Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 “กฎแห่งแรงดึงดูด” (Law of Attraction) อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
กิตติพันธ์
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 48

ตอบตอบเมื่อ: 13 ก.ย. 2008, 8:50 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ในตอนท้าย (ลองอ่านความคิดเห็นที่ 2 ดูมันคือเคล็ดลับสำคัญ) อ่านได้ที่
http://ajarnvason.igetweb.com/index.php?mo=3&art=98572
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
บัวหิมะ
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 26 มิ.ย. 2008
ตอบ: 1273

ตอบตอบเมื่อ: 13 ก.ย. 2008, 10:50 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขึ้นอยู่กับความเชื่อ ความศรัทธา ของแต่ละบุคคล ว่าจะมีมากขนาดไหน ด้วยกระมังจ๊ะ อืมม์ ยิ้ม สู้ สู้
 

_________________
ชีวิตที่เหลือเพื่อธรรมะ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 13 ก.ย. 2008, 11:24 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

มันมั่วๆยังไงไม่รู้นะ

กฏแรงดึงดูดทางกายภาพ(รูป) มันก็มีธรรมชาติของมัน
จิต (นาม) มันก้มีธรรมชาติของมัน

การสังเกตุธรรมชาติที่เป็นไปในโลกของวัตถุ
แล้วเอาความรู้นั้นมาอธิบายธรรมชาติของจิต
ผมว่ามันคนละเรื่องอะ
จิตมันทีคุณสมบัติของมัน เช่นไม่กินที่ ไม่จำกัดด้วยเวลา
แต่วัตถุกินที่ จำกัดด้วยเวลา

ถ้าจิตมีแรงดึงดูด มีพลังเช่นว่า
มันก้จะเป้นไปด้วยคุณสมบัติของมันเอง
โดยไม่ต้องอาศัยกฏทางกายภาพมาอธิบาย
สรุปคือ เป็นการหาคำตอบที่ผิดวิธี

...............................................

ถ้าไงแง่ตรรกะ
ถ้าเอาคน 100 คน มาเพียรคิดว่าต้องการสิ่งนั้น สิ่งนี้
แล้วเชื่อว่ามันจะเป็นจริงขึ้นมา
100 คนนั้น จะสมหวังดังคิดหรือไม่
คนนั้นคิดได้ผล
คนนี้คิดไม่ได้ผล
ี้จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง
ซึ่งถือว่าไม่มีคุณสมบัติของความเป็นสัจจะ

ถ้าเป็นสัจจะ/เป้นความจริง มันจะต้องจริงทั้ง 100 คนนั้น
เช่น เชื่อว่าการกินอาหาร ช่วยให้หายทรมานจากความหิว
ดังนั้น 100 คนก็กินอาหาร
100 จึงหายหิว
อย่างนี้ถึงเรียกว่าสัจจะ

.............................
แต่เรื่องที่นำมานี้ ผมคิดว่าเป็นความเชื่อที่
ถือว่าเป้นอุบายให้คนคิดดี เอาจิตใจไปอยู่ในเรื่องดีๆ
ทำจิตเป็นกุศล ยังดีกว่ามีอกุศลจิต

เหมือนเปลี่ยนช่องจากละครตบจุบนางอิจฉา
มาดูช่องที่มีรายการให้กำลังใจ ให้ความหวัง
ซึ่งดีสำหรับคนที่ต้องการกำลังใจ
 

_________________
ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ฌาณ
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 23 ก.ค. 2008
ตอบ: 1145
ที่อยู่ (จังหวัด): หิมพานต์

ตอบตอบเมื่อ: 14 ก.ย. 2008, 8:07 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

Image

เป็นแรงอีกชนิดหนึ่งที่มีผลตามระยะทาง มันเป็นแรงดึงดูดระหว่างมวล 2 มวล ตามปกติแรงชนิดนี้จะเป็นแรงที่อ่อนกำลัง แต่ถ้าวัตถุหนึ่งมีขนาดใหญ่โตมาก เช่น โลก แรงโน้มถ่วงจะเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แรงโน้มถ่วงขึ้นอยู่กับระยะห่างของวัตถุ วัตถุยิ่งใกล้กันแรงโน้มถ่วงจะยิ่งมากขึ้น
กฎแรงดึงดูดระหว่างมวลของนิวตัน สรุปได้ว่า วัตถุสองก้อนจะเกิดแรงดึงดูดระหว่างมวลของวัตถุทั้งสองเสมอ โดยขนาดของแรงดึงดูดจะแปรผันตรงกับผลคูณระหว่างมวลของวัตถุทั้งสอง และแปรผกผันกับกำลังสองของระยะระหว่างวัตถุทั้งสองนั้น


F = ( Gm1 m2)/r2

โดย F = แรงดึงดูดระหว่างมวล (N)
m1,m2 = มวล (kg)
r = ระยะระหว่างจุดศูนย์กลางมวล (m)
G = 6.67 x10-11 N.m2/kg2

อย่างนี้ใช่ไหมครับ สู้ สู้
 

_________________
ผมจะพยายามให้ได้ดาวครบ 10 ดวงครับ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
พลศักดิ์ วังวิวัฒน์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 30 มิ.ย. 2008
ตอบ: 542

ตอบตอบเมื่อ: 14 ก.ย. 2008, 2:04 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

“กฎแห่งแรงดึงดูด” (Law of Attraction) ในหนังสือ “The Secret” นั้นที่ว่า

"ความคิดด้านบวกและด้านลบที่เต็มเปี่ยม ย่อมเกิดพลังแห่งความสำเร็จ"

มีจุดอ่อนอยู่ข้อหนึ่ง คือ มองไม่เห็นกฎแห่งกรรม และความคิดความ
เชื่อมั่นที่เต็มเปี่ยม โดยไม่หนดไปว่า สิ่งนั้นต้องไม่ก่อให้เกิดความหายนะกับคน
อื่น
อาจจะนำความหายนะมาสู่คนในชาติ เช่น ฮิตเล่อร์และนโปเลียน

ในเมืองไทย ก็เช่น พลตรีจำลอง ใช้“กฎแห่งแรงดึงดูด” ต้องการ
เปลี่ยนแปลงการเมืองไปตามความต้องการของเขา ไม่สนใจคนในชาติส่วน
ใหญ่ ที่ใช้ระบอบประชาธิปไตย ไปใช้พลังด้านนี้เสนอใช้ระบบให้คนใน
ชาติมีอำนาจเลือกได้แค่ 30% และต้องการให้อีก 70%ของอำนาจการ
บริหารประเทศถูกแต่งตั้งขึ้นมา

พลตรีจำลองผู้นี้จึงนำความหายนะมาสู่การเมืองและเศรษฐกิจของประเทศ
ดังเช่นทุกวันนี้ แต่สุดท้าย พระเจ้าก็จะใช้กฎแห่งกรรมทำลาย“กฎแห่งแรงดึงดูด”
เหมือนที่ทศกัณฐ์โดนกฏแห่งกรรมทำลายไปหลังจากเขาทำความหายนะให้โลก
มนุษย์ สวรรค์ แม้แต่ในนรก
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
บัวหิมะ
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 26 มิ.ย. 2008
ตอบ: 1273

ตอบตอบเมื่อ: 15 ก.ย. 2008, 8:29 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เขตปลอดการเมือง สาธุ
 

_________________
ชีวิตที่เหลือเพื่อธรรมะ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง