ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
29 ก.ค.2008, 1:05 am |
  |
เผื่อลองใช้สำหรับคนที่มีจริตชอบฟังเพลงนะคับ
ผมคิดว่าฟังเพลงชอบๆ หรือเพลงบรรเลง classic ที่วันมีการขึ้นๆ ลงๆ ของเพลงมันจะช่วยใด้มากๆเลยคับ
ผมชอบเพลงเพลง opera น่ะคับ
เวลาฟังคือ
คือตัวปล่อยใจ ปล่อยมันไหลไปกับเพลง ยิ่งตอน peak ก็ปล่อยจิตมันไหลไปกับเพลง
แล้วเมื่อรู้ ก็ค่อย..รู้..กลับมา ...
ปล่อยไปใหม่ ... รู้... กลับมา
ทำบ่อยๆ เดี๋ยวได้เรื่อง |
|
_________________ ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
|
|
  |
 |
ฌาณ
บัวเงิน


เข้าร่วม: 23 ก.ค. 2008
ตอบ: 1145
ที่อยู่ (จังหวัด): หิมพานต์
|
ตอบเมื่อ:
30 ก.ค.2008, 10:00 pm |
  |
อ้างอิงจาก: |
เวลาฟังคือ
คือตัวปล่อยใจ ปล่อยมันไหลไปกับเพลง
|
จะลองดูครับพี่หนุ่มรูปงาม  |
|
_________________ ผมจะพยายามให้ได้ดาวครบ 10 ดวงครับ |
|
  |
 |
กรัชกาย
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348
|
ตอบเมื่อ:
31 ก.ค.2008, 3:23 pm |
  |
อ้างอิงจาก: |
เผื่อลองใช้สำหรับคนที่มีจริตชอบฟังเพลงนะคับ
ผมคิดว่าฟังเพลงชอบๆ หรือเพลงบรรเลง classic ที่วันมีการขึ้นๆ ลงๆ ของเพลงมันจะช่วยใด้มากๆเลยคับ
ผมชอบเพลงเพลง opera น่ะคับ
เวลาฟังคือ
คือตัวปล่อยใจ ปล่อยมันไหลไปกับเพลง ยิ่งตอน peak ก็ปล่อยจิตมันไหลไปกับเพลง
แล้วเมื่อรู้ ก็ค่อย..รู้..กลับมา ...
ปล่อยไปใหม่ ... รู้... กลับมา
ทำบ่อยๆ เดี๋ยวได้เรื่อง |
ดูจิตแบบนี้ เป้าหมายคืออะไร ครับน้อง หรือ ดูจิตมันไหลไปไหล
มา ขึ้นๆลงๆ ตามเสียงเพลง  |
|
_________________ สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา |
|
  |
 |
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
01 ส.ค. 2008, 2:45 am |
  |
กรัชกาย พิมพ์ว่า: |
อ้างอิงจาก: |
เผื่อลองใช้สำหรับคนที่มีจริตชอบฟังเพลงนะคับ
ผมคิดว่าฟังเพลงชอบๆ หรือเพลงบรรเลง classic ที่วันมีการขึ้นๆ ลงๆ ของเพลงมันจะช่วยใด้มากๆเลยคับ
ผมชอบเพลงเพลง opera น่ะคับ
เวลาฟังคือ
คือตัวปล่อยใจ ปล่อยมันไหลไปกับเพลง ยิ่งตอน peak ก็ปล่อยจิตมันไหลไปกับเพลง
แล้วเมื่อรู้ ก็ค่อย..รู้..กลับมา ...
ปล่อยไปใหม่ ... รู้... กลับมา
ทำบ่อยๆ เดี๋ยวได้เรื่อง |
ดูจิตแบบนี้ เป้าหมายคืออะไร ครับน้อง หรือ ดูจิตมันไหลไปไหล
มา ขึ้นๆลงๆ ตามเสียงเพลง  |
ความรู้ตัวครับ
ต้องปล่อยให้หลง แล้วรู้ตัว สติจะเกิด
ทุกครั้งที่รู้ตัว จิต จะเรียนรู้ความแตกต่างระหว่างรู้ตัว และเผลอตัว
ทำบ่อยๆเข้าจะเกิดความรู้ขึ้นเอง
ถ้าต้องมานั่งทำให้จิตสงบ จิตจะไม่แสดงพฤติตามธรรมชาติของมันออกมา
แต่ถ้าใครอยากทำจิตให้สงบกับจุดใดจุดหนึ่งก็ได้ จนได้ฌาน
แล้วตามดูฌาน ต่อไป
สรุปแล้ว ก็คือการตามรู้ ตามดู คับ
ไม่ต่างอะไรจากการตามรู้ ตามดู ลมหายใจ |
|
_________________ ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
|
|
  |
 |
กรัชกาย
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348
|
ตอบเมื่อ:
01 ส.ค. 2008, 7:45 am |
  |
อ้างอิงจาก: |
ความรู้ตัวครับ
ต้องปล่อยให้หลง แล้วรู้ตัว สติจะเกิด
ทุกครั้งที่รู้ตัว จิต จะเรียนรู้ความแตกต่างระหว่างรู้ตัว และเผลอตัว
ทำบ่อยๆเข้าจะเกิดความรู้ขึ้นเอง
ถ้าต้องมานั่งทำให้จิตสงบ จิตจะไม่แสดงพฤติตามธรรมชาติของมันออกมา
แต่ถ้าใครอยากทำจิตให้สงบกับจุดใดจุดหนึ่งก็ได้ จนได้ฌาน
แล้วตามดูฌาน ต่อไป
สรุปแล้ว ก็คือการตามรู้ ตามดู คับ
ไม่ต่างอะไรจากการตามรู้ ตามดู ลมหายใจ
คามนินธรรม: 01 สิงหาคม 2008, 2:45 am |
ยังหลงไม่พออีกหรอครับน้องคามิน จึงได้คิดปรุงแต่งสร้าง
ความหลงซ้ำซ้อนขึ้นมาอีก เรียกว่าหลงซ้อนหลงๆๆๆก็น่าจะได้
ไม่ต่างอะไรจากการตามรู้ ตามดู ลมหายใจ
เหมือนกันตรงไหน เสียงเพลง กับ ตามดูลมหายใจหรือ
อานาปานสติ คนละเรื่องกัน เหมือนไต่เขากับลงน้ำ เสียงเพลง
เป็นอารมณ์ภายนอก อานาปานสติ เป็นอารมณ์ภายใน
หากพิจารณาอานาปานสติถูกต้องเป็นสัมมาทิฐิ ก็เห็นไตรลักษณ์จากอา
นาปานสติและเห็นไตรลักษณ์จากนามธรรมซึ่งมันสัมพันธ์กับอานาปานสติ
นั้น
อย่าว่าแต่จะเหมือนลมหายใจเข้าออกเลย แม้แต่กรรมฐาน 40 ยก
กายคตาสติ กับอานาปานสติเสีย เสียงเพลงก็ยังคนละเรื่องคนละอารมณ์
เลย
กำลังฟังเพลง ขณะนั้นๆจิตจะคล้อยตามอารมณ์เพลง-เนื้อร้อง-เสียง...
ปปัญจสัญญา คอยคลอเคลียผูกติดกับเสียงเป็นต้น ปรุงแต่งไปตาม
นั้น ปลุกเร้าปปัญจสัญญา หรือ กิเลสสัญญาให้เติบใหญ่ขึ้น ยิ่ง
เพลงนั้นมีเนื้อหายั่วยุกามารมณ์ด้วยแล้วไปกันใหญ่เตลิดไปใหญ่อกุศล
สัญญาพอกพูนอุดมสมบูรณ์ ยิ่งนิวรณ์ด้วยแทบไม่ต้องพูด อัดแน่น
เต็มความรู้สึก  |
|
_________________ สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา |
|
  |
 |
กรัชกาย
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348
|
ตอบเมื่อ:
01 ส.ค. 2008, 7:52 am |
  |
อ้างอิงจาก: |
ทำบ่อยๆ เดี๋ยวได้เรื่อง
คามินธรรม : 29 กรกฎาคม 2008, 1:05 am |
ที่ว่า (ทำอย่างนั้น) ทำบ่อยๆ เดี๋ยวได้เรื่อง
คำกล่าวนั้นยังค้างๆคาๆไม่สุด ผู้ฟัง ฟังแล้วก็ปรุงแต่งความคิดคนทาง
สองทาง ว่า เอ่... ได้เรื่องได้เรื่อง มันได้เรื่องอะไรกันล่ะหนอ
น้องคามินพอบอกได้ไหม ได้เรื่องๆ ได้เรื่องอะไร |
|
_________________ สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา |
|
  |
 |
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
01 ส.ค. 2008, 12:22 pm |
  |
กรัชกาย พิมพ์ว่า: |
ยังหลงไม่พออีกหรอครับน้องคามิน จึงได้คิดปรุงแต่งสร้าง
ความหลงซ้ำซ้อนขึ้นมาอีก เรียกว่าหลงซ้อนหลงๆๆๆก็น่าจะได้
ไม่ต่างอะไรจากการตามรู้ ตามดู ลมหายใจ
เหมือนกันตรงไหน เสียงเพลง กับ ตามดูลมหายใจหรือ
อานาปานสติ คนละเรื่องกัน เหมือนไต่เขากับลงน้ำ เสียงเพลง
เป็นอารมณ์ภายนอก อานาปานสติ เป็นอารมณ์ภายใน
หากพิจารณาอานาปานสติถูกต้องเป็นสัมมาทิฐิ ก็เห็นไตรลักษณ์จากอา
นาปานสติและเห็นไตรลักษณ์จากนามธรรมซึ่งมันสัมพันธ์กับอานาปานสติ
นั้น
อย่าว่าแต่จะเหมือนลมหายใจเข้าออกเลย แม้แต่กรรมฐาน 40 ยก
กายคตาสติ กับอานาปานสติเสีย เสียงเพลงก็ยังคนละเรื่องคนละอารมณ์
เลย
|
เหมือนสิพี่
ส่วนของพี่ พี่เอาลมหายใจ มา กำหนดรู้
แต่ผมเอาทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้รู้ผ่านผัสสะมากำหนดรู้
เราสนใจแต่ ผู้รู้และสิ่งที่ถูกรู้
แค่ 2 อย่างนี้เท่านั้น
การที่เราเผลอไป หรือหลงไป กับห้วงต่างๆของเพลง คือ จิตส่งออกนอก
พอรู้ตัว ... ว่าส่งออกนอกแล้วนะ .... สติก้จะกลับมา
ก็เท่านี้
อ้างอิงจาก: |
กำลังฟังเพลง ขณะนั้นๆจิตจะคล้อยตามอารมณ์เพลง-เนื้อร้อง-เสียง...
ปปัญจสัญญา คอยคลอเคลียผูกติดกับเสียงเป็นต้น ปรุงแต่งไปตาม
นั้น ปลุกเร้าปปัญจสัญญา หรือ กิเลสสัญญาให้เติบใหญ่ขึ้น ยิ่ง
เพลงนั้นมีเนื้อหายั่วยุกามารมณ์ด้วยแล้วไปกันใหญ่เตลิดไปใหญ่อกุศล
สัญญาพอกพูนอุดมสมบูรณ์ ยิ่งนิวรณ์ด้วยแทบไม่ต้องพูด อัดแน่น
เต็มความรู้สึก  |
อันนี้คือความหลงไง ที่เราเผลอไป
แต่ผมไม่คิดละเอียดแบบพี่นะ ไม่สามารถ เพราะงงมาก ภาษาแขกนี่
แค่รู้ว่าหลงแล้ว เผลอแล้ว ก็พอ ไม่ได้เอาความหลงมาชำแหละละเอียดขนาดนั้นในตอนปฏิบัติ
ความหลงนี่เป้นธรรมชาติของจิต
มันไปของมันเอง มันลอยไปเอง มันหลงไปนู่น นี่ นั่น ของมันเอง
แต่เมื่อรู้ตัว ก็กลับมา มีสติ
หลงไปใหม่ ก็กลับมาใหม่
ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ
จิตมันจะรู้ของมันเอง ผมอธิบายไม่ถูกหรอก
แต่บอกได้เลยว่า จิตมันไม่อยู่ในบงการเรา มันไม่ใช่ของเรา
มันรู้ของมันเอง แต่เป็นเป็นคนละรู้กับสมองคิด
ถ้าไม่ปฏิบัติ จะไม่เข้าใจคำว่า"รู้ของมันเอง"
"มันรู้ของมันเอง" นี่แหละ คือคำว่า "ได้เรื่อง"
เพราะอธิบายไม่ถูก แต่เมื่อถึงเวลารู้ จะรู้เองอะ |
|
_________________ ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
|
|
  |
 |
ทศพล
บัวเริ่มพ้นน้ำ


เข้าร่วม: 10 ก.พ. 2008
ตอบ: 153
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
05 ส.ค. 2008, 4:47 pm |
  |
พี่กรัชกายครับ
เวลาตอนเช้าผมจะเห็นเหมือนหยิบจิตขึ้นมาแล้วก้อปล่อยมันออกไปน่ะครับ
มันคือยังไงครับ  |
|
_________________ "ธรรมทาน คือ ทานอันสูงสุด"
"ผู้ที่ฝึกจิต ย่อมนำความสุขมาให้"
http://www.wimutti.net |
|
     |
 |
บัวหิมะ
บัวเงิน


เข้าร่วม: 26 มิ.ย. 2008
ตอบ: 1273
|
ตอบเมื่อ:
20 ส.ค. 2008, 8:11 am |
  |
ทศพล พิมพ์ว่า: |
พี่กรัชกายครับ
เวลาตอนเช้าผมจะเห็นเหมือนหยิบจิตขึ้นมาแล้วก้อปล่อยมันออกไปน่ะครับ
มันคือยังไงครับ  |
อ่านแล้ว เป็น งง น้องทศพล  |
|
_________________ ชีวิตที่เหลือเพื่อธรรมะ |
|
  |
 |
|