กำหนดการอบรมวิปัสสนากรรมฐาน ณ วัดมเหยงคณ์ 2548

ตอบเมื่อ: 22 มี.ค.2005, 2:52 pm

กำหนดการอบรมวิปัสสนากรรมฐาน ระยะเวลา 9 วัน ประจำปี 2548 ณ วัดมเหยงคณ์

ครั้งที่ 1...วันเสาร์ ที่ 8 - วันอาทิตย์ ที่ 16 มกราคม 2548

ครั้งที่ 2...วันเสาร์ ที่ 5 - วันอาทิตย์ ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2548

ครั้งที่ 3...วันเสาร์ ที่ 5 - วันอาทิตย์ ที่ 13 มีนาคม 2548

ครั้งที่ 4...วันเสาร์ ที่ 16 - วันอาทิตย์ ที่ 24 เมษายน 2548

ครั้งที่ 5...วันเสาร์ ที่ 7 - วันอาทิตย์ ที่ 15 พฤษภาคม 2548

ครั้งที่ 6...วันเสาร์ ที่ 4 - วันอาทิตย์ ที่ 12 มิถุนายน 2548

ครั้งที่ 7...วันเสาร์ ที่ 2 - วันอาทิตย์ ที่ 10 กรกฎาคม 2548

ครั้งที่ 8...วันเสาร์ ที่ 20 - วันอาทิตย์ ที่ 28 สิงหาคม 2548

ครั้งที่ 9...วันเสาร์ ที่ 3 - วันอาทิตย์ ที่ 11 กันยายน 2548

ครั้งที่10...วันเสาร์ ที่ 1 - วันอาทิตย์ ที่ 9 ตุลาคม 2548

ครั้งที่11...วันเสาร์ ที่ 12 - วันอาทิตย์ ที่ 20 พฤศจิกายน 2548

ครั้งที่12...วันเสาร์ ที่ 10 - วันอาทิตย์ ที่ 18 ธันวาคม 2548

ตอบเมื่อ: 22 มี.ค.2005, 3:04 pm

หลักการ

รับสมัครเฉพาะผู้ที่มีความตั้งใจจริงๆ ในการอบรมเจริญสติปัญญา เท่านั้น

รับรุ่นละจำนวน 35 ท่าน ทั้งชาย-หญิง ทั้งคฤหัส และ บรรพชิต

ครั้งที่ 1, 2, 4, 5, 7, 8, 10, 11 รับเฉพาะผู้ที่ยังไม่เคยเข้าปฏิบัติกรรมฐาน ณ วัดมเหยงคณ์มาก่อน

ครั้งที่ 3, 6, 9, 12 รับเฉพาะผู้ที่เคยผ่านการเข้าปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ณ วัดมเหยงค์มาแล้ว

การสมัคร

ต้องกรอกใบสมัครล่วงหน้า

หลักฐาน

สำเนาบัตรประชาชน, รูปถ่ายสำหรับติดใบสมัครขนาด 1 นิ้ว จำนวน 1 รูป

หมายเหตุ

ลงทะเบียนเข้าปฏิบัติก่อน เวลา 09.00 น.

ต้องเข้ารับฟังการอบรมในวันแรก เวลา 10.00 น.

ผู้เยี่ยมชม

ผมได้ยินชื่อเสียงของวัดนี้มานานแล้ว แต่ยังไม่เคยไป ผมอยากทราบว่า "รูปแบบการกำหนดภาวนาของทางวัดสอนให้กำหนดอย่างไร" เช่น

- พุทโธ

- ยุบหนอ พองหนอ

ขอบคุณครับ

ตอบเมื่อ: 24 มี.ค.2005, 2:28 pm

ท่านให้ทิ้งทั้งหมด ไม่ว่าการกำหนด หรือการบริกรรม หรือแม้แต่ภาวนา หมายความว่า ท่านสอนให้รู้อยู่ในอารมณ์ปัจจุบันเท่านั้น รู้แต่เพียงลมหายใจเข้าออกเท่านั้น อารมณ์ใด เสียงใด เวทนาใด ก็เพียงสักว่าแค่ธรรมชาติที่เกิดขึ้น แล้วก็ดับไปสลายไป ไม่สามารถตั้งอยู่ได้ บัญญัติใดก็เพียงแค่สมมติขึ้น ไม่ใช่ธรรมชาติที่มีที่เป็นอยู่

เดินจงกรม ท่านก็ให้เดินธรรมดา ไม่ต้องมายกหนอ ย่างหนอ เหยียบหนอ แต่ให้เดินอย่างมีสติ เย็น ร้อน อ่อน แข็ง คลาย หย่อน เบา ให้รู้ ไม่ต้องกำหนด เดินไปธรรมดา ขามันหายไปเลยสองข้าง แต่ไม่ตกใจเพราะมันไม่ดับมืดเหมือนแต่ก่อน หายก็รู้อยู่ว่าหาย ก็เดินต่อ และรู้สึกว่าเดินได้เรื่อยๆไม่เหนื่อย การปฏิบัติธรรมครั้งนี้ หายทั้งตัวแต่ไม่มืด หายทั้งตัวแต่สว่าง...

มณี ปัทมะ ตารา

ผู้เยี่ยมชม

อยากทราบว่าทำไม การแสดงความคิดเห็นไม่อยู่ที่เดียวกับ Web Site ค่ะ ทำไมถึงมีอยู่เกลื่อนไป ไงจึงสามารถติดต่อกับผู้ที่ไปปฎิบัติได้หละค่ะ

ตอบเมื่อ: 23 ก.ย. 2005, 11:13 am

กราบสวัสดี คุณมาริสา

เนื่องจากได้มีโอกาสไปปฏิบัติธรรมที่วัดมเหยงค์ ปุ๋ยก็นำประสบการณ์การปฏิบัติธรรมพร้อมทั้งเก็บภาพสถานที่ปฏิบัติธรรมภายในวัดมเหยงค์มาเล่าให้เพื่อนๆในเวปธรรมจักรได้ชมและอ่านกันค่ะ และก่อนจะเผยแพร่กระทู้ประสบการณ์การปฏิบัติธรรมพร้อมทั้งการเก็บภาพภายในวัด ปุ๋ยได้ขออนุญาตหลวงพ่อใหญ่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และท่านก็ได้อนุญาตด้วยความเมตตา

หากคุณต้องการติดต่อเพื่อไปปฏิบัติธรรมกับทางวัด ให้เข้าเวปตามลิ้งค์ที่คุณTU จัดไว้ให้เลยค่ะ ส่วนการแสดงความคิดเห็นไม่อยู่ที่เดียวกับเวปไซด์ เนื่องจากว่าทางวัดไม่มีบอร์ดแสดงความคิดเห็นให้ค่ะ ลองเข้าไปศึกษาตามลิ้งค์ที่จัดไว้ให้นะคะ

เจริญในธรรม

มณี ปัทมะ ตารา

ผู้เยี่ยมชม

ผมคิดว่าผมโชคดี เพราะว่าอยู่ดีดี ผมก็ไปพบหนังสือเล่มหนึ่งชื่อหนังสือ "เข็มทิศชีวิต" และได้อ่านหนังสือเล่มนั้นจนจบอย่างรวดเร็ว และหลังจากอ่านหนังสือเล่มนั้นจบ ผมก็เหมือนได้พบทางสายใหม่ คือ ทางสายธรรม และทางสายนี้ทำให้ผมเลิกความประพฤติเดิม ๆ คือการเที่ยวเตร่ ดื่มสุราทุกวัน ผมเลิกตั้งแต่ตอนนั้นถ้าผมจำไม่ผิด หลังจากวันวิสาฆบูชา ประมาณ 7 วัน และปฎิบัติธรรมมาตลอด โดยศึกษาจากหนังสือ และ web บ้างโดยทำทุกวัน วันละประมาณ 30 นาที ทุกๆเช้าโดยการสวดมนต์ประมาณ20 นาทีและนั่งสมาธิประมาณ 30 นาทีทุกวัน แต่ก็ยังไม่ไปถึงไหนดี ผมไม่มีเวลาพอท่จะไปศึกษาจากทางวัดได้ มีแต่จะศึกษาจากหนังสือ หรือทางเวบไซด์ อยากทราบว่า ผมพอจะมีโอกาสปฎิบัติธรรมได้สำเร็จหรือไม่ ผู้รู้ช่วยสงเคราะด้วยครับ จักขอบพระคุณอย่างสูงครับ

ตอบเมื่อ: 24 ก.ย. 2005, 11:43 am

กราบสวัสดี คุณpakapob

หลักธรรมทางพุทธศาสนานั้นกว้างขวางลึกซึ้งยิ่งนัก การเป็นพุทธบริษัทที่นับถือพุทธศาสนามิได้หมายความว่า ทุกคนต้องเป็นอรหันต์ และต้องนิพพานด้วยกันหมดทุกคน ความเป็นพุทธบริษัท หรือพุทธศาสนิกชนที่แท้จริงนั้น เป็นตั้งแต่เราปฏิญาณตนเป็นพุทธมามากชน มีจิตเลื่อมใสในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แม้ปัจจุบันเราปฏิบัติธรรมยังไม่สำเร็จตามแนวทางที่องค์ศาสดาท่านแนะแนวทางไว้ก็ตาม

พระผู้มีพระภาคเจ้าไม่ได้ทรงเคี่ยวเข็ญ ไม่ได้บังคับให้คนทุกคนต้องไปนิพพานหรือทำกิเลสให้หมด ไม่มีที่ไหนที่คนทั้งโลกจะทำลายกิเลสได้หมดทุกคน คนที่เกิดมาในโลกนี้มีกรรมเป็นของตน การอบรมบ่มนิสัยในด้านจิตใจนั้นแตกต่างกันมาก ฉะนั้นเราจึงไม่มีทางที่จะวางกฎเกณฑ์อย่างใด อย่างหนึ่งให้พุทธบริษัทได้บรรลุถึงซึ่งความเป็นอรหันต์ยังอาสวะกิเลสให้หมดสิ้นไปได้โดยทั่วกัน

สาธุกับการปฏิบัติของคุณpakapobด้วยค่ะ เพียงเท่านี้ คุณก็เอาชนะใจตนเองได้สำเร็จอย่างน่าชื่นชมแล้วค่ะ ขอเพียงคุณปฏิบัติธรรมให้ต่อเนื่อง และเป็นไปอย่างปกติสม่ำเสมอ สะสมไปทุกๆวัน วันหนึ่งสิ่งที่คุณที่ปรารถนา ก็จะสมปรารถนาดังที่จิตคุณปรารถนาค่ะ ในความปรารถนาแท้จริงแล้วก็จะละเอียดและประณีตจนไร้ซึ่งความปรารถนาใดๆอีก

ธรรมะคุ้มครองทุกท่านค่ะ

มณี ปัทมะ ตารา