Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ...เปลี่ยนมุมมอง...(รินใจ) อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089

ตอบตอบเมื่อ: 25 ก.ค.2008, 2:07 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

มีเรื่องเล่าว่า ชายหนุ่มพาผู้เฒ่าอินเดียนแดงไปเดินกลางกรุงนิวยอร์ก
เช้าวันนั้นบาทวิถีคลาคล่ำด้วยผู้คน ส่วนท้องถนนก็มีรถราขวักไขว่
เสียงดังพูดกันแทบไม่ได้ยิน
เดินได้สักพัก ผู้เฒ่าอินเดียนแดงก็หยุด เงี่ยหูฟัง
เหมือนกับได้ยินอะไรสักอย่าง
แล้วก็ชวนชายหนุ่มข้ามถนนไปที่สวนสาธารณะอีกฟากหนึ่ง
เขาสอดส่ายสายไปตามพื้นดินอยู่ครู่หนึ่ง
แล้วก็ชี้ให้ชายหนุ่มดูหลุมเล็ก ๆ ข้างพุ่มไม้

"นั่นไง จิ้งหรีด" เขาบอกพร้อมรอยยิ้ม

"ลุงทำได้ไง ? รอบตัวมีแต่เสียงอึกทึกเอ็ดตะโร
ลุงได้ยินเสียงจิ้งหรีดอีกฟากถนนได้ยังไง?"ชายหนุ่มแปลกใจ

"ไม่ยากหรอก มันขึ้นอยู่กับความสนใจ
ถ้าไม่เชื่อ ฉันจะทำอะไรให้ดู"
ว่าแล้วผู้เฒ่าก็หยิบเหรียญดอลล่าร์ออกมาจากกระเป๋า แล้วโยนลงพื้น

สิ่งที่ปรากฏแก่สายตาชายหนุ่ม ก็คือ
ทันทีที่เหรียญกระทบพื้นดัง "กริ๊ง"
ผู้คนที่กำลังเดินอยู่บนสองฟากถนนก็ชะงัก
และหันมามองต้นกำเนิดของเสียงทันที

ผู้เฒ่าไม่ได้มีความสามารถพิเศษไปจากผู้คนในกรุงนิวยอร์ก
เพียงแต่ว่าความสนใจของเขาแตกต่างจากคนทั่วไปเท่านั้นเอง
แต่จะเป็นจิ้งหรีดหรือเงินก็ตาม
ถ้าสนใจสิ่งนั้นเป็นพิเศษ ประสาทหูหรือตาก็จะทำงานได้ไวมาก
หากสิ่งนั้นปรากฏขึ้นมา เสียงดังรบกวนแค่ไหน
ประสาทก็สามารถแยกแยะจนได้ยินเสียงจิ้งหรีด
หรือเสียงเงินได้ไม่ยาก

เรื่องนี้จริงเท็จอย่างไรขึ้นอยู่กับผู้เล่า
แต่ในชีวิตประจำวัน เหตุการณ์ทำนองนี้เห็นได้ไม่ยาก
เวลาเอาแผ่นเอ็กซเรย์ให้ผู้ป่วยดู เขามองแทบไม่เห็นอะไรเลย
แต่ถ้าให้หมอดู หมอจะเห็นหัวใจ ปอด ตับ ข้อกระดูก
และอวัยวะภายในอื่น ๆ ได้อย่างชัดเจน
ยิ่งมีความรู้เรื่องกายวิภาคมากเท่าไร
ก็ยิ่งเห็นรายละเอียดในแผ่นเอ็กซเรย์ได้มากเท่านั้น

ความรู้หรือความสนใจทำให้ประสาทไว
สามารถเห็นสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น
แต่ก็ต้องระวัง เพราะบ่อยครั้งสิ่งที่มีอยู่ในใจ
อาจทำให้ประสาทรับรู้บิดเบี้ยว
จนเห็นสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง หรือคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง

คนที่กลัวงู เข้าป่าก็มักจะเห็นงู
แม้ป่าจะไม่มีงู แต่ตาก็มองรากไม้ให้กลายเป็นงูจนได้

คนที่กลัวอ้วน ก็มักจะเห็นไขมันส่วนเกิน
กระจุกตรงโน้นตรงนี้เต็มไปหมด
ทั้ง ๆ ที่คนอื่นเห็นว่าสมส่วนดีแล้ว

ถ้าเป็นคนชอบระแวง ก็มักเห็นคนอื่นมีพิรุธ ท่าทางไม่น่าไว้ใจ
เขาคุยเล่นกัน ก็มองว่าเขากำลังนินทาตัวเองอยู่

ตาของคนเราชอบมองอะไรต่ออะไร
ให้เข้ากับความคิดหรือสิ่งที่มีอยู่ในใจเสมอ

นักจิตวิทยาผู้หนึ่งเคยพาชายแปลกหน้าไปพบนักศึกษา ๕ กลุ่ม
โดยแนะนำชายผู้นั้นแตกต่างกันไปในแต่ละกลุ่ม
คือ แนะนำว่าเป็นนักศึกษาบ้าง ผู้ช่วยอาจารย์บ้าง อาจารย์บ้าง
อาจารย์อาวุโสบ้าง และสุดท้ายก็แนะนำว่า
เป็นศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์

หลังจากนั้น ก็ถามนักศึกษาว่า
ความสูงของชายผู้นั้น ประมาณว่าสักเท่าใด
ปรากฏว่า ตัวเลขสูงที่สุดมาจากกลุ่มที่ได้รับการแนะนำว่า
ชายผู้นั้นเป็นศาสตราจารย์ และตัวเลขต่ำสุด
มาจากกลุ่มที่ได้รับการแนะนำว่า ชายผู้นั้นเป็นนักศึกษา

พูดอีกอย่างก็คือ คนเรามีแนวโน้มที่จะมองคนที่มีสถานภาพสูง
ว่ามีความสูงมากกว่าความเป็นจริง
และมองคนที่มีสถานภาพต่ำ ว่ามีความสูงน้อยกว่าความเป็นจริง

ทั้งหมดนี้บอกเราว่า ความรู้สึกนึกคิดในใจนั้น
มีส่วนกำหนดการรับรู้ของเรามาก
ไม่ว่าชอบหรือชัง ติดใจหรืออยากผลักไส
ตลอดจนความรู้ ความเชื่อ และค่านิยมต่าง ๆ
ล้วนมีอิทธิพลต่อตา หู จมูก ลิ้น และกายของเรามาก

เวลารู้สึกติดลบกับใคร เรามักเห็นเขาเป็นตัวปัญหา
ทำอะไรดูไม่เข้าท่าไปหมด ปัญหาในครอบครัวและที่ทำงาน
บ่อยครั้งก็เกิดจากอคติในใจเรานี่เอง
อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์อาจจะดีขึ้นได้
หากเราลองทักท้วงความนึกคิดเดิม ๆ
ว่าเขาอาจไม่เป็นอย่างที่เรานึกก็ได้

ถ้ารู้สึกว่ายังทำยาก ก็ลองเปลี่ยนมุมมองดูว่า
"วันนี้เขาทำอะไรที่ดี ๆ บ้าง"
อะไรที่ไม่ดี ก็มองข้ามไปก่อนสักวันสองวัน
คอยรับรู้หรือจดจำแต่เรื่องดี ๆ ที่เขาทำ
บางทีเราอาจพบว่า เขาทำสิ่งดี ๆ มากมาย
เป็นแต่เราไม่ค่อยเห็น เพราะใจไปมีอคติกับเขา
ก็เลยเห็นแต่เรื่องไม่ดีของเขา

แก้วที่มีน้ำครึ่งแก้ว เรามองได้สองอย่าง
มองว่า มีน้ำพร่องครึ่งแก้วก็ได้ หรือน้ำเต็มครึ่งหนึ่งก็ได้
ถ้าคุณมองเห็นแต่น้ำพร่อง
ลองมองให้เห็นอีกด้านหนึ่งดูบ้าง จิตใจจะรู้สึกเป็นบวกมากขึ้น

กับลูกของเรา และตัวเราเองก็เช่นกัน
หากรู้สึกไม่เชื่อมั่นในตัวลูกหรือตัวเองขึ้นมา
ลองเปลี่ยนมุมมองดูบ้าง แล้วอาจจะพบว่า ลูกเราน่ารักกว่าที่คิด
ส่วนตัวเราเองก็เก่งอย่างที่นึกไม่ถึง



คัดลอกจาก...
http://www.budpage.com/ba58.shtml

สาธุ สาธุ สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
บัวหิมะ
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 26 มิ.ย. 2008
ตอบ: 1273

ตอบตอบเมื่อ: 18 ส.ค. 2008, 9:05 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เวลารู้สึกติดลบกับใคร เรามักเห็นเขาเป็นตัวปัญหา
ทำอะไรดูไม่เข้าท่าไปหมด ปัญหาในครอบครัวและที่ทำงาน
บ่อยครั้งก็เกิดจากอคติในใจเรานี่เอง
อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์อาจจะดีขึ้นได้
หากเราลองทักท้วงความนึกคิดเดิม ๆ
ว่าเขาอาจไม่เป็นอย่างที่เรานึกก็ได้

ถ้ารู้สึกว่ายังทำยาก ก็ลองเปลี่ยนมุมมองดูว่า
"วันนี้เขาทำอะไรที่ดี ๆ บ้าง"
อะไรที่ไม่ดี ก็มองข้ามไปก่อนสักวันสองวัน
คอยรับรู้หรือจดจำแต่เรื่องดี ๆ ที่เขาทำ
บางทีเราอาจพบว่า เขาทำสิ่งดี ๆ มากมาย
เป็นแต่เราไม่ค่อยเห็น เพราะใจไปมีอคติกับเขา
ก็เลยเห็นแต่เรื่องไม่ดีของเขา

แก้วที่มีน้ำครึ่งแก้ว เรามองได้สองอย่าง
มองว่า มีน้ำพร่องครึ่งแก้วก็ได้ หรือน้ำเต็มครึ่งหนึ่งก็ได้
ถ้าคุณมองเห็นแต่น้ำพร่อง
ลองมองให้เห็นอีกด้านหนึ่งดูบ้าง จิตใจจะรู้สึกเป็นบวกมากขึ้น

กับลูกของเรา และตัวเราเองก็เช่นกัน
หากรู้สึกไม่เชื่อมั่นในตัวลูกหรือตัวเองขึ้นมา
ลองเปลี่ยนมุมมองดูบ้าง แล้วอาจจะพบว่า ลูกเราน่ารักกว่าที่คิด
ส่วนตัวเราเองก็เก่งอย่างที่นึกไม่ถึง


อีกแล้วครับท่าน สนุกและได้สาระ ตามมาอ่านค่ะ ขอให้คุณลูกโป่ง เจริญในธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไปค่ะ สาธุ สู้ สู้
 

_________________
ชีวิตที่เหลือเพื่อธรรมะ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง