Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
ทุกข์เรื่องความรักรักษาได้ด้วยธรรมะ
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
ผู้ตั้ง
ข้อความ
กมลาสน์
บัวผลิหน่อ
เข้าร่วม: 22 มิ.ย. 2008
ตอบ: 1
ตอบเมื่อ: 22 มิ.ย.2008, 4:12 pm
ไม่รู้เป็นเวรกรรมที่สร้างมาหรือเปล่า ชีวิตจึงส่งผลแบบนี้ อยากให้ทุกคนช่วยแสดงความคิดเห็นและแนะนำด้วยค่ะ
ตอนเป็นวัยรุ่นได้พลาดพลั้งมีท้องกับแฟนกลัวพ่อแม่เสียใจจึงได้ไปเอาเด็กออก (ครั้งที่ 1) แล้วก็เรียนจบมาอยู่กับแฟนก็ตั้งท้องด้วยความไม่พร้อมก็เอาเด็กออก (ครั้งที่ 2) หลังจากนั้นก็แต่งงานกันมีลูกสาว 1 คน ตอนได้ 7 เดือน ก็ตั้งท้องอีกครั้งด้วยเศรษฐกิจช่วง IMF ไม่สามารถจะมีลูกได้อีก ก็เอาเด็กออก (ครั้ง 3) รู้สึกแย่มาก รู้สึกบาปมาก
ตลอดเวลาที่ผ่านมาสามีเป็นคนดีมาก รักลูกมาก แต่ชีวิตก็พบพานอุปสรรคมากมายแต่ไม่ใช่เรื่องความรัก เราสองคนช่วยกันสร้างเนื้อสร้างตัวจนมีบ้านมีรถ มีฐานะที่ดี ดิฉันได้มีโอกาสเป็นเจ้าของบริษัท สามีมีโอกาสได้เรียน ป.โท
ช่วงนี้เองที่ชีวิตเริ่มมีปัญหาความรัก คือ ไม่ค่อยมีเวลาให้กัน เริ่มคุยกันไม่รู้เรื่อง คิดว่าต่างคนต่างเก่ง สามีสอนอะไรก็ไม่ฟัง อัตตาสูง จึงทำให้สามีเปลี่ยนไป ขอแยกกันอยู่เพื่อจะทบทวนว่ายังต้องการกันอยู่หรือเปล่า ดิฉันเองก็หันมาศึกษาธรรมะ และทุกครั้งก็อุทิศส่วนกุศลให้ลูก ๆ ทั้ง 3 เคยทำแท้ง ทำบุญ ถือศิล นั่งสมาธิตามวัดป่าทุกครั้งมีโอกาสได้หยุดงานยาว
จนรู้สึกว่า อัตตาลดลง มีสติมากขึ้น ปล่อยวางปัญหาต่าง ๆ ได้มากขึ้น
แต่สามีหาทางออกด้วยการคบใครอีกคน(ซึ่งเป็นเพื่อนที่เรียน ป.โท) ด้วยกันแล้วเกิดความสัมพันธ์ทั้งกายและใจ
ดิฉันเองพอรู้ปัญหาเกิดก็เลยจับเข่าคุยกันใหม่อย่างมีสติ อาจด้วยกุศลที่ปฏิบัติธรรมมาก เค้าเองก็สารภาพว่ายัง รักเรา รักลูกเหมือนเดิม ไม่อยากแตกหัก แต่ก็สงสารผู้หญิงคนใหม่ เค้าก็ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะทำอย่างไร
ปัจจุบันสามีกลับมาอยู่กับครอบครัวแล้วและก็ยังติดต่อกับผู้หญิงของเค้าอยู่
เจอกันเป็นครั้งคราว อีกเรื่องหนึ่งที่สามารถมาสารภาพบาป ก็คือ เมื่อตอนที่ลูกสาว ได้ 7 เดือน .แฟนเก่า (ก่อนที่จะคบกับดิฉัน) มาปรึกษาปัญหาครอบครัว ด้วยคนเคยมีความสัมพันธ์ทางใจมาก่อนเห็นใจกันและกันจึงทำให้เกิดมีความสัมพันธ์ทางกายจนตั้งท้องเค้าก็เครียดมากจนตัดใจให้แฟนเก่าเอาเด็กออก แล้วก็เลิกลาจากกัน ความสัมพันธ์เป็นแค่เพื่อนแต่เค้าก็เจ็บปวดไม่น้อย ทุกวันนี้เค้าก็รู้สึกใจไม่เป็นสุขจากเวรกรรมที่สร้างขึ้นมา
ทั้งลูกเกิดกับดิฉันที่ทำแท้ง 3 ครั้ง และแฟนเก่าอีก 1 ครั้ง และยังเพื่อนที่รู้ใจคนใหม่ ที่ทำผิดศีล ข้อ 3 ร่วมกัน
ส่วนตัวดิฉันเองก็กำหนดกาย กำหนดจิดให้อยู่กับปัจจุบัน ไม่นึกถืงอดีต ไม่ไลล่าอนาคตว่าจะเป็นอยางไร ทุกวันก็ได้แต่ ทุกบุญ ทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา นั่งสมาธิทุกวัน คิดดี ทำดี พูด อุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรทุกคนทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ดีหรือล่วงลับไปแล้ว จิตใจก็สงบปล่อยวางได้เยอะ ปฏิบัติตัวกับสามีดีขึ้น รับฟังเค้าและให้เกียรติเค้ามากขึ้น ช่วยเข้าศึกษาทำธรรมะช่วยทำบุญ ทำทาน เหลือแต่การเจริญภาวนา ซึ่งก็หวัง อยากให้อะไรที่มันเลวร้ายที่ค้างคาอยู่ในติดใจเค้าให้มันหายไป อยากให้ครอบครัวเราเป็นครอบครัวมีธรรมะนำชีวิตจนสิ้นอายุขัย
อยากให้ทุกคนที่อ่านเรื่องราวของดิฉันอยากแสดงความคิดเห็นเพื่อธรรมทานให้กับตัวดิฉันเองและผู้อื่นร่วมกันค่ะ
บัวหิมะ
บัวเงิน
เข้าร่วม: 26 มิ.ย. 2008
ตอบ: 1273
ตอบเมื่อ: 23 ส.ค. 2008, 9:25 pm
อ่านแล้วเศร้าใจจริง ๆ ค่ะ ทำแท้งได้ไงชีวิตนี้ตั้ง 3 ครั้ง เขาก็ชีวิต เราก็ชีวิต ไม่รู้สินะ ทำใจไม่ได้ อาจเป็นเพราะเอาความคิดตัวเองไปเปรียบเทียบก็ได้ ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็ไม่ใช่คนดีอะไรหนักหนา
จะเล่าให้ฟัง ญาติทางนิตินัยของเราก็เคยทำแท้ง มีบุตรอยู่แล้ว 2 คน คนที่ 3 โผล่มา โดยไม่ตั้งใจ คิดว่าจะเลี้ยงไม่ไหว จริง ๆ แล้วพูดอย่างคนนอกนะ คือน่าจะคุมกำเนิดหรือทำหมันซะ ถ้าไม่คิดจะมีบุตรอีก ไม่เข้าใจจริง ๆ ว่า ทำไมถึงไม่ระมัดระวัง พอเขาถือกำเนิดมาก็ไปทำแท้ง (ผู้ทำเองก็รู้สึกผิดรู้สึกบาปด้วยเรารู้) พอเรารู้เรื่องเข้า เกิดความรู้สึกว่ารับไม่ได้ โกรธเขาไม่อยากพูดด้วย กว่าจะทำใจ อภัยให้เขาได้ เพราะจริง ๆ มันเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา ของครอบครัวเขา แต่เรามาคิดว่าเป็นการทำบาป ด้วยความประมาทนะ (เรื่องที่ป้องกันได้แต่ก็ไม่ป้องกัน)
ก็แค่อยากเล่าให้ฟัง ว่ายังมีคนที่เป็นแบบคุณอีกมาก ที่ผ่านมาก็ต้องถือว่าเป็นบทเรียนราคาแพง หรือหาค่ามิได้ อย่างที่ทราบในทางพุทธศาสนา บาปเราล้างไม่ได้ ทำกรรมอะไรไว้ ก็จงก้มหน้ารับกรรมด้วยความองอาจกล้าหาญเถิด ทำชีวิตที่เหลืออยู่ให้ดีที่สุด น้อมนำ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะ หมั่นทำบุญทำทานมาก ๆ ที่พูดนี่เราบอกตัวเองสอนตัวเองด้วยนะ ไม่คิดจะทำให้คุณหมองเศร้าไปกว่าที่เป็นอยู่นะ
ขอเอาใจช่วย ในฐานะเพื่อนร่วมทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกัน ทั้งหมดทั้งสิ้น ตามครรลองพุทธศาสนา อมิตพุทธ
_________________
ชีวิตที่เหลือเพื่อธรรมะ
tanaphomcinta
บัวใต้น้ำ
เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 127
ที่อยู่ (จังหวัด): 138 หมู่ที่ 1 ต.โนนคูณ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ 36180
ตอบเมื่อ: 04 ก.ย. 2008, 11:17 am
กมฺมุนา วตติโลโก สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
ยังดีนะที่รู้จักเรื่องธรรมอยู่บ้าง สงสารผู้ที่ไม่เคยรู้เรื่องธรรมเลยนี้สิ
ขอให้คุณจงหมั่นพยายามทำความดี คือ ทำบุญให้มาก รักษาศีลให้ได้
เข้าวัดให้บ่อยเข้า
กล่าวคือ ทำบุญตั้งแตยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาทำบุญอุทิศหา
คำว่าหา ถ้าหาเจอก็ดีไป ถ้าหาไม่เจอแล้วจะทำอย่างไร
รักษาศีลตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาเคาะโลงลุกขึ้นมารักษาศีล เคยเห็นมากที่มีคนตายและมีคนๆหนึ่งไปเคาะโลงตอนพระเข้าไปนั่งเพื่อสวดมนต์หรือสวดมาตกาบังสุกุลเป็นต้น
เข้าวัดตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาหามเข้าแล้วเผาเลย
เห็นมามากที่คนเราเมื่อตายแล้วก็โดนเขาหามเข้าไปแล้วก็เผาแล้วก้ไม่มีโอกาสเดินออกมา แต่ถ้าเราเดินเข้าวัดเราก็มีโอกาสเดินออกมาได้ แต่ตายแล้วไม่อาจเดินออกมาได้อีก
เรื่องของคุณโยมนี้มันมากมายด้วยบาปมาก คือ ตั้งสามชีวิตที่เขาได้รับการกระทำจากคุณโยม อย่างไรก็ตาม ทางใจทางพระพุทธศาสนาไสมารถที่ลบล้างบาปได้ เพราะเป็นบาปหนัก ทางที่จะแก้ไขไม่มี มีแต่ทางที่เราควรทำบุญให้มากนั่งสมาธิภาวนาให้มาก เพื่อจะได้เป็นต้นทุนของเราเมื่อรับกรรมใช้กรรมที่ก่อไว้แล้ว ก็จะได้รับผลกรรมที่เราได้ทำดีไว้ ที่เราได้นั่งสมาธิภาวนาไว้มาก จากนั้นเราจะได้รับในทางดีตอนที่เราเกิดมาในชาติต่อๆไป จนกว่าเราจะถึงซึ่งพระนิพพาน ดูเอาอย่างพระสาวกที่ท่านได้เป็นพระอรหันต์แล้วท่านก็ไม่สามารถหนีกรรมเวรที่ท่านเคยได้ทำไว้ในชาติบางก่อนเลย ฉนั้นขอให้คุณโยมจงตั้งใจว่า ต่อไปนี้เราจะทำแต่ความดีโดยไม่ย่อท้อและไม่ถอดใจไปเป็นอื่น จะยึดหมั้นในพระพุทธในพระธรรมในพระสงฆ์ ว่าเป็นที่พึ่งอันประเสริฐของเราโดยไม่เปลี่ยนแปลงไปเป็นอื่นอย่างแน่นอน เข้าไปก๊อปปี้เอาบทสวดมนต์ มหาทิพย์พระมนต์ที่
www.supasok.com
Email
tanaphom.supashok99@gmail.com
ส่วนเรือ่งสามีภรรยาก็หันหน้าเข้าปรึกากันโดยมีความตั้งใจดีอย่าเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง จงเปิดโอกาสให้ทั้งสองฝ่าย ก่อนอื่นขอให้ตั้งใจให้ดี และบอกว่าเราจะพูดกันเหตุและผล โดยยกเอาปัญหาที่มันเกิดขึ้นแล้วมาปรึกากัน ถ้าหากว่ายังไม่เข้าใจกันให้หยุด บอกว่าเราหยุดกันก่อนวันนี้ยังไม่ต้องพูดกันเอาไว้เราใจดีมีสติแล้วค่อยมาพูดกัน เพราะทุกสิ่งอย่างมันมีทางเข้ามามีปัญหา มันก็ต้องมีทางออกของปัญหา ถ้าหางออกไม่ได้ให้ออกทางที่เข้ามา เข้ามาทางไหนให้ออกทางนั้น แล้วปัญหาทุกอย่างแก้ไขได้หมด เราเข้ามาทางไหนมันจึงเกิดปัญหา เราก็เอาทางที่เข้ามานั้นเป็นโจดตั้งไว้ แล้วเราจะออกจากปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างไรเราจะเห็นทางออกเอง ถ้าเรามีสติมีปัญญาโดยไม่เอาความโกรธ ความหลงเข้ามาแก้ปัญหา สามารถแก้ได้อย่างแน่นอน อขอวยพรให้มีแต่ความสุขในหน้าที่การงานที่ทำอยู่ ตลอดทั้งครอบครัวลูกหลานจงมีอายุ วรรณ สุข พละ จงทุกท่านทุกคนเทอญฯ
_________________
ทำบุญตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาทำบุญอุทิศหา รักษาศีลตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาเคาะโลงลุกขึ่นมารักษาศีล
ฌาณ
บัวเงิน
เข้าร่วม: 23 ก.ค. 2008
ตอบ: 1145
ที่อยู่ (จังหวัด): หิมพานต์
ตอบเมื่อ: 04 ก.ย. 2008, 12:18 pm
_________________
ผมจะพยายามให้ได้ดาวครบ 10 ดวงครับ
อรชนก
บัวผลิหน่อ
เข้าร่วม: 27 ส.ค. 2008
ตอบ: 3
ตอบเมื่อ: 04 ก.ย. 2008, 12:36 pm
เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจมากค่ะ แต่คุณก็แก้ปัญหาได้ด้วยธรรมซึ่งเป็นยาที่วิเศษที่สุดในการรักษาเรื่องทุกข์ ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th