|
|
|
 |
ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
28 ก.ค.2008, 10:29 am |
  |
ไม่ทราบว่าผมเข้าใจถูกไหม
เมื่อมีสัญญาเจือปน วิปัสนาญานจะไม่เกิดใช่ไหมคับ
ถ้ายังท่องยุบหนอ พองหนอ นู่นหนอ นี่หนอ
มันจะไม่เกิดความรู้ที่แท้แห่งวิปัสนา
(แต่ถ้าไปถึงขั้นสูงสุดแล้ว
อยากจะหนอแบบไหน ก็หนอได้ หนอไม่หนอก็ยังรู้เหมือนเดิม
เพราะสิ่งที่รู้มันเกินกว่ากริยาอาการทั้งปวง) |
|
_________________ ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
|
|
  |
 |
กรัชกาย
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348
|
ตอบเมื่อ:
29 ก.ค.2008, 7:40 pm |
  |
คุณคามินเข้าใจคำว่า สัญญา กับ วิปัสสนา อย่าง่ไร ช่วยอธิบายให้พอ
มองเห็นภาพด้วยครับ |
|
_________________ สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา |
|
  |
 |
กรัชกาย
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348
|
ตอบเมื่อ:
31 ก.ค.2008, 8:16 am |
  |
รอคำตอบจากน้องคามินอยู่ครับ อธิบายพอเห็นภาพนำไปใช้อ้างอิงได้ก็
พอ
เมื่อพอเข้าใจ คำว่า สัญญา กับ วิปัสสนา บ้างแล้ว จะได้กล่าว
ถึงชื่อ ธรรม ตัวอื่นอีก ซึ่งแต่ละตัวๆ มีผู้นำมาพูดกันบ่อยๆ
เช่น วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา มีหน้าที่อย่างไรต่อไป
หรือว่าเขาพูดอ้างกันเฉยๆ แต่ไม่รู้หน้าที่ของธรรม แต่ละตัวแต่ละ
ข้อ นั้น  |
|
_________________ สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา |
|
  |
 |
RARM
บัวบาน

เข้าร่วม: 28 ก.ค. 2007
ตอบ: 417
|
ตอบเมื่อ:
31 ก.ค.2008, 12:14 pm |
  |
เกิดสัญญาวิปัสสนาก่อน ทำจนแก่รอบแล้ว ก็จะเจอของจริง คือวิปัสสนาญาณ |
|
|
|
  |
 |
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
31 ก.ค.2008, 12:35 pm |
  |
คามินธรรม พิมพ์ว่า: |
ไม่ทราบว่าผมเข้าใจถูกไหม
เมื่อมีสัญญาเจือปน วิปัสนาญานจะไม่เกิดใช่ไหมคับ
ถ้ายังท่องยุบหนอ พองหนอ นู่นหนอ นี่หนอ
มันจะไม่เกิดความรู้ที่แท้แห่งวิปัสนา
(แต่ถ้าไปถึงขั้นสูงสุดแล้ว
อยากจะหนอแบบไหน ก็หนอได้ หนอไม่หนอก็ยังรู้เหมือนเดิม
เพราะสิ่งที่รู้มันเกินกว่ากริยาอาการทั้งปวง) |
ผมก็ไม่ค่อยสันทัดเรื่อง นิยาม ของศัพท์ ต่างๆนะคับ
จากการปฏิบัติ ผมได้ออกมาอย่างนี้
ในการเจริญ xxx อะไรก้ตามที่เรียกกันอยู่ ซึ่งผม งงไปหมดแล้ว
ขอเรียกว่า เจริญจิตก็แล้วกันนะคับ
ในการเจริญจิตนี้ มีผู้เล่นแค่ 2 ตัว
1. ผู้รู้ ... ต้องรู้เฉยๆ ไม่คิด / ต้องเป้นกลาง / รู้ไปตามจริง
2. ผู้ถูกรู้ ..... จะคิดอะไรช่างมัน (มีสัญญา นู่น นี่ นั่น มาผสมโรง)
สัญญา คือความจำ ของเรานี่แหละ แต่พูดอีกนัยหนึ่งว่า
สัญญา คือความรู้ ของผู้ถูกรู้ จะเอามาปรุงยังไงก้ตามแต่
.... ตรงนี้สรุปก่อนว่า ปัญญา(แบบโลกียะ) คือการปรุงความทรงจำตัวนี้
ปัญญาแบบ ปัญญาญาน
ปัญญา คือผลที่ได้จากวิปัสนา ของผู้รู้
ปัญญา คือความรู้ ของผู้รู้
วิปัสนา คือวิธีในการหาความรู้ ของ ผู้รู้
สติ คือ ความรู้ตัวเสมอ ว่ามี 2 สิ่งนี้อยู่ (1. ผู้รู้ 2.ผู้ถูกรู้)
มหาสติ คือ ความสมดุลย์ในหน้าที่ ของผู้รู้ และผู้ถูกรู้
ส่วนสมาธินี้ ผมไม่ทราบว่าคืออะไร
แต่ที่ปฏิบัติใช้แค่นี้
สรุปว่า ปัญญาญาน(ความรู้ของผู้รู้) ไม่ได้มาจากการคิด (สัญญา)
ถ้าผู้รู้ยังคิดอยู่ ผู้รู้ไม่เป้นกลาง ผู้รู้ทำเกินหน้าที่ มันจะไม่เกิดปัญญา |
|
_________________ ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
|
|
  |
 |
บุญชัย
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 29 ก.ค. 2008
ตอบ: 568
ที่อยู่ (จังหวัด): สงขลา
|
ตอบเมื่อ:
27 ส.ค. 2008, 4:38 pm |
  |
ไม่ผิด แต่ต้อง มีพลังสมาธิ เพียงพอ จึงวิปัสสนา
เกิด พอแต่ละครั้งที่ทำ
เมื่อ ถึงจุด วิปัสสนาพิจารณา ให้ทิ้งทุกสภาวะ ให้ตามดูเฉยๆ
จนแก่ กล้า หอ แต่ ละครั้ง แค่10....15นาทีต่อครั้ง พอ แล้ว ถอย ออก
 |
|
_________________ ทำดีทุกทุกวัน |
|
   |
 |
|
|
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่ คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ คุณไม่สามารถลงคะแนน คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้ คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
|
| | |