Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 นิพพาน กับ ฆราวาส อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ysri123
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 07 ส.ค. 2008
ตอบ: 8

ตอบตอบเมื่อ: 08 ส.ค. 2008, 10:21 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ผมอยากรู้ว่า คนเดินดิน กินข้าวแกง มีภาระ มีลูก มีเมีย มีงานที่ต้องรับผิดชอบ สามารถเข้าถึงนิพพานในชาตินี้ได้หรือไม่ โดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนสถานภาพไปเป็นพระน่ะ แต่ยังคงใช้ชีวิตตามปกติ ซึงใช้หลักว่า มีเหมือนไม่มี

ถ้าสามารถเข้าถึงนิพพานได้ จะต้องทำอย่างไร

ถ้าไม่สามารถเข้าถึงนิพพาน ช่วยให้เหตุผลหน่อย ว่าทำไมไม่ได้
มันจะไม่ไร้เหตุผลไปหน่อยหรือ ถ้าหากว่าจะเข้าถึงนิพพาน ก็ต่อเมื่อต้องเป็นพระ ละทางโลก ก็ในเมื่อจุดประสงค์ของศาสนาพุทธต้องการให้ทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย ทุกเชื้อชาติ หลุดพ้นจากความทุกข์ ในชาตินี้ โดยที่ไม่ต้องรอชาติหน้าหรือชาติต่อๆไป ซึ่งไม่รู้ว่าจะมีจริงหรือเปล่า ผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมคนทำบุญส่วนใหญ่ อธิฐานว่าถ้าชาติมีจริง ขอให้ผม/ดิฉัน เกิดมาไม่ลำบาก ไม่ยากจน เหมือนในชาตินี้ เพราะต่อให้คุณเกิดมาร่ำรวย มีพร้อมทุกอย่างในชาติหน้า คุณเองก็ต้องเจอทุกข์อยู่ดีจทุกข์มาก หรือ น้อย ก็อีกเรื่องนึง จริงไหม แล้วทำไมถึงอยากจะเกิดอีกล่ะ ทำไมไม่นิพพานซะชาตินี้เลย

โปรดช่วยอธิบายด้วย
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
kokorado
บัวใต้น้ำ
บัวใต้น้ำ


เข้าร่วม: 12 ก.ค. 2008
ตอบ: 104
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 09 ส.ค. 2008, 6:15 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ถามว่าเด็กประถมสามารถเรียนจบมหาวิทยาลัยได้ไหม ยากครับเพราะไม่มีวุฒิภาวะเพียงพอ จะบรรลุธรรมในชาตินี้ได้ครับแต่ยากหน่อย ต้องเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ชีวิตที่ยุ่งเกี่ยวกับการทำมาหากินทำได้ยาก คนสมัยนี้รู้ธรรมมาก แต่ไม่ได้บรรลุธรรมก็เพราะขาดบารมีนั่นเอง ถ้ารอให้อุปนิสัยแก่รอบมันก็ง่ายหน่อยไม่ต้องเหนื่อยมากเหมือน พระสารีบุตร พระมหากัสสปะ
 

_________________
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 09 ส.ค. 2008, 6:32 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

1. มีสำนวนที่พระอริยะเจ้าพูดไปทำนองกันว่า
นิพพานนั้น ... ถ้าหาจะไม่เจอ
ถ้าไม่หา ... จะเจอ
(หมายถึงในระดับภาวนาสูงๆ ถ้าเพ่งหา ควานหา จะไม่เจอ
บทจะเจอคือไม่ตั้งใจหา ส้มหล่นซะงั้น)

2. การเข้านิพพาน ไม่สามารถสำเร็จได้ด้วยการพิจารณาด้วยความคิด
การอ่าน การเขียน การเรียนใดๆ
แต่สำเร็จได้ด้วยการเจริญสติปัฏฐาน
(แต่การเรียน การเขียน การอ่าน เป้นพื้นฐานสำคัญ)

3. อย่างไรก้ตาม มีตัวอย่าง
หลวงตาพวง เป็นชายแก่ที่เข้ามาบวชเมื่อแก่แล้ว
เลยเร่งวันเร่งคืน อยากนิพพานไวๆ และในท้ายที่สุด ก็ทำได้
ได้อรหัตถผล ซึ่งปรากฏอยู่ในประวัติของหลวงปู่ดูลย์ อตุโล

นิพพานจึงไม่ใช่เรื่องยากเกินไป
เรื่องของชาติโน้นชาตินี้ ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เป็นส่วนเสริมเท่านั้น
่เรื่องของบารมี ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เป็นส่วนเสริมเท่านั้น


หลวงพ่อปราโมช สวนสันติธรรม ... ยกตัวอย่างว่า พระเวสสันบำเพ็ญบารมีขนาดหนัก ทานหมดทุกๆอย่าง
แต่ไม่ถึงนิพพาน ไม่ได้นิพพาน
นอกจากนี้ ยังมีพระชาติอีกมากมาย
ที่ใช้วิธีต่างๆนาๆที่จะให้หลุดจากทุกข์
ก็ไม่เคยสำเร็จ

จนพระชาติสุดท้าย ด้วยบุญบารมีที่มีมาแต่ชาติก่อน ทำให้สามารถละทิ้งลูกเมียได้ มีความใจเด็ด ได้เกิดในตระกุลดี มีการศึกษา ได้ศึกษากับอาจารย์ต่างๆมากมาย

แต่ไม่มีวิธีไหนสำร็จได้เลย
จนมานั่งสมาธิ....แล้วสำเร็จนิพพานได้
(เพียงนั่งสมาธิดูจิตใจร่างกายตัวเองเท่านั้น)

ก้าวไปทีละก้าว ยังพอหวังได้ว่าอาจจะถึง
ถ้าไม่ก้าวเลยสักก้าว มันจะไม่ถึงแน่นอน

แรกๆจับต้นชนปลายไม่ถูก เป็นเรื่องธรรมดา
นานเข้าก็จะรู้เองคับ ค่อยๆศึกษาไป
 

_________________
ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
kokorado
บัวใต้น้ำ
บัวใต้น้ำ


เข้าร่วม: 12 ก.ค. 2008
ตอบ: 104
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 09 ส.ค. 2008, 8:36 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คำพูดที่ว่า คนสมัยนี้รู้ธรรมมากแต่ยังไม่บรรลุธรรม เพราะขาดบารมีนั่นเอง เป็นของหลวงปู่ทวด ที่เป็นร่างแบ่งภาค ของพระศรีอารย์นะครับ ท่านจะไม่เชื่ออีกหรือครับ ว่าบารมีสิ่งสำคัญของการบรรลูนิพพาน อีกอย่างก่อนที่เจ้าชายสิทธัตถะจะลงมาเกิดนี่ พรหมท่านขอร้องให้มาโปรดสัตว์นะครับ เพราะชาติที่เป็นพระเวสสันดรท่านมาเกิดเพื่อสร้างทานบารมีให้เต็ม พอเต็มแล้วถึงได้เป็นพระพุทธเจ้า แต่พระพุทธเจ้าทั่วไปสำเร็จได้ใน 7 วัน เจ้าชายสิทธัตถะใช้เวลา 6 ปี เพราะได้ไปสบประมาทพระพุทธเจ้ากัสสปะเอาไว้ ความจริงพระพุทธเจ้าของเราสามารถไปนิพพานนานแล้วครับ ตังแต่ 4อสงไขยก่อนตอน พบ พระทีปังกรพระพุทธเจ้า ไม่ใช่พยายามมาทุกชาติหรอกครับ ที่ทนเกิดเนี่ยก็เพื่อสัตว์โลกเท่านั้น พระบรมโพธิสัตว์นี่ท่านมีญาณหยั่งรุ้นะครับว่าบารมีของท่านถึงไหนแล้ว ความจริงน่าจะพูดว่าบารมีเป็นสิ่งสำคัญในการบรรลุพระพุทธเจ้า พระอัครสาวก อสีติมหาสาวกมากกว่า แต่สำหรับพระอรหันต์ธรรมดา บารมีเป้นส่วนเสริม แต่ถ้ามากมันก็จะง่ายไม่ต้องเหนือยมาก พยายามมาก
 

_________________
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม

แก้ไขล่าสุดโดย kokorado เมื่อ 09 ส.ค. 2008, 10:28 am, ทั้งหมด 4 ครั้ง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 09 ส.ค. 2008, 8:41 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อ้างอิงจาก:
นิพพานจึงไม่ใช่เรื่องยากเกินไป
เรื่องของชาติโน้นชาตินี้ ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เป็นส่วนเสริมเท่านั้น
่เรื่องของบารมี ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เป็นส่วนเสริมเท่านั้น


บารมี ไม่ได้พาเข้านิพพานนะครับ แค่ช่วย ตัวช่วย
อ่านดีๆ อ่านใหม่
 

_________________
ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
natdanai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 18 เม.ย. 2008
ตอบ: 387
ที่อยู่ (จังหวัด): bangkok

ตอบตอบเมื่อ: 09 ส.ค. 2008, 11:45 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ysri123 พิมพ์ว่า:
ผมอยากรู้ว่า คนเดินดิน กินข้าวแกง มีภาระ มีลูก มีเมีย มีงานที่ต้องรับผิดชอบ สามารถเข้าถึงนิพพานในชาตินี้ได้หรือไม่ โดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนสถานภาพไปเป็นพระน่ะ แต่ยังคงใช้ชีวิตตามปกติ ซึงใช้หลักว่า มีเหมือนไม่มี

ถ้าสามารถเข้าถึงนิพพานได้ จะต้องทำอย่างไร

ถ้าไม่สามารถเข้าถึงนิพพาน ช่วยให้เหตุผลหน่อย ว่าทำไมไม่ได้
มันจะไม่ไร้เหตุผลไปหน่อยหรือ ถ้าหากว่าจะเข้าถึงนิพพาน ก็ต่อเมื่อต้องเป็นพระ ละทางโลก ก็ในเมื่อจุดประสงค์ของศาสนาพุทธต้องการให้ทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย ทุกเชื้อชาติ หลุดพ้นจากความทุกข์ ในชาตินี้ โดยที่ไม่ต้องรอชาติหน้าหรือชาติต่อๆไป ซึ่งไม่รู้ว่าจะมีจริงหรือเปล่า ผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมคนทำบุญส่วนใหญ่ อธิฐานว่าถ้าชาติมีจริง ขอให้ผม/ดิฉัน เกิดมาไม่ลำบาก ไม่ยากจน เหมือนในชาตินี้ เพราะต่อให้คุณเกิดมาร่ำรวย มีพร้อมทุกอย่างในชาติหน้า คุณเองก็ต้องเจอทุกข์อยู่ดีจทุกข์มาก หรือ น้อย ก็อีกเรื่องนึง จริงไหม แล้วทำไมถึงอยากจะเกิดอีกล่ะ ทำไมไม่นิพพานซะชาตินี้เลย

โปรดช่วยอธิบายด้วย


ยุคนี้ สมัยนี้ ไม่น่าจะได้นะครับ แต่ก็อาจจะได้(แบบโคตะระ... ยาก)

เพราะว่ายังวางโลกไม่ได้ครับ ยังต้องดิ้นรนเพื่อเลี้ยงปาก ท้อง ยังต้องมีเจตนาในการทำกรรมอยู่ ยังต้องมีภาระเลี้ยงขันธ์ 5 ของลูก ของภรรยา ของพ่อ ของแม่ ของฯลฯ ( ภาระทั้งนั้น ) ลำพังแค่ 5 ขันธ์ ของตัวเองก็ยังวางไม่ได้เลยครับ ( ยังวางไม่ได้ก็ติดโลกอยู่ยังงี้ล่ะครับ ) แล้วนี่คุณมาแบกของใครต่อใครอีกตั้งมากมาย แล้วจะเข้านิพพานได้ยังไงล่ะครับ

ผู้ที่จะเข้านิพพานได้นั้นจะต้องสิ้นอาสวะกิเลสแล้วครับจึงจะเข้าไปได้ หรือให้เข้าใจง่ายๆครับ เปรียบเทียบเป็นชีวิตทางโลกก็คือ ต้องรวยจริงๆครับ รวยขนาดที่ว่าไม่ต้องทำอะไรอีกแล้ว ไม่ต้องห่วงเรื่องของการดำรงค์ชีวิตอีกต่อไป ไม่ต้องห่วงว่าครอบครัวจะได้ยาก และชีวิตนี้ไม่มีอะไรที่อยากได้อีกแล้ว ไปมาหมดทุกที่แล้ว ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่อยากได้อีกแล้ว เพราะได้มาหมดทุกอย่างแล้ว นั่นล่ะครับคนที่จะเข้านิพพาน กล่าวคือ หมดที่รู้แล้ว สิ้นแล้วซึ่งความสงสัยใดๆในกองสังขาร

เมื่อมาพิจารณาแล้ว ปัจจุบันนี้ ผู้ที่จะรวยขนาดนั้นคงไม่มีครับ ผู้ที่จะดำเนินชีวิตได้อย่างนั้นก็เห็นจะมีแต่เพียง สมณะเพศ (นักบวช)เท่านั้นครับ

ทีนี้มาลองดูว่าทำไมจึงต้องบวชครับ เพราะพระนั้นไม่ต้องทำอะไรไปมากกว่าการกำจัดกิเลสในจิตของตัวเองครับ เพราะอาหารก็ไม่ต้องดิ้นรน ขวนขวายหา อยู่ด้วยการขอ เขาให้ก็เอา ไม่ให้ก็ไม่เอา ที่อยู่อาศัย ก็มีอยู่แล้วครับ เครื่องนุ่งห่มนั้น พระก็ไม่ยุ่งยากครับ ชุดเดียวเที่ยวทั่วโลกครับ ไม่ต้องระวังเรื่อง กาละเทสะ ส่วนยารักษาโรคก็ ตามมีตามได้ครับเพราะเป็นกฏแห่งกรรม และที่พระยังมีปัจจับ 4 บริบูรณ์เพราะผู้ที่ศรัทธาและปรารถนาสวรรค์สมบัติก็ยังมีมากมาย ลาภสักการะจึงยังมีอยู่ ในเมื่อความเป็นอยู่บริบูรณ์แล้วจิตจึงปล่อยวางได้ครับ

หากยังยุ่งอยู่กับโลก และต้องการอะไรไปมากกว่าปัจจัย 4 ก็วุ่นวาย วางโลกไม่ได้ หรือการติด ภพ เมื่อติด ภพ ก็ต้องมีชาติ แล้วก็ต้องแก่ เจ็บ แล้วก็ตายอีก อยู่ยังงี้ล่ะครับ
 

_________________
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailMSN Messenger
เมธี
บัวตูม
บัวตูม


เข้าร่วม: 02 มี.ค. 2008
ตอบ: 222

ตอบตอบเมื่อ: 11 ส.ค. 2008, 9:29 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ysri123 พิมพ์ว่า:
ผมอยากรู้ว่า คนเดินดิน กินข้าวแกง มีภาระ มีลูก มีเมีย มีงานที่ต้องรับผิดชอบ สามารถเข้าถึงนิพพานในชาตินี้ได้หรือไม่ โดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนสถานภาพไปเป็นพระน่ะ แต่ยังคงใช้ชีวิตตามปกติ ซึงใช้หลักว่า มีเหมือนไม่มี

ถ้าสามารถเข้าถึงนิพพานได้ จะต้องทำอย่างไร

ถ้าไม่สามารถเข้าถึงนิพพาน ช่วยให้เหตุผลหน่อย ว่าทำไมไม่ได้
มันจะไม่ไร้เหตุผลไปหน่อยหรือ ถ้าหากว่าจะเข้าถึงนิพพาน ก็ต่อเมื่อต้องเป็นพระ ละทางโลก ก็ในเมื่อจุดประสงค์ของศาสนาพุทธต้องการให้ทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย ทุกเชื้อชาติ หลุดพ้นจากความทุกข์ ในชาตินี้ โดยที่ไม่ต้องรอชาติหน้าหรือชาติต่อๆไป ซึ่งไม่รู้ว่าจะมีจริงหรือเปล่า ผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมคนทำบุญส่วนใหญ่ อธิฐานว่าถ้าชาติมีจริง ขอให้ผม/ดิฉัน เกิดมาไม่ลำบาก ไม่ยากจน เหมือนในชาตินี้ เพราะต่อให้คุณเกิดมาร่ำรวย มีพร้อมทุกอย่างในชาติหน้า คุณเองก็ต้องเจอทุกข์อยู่ดีจทุกข์มาก หรือ น้อย ก็อีกเรื่องนึง จริงไหม แล้วทำไมถึงอยากจะเกิดอีกล่ะ ทำไมไม่นิพพานซะชาตินี้เลย

โปรดช่วยอธิบายด้วย


เพราะนิพพานนั้นต้องละวางแล้วซึ่งทุกอย่าง
อาจจะได้น่ะครับ แต่คงยากมากๆ เพราะภาระทางโลกเยอะ ห่วงเยอะ แต่เชื่อเถอะว่าพอบรรลุธรรมได้ระดับนึง ก็ต้องปล่อยวางครอบครัวอยู่ดี

บวชเป็นพระจะง่ายต่อการปฏิบัติมากกว่า แต่ถ้าไม่ได้บวชเป็นพระก็ยังสามารถปฏิบัติธรรมเพื่อละความทุกข์ได้มากอยู่ครับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailMSN Messenger
บุญชัย
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 ก.ค. 2008
ตอบ: 568
ที่อยู่ (จังหวัด): สงขลา

ตอบตอบเมื่อ: 11 ส.ค. 2008, 10:53 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คามินพูดมีเหตุผล น่าฟัง
 

_________________
ทำดีทุกทุกวัน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Email
RARM
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 28 ก.ค. 2007
ตอบ: 417

ตอบตอบเมื่อ: 11 ส.ค. 2008, 11:59 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ถ้าไม่สามารถเข้าถึงนิพพาน ช่วยให้เหตุผลหน่อย ว่าทำไมไม่ได้

ก็ไม่ได้ปฏิบัติ ซิครับ ถึงไม่ได้
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
บัวหิมะ
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 26 มิ.ย. 2008
ตอบ: 1273

ตอบตอบเมื่อ: 11 ส.ค. 2008, 12:13 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อ้างถึง-แต่ไม่มีวิธีไหนสำร็จได้เลย
จนมานั่งสมาธิ....แล้วสำเร็จนิพพานได้
(เพียงนั่งสมาธิดูจิตใจร่างกายตัวเองเท่านั้น)

ก้าวไปทีละก้าว ยังพอหวังได้ว่าอาจจะถึง
ถ้าไม่ก้าวเลยสักก้าว มันจะไม่ถึงแน่นอน

แรกๆจับต้นชนปลายไม่ถูก เป็นเรื่องธรรมดา
นานเข้าก็จะรู้เองคับ ค่อยๆศึกษาไป



สาธุ เห็นด้วยกับ คุณ คามินธรรม จ้า

หมั่นฝึกฝน แล้วจะเห็นเส้นชัย ขอเป็นกำลังใจด้วยคน สู้ สู้
 

_________________
ชีวิตที่เหลือเพื่อธรรมะ

แก้ไขล่าสุดโดย บัวหิมะ เมื่อ 12 ส.ค. 2008, 11:58 am, ทั้งหมด 1 ครั้ง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
บุญชัย
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 ก.ค. 2008
ตอบ: 568
ที่อยู่ (จังหวัด): สงขลา

ตอบตอบเมื่อ: 11 ส.ค. 2008, 1:43 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ทุกคน มีเหตุผล กันคนละอย่างล้วนถูก ผม
ว่านะ ต้องปฏิบัต ชนิด ถวายหัว ไม่ทำลาย บัลลังค์ เลย จึง เห็นจริง ว่า นิพพานเช่นไร... แลบลิ้น ยิ้มแก้มปริ
 

_________________
ทำดีทุกทุกวัน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Email
บุญชัย
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 ก.ค. 2008
ตอบ: 568
ที่อยู่ (จังหวัด): สงขลา

ตอบตอบเมื่อ: 11 ส.ค. 2008, 1:50 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สัมมาสมาธิ ในองค์มรรคเป็น
1ไม่มีธาตุขันธ์ ไม่มีบรรลุ ไม่มี บรรลุ
2ไม่มี รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
3.ไม่มี หู ตาจมูก ลิ้น กายใจ
 

_________________
ทำดีทุกทุกวัน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Email
ปริญญา ไชยา
บัวใต้น้ำ
บัวใต้น้ำ


เข้าร่วม: 18 ก.ค. 2008
ตอบ: 127
ที่อยู่ (จังหวัด): ราชบุรี

ตอบตอบเมื่อ: 11 ส.ค. 2008, 2:25 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สะสมไปทีละเล็กละน้อยครับ...เหมือนการสะสมตังค์ในกระปุก
....แต่นี่คือบารมีของคุณเอง....เมื่อมีเวลาควรทำให้ดีที่สุด....
ผมก็ทำทุกวันเหมือนกันครับ...รู้สึกได้ด้วยตัวเองครับ...ขอให้โชคดี
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 11 ส.ค. 2008, 2:42 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

มันไม่ยากหรอกคับ ถ้าทำถูกทาง ทำไปตามธรรมชาติ


ธรรมชาติการเรียนการสอนให้ถึงพระนิพพานนี้
ถ้าท่านศึกษาวิธีแบบหลวงปู่มั่น
ท่านจะพบว่าท่านสอนลูกศิษย์แบบ ถามคำ ตอบคำ

ปริยัติ .. 3 คำ .......
ตามด้วยปฏิบัติ ... 3 เดือน/ปี .....
ตามด้วยอภิธรรม ...3 วัน....
(3 นี่สมมุติเฉยๆนะคับ)



ท่านจะบอกลูกศิษย์ทำไปเลย
ท่านบอกให้ทำอะไรต้องทำ ท่านจะพูดน้อยมาก
ถ้าไม่ทำ หรือไม่ตั้งใจทำ ... ท่านก็ไล่ออกจากคณะเลยทีเดียว .. เฮี๊ยบมาก


เหมือนชี้ทางให้เดินไป ประมาณว่า
"เดินไปเลยทางนั้น เดินไปจนเจอ XXX แล้วกลับมาคุยกัน"
(XXX ก้คำสมมุตินะคับ เช่น เดินไปเจอ"สี่แยก" แล้วกลับมาบอก)


พอวันหลังลูกศิษย์ปฏิบัติจนเจอ xxx อย่างที่หลวงปู่บอกแล้ว
ก็จะมารายงานผล ท่านจะรู้ทันทีว่าทำถูกหรือผิด

ถ้าทำผิด.... ท่านก็พูดไม่กี่คำแล้วให้ไปแก้
"ถ้าทำถูก ท่านจึงสอนอภิธรรม"

การสอนอภิธรรม หรือปริยัติ หลังจากปฏิบัติแล้วนี้
ลูกศิษย์ท่าน จะเข้าใจอภิธรรมที่หลวงปู่สอนอย่างแจ่มแจ้ง..ในทุกๆคำ
เข้าใจชนิดลึกซึ้งมากๆ
และจะไม่มีวันลืมสารัตถะที่หลวงปู่สอนเลย


เพราะลูกศิษย์ทั้งหลาย เพิ่งจะเดินผ่านไปในทางที่หลวงปู่บอก
ต้นไม้ทุกต้น หินทุกก้อน ผ่านตาคนเดินหมด

เมื่อกลับมาพบหลวงปู่มั่น หลวงปู่จึงบอกว่าทางที่เดินไปนั้น
มีต้นไม้ชื่ออะไร มีก้อนศิลาตรงไหน เหวตรงนั้นชื่ออะไร

เมื่อกลับมาพบหลวงปู่มั่น ท่านจึงแสดงอภิธรรม
อธิบายชื่อเรียกต่างๆนาๆ สภาพธรรมของทางเส้นนั้น ความสัมพันธ์ที่สิ่งต่างๆอาศัยกันอยู่
ตลอดจนคุณค่าและความสำคัญของสิ่งที่ได้พบเห็น
สำคัญที่สุดคือ "หน้าที่" ต่อสิ่งที่ได้รับรู้นั้นๆ



แต่สิ่งที่พวกคนส่วนใหญ่ทำ รวมถึงผมเมื่อก่อนทำ
คือ ไม่เดินไปไหนเลย

เอาแต่นั่งอ่านว่าต้นไม้ชื่อนี้ชื่อนั้น
มีรูปร่างอย่างนี้อย่างนั้น

วาดภาพจินตนาการต่างๆนาๆ ว่า
ต้นนิพพานหน้าตาอย่างนั้น หน้าตาอย่างนี้

ฉันมีโอกาสเห็นไหมหนอ ได้ครอบครองไหมหนอ
มันยากไหมหนอ

บางพวกแย่กว่านั้น นอกจากไม่อ่านเลย
ยังไปสงสัยในบารมีของตนว่าจะพอไหม
ทั้งๆที่พวกเขาไม่มีทางพิสูจน์ได้ว่าตัวเองมีบารมีอยู่กี่กิโล


เมื่อไม่สามารถจะรู้ได้ .. เลยถอดใจ
ปิดประตูนิพพาน ลั่นดาน ตอกตะปู แถมโบกปูนทับอีก ... จบกัน



ออกเดินเสียแต่บัดนี้
แต่เดี๋ยวก่อน .... หากออกเดินใน 15 นาทีนี้
เรามีวิธีเดินพร้อมคู่มือและ mp3 แจก ฟรี! ฟรี! ที่ www.wimutti.net


คามินธรรมรับรอง
(แล้วใครอ่ะ คามินธรรม? เป็นไรกะ.."จ้าวป้า"..ปะเนี่ย)
 

_________________
ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ


แก้ไขล่าสุดโดย คามินธรรม เมื่อ 11 ส.ค. 2008, 2:52 pm, ทั้งหมด 2 ครั้ง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
บุญชัย
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 ก.ค. 2008
ตอบ: 568
ที่อยู่ (จังหวัด): สงขลา

ตอบตอบเมื่อ: 11 ส.ค. 2008, 2:49 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ผมก็เรียน รอบเดียว แล้วเก็บ ตำรา จน กว่า เดิน เจอ จึง
กลับไปปพลิกตำรา ดูทบทวนที่เจอ ผิด ถูก ยังไง ไม่ค่อย เน้น
ตำรา จะเป็น นิมิต หลอกๆๆๆคิดเอง
 

_________________
ทำดีทุกทุกวัน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Email
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง