อยากให้กระจ่าง

ตอบเมื่อ: 06 ส.ค. 2008, 5:01 pm

อ้างอิงจาก:

ข้อความประมาณคุณขันธ์นำมาดังกล่าว

กรัชกายไม่เห็นไม่เคยอ่านจากที่ใดๆ เลย

พอๆเห็นตามข่าวว่าท่านสอนให้เบิกบุญโอนบุญให้เชื้อโรคประมาณเนี้ย

อ้อ..และไม่ให้พุทธศาสนิกชนไหว้พระพุทธปฏิมา

คุณกรัชกรายต้อง ลองไปหาดูนะครับ ว่ามีอะไรบ้าง

ทั้งเอาพระพุทธรูป ทำลายทิ้ง ด้วยการฝังดิน
ทั้งเอาเท้าไปที่ พระพุทธรูป
และ การประกาศบอกว่า ไม่ต้องไปกราบมัน

นอกจากนี้ในหนังสือ ของพระเกษมเองยังระบุเอาไว้ว่า เหาะสูงจากพื้นขึ้นไปหยิบ ผ้าบนต้นไม้บ้าง
พูดคุยกับ สัตว์นรก เทวดา และ เป็นที่รักและเคารพของเทวดาระแวกนั้นเป็นอันมาก

สำหรับ คุณ สี บุญมา

อ้างอิงจาก:

ทำไม อะไร ทำให้ขันธ์คิดว่าตัวเองเหมือน
หลวงตา ถึงเอาท่านมาอ้าง

ผมไปบอกว่า ผมเหมือนหลวงตาท่านตอนไหน ผมยกตัวอย่างให้ดู คุณไปติดเรื่องนี้มาจากไหน

ตอบเมื่อ: 06 ส.ค. 2008, 8:21 pm

อ้างอิงจาก:

เด็กจริงๆ แถมโง่ด้วย เหตุผลอะไรก็ขัดกันเอง
บอกว่า ดูจิต ดูจิต จิตตัวเองร้อนเป็นไฟ เต้นออกท่าออกทาง
ตีความไปอย่างนั้นอย่างนี้ ยังจะอวดดี

เอาแค่นี้แล้วกัน ขี้เกียจเถียงกับเด็กอวดดี ดูจิตเก่ง แต่โมโห อัตโนมัต

กล่าวเช่นนี้เป็นอกุศล ในข้อการกดผู้อื่น

อีกประการหนึ่ง ความดี ความชัว ความโง่ ความฉลาด และปัญญาไม่ได้ขึ้กับอายุประการเดียว

คนแก่โง่มีถมไป

ตอบเมื่อ: 06 ส.ค. 2008, 8:35 pm

กระผมเองเห็นด้วยกับท่านกรัชกายครับ แล้วกระผมเองก็เคยไปหาหลวงพ่อเกษม หลายครั้งแล้วครับ ทุกครั้งที่ไปผมเองก็ไม่เห็นเคยได้ยินท่านอ้างธรรมที่ไม่ใช่ธรรมเลยครับ หนังสือที่ทางคณะศรัทธาพิมพ์มาแจก (หลวงพ่อท่านไม่เคยมีดำริให้พิมพ์ขึ้นหรอกครับ แต่คณะศรัทธาอยากจะทำเพื่อเป็นพุทธบูชา ) กระผมเองก็เคยอ่านนะครับ ไอ้เรื่องการเหาะได้นั้น เท่าที่จำได้เนื้อหาในหนังสือก็เป็นเพียงการบอกเล่าของลูกศิษย์เท่านั้นครับ อีกอย่างผมก็ไม่เห็นว่าที่วัดจะมีเจตนาทำลายพระศาสนาแต่อย่างใด พระภิกษุที่นี่ต้องถือว่าปฏิบัติได้เข้มข้นกว่าภิกษุที่จำวัตรอยู่ในวัดหลวงเสียด้วยซ้าไป ( เอาจากที่ได้ไปสัมผัสมา )

ตอบเมื่อ: 06 ส.ค. 2008, 8:42 pm

อ้างอิงจาก:

ขอโทษนะครับ พวกคุณหยุดมองไปที่คนอื่นได้แล้วหรือครับ ถึงออกมาพูดแบบนี้

ผมถามว่า หลวงตามหาบัว ท่านออกมาช่วยโลก นี่ท่านเพ่งคนอื่นหรือเปล่า
อะไรเป็นธรรมธรรมก็ว่าตามธรรม แล้วที่พวกคุณออกมามองคนอื่นที่เขาสงสัย
เขาต้องการถาม ความเป็นจริง นี่เรียกว่า ไปมองคนอื่นไหม

อย่ามาตอบกระทู้เลยครับ กลับบ้านไปดูจิตตัวเองเถิด

เงินทองเป็นเรื่องของกิเลสตัญหา พระสงฆ์ไม่ควรเข้ามาข้องแวะ เพราะเป็นเรื่องของโลกียะ

หยิบยังไม่สมควรหยิบเลย

และยิ่งไม่ควรสะสม

เงินผ้าป่าช่วยชาติที่ได้ข่าวตามที่ติดตามก็นำออกมาใช้ไม่ได้ เพราะไม่มีกฎหมายรองรับ

หากเข้าใจผิดก็ขออภัย

และผมก็ไม่ลบหลู่ท่านหลวงตาแน่ เพราะผมบวชมากับสหายธรรมของท่าน บวชแล้วก็จำพรรษาที่วัดท่านเคยจำพรรษามาก่อน

สมัยท่านยังหนุ่ม

ทั้งยังเป็นห่วงท่านในคำครหาต่างๆมากมาย

ตัวอย่างเช่นการเรี่ยรายมิใช่กิจของสงฆ์แน่นอน

กลับบ้านไปดูจิตตัวเองเถิด

แต่ เอ! ทำไมต้องกลับไปดูจิตที่บ้าน

ตามศาลาวัด ตามชายป่าดูได้ไหม

ย้อนกลับมาที่หลวงตาหน่อย

ที่คุณอ้าวว่าท่านช่วยโลก

ขอสักตัวอย่าง ผมจะเอาไปอ้างกับข้างบ้านบ้าง

ตอบเมื่อ: 07 ส.ค. 2008, 10:29 am

สงสัยจะไปกระทบอะไร คุณ mes ถึงออกมาเต้น

ตอบเมื่อ: 07 ส.ค. 2008, 12:01 pm

ขันธ์ พิมพ์ว่า:

เอาเถอะครับ คามิน ถ้าเมื่อไรดูจิตไม่เป็น ดูไม่ออกก็มาถามผมแล้วกัน

ขันธ์ พิมพ์ว่า:

สงสัยจะไปกระทบอะไร คุณ mes ถึงออกมาเต้น

คุณขันธ์(แตก)
ผมดูจิตไม่ออกแล้วล่ะ ช่วยผมหน่อย

ผมดูจิตคุณขันธ์ไม่ออกน่ะคับ
ว่าเป็นอะไรมากไม๊ ?

ตอบเมื่อ: 07 ส.ค. 2008, 12:48 pm

อ้าว นี่ก็ออกมาเต้นอีกคน เป็นอะไรไปหละครับ

ดูจิตผมอย่ามาดูเลยครับ ก็คุณบอกเองว่า อย่าไปดูจิตคนอื่นนี่

แล้วทำไมมาประชดประชันอะไรกันหละครับ คุณคามิน

ผมจะบอกให้ ให้ดูเวลาจิตของคุณ ตอนที่มันหมั่นไส้คน ที่มันค้างอยู่ตั้งแต่วันก่อน แล้วทำไมมันยังอยู่ จนถึงตอนนี้ นั่นแหละ แล้วก็มองให้มันเป็น อนัตตา คือ มันไม่มี ที่มันยังอยู่ เพราะว่าเราผูกเอาไว้

แล้วก็ให้ดูตัวโง่ที่ ยึดเอาไว้ ว่าไม่มีประโยชน์ที่จะยึดเอาไว้ทำลายตัวเอง อันเป็นการบ่มเพาะนิสัย ที่ไม่รุ้จักปล่อยวาง แล้วก็ต้องดูต่อไปว่า นี่นะหรือคนที่เห็นธรรม ทำไมมันถึงแสดงอาการโง่ๆ ออกมาได้

ถามมาอีกนะครับ ผมจะบอกให้

ตอบเมื่อ: 07 ส.ค. 2008, 1:14 pm

ขันธ์ พิมพ์ว่า:

อ้าว นี่ก็ออกมาเต้นอีกคน เป็นอะไรไปหละครับ

ดูจิตผมอย่ามาดูเลยครับ ก็คุณบอกเองว่า อย่าไปดูจิตคนอื่นนี่

แล้วทำไมมาประชดประชันอะไรกันหละครับ คุณคามิน

ผมจะบอกให้ ให้ดูเวลาจิตของคุณ ตอนที่มันหมั่นไส้คน ที่มันค้างอยู่ตั้งแต่วันก่อน แล้วทำไมมันยังอยู่ จนถึงตอนนี้ นั่นแหละ แล้วก็มองให้มันเป็น อนัตตา คือ มันไม่มี ที่มันยังอยู่ เพราะว่าเราผูกเอาไว้

แล้วก็ให้ดูตัวโง่ที่ ยึดเอาไว้ ว่าไม่มีประโยชน์ที่จะยึดเอาไว้ทำลายตัวเอง อันเป็นการบ่มเพาะนิสัย ที่ไม่รุ้จักปล่อยวาง แล้วก็ต้องดูต่อไปว่า นี่นะหรือคนที่เห็นธรรม ทำไมมันถึงแสดงอาการโง่ๆ ออกมาได้

ถามมาอีกนะครับ ผมจะบอกให้

เห้นแล้วคับ คุณช่วยผมให้เห็นจิตของคุณได้จริงๆ
เห้นเป็นธาตุๆเลยครับ ธาตุแท้ๆเลย

ผมรู้ตื่น รู้เบิกบาน เป็้นอรหันต์ขึ้นมาแล้วครับ
ผมสำเร็จแล้ว นิพพานแล้ว
ขอบคุณคับ

ตอบเมื่อ: 07 ส.ค. 2008, 1:24 pm

อย่าด่ากันเลยครับ

จะคุยก้ออย่ามีโทสะนะครับ สู้ สู้

ตอบเมื่อ: 07 ส.ค. 2008, 2:14 pm

เรื่องของ พระเกษม

ที่คุณขันธ์พูด ผมว่าก็สมเหตุผลของแกนะครับ

พ่อแม่ปู่ย่าตายายของเราก็พากราบพาไหว้พระพุทธรูปมาตั้งแต่กาลไหน ๆ
ซึ่งเป็นขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงามที่ยึดถือปฏิบัติกันมา

แล้วที่พระเกษมมาสอนพุทธบริษัทเช่นนี้
ไม่เพียงแต่เป็นการขัดต่อขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงามของชาติเท่านั้นนะครับ
แต่เป็นการทำลายอย่างชัดเจน

พระพุทธรูปเปรียบเสมือนองค์แทนพระพุทธเจ้า ตนเองเป็นศิษย์ตถาคต แต่เรียกอาจารย์ตนเองว่ามัน แถมชักชวนคนให้หลงผิด กระทำในสิ่งที่เป็นอัปมงคล อย่างนี้ไม่ถูกต้องครับ

ถึงใครจะว่าไม่ผิดวินัยสงฆ์ก็ตาม

แต่ผิดคดีอาญา มาตรา ๒๐๖ ตามประมวลกฎหมายอาญาครับ

ส่วนกรณีที่มีผู้กล่าวถึงองค์หลวงตามหาบัว
ขอได้โปรดอย่ามีทัศนคติแง่ลบกับองค์หลวงตาท่านเลยครับ
เพราะองค์ท่านละแล้วทั้งบาป ทั้ง บุญ ครับ

ส่วนเรา ๆ ท่าน ๆ ยังต้องรับบาปรับบุญอยู่ครับ
สิ่งที่กระทำลงไปทั้งกาย วาจา ใจ อย่างไม่รอบคอบ
อาจทำให้เราต้องได้รับผลของกรรมอย่างที่ไม่คาดมาก่อนครับ

องค์ท่านเป็นพระอรหันต์ จตุถปฏิสัมภิทาญาณ ครับ
ผู้มีคุณธรรมเช่นนี้ จะเป็นมหาบุรุษ ผู้ลือนามไปทั่วไตรโลกธาตุ นะครับ

อัปปะมาโท จะ ธัมเมสุ เอตัมมังคละมุตตะมัง

ตอบเมื่อ: 07 ส.ค. 2008, 2:41 pm

อ้างอิงจาก:

สงสัยจะไปกระทบอะไร คุณ mes ถึงออกมาเต้น

เกิดข้อสงสัยก็สอบถามดู

คุณขันธ์โพสในเวป โดยปกติธรรมดาของการโพสเมื่อมีการเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็สามารถโพสแสดงความเห็นมิใช่หรือครับ

ในกระทู้ผมคุณขันธ์ก็เคยเข้าไปแสดงความเห็น

ผมเห็นว่าเป็นปกติของเวปที่ต้องการร่วมแสดงความคิดกันหลากหลาย

มิใช่จะไปห้ามใครมิให้แสดงความคิดเห็นได้ตามใจชอบ

หรือคุณขันธ์คิดว่าผมกระทำผิดตรงไหน

คุณเคยท้าท้ายใครก็ได้ทดสอบหลักธรรมกับคุณมิใช่หรือ

ตกลงคุณจะยึดเอาหลักการไหนกันครับ

ตอบเมื่อ: 07 ส.ค. 2008, 3:12 pm

ผมไม่อยากจะอธิบายนะครับ

คุณ mes ผมยินดีจะให้คุณ ตรวจสอบ แต่คุณควรจะดูก่อนว่า อะไรคืออะไร
ทำไมคุณไม่ไปเอะใจ ในการกระทำของ อีกฝ่ายที่ออกมาแย้ง ออกมาพูดเรื่องหลวงตา นั่นเพราะว่า คุณเห็นดีเห็นงามกับเขา

แต่คุณไม่เห็นดีเห็นงามกับคำพูดของผม คุณจึงออกมาเต้น
ผมก็บอกว่า คุณออกมาเต้นทำไม ผมด่าคุณหรือเปล่า

ทีนี้ ใครไปห้ามคุณ
ผมพูดแค่ว่า สงสัยไปกระทบอะไร คุณ คุณจึงออกมาเต้น

ที่บอกว่าเต้นนี้ เพราะอะไร เพราะว่าหลวงตามหาบัวท่านไม่ได้มาเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้ ผมเอ่ยนามท่านเพราะผมเห็นว่า ท่านเป็นแบบอย่างที่ดี ที่คนทุกคนน่าจะเห็น แต่ทั้งคุณ mes และ คามินกลับไปเพ่งโทษท่าน

แล้วทำไม คุณจึงไม่ดูตามความจริงว่า ประเด็นอยู่ที่ พระเกษมทำไม่ถูกต้อง และผมก็ชี้แจงให้ฟัง

ใครกันแน่ครับ ที่ออกนอกลู่นอกทางไป

คุณพิจารณากันให้ดี ว่า กิเลสในใจตัวเองนั้นเป็นอย่างไร

สำหรับ คุณ คามิน คุณถามผมและอยากให้ผมสอนไม่ใช่หรือ นั่นแหละสิ่งที่ผมพูดคือ ความจริงทั้งหมด แต่คุณรับไม่ได้ และเพ่งโทษกลับมาที่ผม เถียงเป็นเด็กที่ไม่ยอมรับฟัง เรื่องก็เท่านั้น

ตอบเมื่อ: 07 ส.ค. 2008, 3:34 pm

ขันธ์ พิมพ์ว่า:

....... คามินกลับไปเพ่งโทษท่าน

- ผมก็ทำแบบเดียวกันกับคุณนะคับ

คุณติติงพระเกษม ..ด้วยเหตุผลอะไรก็ชี้แจงไป

ผมก็ติติงหลวงตาบัว...ด้วยเหตุผลอะไรก้ว่าไป

คุณบอกว่าคุณมีส่วนได้เสีย ในฐานะพุทธบริษัท 4 ... มีสิทธิ์ทักท้วง
คุณ...ก็ได้ใช้สิทธฺ์ ทักท้วงกรณีหลวงพ่อเกษม
ผม ...ก็ได้ใช้สิทธฺ์ ทักท้วงกรณีหลวงตาที่คุณยกมา

ทั้งๆที่ผมรู้อยู่เต็มอกว่าหลวงตาบัวคือพระอรหันต์
ท่านยุ่งเรื่องเงิน ก็เหมือนท่านเคี้ยวหมากนั่นแหละ ไม่ต่างกัน
มันเป้นกริยาเท่านั้น จิตแท้ท่านเหมือนใบบอน ไม่เปื้อนน้ำ

แต่ว่าคุณต้องหัดรู้หน้าที่ตัวเอง รู้สิทธิคนอื่นบ้าง

1. คุณไม่มีสิทธิ ไล่คนอื่นไม่ให้แสดงความเห็น ... อันนี้คุณยอมรับว่าผิดมั๊ย มีหิริโอตัปปะไม๊
หรือยังยืนยันว่าคุณมีสิทธิ์ไล่คนอื่นไม่ให้แสดงความคิดเห็น

2. การลงโทษพระเกษม ไม่ใช่หน้าที่คุณ หรือผม
หน้าที่เราจบลงตรงหน้าที่ทักท้วง ในบริบทของเว็บบอร์ดที่นี่
เรื่องของสงฆ์ เขามีระบบของเขา

คุณกับผมเถียงกันคนคอแหก ผู้มีหน้าที่โดยตรงเขารับรู้หรือเปล่า?
ทำไมคุณไม่ไปในที่ประชุม มส. เลยล่ะ ถ้าอยากเห็นความเปลี่ยนแปลง ?
จะมาเอาชนะอะไรในเว็บบอร์ด ใครไม่เห็นด้วยก็ช่างเขา
มีสิทธิอะไรไปไล่เขาไม่ให้พูด .... รู้ตัวว่ามั่วบ้างมั๊ย?

เว็บบอร์ดมันก้มีสภาพธรรมของมันอยู่

แก่แล้วอย่าให้มาถอนหงอก เรื่องเล็กๆน้อยๆ
กระแนะ กระแหน เป็นที่หนึ่ง

ปากก้บอกว่าตัวเองมีภูมิธรรมสูง สั่งสอนคนได้
พอโดนผมแกล้งโยนฝาบาตรฟาดพื้นเสียงดังเข้าหน่อย กระโดดโหยงขึ้นมาไล่งับหางตัวเอง โดยไม่รู้ว่าเสียงอะไร คลั่งไปก่อนแล้ว

จนปัญญา ขี้เกียจอธิบายเหมือนกัน ระเหี่ยใจ

ตอบเมื่อ: 07 ส.ค. 2008, 3:35 pm

พระพุทธองค์เคยสอนให้เรากราบไหว้รูปปั้นด้วยหรือครับ?

ตอบเมื่อ: 07 ส.ค. 2008, 3:39 pm

พระเกษมสอนไม่ให้ยึดติดวัตถุ มันทำลายศาสนาตรงไหนหรือ?

ตอบเมื่อ: 07 ส.ค. 2008, 3:42 pm

พระเกษมให้คนคิดถึงการอุทิศบุญกุศลอยู่ตลอดเวลา ( เป็นอุบายในทางอ้อม ) เพื่อให้มีสติระลึกอยู่เสมอว่าอย่าทำบาป แล้วมันผิดหลักคำสอนของศาสนาพุทธหรือ?

ตอบเมื่อ: 07 ส.ค. 2008, 3:42 pm

พระเกษมสอนไม่ให้ถวายเงินกับพระภิกษุ ผิดด้วยหรือ?

ตอบเมื่อ: 07 ส.ค. 2008, 4:03 pm

guest พิมพ์ว่า:

เรื่องของ พระเกษม

ที่คุณขันธ์พูด ผมว่าก็สมเหตุผลของแกนะครับ

พ่อแม่ปู่ย่าตายายของเราก็พากราบพาไหว้พระพุทธรูปมาตั้งแต่กาลไหน ๆ
ซึ่งเป็นขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงามที่ยึดถือปฏิบัติกันมา ( พระพุทธองค์ไม่เคยรับรองเรื่องแบบนี้ครับ )
แล้วที่พระเกษมมาสอนพุทธบริษัทเช่นนี้
ไม่เพียงแต่เป็นการขัดต่อขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงามของชาติเท่านั้นนะครับ
แต่เป็นการทำลายอย่างชัดเจน [color=darkblue]( แต่ไม่ได้ทำลายศาสนานะครับ )[/color]พระพุทธรูปเปรียบเสมือนองค์แทนพระพุทธเจ้า ตนเองเป็นศิษย์ตถาคต แต่เรียกอาจารย์ตนเองว่ามัน (พระเกษมท่านเรียกทองเหลืองหล่อว่ามัน )แถมชักชวนคนให้หลงผิด ( คนที่ไม่มีสติพิจารณาครับจึงหลงผิด )กระทำในสิ่งที่เป็นอัปมงคล อย่างนี้ไม่ถูกต้องครับ ( การไม่กราบไหว้รูปปั้นเป็นเรื่องอัปมงคลด้วยหรือครับ? )

ถึงใครจะว่าไม่ผิดวินัยสงฆ์ก็ตาม

แต่ผิดคดีอาญา มาตรา ๒๐๖ ตามประมวลกฎหมายอาญาครับ

ส่วนกรณีที่มีผู้กล่าวถึงองค์หลวงตามหาบัว
ขอได้โปรดอย่ามีทัศนคติแง่ลบกับองค์หลวงตาท่านเลยครับ
เพราะองค์ท่านละแล้วทั้งบาป ทั้ง บุญ ครับ

ส่วนเรา ๆ ท่าน ๆ ยังต้องรับบาปรับบุญอยู่ครับ
สิ่งที่กระทำลงไปทั้งกาย วาจา ใจ อย่างไม่รอบคอบ
อาจทำให้เราต้องได้รับผลของกรรมอย่างที่ไม่คาดมาก่อนครับ

องค์ท่านเป็นพระอรหันต์ จตุถปฏิสัมภิทาญาณ ครับ
ผู้มีคุณธรรมเช่นนี้ จะเป็นมหาบุรุษ ผู้ลือนามไปทั่วไตรโลกธาตุ นะครับ

อัปปะมาโท จะ ธัมเมสุ เอตัมมังคละมุตตะมัง

กรณีหลวงตาท่านกระผมเห็นด้วยทุกประการครับ

ตอบเมื่อ: 07 ส.ค. 2008, 4:05 pm

ขันธ์ พิมพ์ว่า:

ผมไม่อยากจะอธิบายนะครับ

คุณ mes ผมยินดีจะให้คุณ ตรวจสอบ แต่คุณควรจะดูก่อนว่า อะไรคืออะไร
ทำไมคุณไม่ไปเอะใจ ในการกระทำของ อีกฝ่ายที่ออกมาแย้ง ออกมาพูดเรื่องหลวงตา นั่นเพราะว่า คุณเห็นดีเห็นงามกับเขา

แต่คุณไม่เห็นดีเห็นงามกับคำพูดของผม คุณจึงออกมาเต้น
ผมก็บอกว่า คุณออกมาเต้นทำไม ผมด่าคุณหรือเปล่า

ทีนี้ ใครไปห้ามคุณ
ผมพูดแค่ว่า สงสัยไปกระทบอะไร คุณ คุณจึงออกมาเต้น

ที่บอกว่าเต้นนี้ เพราะอะไร เพราะว่าหลวงตามหาบัวท่านไม่ได้มาเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้ ผมเอ่ยนามท่านเพราะผมเห็นว่า ท่านเป็นแบบอย่างที่ดี ที่คนทุกคนน่าจะเห็น แต่ทั้งคุณ mes และ คามินกลับไปเพ่งโทษท่าน

แล้วทำไม คุณจึงไม่ดูตามความจริงว่า ประเด็นอยู่ที่ พระเกษมทำไม่ถูกต้อง และผมก็ชี้แจงให้ฟัง

ใครกันแน่ครับ ที่ออกนอกลู่นอกทางไป

คุณพิจารณากันให้ดี ว่า กิเลสในใจตัวเองนั้นเป็นอย่างไร

สำหรับ คุณ คามิน คุณถามผมและอยากให้ผมสอนไม่ใช่หรือ นั่นแหละสิ่งที่ผมพูดคือ ความจริงทั้งหมด แต่คุณรับไม่ได้ และเพ่งโทษกลับมาที่ผม เถียงเป็นเด็กที่ไม่ยอมรับฟัง เรื่องก็เท่านั้น

คือแทนที่คุณขันธ์จะสนทนาธรรมกับผมกลับตอกกลับว่า สงสัยทำไมผมถึงออกมาเต้น

คุณควรตอบข้อที่ผมสงสัย

อีกประการหนึ่ง

คุณไปริเริ่มพาดพิงถึงท่านหลวงตามหาบัวทำไม

เมื่อคุณกล่าวถึงผู้ที่ไม่เห็นด้วยก็มีสิทธิ์คัดค้าน ตามหลักกาลามสูตร

โดยใช้หลักโยนิโสมนสิการ ตามหลักธรรมแป๊ะ

แต่ที่ผมไม่เชื่อที่มีคนกล่าวหาคุณว่า คุณกล่าวว่าท่านหลวงตาคือพระอรหันต์

เพราะนอกจากจะเกิดปัญหาขึ้นมาว่าคุณไปรับรู้รับทราบด้วยวิธีใดแล้ว

ยังยิ่งจะสร้างความลำบากให้ท่านหลวงตาโดยไม่รู้ตัว

ส่วนที่คุณเชิญให้ผมตรวจสอบคุณได้ ผมไม่ได้บอกว่าจะมาตรวจสอบคุณ

แต่บอกว่าคุณเคยเชิญให้ทุกคนมาทดสอบความรู้คุณเอง

อย่างนี้ออกนอกลู่นอกทางหรือไม่

อีกประการหนึ่งครับ กิเลสในใจผม ผมดูแลเองไม่ต้องเดือดร้อนคุณขันธ์หรอกครับ

ตอบเมื่อ: 07 ส.ค. 2008, 5:30 pm

สรุป อย่างง่ายที่สุด คือ ไม่พอใจที่ผมไป ว่าพระเกษม

ส่วนเรื่อง นั้นเรื่องนี้ที่พูดมาไม่ได้มีเหตุผลอะไรเลย
อีกทั้ง การแสดงอาการ เต้น ของ ทั้งคู่ มันก็บอกอยู่แล้วว่า

ยังปฏิบัติ แบบผิดๆ

ส่วนเหตุผล ผมขี้เกียจจะแย้ง ว่าทำไมต้องอย่างนั้นอย่างนี้
โดยการ เอา หลวงตามหาบัวมาพูด ในเชิงไม่ถูกต้อง นั้นก็สื่อแล้วว่า จิตของทั้งคู่นั้นยัง มองไปไม่ถึง พระคุณของหลวงตา

และ นั่นแหละ คือ กรรมหนัก ของทั้งคู่

แล้วไม่เชื่อคอยดู ผมเกรงว่า ทั้งคู่อาจจะต้อง ไปขอขมาท่าน แล้วจะอวดดีไม่ออก

เรื่องของพระเกษม คนที่ ไม่เห็นด้วยควรแก้ต่างด้วยเหตุผล ไม่ใช่เอาเรื่องหลวงตามาพูด หรือ มาบอกว่า ขันแตก อะไร เพราะมันไม่เกี่ยวกับประเด็น

อ้างแบบเด็กมาก อ้างว่าจะถอนหงอกผม อ้างอย่างนั้นอย่างนี้ ตามกิเลสจะปรุงไป ไม่ได้เห็นจิตเห็นใจ เห็นความปรุงของตนเอง

ถ้าอยากจะให้ผมพูดแรงๆ กรุณาบอกด้วย ผมจะได้เอา กิเลสของคุณมาเผย ในที่นี้ ให้เห็น