข้อที่สามที่ ต้องพิจารณาให้เกิดความเข้าใจ เพราะมันเป็นเรื่องของการเขียนภาษา หากไม่เข้าใจ ความหมายในข้อธรรมะก็จะผิดเพี้ยนไป ตามแต่ความเข้าใจของแต่ละบุคคล ดังนั้นเพื่อบรรทัดฐาน และเพื่อความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน หรือแบบเดียวกัน ทางด้านความเข้าใจ จึงต้องให้ท่านทั้งหลายทำความเข้าใจให้ดี เพราะข้อ 3 ก็จะคล้ายกับข้อ 1 เมื่อเกิดความเข้าใจแล้ว
ก็พิจารณาต่อไปว่า ระลึกและดำริ นี้ เป็นหนทางแห่งความดับทุกข์ ได้อย่างไร (4)
ที่ได้กล่าวไปทั้งข้างต้น เป็นเพียงการยกตัวอย่าง หลักธรรมะ และวิธีทำความเข้าใจในหลักธรรมะในทางศาสนาพุทธ ชั้นพื้นฐาน อันเริ่มจาก ธรรมชาติ ของมนุษย์ ฯ ที่ทุกท่านสามารถพิสูจน์ได้ด้วยตัวเอง เป็นอันดับแรก
เพื่อท่านทั้งหลายได้พิจารณา จนเกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้ และลึกซึ้งแล้ว ก็จะรู้เองว่า ธรรมะในข้ออื่น เกิดขึ้นได้อย่างไร มีผลเป็นอย่างไร ทุกข์ หรือ ดับทุกข์ได้อย่างไร เป็นขั้นเป็นตอนไป
ในที่นี้ ข้าพเจ้า ได้อธิบาย และทำความเข้าใจ หรือ ได้สร้างบรรทัดฐาน ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน หรือแบบเดียวกัน ในหลักธรรมะแห่งศาสนาพุทธ เพื่อให้ทุกท่าน ทุกฐานันดร ทุกตำแหน่งหน้าที่ ได้พิจารณาตามหลักความจริงแล้ว
จบตอน |
|
|
|
  |
 |
natdanai
บัวบาน

เข้าร่วม: 18 เม.ย. 2008
ตอบ: 387
ที่อยู่ (จังหวัด): bangkok
|
ตอบเมื่อ:
21 ก.ย. 2008, 1:39 pm |
  |
หายไปนานนะครับท่าน....แต่ก็กลับมาพร้อมกับบทความดีๆให้พิจารณาเหมือนเดิมนะครับ...  |
|
_________________ ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง |
|
    |
 |
Buddha
บัวบาน

เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2007
ตอบ: 415
|
ตอบเมื่อ:
22 ก.ย. 2008, 8:40 am |
  |
เข้ามาเป็นระยะ ระยะ ขอรับ ขึ้นอยู่กับสถานะการณ์ และปัจจัยอื่นๆขอรับ
ขอให้ท่านทั้งหลายได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วน และพิจารณาให้ลึกซึ้ง ถ้าจะเอาสิ่งที่มีอยู่ในตำรามาพิจารณาเปรียบเทียบด้วย ก็ไม่เสียหายขอรับ
เพราะสิ่งที่ข้าพเจ้าสร้างขึ้นเพื่อเป็นบรรทัดฐาน เพื่อความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และแบบเดียวกันนี้ ไม่ใช่เป็นสิ่งคัดค้าน หรือขัด กับสิ่งที่มีอยู่เดิม อย่างแน่นอน พิจารณาเถิด แล้วปัญญาจะเกิด
อริยะบุคคล ก็จะเกิดตามมา อย่างแน่นอน
โปรดติดตาม ตอนต่อไป ขอรับ |
|
|
|
  |
 |
เมธี
บัวตูม

เข้าร่วม: 02 มี.ค. 2008
ตอบ: 222
|
ตอบเมื่อ:
22 ก.ย. 2008, 10:23 am |
  |
ธรรมะทั้งหลายที่พระพุทธเจ้าตรัสสอน (ใบไม้ในกำมือ)
เป็นการสอนเพื่อดับทุกข์ทั้งสิ้น
เพราะฉะนั้นจึงมีความเกี่ยวข้องกับ อริยสัจ 4 อย่างแน่นอน
 |
|
|
|
    |
 |
บุญชัย
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 29 ก.ค. 2008
ตอบ: 568
ที่อยู่ (จังหวัด): สงขลา
|
ตอบเมื่อ:
22 ก.ย. 2008, 3:34 pm |
  |
ธรรมะทั้งหลายที่พระพุทธเจ้าตรัสสอน
คือ สิ่งที่มีอยู่แล้วไม่ถูกเปลี่ยนแปลง
รู้จักนำ มาใช้ |
|
_________________ ทำดีทุกทุกวัน |
|
   |
 |
Buddha
บัวบาน

เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2007
ตอบ: 415
|
ตอบเมื่อ:
24 ก.ย. 2008, 8:51 pm |
  |
มนุษย์ ทุกเชื้อชาติ ศาสนา ล้วนย่อมต้องมีความคิด
แต่จะคิด เพื่อให้เกิดความสบายใจ หรือจะคิดให้เกิด ความไม่สบายใจ ก็ขึ้นอยู่กับ การได้รับการขัดเกลา ทางสังคมสิ่งแวดล้อม และกรรมพันธุ์ ของแต่ละบุคคล เพราะ ในแต่ละบุคคล ล้วนย่อมได้รับการขัดเกลาทางสังคมสิ่งแวดล้อม และกรรมพันธุ์ ที่แตกต่างจากกัน
การได้อ่านภาษา ประโยคเดียวกัน หรือการได้ฟังภาษาเดียวกัน ประโยคเดียวกัน บุคคลก็อาจมีความเข้าใจ ที่แตกต่างจากกัน
ดังนั้น ความรู้ ความเข้าใจ ในเรื่อง ของธรรมะ ตามหลักศาสนาพุทธ ย่อมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง สำหรับ ทุกคน ทุกฐานันดร ทุกตำแหน่ง ทุกหน้าที่
หากทุกคน มีความรู้ ความเข้าใจ หลักธรรม ในศาสนาพุทธ เป็นบรรทัดฐานเดียวกัน แบบเดียวกัน เหมือนกัน หลักธรรม ในศาสนาพุทธ ก็ย่อมถูกถ่ายทอด ไปยัง รุ่นลูก รุ่นหลาน รุ่นเหลน โหลน ไม่มีผิดเพี้ยน
จึงขอให้ทุกท่าน ได้พิจารณาในเรื่องนี้ให้ดี |
|
|
|
  |
 |
ฌาณ
บัวเงิน


เข้าร่วม: 23 ก.ค. 2008
ตอบ: 1145
ที่อยู่ (จังหวัด): หิมพานต์
|
ตอบเมื่อ:
24 ก.ย. 2008, 9:35 pm |
  |
 |
|
_________________ ผมจะพยายามให้ได้ดาวครบ 10 ดวงครับ |
|
  |
 |
บัวหิมะ
บัวเงิน


เข้าร่วม: 26 มิ.ย. 2008
ตอบ: 1273
|
ตอบเมื่อ:
25 ก.ย. 2008, 9:02 am |
  |
ขอบคุณที่ให้ความรู้ ขอให้เจริญในธรรมนะจ๊ะ  |
|
_________________ ชีวิตที่เหลือเพื่อธรรมะ |
|
  |
 |
บัวหิมะ
บัวเงิน


เข้าร่วม: 26 มิ.ย. 2008
ตอบ: 1273
|
ตอบเมื่อ:
25 ก.ย. 2008, 9:05 am |
  |
อนุโมทนาบุญด้วยจ้า Buddha  |
|
_________________ ชีวิตที่เหลือเพื่อธรรมะ |
|
  |
 |
Buddha
บัวบาน

เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2007
ตอบ: 415
|
ตอบเมื่อ:
25 ก.ย. 2008, 9:27 am |
  |
ความรู้ ไม่ใช่เป็นกฎเกณฑ์ ตายตัว สำหรับการคิด พิจารณา
ในที่นี้หมายความว่า
ความรู้ที่ข้าพเจ้าได้สร้างขึ้นเป็นบรรทัดฐาน เกี่ยวกับธรรมะ ในศาสนาพุทธนี้
มี กฎเกณฑ์ ตายตัว สำหรับ ตัวธรรมะ หรือข้อธรรมะ หรือตัวที่เป็นหลักธรรมะ
แต่ไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัว สำหรับการแยกแยะรายละเอียด เพราะการแยกแยะรายละเอียดนั้น จะทำให้ผู้ปฏิบัติ เกิดประสบการณ์ เกิดความรู้ความเข้าใจ จนกลายเป็นสัญชาตญาณ จนกลายเป็นกลไกอัตโนมัติ
ความไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัว ในการแยกแยะรายละเอียด ย่อมเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันในทุกภาคส่วนแห่งวิชาการทั้งหลาย |
|
|
|
  |
 |
บุญชัย
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 29 ก.ค. 2008
ตอบ: 568
ที่อยู่ (จังหวัด): สงขลา
|
ตอบเมื่อ:
25 ก.ย. 2008, 12:29 pm |
  |
ครับขอบคุณมากเลยครับ |
|
_________________ ทำดีทุกทุกวัน |
|
   |
 |
Buddha
บัวบาน

เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2007
ตอบ: 415
|
ตอบเมื่อ:
25 ก.ย. 2008, 3:23 pm |
  |
ไม่เป็นไร มิได้ ขอรับ
เพียงท่านทั้งหลายได้ยึดมั่นในหลักบรรทัดฐานเอาไว้
ความรู้ ความเข้าใจ ในหลักธรรมะ แห่งพุทธศาสนา ย่อมเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เหมือนกัน และไม่นอกเหนือจากกฏเกณฑ์ ธรรมชาติ แต่สามารถนำพาท่านทั้งหลาย ให้หลุดพ้นจากวัฏสงสาร (ในที่นี้จะไม่เขียนว่า หลุดพ้นจากกฏเกณฑ์ของธรรมชาติ เพราะ ยังเป้นเรื่องที่ต้องพิสูจน์อีกนาน )ฉะนี้ |
|
|
|
  |
 |
บุญชัย
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 29 ก.ค. 2008
ตอบ: 568
ที่อยู่ (จังหวัด): สงขลา
|
ตอบเมื่อ:
25 ก.ย. 2008, 5:13 pm |
  |
จะพยายปฏิบัติต่อไปครับขอบพระคุณครับ |
|
_________________ ทำดีทุกทุกวัน |
|
   |
 |
Buddha
บัวบาน

เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2007
ตอบ: 415
|
ตอบเมื่อ:
26 ก.ย. 2008, 9:13 pm |
  |
บุญชัย พิมพ์ว่า: |
จะพยายปฏิบัติต่อไปครับขอบพระคุณครับ |
ขอรับ และอย่าลืม ขอบพระคุณ ทีมงาน เวบมาสเตอร์ ธรรมจักร เน็ท ด้วยนะขอรับ |
|
|
|
  |
 |
บุญชัย
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 29 ก.ค. 2008
ตอบ: 568
ที่อยู่ (จังหวัด): สงขลา
|
ตอบเมื่อ:
27 ก.ย. 2008, 9:39 am |
  |
ขอบพระคุณ ทีมงาน เวบมาสเตอร์ ธรรมจักร เน็ท ด้วยนะครับ |
|
_________________ ทำดีทุกทุกวัน |
|
   |
 |
Buddha
บัวบาน

เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2007
ตอบ: 415
|
ตอบเมื่อ:
29 ก.ย. 2008, 9:49 pm |
  |
ย้ำเตือนทุกท่านที่สนใจ และใส่ใจในหลักธรรมะ อันเป็นบรรทัดฐานแห่งพุทธศาสนา
ให้พิจารณาให้ดีและรอบคอบ ช้าๆ จะพิจารณาเปรียบเทียบกับสิ่งที่มีอยู่เดิม ก็ไม่ผิดขอรับ เพราะถ้าเข้าใจดีแล้ว พิจารณาดีแล้ว ก็จะพบคำตอบว่า
หลักบรรทัดฐาน ที่ข้าพเจ้าสร้างขี้นมานี้ มิใช่เป็นการคัดค้านสิ่งที่มีอยู่เดิม ถ้าท่านทั้งหลายคิดได้ เข้าใจได้ ก็อาจบรรลุมรรคผล ได้ทุกทั่วตัวคน ขอรับ |
|
|
|
  |
 |
บุญชัย
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 29 ก.ค. 2008
ตอบ: 568
ที่อยู่ (จังหวัด): สงขลา
|
ตอบเมื่อ:
30 ก.ย. 2008, 9:14 am |
  |
ขอบพระคุณครับ |
|
_________________ ทำดีทุกทุกวัน |
|
   |
 |
|